สมุดโน้ตเล่มจิ๋วที่จดข้อมูลที่เพิ่งหามาได้สดๆ ร้อนๆ ถูกล้วงออกมาจากกระเป๋าเสื้อนอนแล้วอ่านทวนใจจังหวะที่ตรีศูลหายเข้าไปในห้องเก็บของทั้งผ้าขนหนูผืนเดียว
เริ่มแกะกระดุม อย่าลืมปิดไฟทุกดวง แล้วจุดเทียนเพิ่มความโรแมนติก...
อ่านถึงตรงนี้ตวงขวัญก็รีบผงกศีรษะขึ้นมองหาสวิตช์ไฟในห้อง แล้วเมื่อสายตาปะทะเข้ากับรูปของผู้มีพระคุณซึ่งตั้งอยู่บนโต๊ะทำงานของเขา ก็ยิ่งตอกย้ำให้แม่มดน้อยวัยสิบแปดจำต้องเดินหน้าต่อ
“ปิดไฟทำไม !?”
เขาทำเสียงตะคอกแบบนี้ทีไรเธอใจฝ่อแฟ่บลงทุกทีสิน่า
“ก็อากาศมันร้อน แล้วคุณศูลไม่ยอมเปิดแอร์นี่คะ”
เทียนเล่มใหญ่ที่เตรียมเข้ามาพร้อมไฟแชกถูกจุดขึ้น ก่อนที่ตวงขวัญจะนำไปตั้งไว้ที่โต๊ะทำงานของชายหนุ่มแล้วหันไปฉีกยิ้มที่คิดว่าหวานที่สุดในชีวิตให้เขา
“คุณศูลว่า จุดเทียนแบบนี้ โร...โรแมนติกมั้ยคะ”
“จะเล่นให้ได้เลยใช่มั้ย” เขาถามเสียงต่ำก่อนย่างสามขุมเข้าหา
ดูก็รู้ว่าเสียงสั่นๆ ท่าทางอยากลองดีแบบนี้มันต้องมีเงื่อนงำ และคนอย่างเขาก็ไม่ชอบเงื่อนงำเสียด้วยสิ
“ถอยทำไม ห้ะ ! จะกล้าก็กล้าให้มันตลอดสิตวงขวัญ”
ตรีศูลต้อนแม่ตัวเล็กเข้าใกล้เตียงด้วยท่วงท่าราวกับราชสีห์ต้อนลูกกวางเข้าถ้ำ แต่สาวน้อยก็พยายามต่อสู้กับความอ่อนไหวของตัวเอง ทำใจดีสู้เสือบอกตัวเองว่าถ้าเธอผ่านวันนี้ไปได้ ทุกอย่างก็จะจบ...แค่ครั้งเดียวเท่านั้น
“ตวงไม่เคยกลัวคุณศูล”
“ดี ! ไม่กลัวก็ดี จะได้สนุกไปด้วยกัน”
“อะ...อะไรสนุกคะ !”
“ก็เธอเข้ามาในห้องฉัน อยากเล่นอะไรล่ะฮึ...”
“ตะ...ตวง ตวงอยากเป็นของคุณศูลค่ะ” สาวน้อยละล่ำละลักบอก หากน้ำเสียงนั้นสั่นเครือฟังแทบไม่ได้ศัพท์ และมันก็ทำให้ชายหนุ่มถึงกับอึ้งไปชั่วอึดใจ
“ใครสอนให้เธอมาพูดแบบนี้กับฉัน”
“มะ...ไม่มีค่ะ ตวงพูดของตวงเอง” จะบอกได้อย่างไร ว่านิยายเล่มโปรดสอนมา นางเอกพูดแบบนี้เป๊ะ แล้วก็จบลงด้วยฉากที่เธออ่านไปม้วนตัวเขินไป แก้มร้อนวูบวาบไป
อันที่จริงคนตรงหน้านี้ก็ไม่ต่างจากพระเอกคนนั้นสักเท่าไหร่ สูง ผิวเข้ม หน้าตาคมสันสะดุดตา มีซิกแพก...นี่ถ้าเขาขาวแบบพี่แทนตวงขวัญคงหวั่นไหวแทบละลายได้ง่ายๆ เลยทีเดียว
“ตวงไม่สวย ไม่ถูกใจคุณศูลสักนิดเลยหรือคะ” เมื่อเห็นดวงตาเขาเริ่มลดความดุกระด้าง แถมยังมีแววขบขันเธอก็ยิ่งกล้ามากขึ้นถึงขั้นอาจหาญขยับเข้าหาเขาแล้วโน้มคอชายหนุ่มไว้ด้วยแขนเรียวสวย ได้กลิ่นหอมสะอาดของคนเพิ่งอาบน้ำเสร็จแล้วก็ยิ่งใจหวิวๆ อย่างห้ามไม่ได้
“ไปขุนตัวเองให้น่ากินกว่านี้อีกหน่อย อีกสักสองสามปีค่อยมาคุยกัน” พูดจบเขาก็ผลักร่างบางลงไปฟุบเค้เก้บนเตียงก่อนจะเดินไปที่ประตู แต่ตวงขวัญไม่ยอมให้เป็นเช่นนั้น
เธอต้องใช้ความกล้าอย่างมหาศาลกว่าจะมาถึงขั้นนี้ได้ และถ้าทุกอย่างจบลงแบบนี้ นั่นหมายถึงสิ่งที่เธอทำมาทั้งหมดเท่ากับศูนย์
ร่างบางถลาเข้าไปกอดชายหนุ่มจากทางด้านหลัง อกอิ่มซ่อนรูปในเสื้อนอนลายน่ารักแนบกับแผ่นหลังเปลือยของชายหนุ่มจนเขาได้ยินจังหวะที่ดังตุบๆ อยู่ในนั้น
“ให้โอกาสตวงสักครั้งนะคะ”
