ตกดึกเสียงเพลงก็เริ่มเบาลงคนงานผู้หญิงก็กลับกันจนเกือบหมดแล้วเหลือก็แต่คนงานผู้ชายที่ยังคงนั่งดื่มกันอยู่ สักพักเสียงรถที่ขับเข้ามาก็ดังขึ้นเรียกสายตาเธอให้มองไปทางด้านหน้าบ้านก่อนจะเห็นชายหนุ่มร่างสูงหน้าตาดีก้าวลงมา นายเหนอวิ่งเข้าไปรับอย่างคุ้นเคยแล้วพาไปนั่งร่วมโต๊ะด้วย
“นั่นใครกันเนื้อนาง” เธอหันไปถามเด็กสาวที่นั่งอยู่ใกล้ๆ
“อ่อ พ่อเลี้ยงเหมกรจ้ะเพื่อนสนิทของนายเสือ” เธอพยักหน้าเข้าใจ
“จริงสินี่ก็ดึกมากแล้วเนื้อนางอยากกลับบ้านหรือยังจ๊ะนั่งเป็นเพื่อนฉันนานแล้วฉันเกรงใจ”
“นางอยู่เป็นเพื่อนนายหญิงก่อนก็ได้จ้ะอีกอย่างพี่เหนอยังดื่มอยู่เลยจ้ะ” เด็กสาวทำหน้าเศร้าเพราะเธอต้องอาศัยให้เสนอขับรถไปส่งแต่เจ้าตัวก็ยังดื่มไม่เลิกเสียที
“ถ้าเนื้อนางนั่งรออยู่แบบนี้ฉันว่าคงจะไม่ได้กลับแน่ นายเหนอเริ่มจะเมาแล้วเดี๋ยวฉันไปตามให้ดีกว่าขืนปล่อยให้นายเหนอดื่มต่ออันตรายแย่”
“ขอบคุณจ้ะนายหญิง” เด็กสาวยกมือไหว้เธอจึงส่งยิ้มให้ เด็กคนนี้ขี้เกรงใจเกินไปแล้วเอาเสียเธอทำตัวไม่ถูกได้แต่ส่งยิ้มให้ก่อนจะเดินลัดเลาะสวนข้างบ้านสายตาก็สอดส่องหานายเหนอที่เมื่อกี้เธอยังเห็นอยู่เลยว่านั่งดื่มเหล้าอยู่ที่โต๊ะหน้าบ้านเผลอแค่แป๊บเดียวหายไปไหนเสียแล้วก็ไม่รู้
“มันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วเรื่องฉันกับเขมแกก็รู้ว่าฉันคิดยังไงกับน้องแก” เสียงที่ดังขึ้นไม่ไกลจากที่เธอยืนอยู่นั้นทำให้เท้าเล็กชะงักไปก่อนจะหยุดฟังอย่างสงสัยใคร่รู้
“ฉันรู้ว่าแกคิดยังไงแต่วิธีนี้มันช่วยได้จริงๆ หรอหว่ะไอ้เสือ” เสียงของคนทั้งสองที่ดังมาให้เธอได้ยินนั้นกำลังพูดถึงเขมอัปสรอย่างนั้นหรอเท้าเล็กก้าวเข้าไปใกล้ขึ้นอีกเธอหลบอยู่ที่มุมหนึ่งของตัวบ้าน
“คิดว่าน่าจะได้อย่างน้อยมันก็ยังทันไม่ใช่หรอหว่ะ จริงๆ มันก็ไม่ใช่แค่เรื่องเขมอย่างเดียวหรอก”
“เออๆ ก็เข้าใจแสดงว่ายัยเขมรู้เรื่องตั้งแต่กลางวันแล้วใช่มั้ย”
“อืม”
“ถึงว่ากลับบ้านไปเอาแต่หมกตัวอยู่แต่ในห้องแล้วแบบนี้ต่อไปมันจะไม่ยุ่งหรอหว่ะวันนึงทุกคนก็ต้องรู้ความจริงแกคิดว่าจะทำแบบนี้ไปได้นานสักแค่ไหน”
“ไม่รู้โว้ยยังไม่ได้คิดแต่ก็คงอีกนานแหละเอาไว้ถึงวันนั้นค่อยคิดอีกที”
“หึ ไอ้เสือต่อไปชีวิตมึงวุ่นวายแน่”
“แล้วมึงจะพูดให้กูเครียดทำไมหว่ะไปได้แล้วป่านนี้ไอ้เหนอมองหาและ”
เสียงคุยเงียบไปแล้วคนที่แอบอยู่ขมวดคิ้วจนผูกกันเป็นปมนายนั่นรักอยู่กับเขมอัปสรงั้นหรอแล้วอะไรคือเป็นไปไม่ได้
“ทำไมไม่พูดกันให้เข้าใจง่ายกว่านี้นะ” ลมหายใจถูกปล่อยออกมาแรงๆ ก่อนจะเดินออกจากมุมที่ซ่อนตัวอยู่
“ว้าย.....อื้อ” เพียงแค่ก้าวขาออกไปเธอก็ถูกใครบางคนกระชากอย่างแรงพอจะร้องก็โดนมือใหญ่ๆ ปิดปากเอาไว้แน่น
“อื้อ” เธอตกใจทั้งทุบทั้งตีแต่ก็ต้องชะงักไปเมื่อได้ยินเสียงดุๆ ของคนที่ใช้มือปิดปากเธออยู่
“เงียบ!”
