นั่งปรับๆแก้ๆ จากฟีดแบ็คของทุกคน
ได้ออกมาเป็น 2 ปกนี้
ถ้าไม่เป็นการรบกวนจนเกินไป
ช่วยเพราเลือกอีกครั้งด้วยนะคะ
แค่พิมพ์เลข 1 หรือ 2 ต่อท้ายคอมเม้นก็ได้ค่ะ
No. 1
No. 2
เครื่องทำความร้อนเหนือฟากฟ้ายังส่งลำแสงแรงกล้าลงมาปกคลุมไปทั่วผืนไร่อันกว้างใหญ่ ทั้งเครื่องจักรขนาดใหญ่และแรงงานหลายร้อยชีวิตยังคงทำงานกันอย่างขยันขันแข็ง ในวันนี้เป็นคิวของการเก็บเกี่ยวแปลงที่ C 33 – D 38 ซึ่งเฉพาะสิบห้าแปลงย่อยนี้กินพื้นที่นับร้อยไร่ รถเก็บเกี่ยวขนาดใหญ่ถูกจอดติดเครื่องที่ต้นแปลง C33 และเมื่อรถสิบล้อวิ่งมาจอดเยื้องตีคู่เพื่อทำงานควบคู่กัน ทั้งสองคันก็เริ่มเคลื่อนตัวฝ่าเข้าไปในแปลงขนาดมหึมาโดยทิ้งไว้เพียงพื้นราบเป็นแนวตลอดทางที่รถเคลื่อนผ่าน
ท่อกลมขนาดสองคนโอบที่ยื่นขึ้นมาเหนือรถเก็บเกี่ยว ทำหน้าที่ลำเลียงเศษลำต้นและใบที่ถูกตัดจากแปลงจนราบเป็นหน้ากลองให้ลอยข้ามไปใส่บนรถบรรทุกสิบล้อที่วิ่งตีคู่กันมาตลอดแนวเพื่อรับเศษซากจากผลผลิตนับร้อยตัน
ใบหน้าคมคร้ามภายใต้หมวกคาวบอยปีกกว้างมีเหงื่อผุดพราย แต่ชายหนุ่มก็ไม่ได้ยี่หระกับมันสักเท่าไหร่นัก วันนี้ลุงสัน คนงานที่เชี่ยวชาญและรับผิดชอบขั้นตอนการขับรถสิบล้อประกบรถเก็บเกี่ยวเกิดไส้ติ่งอักเสบต้องส่งโรงพยาบาลกะทันหัน ตรีศูลจึงเข้ามารับหน้าที่นี้แทนชั่วคราวโดยสลับกันขับกับแทนไทคนสนิท
“นาย มีอะไรรึเปล่าทำไมมองผมแปลกๆ” แทนไทถามขึ้นหลังจากเห็นสายตาของเจ้านายมองเขาคล้ายมีอะไรอยากพูดอยู่หลายครั้ง เสียงเครื่องจักรทำงานดังกระหึ่ม แต่อีกฝ่ายก็ยังได้ยินทั้งยังไม่ละสมาธิจากการขับเคลื่อนรถคันใหญ่อย่างทะมัดทะแมงและชำนาญ
“พักนี้ชมาซึมๆ ไม่พูดไม่จา เป็นเพราะมึงใช่มั้ย” เจ้านายยิงคำถามอย่างไม่อ้อมค้อมเมื่อลูกน้องเปิดทาง
แทนไทอึ้งไปเล็กน้อย ก่อนพยักหน้า “คงงั้นครับนาย”
“มึงคิดอะไรของมึงวะ คิดว่าพิมจะจริงจังกับมึงงั้นเหรอวะไอ้แทน”
หนุ่มตี๋ขวัญใจแม่ยกในไร่มีสีหน้าว้าวุ่นทั้งรู้สึกผิด เขาบอกเลิกชมา เพราะรู้ตัวว่าตัวเองคิดยังไงกับพิมมา ความรู้สึกนี้เกิดขึ้นกับเขามานานตั้งแต่ฝ่ายนั้นยังไม่ไปเรียนต่อในกรุงเทพ จนหลังๆ มานี้ที่ไม่เจอกัน เขาคิดว่าตัวเองลืมความรู้สึกนั้นไปหมดแล้ว จนมาเริ่มคบกับชมา แต่พอพิมมากลับมาเขาจึงรู้ว่าความรู้สึกที่มีต่อเธอยังไม่ได้จางหายไปไหนเลย ความสวย วาจาไพเราะ และท่าทีมีใจต่อเขาทำให้หัวใจของหนุ่มชาวไร่สั่นคลอนได้อย่างง่ายดาย
“ผมไม่คิดถึงขนาดนั้นหรอกนาย แต่...ไม่อยากทำร้ายชมาไปมากกว่านี้ ก็บอกเลิกให้จบๆ ไปจะดีกว่า”
“มึงพูดง่ายจังวะ” ตรีศูลเริ่มไม่สบอารมณ์ หัวอกคนเพิ่งถูกบอกตัดสัมพันธ์มามันเป็นยังไงเขารู้ความรู้สึกนั้นดี ความเห็นใจจึงตกไปที่ชมาเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์
