นานจน (เกือบ) ลืมเธอ
ep.42 นึกว่าหนีไปแล้ว
แม้อธิปจะเคยข่มขู่จัสมินไปว่า เขาจะขังเธอไว้ที่ห้องแต่ก็ไม่ได้ทำอย่างที่พูด เพราะเนื้อแท้แล้วชายหนุ่มไม่ใช่คนจิตใจโหดร้ายถึงกับจะกักขังใครได้ เขาไม่ได้ห้ามเธอใช้โทรศัพท์มือถือด้วยซ้ำไป จึงไม่แน่ใจว่าเมื่อเขาออกมาจากคอนโดแล้ว หญิงสาวจะยังอยู่ในห้องหรือไม่
หลายวันมานี้ร่างกายจัสมินยังบอบช้ำเพราะเขาเป็นต้นเหตุ ทำให้ชายหนุ่มรู้สึกผิดในใจ แม้ปากจะบอกว่าไม่ห่วง ไม่สนใจ แต่ในสมองของเขากลับนึกถึงแต่เรื่องสาวน้อยตลอดเวลา จนยากจะสลัดเธอทิ้งไปจากสมองได้
มือไวเท่าความคิด ชายหนุ่มรีบตีไฟเลี้ยวแล้ววนรถกลับไปที่คอนโดทันที ทั้งที่วันนี้เขาใช้รถเบนซ์ของหม่าม๊า แต่เพราะการจราจรบนท้องถนนที่คราคร่ำไปด้วยยานพาหนะนานาชนิด ทำให้เขาเหยียบคันเร่งไม่ได้อย่างที่ใจหวัง กว่าจะมาถึงคอนโดก็สี่ทุ่มกว่าเข้าไปแล้ว
ลงจากรถยนต์เดินแทบเป็นวิ่งไปที่ลิฟท์ เมื่อขึ้นไปถึงชั้นยี่สิบแปด ประตูลิฟท์เปิดออกอธิปพุ่งตัวออกมาเป็นคนแรก ไขประตูห้องพักจัสมินเข้าไปอย่างใจร้อน เขามองหาหญิงสาวตั้งแต่ห้องนั่งเล่น ห้องครัวและห้องนอนก็ไม่พบ คิ้วเข้มขมวดหากันจนผูกเป็นโบว์ เขายืนคิดในใจ หรือว่า..
มะลิจะไปแล้ว?
แล้วเธอจะไปที่ไหน ก็นี่มันห้องมะลินี่นา
เธอคงโกรธและเกลียดที่เขาทำเรืื่องเลวร้ายไว้กับเธออย่างไม่น่าให้อภัย แม้จะทำใจไว้แล้วว่าจัสมินอาจไม่อยู่ในห้อง แต่เมื่อมาเห็นกับตาตัวเอง เขากลับรู้สึกผิดหวังอย่างมาก เพราะในใจก็หวังลึกๆว่าเธอ
จะอยู่รอเขากลับมา
อธิปเดินไปทรุดตัวลงนั่งที่โซฟาในห้องนั่งเล่นอย่างไม่รู้จะทำยังไงดี เขาควรตามหาเธอไหม? หรือจะรอให้กลับมาเอง
ขณะกำลังสับสนประตูห้องพักก็ถูกเปิดออกโดยใครบางคน ชายหนุ่มหันไปมองก็ตกใจ เมื่อจัสมินเดินเข้ามาในห้องพร้อมถุงกล่องอาหารขนาดใหญ่หลายถุง เธอหันมาเห็นเขาก็ทำหน้ารู้สึกผิด ถามเขาเสียงแผ่วเบาว่า
"เฮียกลับมานานแล้วหรอคะ? ทานอะไรมาหรือยัง? แจ๊สสั่งอาหารไว้มัวลงไปรอไรด์เดอร์ตั้งนาน เห็นบอกว่ารถติดมาก"
"เวลาจะไปไหนมาไหนทำไมไม่โทร.บอกฉันก่อน? เขียนโน้ตทิ้งไว้ก็ยังดี"
เขาพูดเสียงดุ สายตาที่มองมายังร่างบางก็พลอยดุไปด้วย จนจัสมินยืนนิ่งเงียบด้วยความกลัว ก่อนจะพูดโดยไม่มองหน้าเขาว่า
"ห้ามออกไปไหนจริงๆหรอคะ?"
"ใช่!!" เขาตอบสั้นๆ ทำให้อีกฝ่ายถึงกับเม้มปากเพื่อข่มอารมณ์ ก่อนจะตัดสินใจถามเขากลับ
"แล้วทำไมไม่ใส่กุญแจข้างนอกไว้เลยล่ะ?"
"ก็อยากทำนะ แต่กลัวเธอจะอดตาย ไหนมีอะไรกินมั่ง ไปเทใส่จานมาให้กินหน่อยซิ"
เขาสั่งน้ำเสียงจริงจังทั้งที่จริงไม่รู้สึกหิวเลยสักนิด เพราะเพิ่งกินมื้อเย็นมาจากโรงพยาบาล จัสมินได้ยินคำสั่งก็เดินกระแทกส้นเท้าเข้าห้องครัวไป อธิปจึงลอบถอนใจอย่างโล่งอก คิดในใจอย่างอารมณ์ดีขึ้น
นึกว่ามะลิจะหนีเฮียไปซะแล้ว
จัสมินเดินกลับมาพร้อมอาหารสองจาน เธอวางลงที่โต๊ะตรงหน้าโซฟาซึ่งอธิปกึ่งนั่งกึ่งนอนดูโทรทัศน์อย่างสบายอารมณ์ เมื่อหญิงสาวจะเดินกลับออกไป เขาก็ดึงมือเธอกระชากให้มานั่งที่ตักตัวเอง โอบกอดแล้วซุกใบหน้ากับแขนกลมกลึงนั้น
"จะไม่ถามถึงรสาสักคำหรอ?"
