Prologue
Brawl
“ขุน...เธอดีมากเลยรู้ตัวรึเปล่า”
ผมผละออกจากเรือนร่างเย้ายวนตรงหน้าด้วยใบหน้านิ่งเรียบ เดินตรงเข้าไปทางห้องน้ำเพื่อชำระล้างร่างกายที่เหนียวเหนอะหนะ...ไม่ต้องบอกก็คงรู้ว่าเราเพิ่งทำเรื่องอะไรกันมา การเสพสมทางกายที่ต่างฝ่ายต่างยินยอมพร้อมใจ ที่สำคัญคือไม่มีข้อผูกมัด ไม่มีความเกี่ยวพันกันไม่ว่าจะทางร่างกายหรือความรู้สึกในภายหลัง
แค่ข้อตกลงเพียงชั่วข้ามคืน...เสร็จแล้วก็แยกทางใครทางมัน ไม่มีอะไรมากไปกว่านั้น
ผมเปิดฝักบัวให้น้ำเย็นไหลผ่านร่างกาย หลับตาลงเมื่อหยดน้ำไหลซึมผ่านเส้นผมแล้วไหลลงมาตามกรอบหน้า ใช้เวลาทำความสะอาดร่างกายไม่นานก็เสร็จ ยืนเช็ดผมสีน้ำเงินที่เพิ่งไปย้อมมาอยู่หน้ากระจกในห้องน้ำจนหมาดใกล้แห้งสนิทดี ทั้งตัวถูกพันด้วยผ้าขนหนูไว้แค่ท่อนล่างก่อนจะเดินออกมาหยิบเสื้อผ้าที่กระจัดกระจายอยู่ข้างเตียง ตลอดทุกการเคลื่อนตัวผมรับรู้ดีว่าคนบนเตียงคนที่ผมเพิ่งแนบชิดด้วยเมื่อครู่จับจ้องกันไม่ละตั้งแต่ผมออกมาจากห้องน้ำ
“หุ่นเธอดีมาก”
“อืม”
ในตอนที่กำลังรูดซิปกางเกงยีนแผ่นหลังผมก็ถูกโอบกอดเอาไว้ ร่างกายเปลือยเปล่าไร้อาภรณ์แนบชิดกันไปแทบทุกส่วน ผมยืนนิ่งอย่างดูเชิงว่าเขาคิดจะทำอะไรต่อ...ก่อนหน้านี้ผมเข้าไปนั่งดื่มที่ผับไอ้เวย์ และเขาก็เป็นฝ่ายเข้าหาผมก่อน ผมไม่รู้จักเขาและเขาก็ไม่ได้รู้จักผม เราเพียงแค่ได้รู้ชื่อกันระหว่างมีเซ็กส์ก็เท่านั้น เมื่อถูกเสนอผมก็แค่สนองตามนิสัยผู้ชายเทาๆ คนหนึ่ง ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกแต่มันเกิดขึ้นจนผมเองก็นับครั้งไม่ถ้วน เพราะงั้นผมเลยจำหน้าใครไม่ได้สักคน
“เมื่อกี้เรามีความสุขมาก...ขุนว่ามันก็ดีไม่ใช่เหรอ”
“แล้ว?”