“คุณเสือตกใจหมดเลยนึกว่าโจร” เธอต่อว่าเขาอย่างเอาเรื่องแต่พอเห็นสายตาดุๆ จากคนตัวโตคนที่มีชนักติดหลังก็ต้องก้มหน้าหลบตา
“รู้มั้ยว่าคนที่ชอบยุ่งเรื่องของคนอื่นเนี่ยต้องโดนอะไร” เขาสงสัยอยู่แล้วว่าต้องมีคนแอบฟังอยู่เลยพูดตัดบทไป
“แก้ม......แก้มไม่ได้ยุ่งนะคะแก้มแค่บังเอิญผ่านมา อุ๊ย” มือหนารั้งเอวคอดเข้าไปใกล้จนเธอต้องยกมือขึ้นยันอกกว้างเอาไว้
“อยากรู้เรื่องของฉันแบบนี้เกิดอยากจะเป็นเมียฉันขึ้นมาจริงๆ แล้วใช่มั้ย”
“บ้าสิหลงตัวเอง” เธอตวาดแว๊ดเสียงดังลั่นตวัดตาขึ้นมองคนหลงตัวเองตาเขียวก่อนจะผลักเขาออกแต่แทนที่ร่างสูงจะผละออกกลับขยับเข้ามาใกล้อย่างคุกคาม
“คุณเสือ!” ใบหน้าคมคายเลื่อนต่ำลงมาหาจนปลายจมูกโด่งเป็นสันจรดลงบนแก้มนุ่มตามด้วยริมฝีปากหลังหนวดเคราก็จรดปิดริมฝีปากของคนที่ถอยหลังหนีอย่างรวดเร็ว
คนที่อยู่ๆ ก็โดยจูบเอาเฉยๆ ตกใจจนแทบจะเป็นลมริมฝีปากของเธอถูกปลายลิ้นของเขาซุกแทรก ริมฝีปากทั้งล่างและบนถูกเขาขบแรงๆ จนเจ็บจี๊ดเธอโดนเขาจูบเอาจูบเอาจนหายใจแทบไม่ทันเขาจูบแนบชิดขนาดที่ว่าปลายจมูกของเขาฝังลงมากับแก้มของเธอจนมันบุ๋มลงไปตามแรงจูบที่เขากดแนบลงมา รสชาติขมพร่าของแอลกอฮอล์แทรกซึมเข้ามาพร้อมๆ กับเรียวลิ้นร้อนจัดของเขา มือหนาเริ่มลูบไปตามแผ่นหลังบอบบางคนที่สติกระเจิดกระเจิงเริ่มได้สติระดมทั้งทุบทั้งข่วนคนตัวโตสุดแรงจนร่างสูงต้องผละออก เธอสูดหายใจเข้าปอดดังเฮือกตวัดตามองเขาเตรียมง้างมือจะตบแต่คนไวกว่าคว้าเอาไว้ก่อน
“ถ้าตบ เธอเจอดีแน่” เขาบอกเธอเสียงเข้ม
“ปล่อยนะ ไอ้บ้า ไอ้โจรป่าห้าร้อย” เธอต่อว่า มองจ้องคนขโมยจูบแรกของเธอไปหน้าตาเฉยด้วยความโมโหสุดขีด
“ด่าอีกสิฉันจะได้นับเอาไว้ว่าด่าไปกี่คำและนี่เป็นแค่การเตือนนะแก้มหอมถ้าไม่อยากโดนมากกว่านี้ก็รู้เรื่องของฉันให้มันน้อยๆ เข้าไว้” เขามองจ้องแล้วเลิกคิ้วขึ้นหน้าตายียวนกวนประสาทสุดๆ จนคนมองได้แต่ขบเขี้ยวเคี้ยวฟันสะบัดหน้าใส่อย่างไม่อยากเถียงด้วย
“แล้วมาทำอะไรมืดๆ ตรงนี้กำลังจะไปไหน” เหลือบตามองคนถามนิดนึงแล้วก็เห็นว่าเขาจ้องมาอย่างจับผิด
“มาหานายเหนอ” ตอบเสียงสะบัดสุดขีดตามด้วยเมินหน้าหนีอย่างโกรธๆ
“หามันทำไม”
“จะมาตามให้ไปส่งเนื้อนาง”
“ป่านนี้เมาหัวทิ่มไปแล้วมั้ง”
“ก็ถ้าไม่มัวแต่ยืนเถียงกับคุณแบบนี้ป่านนี้เนื้อนางก็คงถึงบ้านไปนานแล้วแหละ”
“หรอ?”
