เสียงนาฬิกาปลุกดังในตอนเช้า รตีเอื้อมมือไปกดปิดและขยับตัวออกจากอ้อมแขนของภพรักเพื่อจะไปอาบน้ำเตรียมตัวไปทำงาน ขาเรียวก้าวลงจากเตียงไม่ทันไรก็ล้มแหมะกลับลงมานั่งที่เตียงนอน
ภพรักที่ตื่นแล้วเช่นกันนอนมองท่าทีของรตีด้วยความขบขันปนเอ็นดูนี่เขาจัดหนักจนรตีขาอ่อนเลยสินะ
'มา พี่พาไปอาบน้ำ' ภพรักเอ่ยถามหลังลุกเดินมายืนตรงหน้ารตี
'มะ ไม่เป็นค่ะ'
'พี่เป็นต้นเหตุพี่ก็ต้องรับผิดชอบ' ภพรัแกล้งทำสีหน้ารู้สึกผิด 'พี่เอารตีจนขาอ่อนเดินไม่ไหว พี่ก็ต้องพาไปอาบน้ำแหละถูกแล้ว ขืนปล่อยให้เดินไปเองวันนี้คงไม่ได้อาบกันพอดี' ว่าจบภพรักก็ช้อนอุ้มรตีเข้าห้องน้ำมาอาบน้ำชำระร่างกายและพาออกมาแต่งตัว
ภพรักตั้งใจว่าวันนี้จะเข้าบริษัทเพียงคนเดียวเพราะรตียังดูอ่อนเพลียเมื่อคืนกว่าจะได้นอนก็เกือบจะเช้า อีกอย่างเขาดูตารางงานแล้ววันนี้ไม่มีประชุมหรือนัดหมายสำคัญอะไรมีเพียงเอกสารที่ต้องเข้าไปเซ็นต์เท่านั้น
'วันนี้พี่ให้รตีหยุดไม่ต้องไปทำงานกับพี่นะ' ภพรักพูดหลังจากพารตีออกมาจากห้องน้ำ
'ทำไมคะ'
'ก็ดูเราสิไปทำงานไหวหรอ'
'รตีไหวค่ะ' รตีตอบเสียงแหบแห้งเพราะใช้เสียงไปมาก
'หึหึ ยืนให้ขาไม่สั่นก่อนไหมค่อยอยากไปทำงาน วันนี้ไม่มีอะไรพี่จะเข้าไปเซ็นต์เอกสารแล้วคงกลับ รตีพักผ่อนอยู่ที่บ้านเถอะ'
'แต่ว่ารตีไม่อยากขาดงาน'
'ลืมหรือเปล่าว่ามีผัวเป็นเจ้าของบริษัท พี่มีเหตุผลให้รตีหยุดงานก็หยุดเถอะนะคะ' ภพรักเอ่ยปลอบ
'เหตุผลอะไรคะ' รตียังถามต่อไม่รู้เลยว่าไม่ควรถามหาเหตุผลจากคนอย่างภพรัก
'ก็..โดนผัวเย็ดจนขาถ่างมาทำงานไม่ไหวไงคะ' ภพรักก้มลงกระซิบเสียงพร่าก่อนหอมแก้มที่แดงระเรื่อ' เดี๋ยวบ่ายๆ ฤดีก็คงจะถึงบ้าน ไว้พี่จะรีบกลับมานะคะ' ภพรักเดินออกจากห้องรตีเพื่อเตรียมตัวไปทำงาน
คล้อยหลังภพรักเดินออกจากห้องไปแล้วรตีก็ล้มตัวลงนอนน้ำตาไหลหยดลงหมอนภายในใจวูบโหวงความเป็นจริงเธอทำตัวไม่ต่างจากชู้และดันเป็นชู้กับคนที่พี่สาวของเธอแต่งงานด้วย จะโทษภพรักก็ไม่ได้ในเมื่อภายในใจลึกๆเธอก็รู้สึกดีกับการกระทำต่างๆที่ได้รับจากเขา ความใกล้ชิดในเวลาสั้นๆช่วงที่พี่สาวไม่อยู่มันทำให้เธอหลงลืมความจริงไปว่าเขาคือคนที่เธอไม่ควรรู้สึกดีๆด้วยเลย เธอทำผิดต่อพี่สาวของตัวเองอย่างไม่น่าให้อภัย
บ่ายโมงกว่าฤดีก็กลับมาถึงบ้านเธอรู้จากภพรักแล้วว่ารตีอยู่ที่บ้านไม่ได้ไปทำงานในวันนี้
'โหพี่ฤดีไปเหมาร้านของฝากมาหรอคะ ซื้อมาเยอะแยะเลย' รตีเดินไปช่วยพี่สาวถือถุงของฝากมาวางไว้ภายในบ้าน
