INTRO
น้ำใสเดินเข้ามาในซอยหมูบ้านย่านสลัมชุมชนแอร์อัด ที่เต็มไปด้วยบ้านหลังเล็กๆ และสภาพทรุดโทรม น้ำใสเดินมาเรื่อยๆ จนมาถึงบ้านตัวเอง เธอเปิดประตูเข้าไปในบ้านก่อนจะเดินตรงเข้าไปในห้องนอนของตัวเองพบพิรุณผู้เป็นแม่ยืนค้นอะไรบางอย่างอยู่ที่ชั้นเก็บของของเธอ
“แม่ทำอะไรจ๊ะ!?” น้ำใสถามขึ้นด้วยความตกใจเมื่อเห็นสภาพห้องตัวเองโดนรื้อข้าวของกระจัดกระจายเต็มพื้นไปหมด
“แกเอาเงินไปซ้อนไว้ที่ไหน เอามาให้ฉันเดี๋ยวนี้นะ!” พิรุณหันไปตวาดลูกสาวอย่างไม่สนใจนักก่อนจะก้มหน้าก้มตารื้อของต่อ
“แม่หยุดเถอะอย่าทำแบบนี้เลยนะแม่น้ำขอ” น้ำใสรีบเข้าไปห้ามปรามแม่ก่อนจะดันแม่ให้ถอยห่างจากชั้นเก็บของ
“หน็อยแน่ะ! นี่แกกล้าขัดฉันเหรอเงินแกอยู่ไหนเอามาให้ฉันเดี๋ยวนี้นะ ฉันจะไปต่อทุนเอามา!!!” พิรุณตวาดน้ำใสก่อนจะกระชากกระเป๋าสะพายของเธอไป แม่เธอคิดการพนันหนักเงินที่มีก็มักจะเอาไปเล่นการพนันจนหมด
“น้ำไม่มีหรอกแม่ ปล่อยกระเป๋าน้ำเถอะนะน้ำขอ...” น้ำใสยกมือไหว้ขอร้องผู้เป็นแม่อย่างอ้อนวอน
“ไม่มีได้ยังไง!!! แกทำงานงกๆ เงินมันไปไหนหมดห๊ะ! เอากระเป๋ามานี่นะ” พิรุณยังคงพยายามแย่งกระเป๋าสะพายของน้ำใส
เพียะ!
“อ่ะ!” พิรุณฟาดฝ่ามือลงบนแก้มเนียนอย่างแรงหนึ่งครั้งทำให้ใบหน้าสวยหันไปตามแรงตบ พิรุณใช้จังหวะที่น้ำใสเผลอกระชากกระเป๋าไปพร้อมกับค้นหาเงินในกระเป๋า น้ำใสทรุดนั่งลงกับพื้นพร้อมกับยกมือขึ้นมากุมใบหน้าไว้ น้ำตาไหลออกมาอาบแก้มอย่างกลั้นไม่ได้
“นี่ไงเงิน นังลูกทรพีแกกล้าโกหกฉันเหรอ ไหนแกบอกไม่มีเงินไง!!!” พิรุณหยิบเงินจำนวนหนึ่งออกมาจากกระเป๋าสตางค์ของน้ำใสก่อนจะปากระเป๋าใส่น้ำใสและยืนนับเงินในมือ
“แม่...น้ำขอละ ฮึกๆ” น้ำใสคลานเข้าไปกอดขาพิรุณแน่นด้วยคราบน้ำตาก่อนจะพูดอ้อนวอนว่า “เงินนี้น้ำจะเก็บไว้จ่ายค่าเทอมเรียนต่อไหนจะค่าใช้จ่ายในบ้าน ค่าเช่าบ้านเดือนนี้อีก ฮึกๆ”
“แกก็ไปทำงานหาเงินสิ!!! ฉันขอเอาเงินนี้ไปเล่นต่อทุนก่อน ได้เดี๋ยวคือน่าปล่อยฉัน!”
“แม่ขอเงินน้ำคืนเถอะ ฮึกๆ น้ำขอนะแม่นะ”
“อีลูกคนนี้หนิน่ารำคาญจริงๆ ปล่อยกู!”
