นานจน(เกือบ)ลืมเธอ
ep.57 มีเรื่องอยากปรึกษา
ในห้องนอนของอธิป จัสมินที่พับเสื้อผ้าของตัวเองลงกระเป๋าเดินทางเรียบร้อย ตั้งใจว่าพรุ่งนี้จะไปบอกลาเฮงกับวันเพื่อที่เธอจะต้องกลับไปหามัลลิการ์กับพอล แม่และพี่ชายของเธอที่เดินทางมาจากอังกฤษ
หญิงสาวบิดขี้กียจอย่างอ่อนล้าเพราะนั่งอยู่ท่าเดียวมาเป็นเวลานานจึงลุกขึ้นยืนตั้งใจจะไปอาบน้ำ เหลือบตามองนาฬิกาบอกเวลาสี่ทุ่มครึ่ง
หญิงสาวยืนขึ้นพร้อมหมุนตัวกลับแต่ก็ต้องชะงักเมื่อหันมาเจอกับอธิปที่ยืนมองเธอด้วยใบหน้าไม่พอใจ
"เฮีย!!!"
หญิงสาวอุทานเบาๆ ด้วยความตกใจแต่ไม่วายที่จะหวาดระแวงในตัวของชายหนุ่ม จึงค่อยๆเดินถอยหลังห่างออกมา
"เฮียเข้ามาได้ยังไงคะ?"
ทั้งที่จัสมินเข้าห้องมาก็ล็อคห้องเรียบร้อยแถมเช็คแล้วเช็คอีกด้วยกลัวอธิปจะเข้ามาวุ่นวายกับเธอได้ แต่เชาก็เข้ามายืนประชิดตัวเธออย่างง่ายดาย
"เฮียบอกให้มะลิอยู่ห้องนี้ได้ แล้วจะเก็บเสื้อผ้าทำไมครับ?"
แม้ใบหน้าชายหนุ่มจะแสดงออกถึงความไม่พอใจ แต่คำพูดของเขากลับนุ่มนวลน่าฟังจนจัสมินแทบไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง
"คือว่า.. เอ่อ.. พรุ่งนี้แจ๊สจะกลับบ้านแล้วค่ะ รบกวนป๊ากับม๊ามาสองเดือน เกรงใจพวกท่าน"
จัสมินพูดขึ้นอ้อมแอ้มขณะที่เท้าก็เดินก้าวเลี่ยงจากอธิปออกมา ทำให้ชายหนุ่มรีบเดินตามไปกอดร่างบางมาไว้ในอ้อมแขนอย่างหวงแหน
"ยังไม่กลับได้ไหมครับ? อยู่กับเฮียก่อน มะลิไม่ต้องเกรงใจป๊ากับม๊าหรอกนะ ที่นี่ก็เหมือนบ้านของมะลิเองนั่นแหละ"
"คงไม่ได้หรอกค่ะ" หญิงสาวรีบปฏิเสธทันที เพราะเริ่มกลัวใจตัวเองที่จะใจอ่อนกับความสุภาพนุ่มนวลของเขา
แต่อธิปกลับกอดเธอแน่นทำให้ร่างของทั้งสองแนบชิดติดกัน หัวใจของจัสมินเต้นแรงขึ้นเมื่อได้อยู่ใกล้ชายหนุ่ม เธอซบหน้ากับแผ่นอกกว้างนั้นอย่างรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัย
แต่เธออดสงสัยไม่ได้ว่าอธิปนั้นเปลี่ยนไป จากที่เคยพูดจาร้ายกาจหยาบคายใส่เธอตลอดเวลา ก็เปลี่ยนเป็นน้ำเสียงนุ่มนวลมีหางเสียงที่ไพเราะน่าฟังจนน่าแปลกใจและเริ่มไม่ไว้วางใจในความผิดปกติของเขา
ชั่วเวลาเพียงสองเดือนที่ไม่เจอกัน ทำไมเขาถึงเปลี่ยนไปมากขนาดนี้?
เปลี่ยนไปราวกับคนละคน
จากที่เขาเคยพูดแทนตัวเองว่า 'ฉัน' แล้วเรียกหญิงสาวว่า 'เธอ'
ก็เปลี่ยนเป็น 'เฮีย' กับ 'มะลิ' แทน แถมพูดได้คล่องปากราวกับใช้คำพวกนี้มาแสนนาน ทั้งที่เธอเพิ่งจะเคยได้ยินเขาพูดเป็นครั้งแรกเมื่อวานนี้เอง
แต่ไม่ว่าจะยังไงจัสมินก็จะไม่หลงกลอธิปอีกต่อไปแล้ว หญิงสาวจะไม่ยอมให้เขาทำร้ายเธอเหมือนอย่างทุกครั้งอีก เพราะเธอรู้มาจากไมเคิลว่าศิรสาอาการดีขึ้นและออกจากโรงพยาบาลกลับไปอยู่บ้านนานแล้ว
"ไม่ล่ะ เฮียไม่ให้มะลิไปไหนทั้งนั้น อยู่กับเฮียที่นี่เถอะนะ เฮียขอร้อง ทุกอย่างที่เกิดขึ้นระหว่างเรา เฮียจะรับผิดชอบทั้งหมดเอง"
เขาพูดตัดบทขณะที่ยังกอดจัสมินไว้แน่น รู้สึกเจ็บปวดที่ได้รู้ว่า..เธอกำลังจะจากลา
ไม่!!!!