มือเรียวเริ่มไล้ลูบหน้าท้องผมอย่างเชื่องช้าก่อนจะลดต่ำลงไปยังขอบกางเกง น้ำเสียงเหย้ายวนกระซิบแนบชิดใบหู
“อีกสักรอบไหมคะ”
เป็นในตอนนี้เองที่เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ของผมสั่นครืด เอื้อมมือไปหยิบมันจากกระเป๋ากางเกงด้านหลัง และคนที่โทรมาก็เป็นหนึ่งในลูกน้องที่อู่รถของผม ไม่รอช้าผมรีบกดรับสายก่อนจะเริ่มขมวดคิ้วแน่นเพราะน้ำเสียงเคร่งเครียดของอีกฝ่าย
“มีไร”
[ไอ้ขุน มีเรื่องว่ะ]
“รีบพูดมา”
[ไอ้นิวมันโดนหาเรื่อง…แต่มันไม่ได้ตั้งใจให้เกิดนะเว้ย แค่เรื่องเข้าใจผิดฝั่งนั้นแม่งจะเล่นไอ้นิวให้ได้เลย]
“แล้วตอนนี้นิวมันอยู่ไหน”
[มันหนีมาที่อู่ แต่ไม่นานไอ้พวกนั้นมันคงตามมา]
“แก๊งใหญ่รึไง”
ใช่...ปกติถ้ามีเรื่องหรือเกิดทะเลาะวิวาทกับคนทั่วไปไอ้พวกนี้มันไม่มีทางโทรมาหาผมหรอก พวกมันก็ตีนหนักใช่ย่อยไม่ต่างกัน ถ้าไม่ใช่พวกแก๊งใหญ่ๆ เรื่องนี้คงไม่ถึงหูผม ดูท่าแล้วครั้งนี้คนที่ไอ้นิวไปก่อเรื่องมาก็คงใหญ่เอาเรื่องพอสมควร
[พวกไอ้โฟ]
ผมขมวดคิ้วแน่นทันทีที่ได้ยินชื่ออีกฝ่าย แกะแขนคนข้างหลังออกแล้วก้มลงหยิบเสื้อตัวเองขึ้นมาสวม...ไม่ใช่ว่าผมกลัวคนฝั่งมันหรืออะไร แต่คนของผมต่างก็รู้ดีว่าผมกับไอ้โฟเราจะไม่ยุ่งเกี่ยวกันเพราะไม่ชอบหน้ากันเข้าไส้
[ไอ้นิวมันไม่ตั้งใจ มันนั่งกลัวมึงฉิบหายอยู่เนี่ย กลัวกว่าพวกไอ้โฟอีก]
“มันไปก่อเรื่องเหี้ยไรมา” ผมเอ่ยถามอย่างหงุดหงิด ถึงอย่างนั้นก็รีบหยิบกุญแจกับกระเป๋าตังค์ขึ้นมาเก็บเข้ากระเป๋ากางเกง แต่ผมที่กำลังรีบร้อนเดินห้องมาจากห้องของโรงแรมก็โดนคนข้างหลังรั้งแขนไว้ก่อน ผมหันไปมองตามแรงดึงรั้งก่อนเอ่ยบอกคนในสายว่าขอเวลาแป๊บหนึ่ง
“ต่อไม่ได้ มีธุระ”
“เรื่องรีบร้อนอะไรมันจะสำคัญไปกว่าเรื่องนี้อีกล่ะขุน”
“โทษที”
ผมไม่ได้ตอบอะไรกลับไปอีก เดินออกมาจากห้องทันทีก่อนจะยกโทรศัพท์ขึ้นแนบหูอีกครั้ง
“เดี๋ยวไป...แล้วก็เล่ามา ถ้าฟังไม่ขึ้นกูก็ไม่เอานิวมันไว้แน่เหมือนกัน”
“นอกจากไปช่วยลูกหนี้ไอ้โฟมันออกมามึงยังไปถีบรถมันอีกด้วย?”
