D.O.12
“ขอบคุณค่ะที่มาส่ง”
นับดาวเอ่ยบอกเมื่อรถหรูของภาคินจอดที่หน้าบ้านเธอ บอกเสร็จก็เปิดประตูรถเพื่อก้าวออกจากรถ แต่ก็ต้องตกใจเมื่อคนตัวโตจับไหล่บางไว้ให้หันไปมองเขา
“อื้ออ”
มือเล็กทุบไหล่กว้างเบาๆ เมื่อภาคินก้มลงมาจูบเธอ จนกว่าจะพอใจนั่นแหละเขาถึงได้ผละออกไป
“เอ้า ไม่ลงรึไง”
ภาคินเอ่ยพร้อมจ้องร่างบางที่ก้มหน้าด้วยความเขินอาย แก้มนวลที่แดงระเรื่อนั้นเขาอยากจะกดจมูกลงไปแรงๆแต่ก็ห้ามใจไว้ก่อน ก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไปทำไม ก็แค่อยากจูบนับดาวเฉยๆ
“………….”
นับดาวไม่ตอบร่างเล็กลนลานก้าวออกจากรถทันที ร่างบางเปิดประตูรั้วแล้วเข้าไปในบ้านโดยไม่หันกลับมามองภาคินอีกเลย
เมื่อเห็นว่านับดาวเข้าบ้านเรียบร้อยแล้วภาคินก็ออกรถเพื่อกลับบ้านทันที เมื่อคืนเขาไม่ได้กลับไปนอนบ้าน คุณแม่ต้องซักเขาแน่เลย
นับดาวเดินเข้ามาในบ้านด้วยความโล่งใจที่คนอื่นยังไม่ตื่นกัน ร่างบางจึงรีบขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วลงมาทำกับข้าวให้คนในบ้าน
นับดาวทำกับข้าวด้วยใจที่ว้าวุ่นเมื่อคิดว่าเหตุใดพรฟ้าถึงกล้าทำกับเธอขนาดนี้ จงเกลียดจงชังอะไรเธอนักหนา
“ไม่คิดว่าจะกลับมาเช้าขนาดนี้นะเนี่ย”
พรฟ้าเอ่ยเยาะเย้ยนับดาวอย่างไม่รู้สึกผิดในสิ่งที่ทำ
“ฟ้าทำแบบนั้นกับพี่ได้ยังไง” นับดาวเอ่ยถาม
“เถอะหน่า ถือว่าเป็นประสบการณ์ แล้วอีกอย่างฉันไม่เคยเห็นแกเป็นพี่”
“.............” นับดาวถึงกับน้ำตาตกในเมื่อได้ยินสิ่งที่พรฟ้าพูด
“ไม่ต้องห่วงหรอกฉันไม่บอกเรื่องนี้กับใครแน่ แม้แต่แม่ฉันก็ไม่บอก” พรฟ้าบอกอย่างอารมณ์ดี
นับดาวกำมือตัวเองแน่น ไม่คิดว่าคนที่เธอเห็นเป็นเหมือนน้องสาวจะทำกับเธอขนาดนี้ ร่างบางไม่ได้ตอบอะไรแล้วหันไปทำอาหารต่อ สักวันเธอจะหนีไปจากที่แห่งนี้ให้ได้
“แกควรขอบคุณฉันนะที่หาผัวให้หล่อขนาดนั้น แต่เรื่องฐานะฉันไม่รู้หรอกว่าเขารวยมั้ย แต่หน้าอย่างแกได้แค่นี้ก็ดีแล้ว”
พรฟ้ายังเอ่ยเหน็บนับดาวโดยที่ไม่รู้เลยว่าภาคินนั้นรวยระดับมหาเศรษฐีเลยแหละ
“พี่จะถือว่ามันไม่เคยเกิดเรื่องนี้ขึ้นละกัน” นับดาวกลั้นใจพูดออกไป ถึงเธอจะต่อว่าพรฟ้ายังไง เธอก็คงไม่สามารถย้อนไปแก้ไขมันได้ ปล่อยให้มันผ่านไปนั่นแหละคงเป็นทางที่ดีที่สุด
นับดาวหันมาตั้งใจทำอาหารต่อเมื่อพรฟ้าเดินหน้าเชิดออกไป เมื่อทำเสร็จจึงแบ่งของตัวเองไว้เก็บเข้าตู้กับข้าว จากนั้นก็ขึ้นไปบนห้องเพื่อพักผ่อน เมื่อถึงห้องก็ล้มตัวลงนอนตวัดผ้าห่มขึ้นมาคลุมกายไว้ รู้สึกเหนื่อยล้าเหลือเกินกับเรื่องต่างๆที่เจอมา น้ำตาที่พยายามกลั้นเอาไว้ก็ไหลลงมาอย่างง่ายดาย ร่างเล็กสะอื้นเบาๆ มือบางปาดน้ำตาที่ไหลลงมาออกลวกๆ ก่อนจะหลับตาลงและหลับไปด้วยใจที่อ่อนล้า
บ้านอนันต์ภิวัตน์
“ไปนอนกับสาวที่ไหนมานายคิน”
แค่ก้าวเข้ามาในบ้านภาคินก็โดนพี่ชายทักทายยามเช้าเสียแล้ว ร่างสูงจึงเดินไปยังโต๊ะอาหารที่ทุกคนทานข้าวเช้ากันอยู่อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
“หึ หึ” ภาคินหัวเราะในคอแกร่งแล้วไปนั่งยังที่ว่างข้างแม่ของเขา
“เรื่องผู้หญิงเบาๆหน่อยก็ได้นะพ่อตัวดี” เกศมณีดุภาคินไม่จริงจังนัก
“เป็นเรื่องธรรมดาของผู้ชายน่ะครับคุณแม่ ถ้าเจอคนที่ใช่เดี๋ยวผมหยุดเอง” ภาคินเอ่ยบอก พร้อมคิดไปถึงร่างบางที่เขาพึ่งห่างมา
“ฉันล่ะเหนื่อยใจจริงๆมีลูกชายแบบนี้เนี่ย” เกศมณีเอ่ยบอก เธอเองก็ไม่ค่อยชอบใจนักที่ลูกชายเห็นผู้หญิงเป็นแค่ที่ระบายอารมณ์
“อย่าไปไข่ทิ้งไว้เรี่ยราดล่ะนายคิน” วาคิมเอ่ยแซวน้องชาย
“ระดับผมนะพี่คิม” ภาคินบอก เรื่องแบบนี้เขาไม่มีทางพลาดหรอก เว้นแต่ว่าเขาตั้งใจ
“อาทิตย์หน้าผมว่าจะย้ายไปอยู่คอนโดที่ซื้อไว้แถวบริษัทนะครับ”
“แล้วแกไปซื้อไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่” ภาคภูมิเอ่ยถามภาคิน
“ซื้อไว้สักพักแล้วครับ”
“พึ่งจะกลับมา ก็หนีแม่ไปนอนที่อื่นอีกแล้วเหรอ” เกศมณีเอ่ยอย่างงอนลูกชาย
“โธ่ คุณแม่ครับ ก็มันใกล้บริษัทมากกว่านี่ครับ”
“ปล่อยลูกไปเถอะน่าคุณเกศ มันก็โตโตกันแล้ว” ภาคภูมิเอ่ย
“แต่ต้องกลับมานอนที่บ้านทุกอาทิตย์นะ” เกศมณีบอก
“ครับ” ภาคินเอ่ยเอาใจมารดา