ไม่มีทางที่เขาจะปล่อยเธอไปอีกแล้ว
อธิปอยากจะขอโทษและสารภาพสิ่งที่อยู่ในใจเขามาตลอดสองเดือนที่ผ่านมา แต่ดูเหมือนจัสมินจะเอาแต่หนีหน้าเขาร่ำไป
"แจ๊สไม่ได้ต้องการให้เฮียมารับผิดชอบอะไรทั้งนั้น แจ๊สลืมไปหมดแล้ว และก็อยากให้เฮียลืมมันด้วย"
"เฮียไม่มีทางลืมมะลิได้หรอก เฮียรั..."
อธิปกำลังจะสารภาพความในใจแต่พูดยังไม่ทันจบ จัสมินก็พูดแทรกขึ้นทันทีว่า
"ไม่เป็นไรจริงๆค่ะ เฮียไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น เพราะแจ๊สกำลังจะกลับไปบ้านที่อังกฤษ"
หัวใจชายหนุ่มกระตุกวูบเมื่อรู้ว่าเธอกำลังจะจากเขาไปอยู่ไกลแสนไกล
ต้องทำอะไรสักอย่าง ไม่มีทางยอมให้มะลิไปไหนอีกแล้ว
คิดสิ.. อธิป คิดให้เร็วเดี๋ยวจะไม่ทันการณ์
ชายหนุ่มสั่งตัวเองในใจ แต่ทำไมเขาถึงคิดอะไรไม่ออกเลย
เอาไงดี?!?!?
จะทำอย่างไรดี?
หม่าม๊า!!
ชื่อนี้แว่บขึ้นมาในสมองทันที และภาพแม่ของเขาก็ผุดขึ้นมาทันทีเช่นกัน
ม๊าต้องช่วยเขาได้แน่ ถ้าชายหนุ่มไปสารภาพผิดแล้วเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้ฟัง ป๊าม๊าคงไม่ใจดำกับลูกชายคนเดียวอย่างแน่นอนและคงต้องหาทางช่วยเหลือเป็นแน่
"ตามใจมะลิละกัน พรุ่งนี้ก็ไปลาป๊ากับม๊าแล้วเฮียจะขับรถไปส่งนะ" อธิปพูดยื้อเวลาไปก่อน เอาไว้ค่อยหาทางแก้ปัญหาอีกครั้งวันพรุ่งนี้
"งั้นเฮียก็ปล่อยแจ๊สได้แล้วค่ะ"
แม้จะรู้สึกเสียดายแต่เขาก็ยอมคลายอ้อมแขนจากร่างบางอย่างว่าง่าย
"แล้วก็ออกไปจากห้องนี้ได้แล้วนะ นี่ก็ดึกมากล่ะ แจ๊สง่วง"
"ไล่กันจังนะ แล้วคืนนี้เฮียจะไปนอนที่ไหนล่ะครับ ขอนอนกับมะลิได้ไหมครับ ขับรถมาตั้งนานเหนื่อยจังเลย"
น้ำเสียงออดอ้อนที่จัสมินไม่เคยได้ยินมาก่อน ทำให้เธอเขินทำตัวไม่ถูกแต่ก็รีบกลบเกลื่อนด้วยใบหน้าที่เรียบเฉย
"เฮียออกไปเลยค่ะ ม๊าบอกให้เฮียนอนที่ห้องนอนแขกไม่ใช่หรอคะ?"