ผมดุนลิ้นกับกระพุ้งแก้มอย่างหงุดหงิด จ้องมองไปที่ลูกน้องในอู่ตัวเอง
ไม่วางตา ผมเพิ่งมาถึงที่อู่เมื่อไม่กี่นาทีก่อนหน้านี้เอง และได้ฟังเรื่องทั้งหมดแล้วเช่นกัน...ก่อนหน้านี้ไอ้นิวมันไปช่วยคนคนหนึ่งเอาไว้เพราะเห็นว่าโดนรุมตีนจากคนนับสิบอยู่ มันช่วยเขาออกมาโดยไม่ได้คิดอะไร แต่พอพ้นจากพวกนั้นแล้วคนที่มันช่วยไว้ก็บอกเสียงสั่นว่ามันคือลูกหนี้ของไอ้โฟและเพราะมันไม่มีเงินไปจ่ายหนี้ที่กู้ไว้เลยโดนทวงแบบนั้น
“กะ..ก็ตอนนั้นมันฉุกละหุก ผมถีบอะไรกันมันได้ก็ถีบไว้ก่อนไม่ได้มีเวลาคิด ผมขอโทษจริงๆ พี่ขุน”
ผมหยิบซองบุหรี่ขึ้นมาเคาะออกมาหนึ่งมวนเพื่อจุดสูบ นอกจากไปพาลูกหนี้มันหนีแล้วไอ้นิวยังไปถีบรถบิ๊กไบค์ของมันอีก...แน่นอนว่าสำหรับอีกฝ่ายมันคงไม่ต่างกับการโดนหยามหน้าชัดๆ ตอนนี้นิวมันเลยโดนไอ้โฟล่าตัวอยู่นี่ไง ผมพ่นควันสีขาวออกทางปากและจมูกไม่ได้ตอบอะไรมันออกไปอีก ผมต้องคิดหาทางที่มันจะทำให้เกิดปัญหาน้อยที่สุด ไม่ใช่ว่ากลัว แต่ถ้ามีเรื่องกันเมื่อไหร่นั่นแสดงว่าต้องมีโอกาสที่คนของผมจะต้องบาดเจ็บอยู่แล้ว
“ไอ้ขุน พวกไอ้โฟมาแล้วว่ะ”
ผมอัดนิโคตินเข้าปอดอีกครั้งก่อนจะทิ้งบุหรี่ลงกับพื้นแล้วใช้เท้าเหยียบให้ดับ พยักหน้ารับแผ่วเบาแทนการรับรู้ ผมเงยหน้าขึ้นมองลูกน้องตัวเองที่นั่งเครียดอยู่บนเก้าอี้ข้างหน้าอีกครั้ง...มันไม่ได้กลัวพวกไอ้โฟ แต่มันกลัวที่ทำให้ผมต้องมีเรื่องกับพวกมันจนได้ต่างหาก
“ไว้กูจะมาเคลียร์กับมึงทีหลัง”
“คะ..ครับพี่”
ผมหันหลังกลับไปทางด้านหน้า ผ่านประตูกระจกของห้องพักออกไปตัดผ่านไปยังห้องซ่อมรถขนาดใหญ่ พอออกมาถึงหน้าทางเข้าก็ต้องเผลอเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย คนของผมที่คอยเฝ้าอยู่ด้านหน้ายื่นดูเชิงพวกมันที่เหมือนกับยกโขยงกันมาทั้งโคตร ผมสบตากับหัวหน้าใหญ่อย่างไอ้โฟ มันยืนพิงกระโปรงรถสปอร์ตของมันอยู่ ผมปรายตาไปมองด้านหลังเล็กน้อยเพื่อหาลูกน้องตัวเองคนก่อเรื่อง มันยืนอยู่รวมกับคนของผมไม่ได้หลบอยู่ในห้องพักแต่อย่างใด
“ไงขุนหมื่น ไม่เจอกันนาน”
ผมหันกลับไปมองไอ้โฟอีกครั้ง มันส่งยิ้มแบบทีเล่นทีจริงให้ผม ใครก็ดูออกทั้งนั้นว่ามันกำลังแค้นขนาดไหน
“เข้าเรื่องเลย”
“…เค ก็ดีเหมือนกัน”
“…”
“กูก็ไม่คิดอยากจะยุ่งเกี่ยวกับมึงหรอกนะ เหมือนกับที่ผ่านมาเราต่างคนต่างอยู่มาตลอด…แต่ครั้งนี้คนของมึงเริ่มก่อน”
“อืม”
“และที่สำคัญมันถีบลูกรักกู” มันกดเสียงต่ำอย่างข่มขู่ ผมยืนล้วงกระเป๋ากางเกงท่าทางเอื่อยเฉื่อย เหมือนไม่คิดรับรู้ถึงความแค้นของมันก่อนเอ่ยตอบมันน้ำเสียงเรียบนิ่ง
“เท่าไหร่ว่ามา กูชดใช้ให้แทนเอง”
ไอ้โฟลุกขึ้นยืนเต็มความสูงทันทีที่ผมว่าจบ สายตาดุกร้าวจ้องผมเขม็ง ลำคอมันขึ้นเส้นเลือดอย่างชัดเจนบ่งบอกว่ามันกำลังโกรธจนเลือดขึ้นหน้า
“ง่ายไปมั้ง”
“แล้วมึงจะเอายังไง”
“ส่งไอ้เหี้ยนั่นมาให้กู แล้วกูจะถือว่าเราไม่ได้ข้องใจกันเหมือนที่ผ่านมา”
“กูให้ไม่ได้”
“มึงคิดดีแล้ว?”