คณกรเลิกคิ้วมองจ้องริมฝีปากบวมเจ่อแล้วยกยิ้มขึ้น คนถูกมองหน้าเห่อร้อนขึ้นมาจนต้องหันหน้าหนีสายตา
‘ผีเข้าหรือไงกวนประสาทกันอยู่ได้’
“หึ ตามมา” พูดจบเขาก็ดึงมือเธอให้เดินตามอะไรของเขาอีกหล่ะแล้วเธอก็ไม่ต้องสงสัยนานเพราะเขาพาเธอเดินมาที่โต๊ะที่มีสุชาติ นายเหนอและผู้ชายที่เขาคุยด้วยเมื่อกี้นั่งอยู่ทุกคนหันมามองที่เธอเป็นตาเดียว
“ไอ้เข้มจะกลับหรือยัง”
“อ้าว อะไรของมึงกูเพิ่งจะมาไล่แล้วหรือไงแล้วไม่คิดจะแนะนำเมียหน่อยหรอ” เหมกรหรือพ่อเลี้ยงเข้มเอ่ยแซวได้ยินคนงานพูดถึงกันว่าสวยน่ารักมากเขาก็เพิ่งจะได้เห็นก็เดี๋ยวนี้ไม่แปลกที่คนงานจะพูดเป็นเสียงเดียวกันแบบนั้นผู้หญิงตัวเล็กที่สูงเพียงแค่อกเพื่อนเขาสวยและน่ารักจริงๆ ชีวิตเพื่อนเขาต่อไปต้องวุ่นวายจริงๆ อย่างที่เขาว่าแน่
“อย่ากวนตีน ยังไม่เมาใช่มั้ยฝากไปส่งเนื้อนางที่บ้านหน่อย”
“หาคนไปส่งให้ได้แล้วไปเรียกเนื้อนางมาไป” เขาหันมาบอกเธอแต่กลับไม่ยอมปล่อยมือที่จับแขนเธอเอาไว้
“ก็ปล่อยสิ” เธอหันไปแว้ดใส่เขาเสียงเบาแล้วสะบัดแขนออก คณกรยอมปล่อยก่อนเดินไปนั่งที่โต๊ะตามเดิม
“กูไว้ใจมึงได้ใช่มั้ย” เมื่อเห็นหญิงสาววิ่งห่างออกไปแล้วเขาก็หันมาถามคนที่นั่งข้างๆ
“เรื่อง?”
“ที่จะให้ไปส่งเนื้อนางไง”
“นี่ไอ้เสือไอ้บ้าเด็กนั่นอายุแค่สิบเจ็ดสิบแปดมึงคิดว่ากูจะทำอะไรหรือไง” พ่อเลี้ยงหนุ่มวัยสามสิบห้าว่าขึ้น เขาไม่ใช้ตาแก่ตัณหากลับนะ
“กูก็ถามไว้ก่อนจะได้สบายใจ”
“มึงเห็นกูเป็นพวกโคแก่ชอบกินหญ้าอ่อนหรือไงแล้วไม่ให้ไอ้เหนอหรือว่าสุชาติไปส่งเองหล่ะ”
“มึงก็ดูเอา” คณกรพยักเพยิกไปที่พื้นสองคนที่ว่าจับจองพื้นที่ข้างโต๊ะกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วอย่าว่าแต่ไปส่งไม่ไหวเลยปลุกจะตื่นหรือเปล่ายังไม่รู้
“ลูกน้องมึงหนิเนอะ กูก็ว่าทำไมเงียบๆ” เหมกรส่ายหน้าไปมาเมื่อกี้มันสองคนยังนั่งอยู่บนเก้าอีกดีๆ อยู่เลยไม่รู้ว่าไปวัดพื้นกันตั้งแต่เมื่อไหร่
“งั้นกูฝากเนื้อนางด้วยส่งให้ถึงบ้านหล่ะป่านนี้นมแขคงรอแย่แล้ว”
“เออๆ จะไปส่งให้ไม่ต้องห่วง”
“เรื่องเขมกูฝากมึงด้วยแล้วกัน”
“อืมๆ ไปและ” เหมกรลุกขึ้นเมื่อเห็นว่าเด็กสาววิ่งมาแล้ว