“คบกันไปมันก็ไม่ใช่แล้วละนาย ผม...รู้สึกดีกับพิม...ไม่อยากให้ชมาเจ็บไปมากกว่านี้”
ยิ่งฟังตรีศูลยิ่งอดโทษตัวเองไม่ได้ ว่าเป็นเพราะเขาถึงทำให้สองคนนั้นได้กลับมาใกล้ชิดกัน ด้วยอาชีพและธุรกิจของเขา ที่ทำให้ต้องติดต่อกับหน่วยงานราชการในเรื่องเอกสารต่างๆ แทบจะวันเว้นวันเนื่องจากตอนนี้ทางบริษัทผู้ผลิตอาหารสัตว์รายใหญ่เริ่มเข้มงวดกับแหล่งที่มาของผลผลิตที่จะป้อนเข้าโรงงาน ต้องตรวจสอบเอกสารสิทธิ์หลายอย่าง และเขาก็มอบหมายให้ลูกน้องกับผู้ช่วยคนใหม่รับหน้าที่นี้ร่วมกัน ซึ่งพิมมาทำได้ดีจนเขาอดชมไม่ได้...และเธอก็ตอบรับคำชมของเขาด้วยรอยยิ้มหวานหยดและการเข้ามาไหว้ขอบคุณแนบอกเขาชนิดที่ชายหนุ่มตีสีหน้าไม่ถูกมาแล้ว
“มึงรู้สึกดี แต่ระวัง ถ้าเขาแค่คิดเล่นๆ แล้วมึงจะรู้สึก คิดดูดีๆ นะไอ้แทน ชมาทั้งรักทั้งดีกับมึงขนาดไหน ถ้ามึงเป็นคนอื่นแล้วมาทำกับคนของกูแบบนี้กูจะตะบันให้หน้าแหก” ปากบริภาษลูกน้อง มือก็เข้าเกียร์ไปด้วย สายตาก็เพ่งอยู่ที่ท้ายรถอีกคันที่วิ่งนำหน้า
“คิดๆ แล้วสงสารชมาว่ะนาย” ภาพเด็กสาวที่ปั่นจักรยานเอารอยยิ้มสดใสและอาหารมื้อเที่ยงมาส่งถึงกลางไร่ผุดขึ้นมาทำให้ใบหน้าของคนเพิ่งหักอกสาวมาได้กี่วันหม่นวูบลงไปทันควัน
ตอนนี้คนที่รับหน้าที่นั้นคือน้าด้วง ที่ต้องไปเอาอาหารกลางวันมาให้เด็กๆ ในโรงเรียนร่มไม้ของตวงขวัญรวมถึงมื้อเที่ยงของเจ้านายด้วย ส่วนชมานั้นนับจากวันที่กลับจากบ้านของอัศวะก็ยังไม่ยอมเหยียบย่างเข้ามาในไร่อีกเลย
“กูไม่ได้พูดให้มึงกลับไปคืนดีกับชมา ไหนๆ ถ้าหมดรักเค้าแล้วก็ต่างคนต่างอยู่ไป แต่อยากให้มึงเผื่อใจ พิม...ไม่ใช่อย่างที่มึงคิด”
“นายหมายความว่าไง”
“ก็หมายความตามที่พูด” ตรีศูลพูดทิ้งไว้เพียงเท่านั้น ในขณะที่แทนไทเองก็นิ่งเงียบไปด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ไม่นานก็โหนตัวออกไปนอกรถแล้วปีนขึ้นไปบนกระบะ ใช้พลั่วขนาดใหญ่เกลี่ยกองเศษลำต้นไม่ให้ล้นออกนอกกระบะรถ
ครึ่งชั่วโมงต่อมาเสียงโทรศัพท์ของตรีศูลก็ดังขึ้น เป็นจังหวะที่ชายหนุ่มโหนตัวลงจากรถเพื่อผลัดให้ลูกน้องขึ้นขับพอดี เบอร์ที่โชว์คือเบอร์ออฟฟิศ
“นายคะ วันนี้เสร็จจากในไร่แล้วนายจะแวะเข้ามาที่ออฟฟิศอีกรึเปล่าคะ” เสียงหวานลอดผ่านสัญญาณโทรศัพท์
“คงไม่เข้า มีอะไรรึเปล่า”
“คือ มีเอกสารสามฉบับที่ต้องให้นายเซ็นแล้วต้องแฟกซ์ให้บริษัทบีเคฟีดก่อนสี่โมงครึ่งน่ะค่ะ ถ้านายไม่เข้าพิมจะได้เอาไปให้ในไร่”
“งั้นเดี๋ยวฉันแวะเข้าไปก่อนกลับแล้วกัน อีกซักครึ่งชั่วโมง”
เพียงเท่านั้นพิมมาก็แทบกลั้นยิ้มไม่ไหว แค่เธอบอกว่าจะเข้าไปในไร่เขาก็เปลี่ยนใจจะแวะมาเอง หญิงสาวอดคิดเข้าข้างตัวเองไม่ได้ว่าเจ้านายที่เธอหลงรักมานานปีนั้นเป็นห่วงไม่อยากให้เธอต้องเข้าไปเจอแดดร้อนๆ แทนที่จะนั่งรอเขาอยู่ในห้องแอร์เย็นฉ่ำเช่นนี้
อย่าลืมโหวตปกรอบสุดท้ายนะคะ ขอบคุณมากๆค่ะ