เมื่อถึงวันนัดและเวลานัด เวกัสก็มารับลินนาตามสัญญา
พร้อมกับเอกสารเซ็นต์รับรองการจ้างน้องสาวของเธอในวันจันทร์ที่จะถึง
"ฝากปิดร้านด้วยนะ เผื่อพี่กลับไม่ทัน"
ลินนาสั่งเด็กในร้านที่เอาแต่จ้องหน้าเวกัสแล้วยิ้มให้
"แฟนพี่หงส์หล่อจัง"
เด็กสาวว่า พลางบิดตัวไปมาด้วยความเขินอาย
ลินนากลอกตามองบน ก่อนจะเดินนำเวกัสออกไปด้านนอกร้าน
เรื่องบางเรื่อง ต่อให้เป็นความจริง
แต่ถ้าไม่จำเป็นก็คงไม่ต้องมานั่งอธิบายให้ลูกจ้างฟังหรอกมั้ง
ยังไงเธอก็ไม่น่าจะได้ติดต่อกับเขาอีก หากจบงานนี้
รถเบนซ์สปอร์ตสีดำเคลื่อนตัวออกจากร้านดอกไม้ในเวลาบ่ายโมงตรง
จุดหมายปลายทางคือโรงงานผลิตเครื่องประดับขนาดใหญ่ที่เวกัสเป็นเจ้าของเอง
ตอนนี้คาดว่าบุคคลที่เขานัดหมายไว้คงมารอถึงที่แล้ว
ระหว่างขับรถ เวกัสแอบเหลือบมองหน้าเธอเป็นระยะๆ
ลินนาไม่รู้ตัวเลยว่าถูกมอง เพราะเธอง่วงนอนหนักมาก
หนักซะจนเธอนั่งสัปหงกมาตลอดทาง
กระทั่งเมื่อรถคันหรูจอดติดไฟแดง
เวกัสหันมามองเธอเต็มๆตาก็พบว่าลินนาหลับไปแล้วจริงๆ
เขายิ้มเล็กน้อย พร้อมเอื้อมมือมาทางฝั่งที่เธอนั่งเพื่อจะปรับระดับเบาะให้เธอได้นอนสบายๆ
ก่อนที่เขาจะหยิบเสื้อสูทของตัวเองมาคลุมร่างเล็กของเธอเอาไว้
"คุณ..คุณ"
เมื่อถึงที่หมายเขาก็ปลุกให้เธอตื่น
ลินนาไม่ทันสังเกตุด้วยซ้ำว่ามีเสื้อสูทราคาแพงคลุมอยู่บนตัวของเธอ
เธอแค่ลืมตาแล้วมองไปรอบๆราวกับดูว่าที่นี่คือที่ไหนพร้อมกับยื่นเสื้อสูทคืนให้เขา
"ถึงแล้ว..โรงงานของตระกูลผมเอง"
เวกัสรีบบอกเมื่อเห็นสายตาที่เต็มไปด้วยคำถาม
เขาสวมเสื้อสูทที่เธอเพิ่งคืนให้แบบไม่เร่งรีบนัก
"โรงงานอะไร? ผลิตยาเสพติดเหรอ?"
อยู่ๆคนง่วงก็ตาลุก
หรือว่าเธอหลงเข้ามาในถิ่นธุรกิจมืดของเขาจิงๆ
"ลงไปเถอะ ไม่มีใครทำร้ายคุณหรอก"
ลินนาสูดลมหายใจเข้าลึกๆ
เธอไม่ได้กลัวใครจะมาทำร้าย
แค่กลัวว่า ถ้าเธอลงไปเดินกับเขาแล้วมีตำรวจเข้ามาเหมือนในละคร
เธอจะรอดจากการเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดหรือเปล่า?
เวกัสลงรถก่อน จากนั้นก็เดินอ้อมมาทางฝั่งเธอเพื่อเปิดประตูให้
เพราะท่าทางยัยโหดคงลีลาเยอะ ไม่ยอมลงจากรถของเขาง่ายๆแน่
"เร็วๆดิ..เสียเวลาเนี่ย"
เขาพยักหน้าพร้อมดึงแขนเธอลงมาจากรถจนได้
เมื่อทั้งคู่เดินเข้าไปในเขตโรงงาน
เหล่าบอดี้การ์ดก็ก้มศรีษะให้ตลอดทาง
นาทีนี้ลินนานึกไปถึงซีรี่ย์ที่นางเอกเผลอเดินเข้าไปในสถานที่อันตราย
ให้ตายเถอะ! เธอคิดถูกใช่ไหมที่ตกลงจะทำงานให้เขาน่ะ
ทางเดินยาวทะลุไปยังด้านหลังของโรงงานที่มีห้องทำงานส่วนตัวแยกออกมาจากตัวโรงงานอีกที
"ถึงแล้ว พร้อมรึยัง?"