กายแกร่งเริ่มเครียดขึงกับปฏิกิริยาแปลกๆ นั้น ใช่ว่าเขาเองจะใจแข็งได้สักเท่าไหร่นัก ไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่าหน้าตาจิ้มลิ้มพริ้มเพรากับรูปร่างอรชรของเจ้าหล่อนสะดุดตาสะดุดใจทุกครั้งที่มอง เพียงแต่กำแพงหนาสองชั้นที่กั้นอยู่ทำให้เขาไม่อาจเห็นแก่ตัวทำตามใจปรารถนาได้
แม้วันนี้ กำแพงชั้นแรกซึ่งก็คือความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเกณิกานั้นขาดสะบั้นลงแล้วตั้งแต่เมื่อเย็น ที่เธอมาของยกเลิกงานแต่งงานทั้งเสียงสะอื้น พร้อมกับบอกให้เขาลืมทุกสิ่งทุกอย่างที่เคยมีระหว่างกันให้หมดสิ้น แม้จะเจ็บ แต่เขาก็ไม่ถึงกับต้องแสดงออกถึงอาการเสียใจร้องไห้ฟูมฟาย ถึงอย่างนั้นก็ยังมีกำแพงชั้นที่สอง คือความเป็นพี่น้อง ที่แม้เขาจะไม่เคยยอมรับเด็กคนนี้ว่าเป็นน้องสาว แต่ในแง่สังคมหรือมุมมองของคนอื่น ตวงขวัญก็คือน้องสาวคนหนึ่งของเขา คือลูกสาวคนเล็กของมารดาเขาอยู่ดี
“ลืมผู้หญิงคนนั้นสักวัน...ได้ไหมคะคุณศูล”
หัวคิ้วของตรีศูลขมวดแทบชนกัน พร้อมกับการตีความหมายเข้าใจไปอีกทาง
เกณิกาคงไม่มีวันทำกับเขาแบบนี้ ไม่ตัดเยื่อใยโดยไม่มีสาเหตุ ถ้าไม่มีอะไรบางอย่างมากระตุ้น และบางทีต้นเหตุมันอาจจะมาจากมารดาเขาก็เป็นได้
ตวงขวัญผวาน้อยๆ เมื่อจู่ๆ เขาก็หันกลับมาเผชิญหน้าด้วยแววตาวาววับน่ากลัว จิตใต้สำนึกสั่งให้ถอย แต่เธอไม่อาจทำเช่นนั้นได้อีกแล้ว สาวน้อยกลืนน้ำลายเหนียวๆ ลงคอ มือบางค่อยๆ แกะกระดุมเม็ดที่สาม...สี่...และห้า ในขณะที่ทอดสายตามองเขาอย่างหวานฉ่ำหยาดเยิ้มและอ้อนวอนเต็มที่
ดวงตาคมเข้มสีสนิมคู่นั้นกราดมองเรือนร่างงามที่ท่อนบนเหลือเพียงบราตัวน้อยห่อหุ้มความงามแรกผลิ จากสายตาของเขา...บ่งบอกว่ายกนี้ ตวงขวัญกำลังวิ่งเข้าเส้นชัยอย่างงดงามอีกครั้ง
“เธอขอฉันเองนะ” เสียงเขาทุ้มลึกแต่ข่มขวัญสาวน้อยได้อยู่หมัด
เธอไม่ตอบ แต่กลืนน้ำลายลงคอพร้อมกับขนอ่อนลุกซู่ตลอดร่างเมื่อสบสายตาคู่นั้น
“จะมาเรียกร้องอะไรทีหลังไม่ได้”
“ตวง...จะไม่เรียกร้องอะไรทั้งนั้น” ทุกอย่างขอให้เป็นหน้าที่และธุระของคุณแม่นับจากนี้ไป...
ร่างงามถูกกระชากติดมือกลับมาที่เตียงอย่างไม่ปรานีปราศรัยนัก คนหนึ่งมีผ้าขนหนูพันกายผืนเดียว อีกคนมือกางเกงนอนสีหวานเกาะเอวบางคอดเอาไว้เมื่อทั้งสองมาล้มตัวลงบนเตียง
“ถอดเสื้อใน”
“คะ ?”
“ถอด !”
สาวน้อยหวาดผวา แววตาสั่นระริก
“หนึ่ง !”
เขายังไม่ทันนับสอง บราตัวน้อยก็ดีดผึงออกจากกันเป็นการคืนอิสระให้ปทุมงาม ก่อนที่ตวงขวัญจะถอดมันออกมา จากวินาทีนี้เองที่เธอไม่อาจหาญสบตาเขาได้อีก อกอิ่มเกลี้ยงเกลาที่แทบไม่เคยต้องแดดต้องลม ไม่เคยต้องมือชายให้มัวหมองเปิดเปลือยต่อสายตาคมกล้าของเขา
ตรีศูลหายใจติดขัด แต่ประสบการณ์ที่โชกโชนทำให้เขายังเก็บอารมณ์ได้อย่างดีเยี่ยม
คอมเม้นต์เยอะ โหวตเยอะ ก็ได้อ่านกันเยอะน๊าา
ขอบคุณที่ติดตามนะค๊ะ เห็นยอดวิวแล้วชื่นใจที่สุดเลยยยยย
เอาใจช่วยหนูตวงด้วยน้าาา เฮียใจร้ายนะจะบอกให้