“อ่ะ!” พิรุณสะบัดขาอย่างแรงจนทำให้น้ำใสหลุดมือจากขาของพิรุณ ก่อนที่พิรุณจะเดินออกไปอย่างอารมณ์ดีโดยไม่ได้สนใจเสียงร้องของน้ำในเลยแม้แต่น้อย น้ำใสมองสภาพห้องรอบๆ ก่อนจะค่อยๆ พยุงตัวเองลุกขึ้นและเก็บกวาดห้องให้เรียบร้อย
21:00 น.
น้ำใสที่กำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ในห้องอย่างตั้งใจ จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงเอะอะโวยวายจากด้านนอกเธอจึงรีบออกไปดูทันที
“พี่สินไปเมามาที่ไหนอีกละเนี่ย วันๆ ไม่รู้จักทำงานแดกแต่เหล้าอยู่นั่นแหละ น่าเบื่อทั้งลูกทั้งผัว!” พิรุณบ่นสินผู้เป็นสามีเมื่อสินกลับบ้านมาในสภาพเมามายไม่ได้สติ
“มึงหุบปากไปเลยอีพิรุณ ถ้ามึงไม่หุบปากกูจะเอาตีนยัดปากมึง” สินชี้หน้าพิรุณด้วยสีหน้าท่าทางที่จริงจัง
“อ่าวไอ้นี่ จะเอาให้ได้เลยใช่ไหม!”
“พ่อแม่...เกิดอะไรขึ้นจ๊ะ?” น้ำใสที่เพิ่งวิ่งออกมาพบผู้เป็นพ่อกำลังจะเดินเข้าบ้านด้วยสภาพโซเซจึงรีบวิ่งไปประคอง “พ่อเมามาอีกแล้วเหรอ?”
“ให้พ่อกินเถอะลูกเดี๋ยวพ่อก็ตายแล้ว”
“พูดแบบนี้อีกแล้วนะพ่อ เข้าบ้านนอนกันน้ำใสพาไป” พูดจบน้ำใสก็จัดการประคองสินเข้าไปในห้องก่อนจะรีบวิ่งไปเอาผ้าเช็ดตัวผืนเล็กมาเช็ดตัวให้ผู้เป็นพ่อ
“...นี่ลูก” สินยื่นเงินจำนวนหนึ่งที่เพิ่งจกออกมาตากกระเป๋ายื่นให้น้ำใส
“อะไรจ๊ะ?” น้ำใสทำหน้ามึนงงเมื่อเห็นพ่อยื่นเงินจำนวนหนึ่งให้
“เก็บไว้ใช้ อย่าให้แม่เอ็งรู้พ่อมีให้แค่นี้แหละ” พูดจบสินก็นอนหลับทันที น้ำใสรับเงินใส่ไว้ในกระเป๋าก่อนจะเช็ดตัวพ่อต่อ เธอถอนหายใจให้กับชีวิตแต่เธอไม่เคยท้อเลยสักครั้งกับการต้องดิ้นรนต่อสู้...
ทีโอ
ณ ห้องประชุมที่โรงแรมหรู
“ผมไม่โอเค เราไม่ได้ตกลงกันแบบนี้ตั้งแต่แรกทางเราไม่มีทางยกหุ้นให้คุณเกินที่ตกลงกันไว้แน่นอน!” ชายวัยกลางคนท่านหนึ่งเอ่ยแย้งขึ้นด้วยความไม่พอใจกับข้อเสนอของมาเฟียหนุ่มที่นั่งใช้เท้าพาดอยู่บนโต๊ะอย่างสบายใจโดยมีการ์ดยืมคุมอยู่สี่คนไม่ห่าง
“ชู่วววว...จุ๊จุ๊ อย่าเสียงดังไปผมไม่ชอบพูดอะไรซ้ำๆ อย่าทำให้อะไรมันยุ่งยากดีกว่า” ทีโอมาเฟียหนุ่มบอกเสียงเรียบแต่แฝงไปด้วยความดุดัน
“คุณกำลังจะเอาเปรียบบริษัทเรานะ”
“หึ... พูดแบบนั้นมันก็ไม่ถูกนะครับ เรียกว่าสมบัติผลัดกันดูแลดีกว่า การที่ผมจะขึ้นมาเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ในบริษัทของคุณผมก็มีค่าตอบแทนให้อย่างเหมาะสม เพียงแต่ผมอยากมีสิทธิ์ในการตัดสินใจทุกอย่างในบริษัทนี้”
“นี่คุณกำลังจะขโมยบริษัทของผมไปหน้าด้านๆ แบบนี้เหรอ!?”