"พี่รสาเป็นยังไงบ้างคะ?" เธอถามเขากลับตามที่เขาอยากได้ยินทันที
"ฟื้นแล้ว"
"ค่ะ" เธอตอบรับสั้นๆ จนชายหนุ่มขมวดคิ้วที่จัสมินไม่ทุกข์ร้อนอะไรเลย จึงตะคอกถามอย่างโมโหว่า
"เธอไม่คิดจะพูดอะไรมากกว่านี้หรอไง? ทั้งที่เธอเป็นต้นเหตุที่ทำให้รสาต้องเป็นแบบนี้นะ"
"ถ้าเฮียจะโยนความผิดทั้งหมดมาให้แจ๊สคนเดียว แจ๊สก็ห้ามความคิดเฮียไม่ได้ค่ะ"
คำตอบของหญิงสาวยิ่งเพิ่มอารมณ์ขุ่นมัวให้เขาเป็นเท่าทวีคูณ
"หรือเธอคิดว่าไม่ใช่ล่ะ?"
"แจ๊สผิดส่วนหนึ่งค่ะที่ทำให้พี่รสาอับอายต่อหน้าพนักงานหลายคน แต่พี่รสาเดินตกบันไดเอง แจ๊สไม่ได้ผลักเธอนี่คะ"
จัสมินตัดสินใจที่จะยอมรับความผิดแค่ครึ่งเดียว โดยไม่ยอมรับผิดทั้งหมดตามที่อธิปกำลังยัดเยียดให้
"นี่เธอเถียงฉันหรอมะลิ?"
"ถ้าเฮียคิดว่าเถียง ก็คงใช่ค่ะ"
เธอตอบน้ำเสียงราบเรียบมาก ใบหน้าก็เฉยเมยจนจับความรู้สึกไม่ถูก เขาจ้องหน้าเธอเขม็งแต่สาวน้อยกลับมองไปอีกทาง
"เธอรู้ว่ารสาฟื้นแล้วใช่ไหม ใครบอกเธอ"
"ใช่ค่ะ แจ๊สโทร.ไปถามที่โรงพยาบาลมา"
"มิน่า ดูไม่ทุกข์ร้อน"
อธิปพูดได้แค่นั้นมือไม้ของเขาก็เริ่มซุกซนตามเรือนร่างจัสมิน จนทำให้เธอสะดุ้งรีบยกมือขึ้นมาจับมือใหญ่ของเขาไว้
"อย่าค่ะเฮีย นี่ก็สี่ทุ่มกว่าแล้วเฮียไม่ไปทำงานหรอคะ?"
"ยังมีเวลา ขอจัดสักรอบนะมะลิ"
เขาพูดแล้วดันตัวเธอให้นอนลง เอาตัวเองขึ้นทาบทับเธอโน้มหน้าลงมาจนปลายจมูกชนกัน หญิงสาวรีบหันหน้าหนียกมือขึ้นยันใบหน้าตี๋ให้ห่างออกไป
"แจ๊สยังไม่ได้กินอะไรตั้งแต่เช้า ขอแจ๊สทานอะไรหน่อยไม่ได้หรอคะ?"
เธอพยายามต่อรองแต่เหมือนจะไร้ผล เพราะอธิปค่อยๆใช้มือถอดเสื้อผ้าเธอออกทีละชิ้น แม้จะขัดขืนแต่ก็ไม่เคยชนะอธิปได้สักที เธอจึงถูกเขาถอดเสื้อผ้าออกอย่างง่ายดาย ชายหนุ่มเริ่มปลุกเร้าเธอให้มีอารมณ์คล้อยตาม แต่ดูเหมือนหญิงสาวฝืนไว้เต็มกำลัง
เขาโยกจนเธอหัวสั่นหัวคลอน กลับไม่มีเสียงเล็ดลอดออกมาจากปากสวยได้รูปเลยสักนิด มันทำให้เขาหงุดหงิดจึงตะคอกใส่เธอว่า
"แค่ครางให้ได้ยินมันจะตายหรือไง?"
จัสมินหลับตาแล้วส่ายหน้าไปมา จนเมื่อถึงจุดหนึ่งที่อดกลั้นไม่ไหว หญิงสาวรีบเอามือมาปิดปากไว้ สั่งตัวเองไม่ให้ส่งเสียงร้องออกมา
ไม่นะแจ๊ส ..
เธอห้ามรู้สึกอะไรกับผู้ชายคนนี้เด็ดขาด
☆☆☆☆☆☆☆☆☆
มะลิ .. อย่าบอกนะว่าเธอคิดอะไรกับเฮียแล้ว OMG!!!
ฝากติดตาม ep. ต่อไปด้วยน้า 🙏