“อยากได้เงินเท่าไหร่ก็ว่ามา”
ไอ้โฟเหมือนกับเส้นอารมณ์ขาดผึง มันกำมือแน่นเพราะผมก็ไม่ต่างจากหยามมันซึ่งๆ หน้า…แต่ไม่เลย นั่นคือทางออกที่ดีที่สุดที่ผมสามารถให้มันได้ต่างหาก และถ้ามันไม่เอา ผมก็ขี้เกียจเจรจาแล้วเหมือนกัน
“กูเตือนเป็นครั้งสุดท้ายว่าส่งมันมาให้กู”
“อย่าพูดอะไรโง่ๆ มึงก็รู้ว่ากูไม่มีวันทำ”
“ถือว่ามึงเริ่มก่อนเองนะไอ้ขุน!”
“เออ ถ้ามันยากนักก็ไม่ต้องคุย…เตรียมคนของมึงมาพร้อมอยู่แล้วนี่”
ว่าจบคนของมันที่ผมประมาณไว้คร่าวๆ ได้เกือบสามสิบคนก็พุ่งเข้ามาหาพวกผมทันที ฝั่งผมเองก็ไม่ได้แปลกใจเท่าไหร่เพราะนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่เรามีเรื่อง…เรื่องของอำนาจมันก็ต้องมีขัดแข้งขัดขากันจนบ้างเกิดปัญหาอยู่แล้ว ผมก้าวไปหาไอ้โฟอย่างไม่รอช้า ที่เหลือก็ปล่อยให้ลูกน้องมันจัดการกันเอาเอง ซึ่งผมประเมินสถานการณ์ไว้แล้วว่ายังไงคนที่ต้องอยู่ใต้ตีนก็ต้องเป็นฝั่งไอ้โฟ
“กูหมั่นไส้มึงมานานแล้วไอ้สัด!”