เวกัสหันมาถาม
ก็ดีที่เขาถาม แต่มาถามตอนนี้เพื่อ???
"ถ้าบอกว่าไม่พร้อมจะพากลับไหมล่ะ?"
คนตัวเล็กยอกย้อน
ลินนาอยากรู้จริงๆว่าที่นี่คือที่ไหน
อยู่ส่วนไหนของกรุงเทพกันแน่
ป้ายก็ไม่มีบอก
แถมนอกจากพวกบอดี้การ์ดชุดดำระหว่างทางราวยี่สิบคน
ลินนาก็ยังไม่เห็นใครนอกเหนือไปจากนั้นเลย
"ไม่ทันแล้ว..มานี่มา"
พูดจบเวกัสก็ฉวยโอกาสจับมือเล็กของเธอมาซุกไว้ในกระเป๋าเสื้อสูทตัวเดิม
ก่อนจะเดินนำเพื่อให้เธอเดินตามและเข้าไปในอาคารที่เป็นห้องทำงานนั่น
ประตูห้องที่ทำจากกระจกนิรภัยถูกเปิดออกโดยการ์ดชุดดำที่ยืนเฝ้าหน้าห้อง
ลินนาไม่เห็นว่าการ์ดทั้งสองคนนั้นมองเธอแบบไหน
เพราะคนที่นี่ใส่แว่นตาสีดำกันทุกคนเลยก็ว่าได้
ไม่รู้จะทำตัวลึกลับกันไปถึงไหน
"มาแล้วเหรอ ไอ้ตัวแสบ?"
เสียงทุ้มจากชายวัยกลางคนที่มีผิวขาว หน้าตาละม้ายคล้ายคลึงกับเวกัสเอ่ยทักทายคนทั้งคู่
ข้างกายของเขามีผู้หญิงวัยกลางคนหน้าตาสะสวยนั่งอยู่ด้วย
"ครับป๊า..ผมพามาตามสัญญา"
เวกัสยังจับมือของเธอที่อยู่ในกระเป๋าเสื้อของเขาไม่ยอมปล่อย
แม้ว่าลินนาพยายามจะดึงมันออกก็ตาม
"สัญญาอะไรของนาย?"
ลินนาเขย่งตัวขึ้นเพื่อกระซิบถามเขา
"ใช้ได้...มิน่าล่ะ แกถึงไม่ยอมไปดูตัวสักที"
คุณกัลยกรมองลินนาตั้งแต่หัวจรดเท้า
คนตัวเล็กข้างๆลูกชายคนโตของท่านหน้าตาสะสวย
ดูๆแล้วคงสวยแบบไม่ได้พึ่งมีดหมอเหมือนสาวๆสมัยนี้
"ชื่ออะไรล่ะหนู?"
ท่านวัฒนาถามลินนาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
ลินนาหันไปสบตากับเวกัส
เขาจูงมือเธอให้นั่งลงตรงข้ามกับพ่อและแม่
ก่อนจะพยักหน้าเชิงอนุญาตให้เธอพูดได้
"ลินนาค่ะ เรียกสั้นๆว่าหงส์ก็ได้ค่ะ"
ลินนาตอบพร้อมรอยยิ้ม
อย่างน้อยผู้ใหญ่ทั้งสองท่านก็ไม่ได้มีทีท่าคุกคามเธอ
ตรงกันข้าม พวกท่านดูใจดีเสียด้วยซ้ำ
"หงส์...อย่าบอกนะว่าชื่อนี้ได้มาเพราะพ่อชอบทีมฟุตบอลน่ะ"
ท่านวัฒนาเดา
"เปล่าหรอกค่ะ ไม่เกี่ยวกับฟุตบอลเลย"
ลินนาเริ่มผ่อนคลายเล็กน้อย
"จริงเหรอ? แล้วมีที่มามั้ยล่ะ?"
ท่านวัฒนายังชวนคุยต่อ โดยมีสายตาของคุณกัลยกรผู้เป็นภรรยาลอบสังเกตุท่าทางของเธอ
"หงส์มีน้องสาวอีกคนค่ะ ชื่อหยก หงส์กับหยก มาจากชื่อนกที่ตากับยายเคยเลี้ยงน่ะค่ะ"
ท่านวัฒนาหันไปมองหน้าภรรยาพลางพยักหน้าน้อยๆเหมือนพึงพอใจ
"แล้ว..หนูหงส์รู้จักตาเวได้ยังไง?"