“หึ ทุกอย่างผลประโยชน์ต่างตอบแทนไม่มีใครเอาเปรียบใคร คนอย่างผมอยากได้อะไรก็ต้องได้ก่อนจะพูดอะไรดูอะไรในแฟ้มเอกสารนี้ซะ จะได้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น” ทีโอหันไปส่งสัญญาณให้ลูกน้อง ก่อนที่ลูกน้องจะเดินเอาแฟ้มเอกสารไปวางตรงหน้าชายวัยกลางคน
“นะ นี่มัน...” ชายวัยกลางคนเบิกตาโตด้วยความตกใจเมื่อได้อ่านเอกสารในแฟ้มแล้ว
“จะให้ผมแฉความเน่าเฟะของคุณทั้งหมดแล้วล้มละลายหรือจะไปดีๆ เลือกเอา”
10 นาทีต่อมา
“ดีใจด้วยครับนาย” คริส กล่าวคำยินดีกับทีโอหลังจากที่เดินออกมาจากห้องประชุม
“หึ ขอบใจ” ทีโอหัวเราะในลำคอใบหน้าของเขาดูมีแผนการอะไรในใจตลอดเวลาจนคาดเดาไม่ออก
“นายจะไปไหนต่อครับ”
“ไปโรงแรมกูจะไปนั่งดื่มให้หายเครียดสักหน่อย” พูดจบทีโอก็เดินทางมายังโรงแรมหรูของตัวเองที่อยู่ใจกลางเมืองเขาเดินขึ้นไปบนสกายเลาจ์เพื่อนั่งดื่มที่บาร์เพียงลำพัง
“มาคนเดียวเหรอคะ ให้เจสนั่งเป็นเพื่อนไหมคะ?” สาวคนหนึ่งที่แต่ตัวยั่วยวนเดินเข้ามาทักทายเขาทำให้สายตาคมหันไปมองตามเสียงด้วยสายตาที่เย็นชา
“เชิญ” ทีโอตอบสั้นๆ ก่อนจะยกแก้วเหล้าขึ้นมาดื่ม
“คุณทีโอนั่งคนเดียวแบบนี้ไม่เหงาแน่เหรอคะ?” เจสเลื่อนมือไปจับมือหนาหลวมๆ เพื่อเป็นการลองเชิง
“...” ทีโอตวัดหางตามองเพียงนิดแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรกลับไป
“เราไปต่อคืนนี้กันดีไหมคะ? เจสรับรองว่าคุณจะลืมไปลงแน่นอน” เจสส่งสายตายั่วยวนไปให้อีกฝ่ายแต่อีกฝ่ายกลับนิ่งเฉยจนเธอรู้สึกประหม่า
“หึ พวกผู้หญิงแบบเธอฉันเจอมาเยอะแต่ฉันไม่เคยคิดจะขึ้นเตียงด้วยเลยสักครั้ง เพราะอะไรรู้ไหม เพราะฉันไม่ใช่ผู้ชายที่คลำไม่มีหางก็เอาไปทั่ว ขอตัว...” ไม่รอให้อีกฝ่ายได้พูดอะไรมากกว่านั้นร่างสูงก็ลุกขึ้นยืนและเดินออกมาอย่างไม่สนใจในทันที
**************
ตอนแรกมาแล้วววว ชีวิตต่างกันมากแม่ราวฟ้ากับเหว แต่อิพ่อมีความหวงตัวอยู่เด้อ ฝากคอมเม้น กดไลค์ด้วยนะคะจะได้มีกำลังใจมาลงตอนต่อไปเร็วๆ อิอิ💕🙏🏻