เราพุ่งเข้าหากันอย่างเอาเป็นเอาตาย มันหมั่นไส้ผม ส่วนผมก็ไม่ชอบเรื่องเลวๆ ที่มันชอบก่อเอาไว้เหมือนกัน แต่เมื่อได้ลองเข้าสู้แบบตัวต่อตัวกันแล้วไอ้โฟก็ยังห่างกับผมอยู่มาก ผมสาวหมัดใส่หน้ามันไม่ยั้งตอนที่ทำให้มันล้มลงกับพื้นได้ หน้าตามันบวมช้ำน่ากลัว มุมปากกับโหนกแก้มก็แตกยับหมดสภาพ ผมยืดตัวขึ้นยืนคร่อมไอ้อ่อนโดยไม่ได้พูดอะไรก่อนที่ผมจะเตะเข้าที่ข้างแก้มมันอย่างแรง
เสียงหมัดและเสียงร่างกายกระทบกระทั่งกันดังไปทั่วทั้งบริเวณ ผมปรายตามองรอบๆ เพื่อเช็กดูสถานการณ์ฝั่งลูกน้องตัวเองบ้าง แน่นอนอยู่แล้วว่าหัวหน้ามันไก่อ่อนยังไงลูกน้องมันก็ไม่ต่างกันนักหรอก ผมก้มลงมองไอ้โฟในสภาพยับเยินอีกครั้งแล้วยกเท้าขึ้นเหยียบคางมันให้เงยหน้าขึ้นมาสบตา มันดูจะแค้นผมหนักกว่าเดิมราวกับถ้าฆ่าผมได้มันจะทำอย่างไม่ลังเล ผมจึงเลิกคิ้วให้มันช้าๆ
“ยังอยากจะได้ลูกน้องกูอีกไหม”
“…”
“วันหลังกระจอกแล้วก็อย่ามาทำปากดียื่นข้อเสนอให้กู”
“...มึง”
“เสนอทางออกให้ดีๆ ไม่ชอบนัก”
ผมกลับเข้ามาในอู่อีกครั้งเมื่อเคลียร์กับพวกมันเรียบร้อย คนของผมมีรอยช้ำให้เห็นบ้างประปรายตามประสาคนมีเรื่องวิวาท ผมเองก็คิ้วแตกไปหนึ่งแผลเหมือนกัน
“ต่อไปก็เคลียร์กับมึงไอ้นิว”
ผมบอกเสียงนิ่งพร้อมทรุดกายนั่งลงบนโซฟาตัวยาว นิวออกมายืนด้านหน้าพวกลูกน้องผมทันทีเหมือนเตรียมใจไว้แล้ว ผมเสยผมลวกๆ ก่อนจะหยิบบุหรี่ขึ้นมาสูบอีกครั้ง
“พี่ขุนจะลงโทษผมยังไงผมยอมรับทั้งหมดเลยพี่”
“รู้ใช่ไหมว่ามันจะไม่จบแค่นี้?”
“ครับ”
“แล้วมึงจะรับผิดชอบยังไง”
ไอ้โฟมันเป็นถึงระดับหัวหน้าก็จริง แต่ไอ้เวรกระจอกนั่นคงไม่ได้มีที่ยืนทำเรื่องเลวระยำต่างๆ แบบนี้ได้หรอกถ้าไม่ได้พี่ชายมันหนุนหลังอยู่…ไอ้โฟสคือคนคุมอำนาจที่แท้จริง พี่ชายแท้ๆ ของไอ้โฟ แล้วก็มีสันดานไม่ต่างกันเท่าไหร่ มันมีอิทธิพลอยู่ไปทั่วเพราะเป็นเจ้าพ่อเงินกู้นอกระบบ ด้วยดอกเบี้ยที่เกินกว่ากฎหมายกำหนดทำให้ลูกหนี้มันส่วนมากจะหาเงินมาคืนไม่ได้ มันเลยตามทวงแบบไม่เกี่ยงวิธี ขอแค่ให้ตัวเองได้ผลประโยชน์ก็พอ
“…ผม”
“มึงคิดว่าไอ้โฟสมันจะอยู่เฉยๆ ไหม?”