"ก็ใช่ แต่เฮียไม่อยากนอนที่ห้องนั้นนี่ อยากอยู่กับมะลิในห้องนี้มากกว่า นะ..มะลินะ ให้เฮียนอนด้วยนะครับ"
ชายหนุ่มพูดพร้อมโน้มหน้าลงมาซบที่ไหล่สวยของหญิงสาว แต่จัสมินกลับเบี่ยงตัวแล้วใช้มือดันหน้าเขาให้ออกห่าง
"เฮียจะมานอนได้ยังไงคะ เดี๋ยวใครมาเห็นเข้า ออกไปเดี๋ยวนี้เลยนะ"
เธอผลักหน้าอกเขาให้ออกห่าง แต่อธิปที่ตั้งใจจะรวบรัดเธอให้ได้กลับดึงร่างบางมากอดแต่ก็มีเสียงเคาะประตูห้องดังขึ้น
"มะลินอนหรือยังลูก เปิดประตูให้ม๊าหน่อยจ๊ะ"
เสียงวันดังอยู่ที่หน้าประตูห้องพร้อมเสียงเคาะเรียกรัวเป็นจังหวะ ทำให้จัสมินสะดุ้งสุดตัวรีบหันไปดึงมืออธิปออกไปพูดกับเขาน้ำเสียงร้อนรน
"เดี๋ยวแจ๊สจะออกไปคุยกับม๊า เฮียอยู่ในห้องนะคะอย่าให้ม๊าเห็นล่ะ"
หญิงสาวรีบเดินออกมาเปิดประตูห้องให้วัน แต่อธิปก็เดินตามเธอออกมา ตั้งใจไว้แล้วว่าเขาจะสารภาพเรื่องทั้งหมดให้พ่อแม่ได้รับรู้
วันยังไม่ทันได้พูดอะไรก็มองข้ามตัวจัสมินไปเห็นลูกชายตัวดีเดินตามออกมา นึกแว่บในใจว่าอธิปอาจจะทำร้ายจัสมินอีกก็เป็นได้
"อาตี๋เข้าไปทำอะไรในห้องน้อง ก็ไหนว่าจะไปอยู่ห้องนอนแขกไง"
"เอ่อ.. คือ.. เฮียมาเอาเสื้อผ้าค่ะ กำลังจะออกไปพอดี ม๊ามาหาแจ๊สมีธุระอะไรเหรอคะ"
หญิงสาวรีบพูดขึ้นก่อนที่ชายหนุ่มจะทันได้ตอบแม่ของเขา อธิปถอนใจเฮือกใหญ่ที่เธอรีบแย่งเขาพูดแต่ไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา
"ม๊าลืมบอกมะลิว่าซื้อสมุนไพรมาให้แล้ว อยู่ในครัวนะจ๊ะ"
"งั้นเดี๋ยวแจ๊สไปจัดการเองค่ะม๊า"
แล้วเธอก็เดินเข้าไปในห้องครัวอย่างเร่งรีบ วันมองตามไปสีหน้าสงสัยแล้วหันกลับมาหาลูกชายตัวเองที่ยืนยิ้มแป้นให้ก่อนจะสั่งเสียงเข้มว่า
"ต่อไปนะอาตี๋ ถ้าจะมาเอาเสื้อผ้าของใช้ในห้อง ให้มาตอนกลางวัน อย่ามาตอนมืดค่ำอย่างนี้ นี่มันสี่ห้าทุ่มเข้าไปแล้ว ถ้ามีใครมาเห็นเข้าน้องจะเสียหายได้ ป๊ากับม๊ารักหนูมะลิแบบลูกสาวไม่ได้ต้องการจะให้มาเป็นลูกสะใภ้ ม๊าให้สิทธิ์ตี๋หาแฟนเองแล้วนี่นา ตี๋รักใครชอบใครก็จัดการเอาเองม๊าไม่ยุ่ง แต่อย่ามารุ่มร่ามกับมะลิ"
คำพูดของแม่ทำให้ชายหนุ่มหุบยิ้มทันที รู้สึกเจ็บจี๊ดในคำพูดมารดา ทั้งที่ตัวเองคิดว่าครอบครัวคงพอใจที่เขาจะคบหากับจัสมิน แต่แม่กลับบอกรักเธอแบบลูกสาวไม่ใช่ลูกสะใภ้
แล้วเขาจะทำยังไงต่อไปดี?
เขาตัดสินใจในฉับพลันที่จะพูดความจริงทั้งหมดเกี่ยวกับเรื่องระหว่างเขากับจัสมิน ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นเขาก็พร้อมจะยอมรับมัน
"ม๊าครับ ผมมีเรื่องอยากปรึกษาครับ ม๊าว่างคุยไหมฮะ?"
"เอาไว้พรุ่งนี้นะตี๋ เดี๋ยวค่อยคุยกัน นี่ก็ดึกมากแล้ว เดี๋ยวม๊าไปช่วยมะลิในครัวก่อน"
อธิปพยักหน้ารับรู้ ก่อนจะถอนหายใจออกมาดังๆ รู้สึกอึดอัดใจในเรื่องที่ต้องปิดบัง เขาต้องการจะเปิดเผยความสัมพันธ์ระหว่างเขากับจัสมินให้ทุกคนได้รับรู้ โดยเฉพาะป๊ากับม๊าและครอบครัวของจัสมิน รวมไปถึงณัฐนิธานที่ตัวเขาเองก็รู้ว่าสามีของศิรสาห่วงใยจัสมินมากแค่ไหน
ทั้งที่เขาคิดว่าหม่าม๊าคือความหวังเดียวที่จะช่วยเขาปรับความเข้าใจกับจัสมินได้ แต่ฟังจากน้ำเสียงเมื่อสักครู่เหมือนม๊าจะไม่ต้องการให้เขาคบหากับจัสมิน ถ้าแม่ไม่ยอมช่วยแล้วเขาจะทำยังไงดี
เฮ้อ!!!!!
เขามองหาทางออกไม่ได้เลยจริงๆ
☆☆☆☆☆☆☆☆☆
สมน้ำหน้าเฮียจริง..จริ๊งงงง โดนซะบ้างแล้ว
ถ้าชอบขอคนละไลค์นะคะ