ทุกอย่างบนรถกลับเงียบสงบแต่ก็มีเสียงกรนบาๆของยัยอมีเรียอยู่ข้างๆหูผม
ค๊อกก...ฝี่...คร๊อกกก...ฝี่
เห้ออ ยัยอมีเรียพอขึ้นรถมาไม่กี่นาทีนางก็พลอยหลับลงแล้วเอาหัวมาซบลงที่บ่าผม
ผมก็ได้แต่มองข้างทางว่าเมื่อไหร่เวลาอันอึดอัดนี้จะถึงจุดหมายสักที
"ทำไมถึงอยากมาดูหนัง" พี่สะแน็กเริ่มพูด
"อมีเรียอยากมากอีกอย่างวันนี้ก็เป็นวันหยุดด้วยก็เลยอยากพามันมาเที่ยว" ผมตอบกลับพี่สะแน็ก
"หึ หรอ" พี่สะแน็กเริ่มไม่พอใจผม
"ถ้างั้นกูก็อยากเอามึง..." ยังไม่ทันที่พี่สะแน็กจะพูดจบ
"พี่สะแน็ก" ผมเริ่มขึ้นเสียง
"ทียัยนั่นมันอยากมาดูหนังมึงยังพามาเลย" พี่สะแน็กพูดด้วยหางตากพร้อมกลับมองกระจกหลังแล้วจ้องมาที่ผมอย่างโกรธเคือง
"พี่อย่าพาลดิ" ผมเริ่มพูดเบาลงกลัวยัยอมีเรียจะตื่นแล้วมาโวยวายกับผม
"อืออออ" เสียงงัวเงียของอมีเรียเหมือนจะทำให้มันตื่น แต่มันก็ยังคงหลับต่อ
การปะทะของเราจบลง
จนพี่สะแน็กวนหาที่จอดรถจนเจอ
"อมีเรีย อมีเรีย" ผมเรียกอมีเรียให้ตื่น
'"ห๊ะ หืม" อมีเรียสะลึมสะลือตื่นขึ้นมาด้วยท่าทางงัวเงีย จะมาเที่ยวหรือจะมาหลับกันแน่นเนี่ยเห้ออออ
"ถึงแล้ว " ผมพูดกับอมีเรีย
"อื่มม" อมีเรียก็ยังคงงัวเงียอยู่
พวกเราสามคนเลยเดินลงจากรถ
แล้วเดินกันมาถึงข้างบนสุดจนมาถึงโรงหนัง
"แกอยากดูเรื่องไร" ผมถามอมีเรีย
"ถ้ามีของMarvelเราดูหมดอะ เออแกเราปวดฉี่อะไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ" หลังจากนั้นยัยอมีเรียก็รีบเข้าไปในห้องน้ำทันที
"เออๆ"
ผมเลยไปดูที่เวลาเข้าฉายหนังโห 13.00น. รอตั้ง ชัวโมงนึงเลย
"อะ" พี่สะแน็กยื่นตัวหนังมาให้ผม E-14
ผมเลยรับมาอย่างงงๆไปซื้อมาตอนไหนวะ
ผมแอบเห็นพี่สะแน็กยิ้มที่มุมปาดด้วยหรือว่าผมจะคิดไปเอ็ง
จนอมีเรียเดินออกมาจากห้องน้ำพอดี
"อ่าวเลือกที่นั่งกันได้แล้วหรอ "
พี่สะแน็กเลยยื่นตัวหนังอีกใบให้ยัยอมีเรีย แต่ยัยนี้ยังไม่ทันได้ดูก็เหลือบไปเห็นที่ชูตบาสล่อตาล่อใจ
"มึงกูอยากเล่นอะ" อมีเรียไม่พูดเปล่ามันเลยดึงเข็นผมแล้วลากไปตามที่มันต้องการ จนมันได้ปล่อยผมแล้วแลกเงินเพื่อเอาเหรีญชิปไปเล่นตามที่มันต้องการ
จนมันลากผมมาที่ตู้บาสสำเร็จแล้วต่อด้วยไอ้เครื่องเล่นที่มันเอาเหรีญที่โจมตีอีกฝ่ายแล้วเข้าลงช่องสี่เหลี่ยมเล็กๆ ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันชื่ออะไร
ผมก็แอบมองพี่สะแน็กที่ยืนอยู่ข้างๆตลอด
เวลามีคนเดินผ่านหรือมองผมจนบางคนก็พูดออกปากว่าผมน่ารักน่าจีบ พี่แกนี่ยิ่งเดินติดผมเข้าไปใหญ่เลยทีนี้
ผมก็แอบดีใจแล้วก็หวังไว้ลึกๆ...