เวกัสชักใจเสีย
เขาก็ลืม ว่าการพาเธอมาที่นี่แปลว่าพามาในสถานะที่สำคัญแค่ไหน
แต่..เขาไม่ทันได้เตี๊ยมอะไรกับลินนาเลยนี่สิ
"ไม่ได้สนิทกันหรอกค่ะ เจอกันครั้งแรกหนูก็..ตบหน้าเค้าเพราะเข้าใจผิด"
คนตอบทำหน้าสลดเพราะสำนึกผิดจริง
ลินนาก้มหน้าน้อยๆ ไม่กล้ามองสบตาผู้ใหญ่ทั้งสอง
"หงส์พูดเล่นน่ะครับม๊า สงสัยตื่นเต้น"
เวกัสรีบแก้ตัว
เขาอุตส่าห์พาเธอมาที่นี่แล้ว จะให้พลาดไม่ได้เด็ดขาด
ลินนาเหลือบมองหน้าเขาก็เจอคนตัวโตส่งสายตาดุๆมาให้
ในเมื่อเธอพูดความจริง หมอนี่จะมาว่าอะไรเธอได้?
"น่าสนใจนะคุณ"
คุณกัลยกรแอบกระซิบสามี
ท่านชักถูกใจผู้หญิงคนนี้เข้าแล้ว
ที่เคยเห็นเป็นข่าวกับลูกชาย ก็มีแต่สาวๆจำพวกที่ต้องการชื่อเสียงเงินทองและหน้าตาทางสังคมเท่านั้น
ทว่า เธอคนนี้เหมือนจะตรงกันข้าม
แล้วท่านจะไม่สนใจได้อย่างไร?
"ป๊ากับม๊าอยากดื่มอะไรไหมครับ? เดี๋ยวผมพาหงส์ไปดูคาเฟ่เอง"
เวกัสหาทางเอาตัวรอด
"คาเฟ่อะไร?"
ลินนาถามแบบงงๆ
"โรงอาหารของโรงงานเราน่ะ พาหนูหงส์ไปดูเถอะลูก"
ท่านวัฒนาโบกมือให้เวกัสพาลินนาไปยังคาเฟ่ที่ว่า
ก่อนที่ท่านและภรรยาจะอดหัวเราะไม่ได้
เวกัสรีบจูงมือเธอออกมาจากห้อง
พอพ้นเขตอาคารนั้นได้เขาก็ถอนหายใจพรืดด้วยความโล่งอก
"ปล่อยมือ"
เสียงคนตัวเล็กสัั่งช่วยเรียกสติของเขาได้ทันที
"สรุปมันคืองานอะไรกันแน่ที่ให้มาด้วยเนี่ย?"
ลินนาไม่เห็นเลยว่าเขาจะคุยเรื่องงาน
หรือว่าคุยแล้วเธอแปลไม่ออก
"ไปดูคาเฟ่กันดีกว่า มีดอกไม้สวยๆเยอะเลย"
เวกัสเปลี่ยนเรื่องคุย
เขาต้องการเบนความสนใจของเธอจากเรื่องงานอะไรนั่นก่อน
"ดอกอะไร? แถวนี้ไม่เห็นมีเลย"
ระหว่างทางที่เดินมาก็มีแต่จำพวกไม้ประดับเท่านั้นเอง
ไม้ดอกไม่เห็นจะมี
"ตามมา"
เขาบอกแล้วก้าวขายาวๆเดินนำหน้าเธอไป
การเบี่ยงเบนความสนใจของผู้หญิงด้วยเรื่องของดอกไม้
มันอาจจะใช้ไม่ได้กับผู้หญิงคนอื่น
แต่ลินนาเป็นเจ้าของร้านรับจัดดอกไม้ นั่นแปลว่าเธอคงชอบดอกไม้แน่ๆ
"ขอตัดไปโชว์ที่ร้านได้ไหม?"
ลินนารีบเร่งฝีเท้าเดินตามเขาจนทัน
แค่นึกถึงดอกไม้สวยๆ
เธอก็ลืมเรื่องอื่นๆไปเกือบหมดสิ้น
พอเธอเดินตามมาทัน เขาก็หันมามองหน้าเธอที่ดูตื่นเต้นนิดๆ
เวกัสเผลอยิ้มโดยไม่รู้ตัว...
................................
สองตอนไปเล้ยยยยยย
พรุ่งนี้ค่อยมาต่อนะฮะ
เรื่อยๆ ไม่เร่งรีบเนาะ
ยังไงก็ไม่น่าจะมีมาม่านะ