นทีบอกก่อนจะเดินออกไปทันที แต่ไม่วายหันกลับมามองกันติชาอีกครั้งด้วยความเป็นห่วง สายตาของนทีที่มองกันติชาอยู่ในสายตาของมาร์คเช่นเดียวกัน

รสรินบอกพร้อมกับตักอาหารไปวางบนจานของชายหนุ่ม กันติชาหันไปมองทั้งสองคนด้วยความเซ็ง

ถ้าหากว่าป้อนชายหนุ่มได้ผู้หญิงคนนี้คงทำไปแล้ว

กันติชาหันไปบอกกับชายหนุ่มแล้วลุกขึ้นยืนทันที เธอไม่อยากอยู่เป็นก้างขวางคอของทั้งสองคนหรอก ดูจากสายตาแล้วผู้หญิงคนนี้ก็คงอยากจะไล่เธอไปแทบแย่แล้ว

ชายหนุ่มรีบบอกแล้วลุกขึ้นยืนทันที

นี่เขาจะมายุ่งวุ่นวายกับเธอทำไม่ น่าจะเอาเวลาไปสนใจผู้หญิงของเข้าจะดีกว่า

มาร์คเอื้อมมือไปคว้าแขนของหญิงสาว ก่อนที่จะพาเดินออกไปโดยไม่สนใจรสรินที่ตะลึงมองการกระทำของมาร์คอยู่

ชายหนุ่มพาหญิงสาวเดินเข้าไปในลิฟต์โดยไม่สนใจคนร่างบางที่พยายามจะแกะมือของชายหนุ่มออกไปให้พ้นจากการเกาะกุม

ชายหนุ่มยอมปล่อยมือออกจากหญิงสาว ก่อนจะพูดขึ้นเสียงเข้ม

ชายหนุ่มรีบปฏิเสธทันที่ จริงอยู่ที่เมื่อก่อนรสรินอาจเคยขึ้นชื่อว่าเป็นผู้หญิงของเขา แต่ว่าตอนนี้เธอไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับเขาอีกต่อไปแล้ว

เพราะเขาค้นพบว่าเธอช่างเป็นผู้หญิงที่น่ารำคาญพูดไม่รู้เรื่องแถมยังตามติดเขาเป็นเงาตามตัวเสียอีก

กันติชารีบพูด ก็เห็นๆอยู่ว่าออดอ้อนออเซาะกันซะขนาดนั้นยังจะมีหน้ามาปฏิเสธอีก จ้างให้ใครเชื่อก็ยังไม่มีคนเชื่อเลย

ชายหนุ่มถามพร้อมกับเดินเข้าไปใกล้หญิงสาวแล้วยื่นใบหน้าเข้าไปหาจนกันติชาต้องถอยหนีด้วยความกลัว

หญิงสาวบอกชายหนุ่มเสียงสั่น เมื่อใบหน้าของเขาอยู่ใกล้เธอจนแทบได้ยินลมหายใจของชายหนุ่ม

ชายหนุ่มบอกพร้อมกับยื่นใบหน้าเข้าไปใกล้เรื่อยๆจนหญิงสาวต้องเบี่ยงหน้าหนี พร้อมกับใช้มือบางดันหน้าอกของชายหนุ่มให้ออกห่าง

ฟอด!

เมื่อชายหนุ่มหอมแก้มเข้าฟอดใหญ่ มือบางยกขึ้นถูไถที่แก้มไปมาแรงๆราวกับว่าจะลบรอยที่ชายหนุ่มสัมผัสเอาไว้ออกไป