'เที่ยวเพลินไปหน่อยเห็นอะไรก็คิดถึงรตี ตั้งแต่กลับมารตีก็ยังไม่ได้ไปเที่ยวที่ไหนพี่เลยซื้อมาฝากเผื่อให้เราแบ่งไปให้คนที่บริษัทด้วย' ฤดียิ้มให้น้องสาว
'ใจดีจังเลยน้าพี่สาวใครเนี่ย' รตีแกล้งเย้าก่อนเข้าไปกอดอ้อนพี่สาว 'หนีไปเที่ยวตั้งหลายวันรตีคิดถึ๊งคิดถึง'
ฤดีกอดตอบน้องสาว 'พี่ไม่อยู่พี่ภพดูแลเราดีไช่ไหมมีปัญหาอะไรรึเปล่า'
'ไม่มีค่ะพี่ภพดูแลรตีดีมาก ดีเกินไปด้วยซ้ำ'
'แล้วรตีมีความสุขไหม อยู่ที่นี่ดีกว่าอยู่ที่นู้นรึเปล่า'
'มีความสุขค่ะเพราะรตีมีพี่ฤดีอยู่ด้วยไง' ว่าจบรตีก็หอมแก้มพี่สาวอย่างเอาใจ
'แล้วถ้าพี่ไม่อยู่รตีจะอยู่ได้ไหม'
'หืมม พี่ฤดีจะทิ้งรตีไปหรอ รตีเหลือพี่ฤดีอยู่แค่คนเดียวแล้วนะ' รตีเงยหน้ามองพี่สาวน้ำตาคลอ
'เอ้าๆ ไม่ต้องดราม่าพี่แค่ถามไปเล่น ถ้าอยู่ที่นี่แล้วมีความสุขก็ต้องอยู่ตลอดไปเลยนะ'
ภพรักที่พึ่งกลับมาถึงเดินเข้ามาในบ้านเห็นสองสาวกำลังนั่งคุยหัวเราะคิกคักอยู่ที่ห้องรับแขก
'เป็นไงบ้างครับฤดี ไปทำบุญมาสบายใจขึ้นไหมครับ เอาบุญกลับมาฝากภพรึเปล่า'
'พี่ภพเป็นผีหรอคะพี่รตีถึงต้องเอาบุญมาฝาก' รตีเอ่ยแหย่
'ยัยรตีก็ สนุกดีคะเลยไปซะนานเลยนี่ก็ว่าเดี๋ยวจะจัดทริปไปกันอีก' ฤดีหันไปตีแขนน้องสาวที่เอ่ยแซวก่อนจะหันไปตอบภพรัก
'ไปได้ครับแต่ไปนานขนาดนี้ภพก็เหงานะ' ภพแกล้งพูดเพื่อดูท่าทีของน้องเมีย
'เหงาอะไรทำอย่างกับว่าไม่เคยห่างกัน'
รตีเห็นภพรักคุยหยอกล้อกับพี่สาวก็รู้สึกยุบยิบในใจจึงขอตัวเดินออกมาดื่มน้ำในครัว
'เห้อออ'
'ถอนหายใจทำไมเรามีเรื่องเครียดหรอคะ' ภพรักที่เห็นรตีเดินออกมาก็ทำทีจะไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วแอบเดินตามมาที่ครัว
'พี่ภพปล่อยค่ะเดี๋ยวพี่รตีมาเห็น' รตีพยายามขืนตัวออกจากอ้อมแขนของภพรัก
'พี่ยังไม่ได้จัดการเรื่องที่เราว่าพี่เป็นผีเลยนะ'
'รตีแค่แซวเล่นเองค่ะ พี่ภพไม่ใช่ก็ไม่เห็นต้องร้อนตัวนี่คะ'
'ก็เพราะใช่หนะสิพี่ก็เลยร้อนตัว ยิ่งเวลาอยู่กับรตีพี่เป็นตั้งหลายผี'
'หมายถึงอะไรคะ ผีทะเลหรอ' รตีแกล้งว่า
'ไม่ใช่ค่ะพี่เป็น..ผีจับหัวต่างหาก บางทีก็เป็นผีเลียหัวบ้างผีซอยหัวบ้าง แต่ชอบสุดๆคงเป็นผีแทงหัว รตีกลัวผีพวกนี้รึเปล่าหละ' ภพรักโน้มเข้าไปหอมแก้ม
ฟอดดด
'แต่คงไม่กลัวหรอกเพราะรตีไม่เคยวิ่งหนีเห็นมีแต่ร้องสู้อย่างเดียว' แล้วภพรักก็เดินออกไปปล่อยให้รตียืนหน้าแดงไม่รู้ว่าเขินหรือโกรธที่โดนเขาแกล้งกันแน่