ผมเงยหน้าจ้องมองลูกน้องตัวเอง…ไม่บ่อยนักหรอกที่คนของผมจะสร้างเรื่องให้ผมตามเก็บกวาดแบบนี้ เพราะทุกคนต่างรู้ดีว่าถ้าก่อแล้วก็ต้องรับผิดชอบเอง
“ขอโทษครับพี่ขุน ผมขอโทษจริงๆ”
“ถ้าครั้งหน้าคิดอยากจะช่วยใครก็หัดดูให้ดีก่อน ถ้ามึงรับผิดชอบไม่ได้ก็อย่าอวดดี…ครั้งนี้ถือว่ากูเตือน อย่าให้มีครั้งหน้าอีก”
“…”
“มึงถูกย้ายไปเฝ้าโกดัง ถ้ากูเห็นว่ามึงสำนึกแล้วจริงๆ กูถึงจะสั่งย้ายมึงกลับมา”
นิวเงยหน้าขึ้นมองผมทันทีอย่างตกใจ…เพราะบทลงโทษนั้นถือว่าเบามาก เฝ้าโกดังก็ไม่ได้ยากอะไรขนาดนั้น แค่ต้องห่างจากพวกพ้องคนอื่นๆ หน่อย แล้วก็ต้องเก็บกวาดเรื่องทุกเรื่องในโกดังให้ดี ที่ผมตัดสินใจแบบนี้เพราะนิวมันยังเด็กและค่อนข้างเป็นคนดีคนหนึ่ง ถึงมันจะเข้ามาทำงานกับผมได้ไม่นานเท่าไหร่แต่มันก็เข้ากับที่ของผมได้ดีและมันก็เหมือนน้องชายผมคนหนึ่ง
“พี่ขุน…ขอบคุณมากครับ ขอบคุณมากจริงๆ พี่ ผมสัญญาว่าจะไม่ก่อเรื่องอีก”
“เออ”
ผมอัดนิโคตินเข้าสุดปอดก่อนปล่อยควันสีขาวพวยพุ่งออกจากปาก พยักหน้าเล็กน้อยให้ทุกคนไปพักผ่อนได้เพราะนี่ก็ดึกมากพอสมควรแล้ว ผมนั่งนิ่งขบคิดเรื่องที่เกิดขึ้นเงียบๆ ไม่ได้ลุกไปไหน จนกระทั่งตอนที่บุหรี่ใกล้หมดมวนเสียงโทรศัพท์ผมก็ดังขึ้น มันเป็นเบอร์แปลก แต่เพราะเพิ่งมีเรื่องกับไอ้โฟไปเลยทำให้เดาได้ไม่ยากนัก
“…”
[…]
ผมใช้ความเงียบเป็นการเริ่มบทสนทนา อีกฝ่ายก็ยังไม่ได้เริ่มพูดอะไรเช่นกัน…ก่อนที่สักพักปลายสายจะเอ่ยเสียงเข้มปนเคียดแค้นออกมา
[กูโฟส…เมื่อกี้กูเห็นสภาพน้องกูแล้ว]
“…”
[มึงคงรู้นะว่ากูคงไม่ยอมจบง่ายๆ ไอ้ขุน]
“…”
[ระวังตัวไว้ เดี๋ยวมึงเจอกู]
“ถ้ามึงกล้ามากก็ลองดู”
………………………………………
เปิดเรื่องด้วยกำปั้นกันเลยย…ทักทายทุกคนอีกครั้งนะคะ ไม่ได้พูดคุยกันนานเลยฮื่ออ จริงๆ คิดว่าจะลงตั้งแต่วันจันทร์แล้วคับ แต่เราเริ่มฝึกงานวันนั้นพอดีเลยแต่งได้วันละกะปิ้ดเดียวเองคั้บเพราะหมดแรง ฮ่าา。゚ (TヮT) ゚。
สำหรับตัวละครพี่ขุนกับน้องรักทั้งสองคนไม่เคยรู้จักกันมาก่อนนะคะ เคยคุยกันผ่านๆ จากตอนพี่ไฟกับดาวศุกร์คบกันเท่านั้นเอง…เรียกได้ว่าเริ่มต้นความรู้สึกจากศูนย์กันทั้งคู่เลย ต่างจากเรื่องพี่เพลิงพี่ไฟเลย
แล้วก็ๆ ไทม์ไลน์ของเรื่องนี้เริ่มต้นหลังจากคู่พี่ไฟจบหรืออีกอย่างก็คือดำเนินไปพร้อมตอนเรื่องกัลป์เลยค่ะ…ตอนแรกเปิดด้วยฝั่งพี่ขุนก่อน ตอนหน้าเดี๋ยวน้องรักก็ได้เปิดตัวแล้วคั้บบᵔᴥᵔ
Twitter : @Themoonthere
ขอให้มีความสุขกับการอ่านนะคะ♥