ชายหนุ่มเห็นท่าทางของหญิงสาวแล้วก็หัวเราะออกมาด้วยความชอบใจ

หญิงสาวว่าเสียงห้วนพร้อมกับมองค้อนชายหนุ่มด้วยความหมั่นไส้

พอลิฟต์เปิดออกก็รีบเดินหนีชายหนุ่มออกไปด้วยความรวดเร็ว

ชายหนุ่มรีบเดินไปจับแขนของหญิงสาวให้เดินตามมาอีกทางหนึ่ง

🛣️🚗

หญิงสาวเอ่ยบอกพร้อมกับจ้องมองใบหน้า ของชายหนุ่มอย่างท้าทาย

ชายหนุ่มเอ่ยบอกเสียงดังลั่นรถด้วยความโมโห คิดเหรอเขาจะยอมให้เมียตัวเองไปมีคนอื่น

บ้านพรพิพัฒน์

หญิงสาวเอ่ยจบก็รีบเปิดประตูลงจากรถ แล้วเดินเข้าบ้านไปทันที ชายหนุ่มมองจนหญิงสาวเข้าบ้านเรียบร้อยแล้ว จึงค่อยขับรถออกไป

🕒🕓🕔🕕🕖

หนึ่งอาทิตย์ผ่านไป

หญิงสาวได้รับจดหมายตอบกลับของจากกองประกวดว่าผ่านเข้ารอบเจ็ดคนสุดท้ายกันติชารู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก

เพราะไม่คิดว่าตนเองจะผ่านมาได้ถึงขนาดนี้และต่อให้ท้ายที่สุดเธอจะไม่ได้รางวัลชนะเลิศก็จะไม่เสียใจเลยเพราะถือว่าเธอทำดีที่สุดแล้ว

ปราชญ์บอกพร้อมกับใช้มือจับศีรษะของกันติชาโยกไปมาด้วยความเอ็นดูปนหมั่นใส้

เสียงพิธีกรเอ่ยขึ้น แขกผู้มาในงาน ก็ต่างพากันตบมือจนเสียงดังลั่น

กันติชาจึงเดินขึ้นไปบนเวทีแล้วเจอเข้ากับเจนจิราโดยที่ไม่คาดคิดว่าเพื่อนของเธอจะมาประกวดเหมือนกัน

เจนจิราเห็นกันติชาเดินขึ้นมาบนเวทีก็รู้ทันทีว่าเธอไม่มีทางชนะแน่ เพราะตั้งแต่เป็นเพื่อนกันมากันติชาจะเอาชนะเธอได้ทุกครั้ง เวลาที่มีการแข่งขันอะไรไม่เคยมีสักครั้งเดียวที่เธอจะชนะกันติชาเมื่อคิดได้เช่นนั้นก็ทำเอาใจแป้วไปเหมือนกัน

กันติชาเล่าด้วยน้ำเสียงร่าเริง ผิดกับอีกคนที่ทำหน้าไม่สู้ดีนัก

กันติชาเอ่ยถามเพื่อนด้วยความเป็นห่วง กลัวว่าจะล้มพับลงไปกองกับพื้น

พิธีกรเอ่ยขึ้นจึงทำให้เจนจิรากับกันติชาหยุดการสนทนากันไปโดยอัตโนมัติและหันไปมองทางหน้าเวทีแทน

คนที่ผ่านการประกวดเอ่ยแนะนำตัวครบห้าคนก็ยื่นไมโครโฟนมาให้เจนจิราเป็นคนถัดไป

เจนจิราเอ่ยแนะตัวจบ ก็ยื่นไมโครโฟนให้กับกันติชา

เมื่อกันติชาเอ่ยแนะนำตัวเสร็จก็ยื่นไมโครโฟนคืนกลับไปให้กับพิธีกร กันติชามองไปหน้าเวทีก็เห็นนทีกับมินตรากำลังนั่งใกล้ๆกับแม่ของเธอ

ส่วนคุณพ่อของเธอก็นั่งเป็นกรรมการอยู่หน้าสุดของเวทีกรรมการนั้นจะมีทั้งหมดเจ็ดคน กันติชาเห็นมาร์คนั่งเก๊กท่าโชว์หล่ออยู่ที่โต๊ะกรรมการก็รู้สึกหมั่นไส้ขึ้นมา อย่างบอกไม่ถูก