จนเวลาผ่านมาสักพักถึงเวลาจะเข้าโรงหนังพวกเราเลยเดินเข้าไปให้พนักงานที่อยู่ด้านหน้าตรวจตั๋วจนพวกเราได้เดินเข้าไปในโรงหนัง
มีแสงไฟสลัวๆที่เปิดจากข้างบนจนพวกเรามองไม่เห็นตัวเลขที่นั่ง จนบางคนถึงกับฉายไฟกันเลยทีเดียว
ยัยอมีเรียมองหน้าผม
ผมก็สงสัยว่าทำไมยัยนั่นถึงไม่เดินมาหาผมแล้วพี่สะแน็กก็ได้นั่งฝั่งซ้ายมือที่มียัยอมีเรียนังถัดไปอีกประมาณ3คนได้
ผมที่ยืนงงอยู่พี่สะแน็กเลยจับแขนผมให้นั่งลง
เห้ออเรื่องที่ทะเละกันเมื่อกี้คงไม่จบง่ายๆแน่น
"ทำไมพี่เลือกที่นั่งให้อมีเรียถึงนั่งนั่นตรงนั้นหละครับ" ผมถามพี่สะแน็ก
"มีคนจองแล้ว" พี่สะแน็กตอบเพียงสั้นๆ
จนเพลงเริ่มขึ้นไม่กี่นาทีต่อมาหนังที่ยัยอมีเรียอยากดูก็เริ่มขึ้น ผมก็มองหาคนจองไม่เห็นจะมีวี่เววเลยสักกะคน
แต่ผมมองยัยอมีเรียเท่านั้นเหลาะ เห้อออ หลับสนิดดีนะที่มันไม่กรน ไม่งั้นคนทั้งโีรงคงด่ามันแน่นๆ
ผมได้แต่ส่ายหัวเบาๆแต่กลับมีสายตาที่จับจ้องมาที่ผม
"เป็นห่วงมันมากหรอ ไปนั่งกับมันเลยดิ" พี่สะแน็กพูดด้วยอารมณ์เฉยชา เหมือนจะหงุดหงิดผมอยู่หน่อยๆด้วย
ผมชักสีหน้าไม่พอใจใส่พี่สะแน็ก คนที่ผมเป็นห่วงก็มีแค่พี่คนเดียวอะแหละ
"เออกูขอโทษที่มาเป็นก้างขวางคอพวกมึง" อยู่ๆพี่สะแน็กก็ขอโทษผมจากผู้ชายที่ปากแข็งคนนั้นคนที่เย็นชาใส่ผมทำไมผมรู้สึกว่าเขาคนนี้กลับเริ่มเปลี่ยนไปทีละนิด
หลังจากที่พี่สะแน็กพูดจบก็เดินออกไปจากโรงหนังทันที
ผมเลยเดินตามหลังพี่สะแน็กออกไปพร้อมกับคว้าเข็นของพี่สะแน็กไว้ได้ทัน
"เดี๋ยวดิเป็นไรของพี่เนี่ย" ผมพูดเสียงอ่อน
ถ้าวันนี้ถ้าผมปล่อยคนๆนี้ไป
ผมคงไม่มีโอกาสได้เจอกับผู้ชายคนนี้อีกแน่นๆ
"เออกูชอบมึง" พี่สะแน็กตะโกนออกมา
ตอนนี้หัวใจของผมมันกลับแต้นเร็วและรัวขึ้นเรื่อยๆจนผมที่จะอดอมยิ้มไม่ไหวหัวใจของผมกลับชื้นขึ้นอีกครั้ง
แต่ก็ต้องแก๊กเอาไวก่อน
"พี่ชอบผมจริงๆหรือว่าเห็นว่าผมเป็นของเล่นกันเเน่" ผมมองหน้าพี่สะแน็กแล้วถามออกไปตรงๆผมไม่อยากที่จะคิดเอาเอ็งอีกแล้ว
พี่สะแน็กอมยิ้มก่อนจะโน้มตัวลงมากระซิบข้างๆหูผม
"จะให้กุเอาอีกซัดรอบมัยหละจะได้รู้ว่ากูเอาจริงหรือว่าเล่นกันเน่น"
พี่สะแน็กพูดจบพร้อมกับยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์