นานจน(เกือบ)ลืมเธอ
ep.62 สารภาพความจริง
ในช่วงบ่ายเมื่อกลับจากร้านทอง อธิปถือวิสาสะจูงมือจัสมินพาเดินเข้าบ้านคุยกันกระหนุงกระหนิง
มิ้วที่มองเห็นการกระทำนั้นของอธิปแอบยิ้มดีใจเพราะมีหลายครั้งที่ได้ยินอากู๋กับอาอี๋ได้พูดกับจัสมินถึงเรื่องอนาคตระหว่างอธิปกับสาวลูกครึ่งอยู่บ่อยครั้ง จนคิดว่าทั้งสองคนอาจจะเป็นแฟนกัน มาวันนี้เหมือนที่มิ้วคิดไว้จะเป็นจริง เธอมองกิริยาน่ารักของคู่นี้แล้วสะดุดใจคิด
จะว่าไปพี่อธิปกับพี่มะลิก็ดูเหมาะสมกันดีนะ
มิ้วบอกทั้งสองคนว่าเฮงกับวันยังไม่กลับจากงานสมาคม จัสมินพยักหน้ารับรู้แล้วเหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้จึงรีบเดินตรงเข้าไปในครัวทันที ชายหนุ่มเดินตามไปเห็นเธอกำลังตักบางอย่างจากหม้อใส่ในแก้ว
"มะลิทำอะไรครับ?"
"น้ำสมุนไพรค่ะ เฮียดื่มไหมคะ?"
"นี่ดื่มยาจีนของม๊าด้วยเหรอ? ไม่ต้องกินแล้วนะ ขมจะตาย"
"อะไรอาตี๋ อยู่ๆ ก็มาสั่งให้น้องหยุดกินยาจีนสูตรเด็ดของม๊า"
เสียงวันลอยตามมาจากข้างหลัง สองหนุ่มสาวหันไปมอง เห็นวันเดินมาหยุดข้างหลังและเฮงเดินตามมาห่างๆ
"ก็มันจริงนี่ฮะ ยาจีนของม๊าใส่อะไรลงไปต้มบ้างก็ไม่รู้"
"อย่าพูดซี้ซั้วนะอาตี๋ ยาของม๊าลื้อเป็นสูตรต้นตำรับขององค์จักรพรรดิเฉียนหลงเลยนะ"
เฮงพูดแย้งลูกชายทันที ภรรยาจึงพยักหน้ารับ
"ใช่ เรายังไม่เห็นตอนที่น้องมาใหม่ๆ ผอมซีดเซียว เนื้อตัวเขียวช้ำจากที่โดนแฟนเก่าทำร้ายมา แล้วตอนนี้เป็นไงมีน้ำมีนวล ผิวเป็นสีชมพูระเรื่อ สวยขึ้นผิดตาจนมีหนุ่มๆตามจีบเป็นแถวเลยนะอาตี๋"
ลูกชายรู้สึกขัดใจกับคำพูดของม๊าที่บอกว่ามีผู้ชายมาจีบแฟนตัวเองหลายคน นึกพาลไปถึงเพื่อนโจ้ที่บอกกับเขาว่าม๊าให้จีบจัสมินได้ จึงตัดสินใจสารภาพความจริงกับบุพการีด้วยเสียงเด็ดขาด
"มะลิยังไม่ได้เลิกกับแฟนนะครับ เขายังคบกันดีอยู่นี่ฮะม๊า"
"ลื้อรู้ได้ไงอาตี๋ ป๊าไม่เคยเห็นน้องออกไปเจอใคร อยู่แต่บ้านกับที่ร้านทองมีออกไปซื้อของกับม๊าบ้าง แต่ไม่เคยไปไหนมาไหนคนเดียวสักทีแล้วจะไปคบกับแฟนเก่าได้ไง"
เฮงถามน้ำเสียงจริงจัง จ้องหน้าลูกชายเพื่อรอคำตอบ
"ผมรู้จักแฟนมะลิดีครับป๊า ก็เพราะว่าผู้ชายคนนั้น คือผมเอง"
☆☆☆☆☆☆☆☆☆
เฮงกับวันนั่งอยู่ที่โซฟาในห้องรับแขก มีจัสมินนั่งอยู่ถัดไป ทั้งสามคนมองอธิปที่นั่งคุกเข่ากับพื้น พนมมือต่อหน้าพ่อแม่ของตัวเอง
"ผมขอโทษนะครับ ที่ทำให้ป๊ากับม๊าเสียใจ"
"ม๊าผิดหวังมาก ลูกชายตัวเองที่เลี้ยงมากับมือ หวังให้ลูกเป็นเด็กที่มีใจเมตตา แต่ทำไมอาตี๋ถึงทำร้ายน้องอย่างนี้"
"ขอโทษครับม๊า"
ลูกชายพูดน้ำเสียงสำนึกผิดเต็มที่ เขาได้ยืดอกสารภาพความจริงไปหมดแล้ว ทั้งยังย้ำต่อหน้าทุกคนว่าเขารักจัสมินมากจนไม่อาจเสียเธอไปได้อีก
แต่เมื่อเห็นใบหน้าบึ้งตึงของเฮงกับวัน อธิปก็ก้มตัวลงกราบแทบเท้าพ่อแม่ตัวเอง แม้จะใจอ่อนยกโทษให้ลูกชายแต่วันยังแอบเอ็ดเขาแล้วยิ้มพยักเพยิดกับจัสมินที่แอบขบขันกิริยาของอธิป
"แล้วจะทำยังไงต่อไปล่ะเนี้ย พ่อแม่หนูมะลิจะมาแหกอกม๊าเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ลูกชายตัวดีทำงามหน้าจริงๆ"
วันแกล้งบ่นลูกชายเสียงดัง ทั้งที่เธอและสามีรู้มาตั้งนานแล้วว่าชายหนุ่มกับจัสมินมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกัน
แต่ใจอยากให้อธิปสำนึกในสิ่งที่ตัวเองได้ทำลงไป และดูเหมือนจะได้ผลทันที เพราะได้ยินเสียงสะอื้นมาจากชายหนุ่มที่ก้มหน้าอยู่ เฮงรีบยื่นมือไปลูบหัวลูกชายเบาๆ คล้ายเป็นการปลอบใจ
"เอาล่ะ ทำผิดแล้วรู้จักขอโทษ ป๊ากับม๊าก็ให้อภัย แล้วเราสองคนก็ไปคุยปรับความเข้าใจกันนะ มีอะไรก็พูดกันดีๆ อย่าใช้อารมณ์ อะไรที่ยอมได้ก็ยอมอามะลิไปซะ เรื่องมันจะได้จบ เข้าใจไหมตี๋"
อธิปพยักหน้ารับอย่างว่าง่าย แล้วเงยหน้าขึ้นมองจัสมินที่ก้มหน้าก้มตามองแต่มือตัวเองตลอดเวลาเพราะกลัวจะหลุดหัวเราะออกมา
"อ่อ.. แล้วเราก็อยู่ห้องนอนแขกไปก่อน ไม่ใช่ว่าม๊าให้อภัยแล้วจะเนียนเข้าห้องตัวเองนะ"
วันพูดเสียงเข้มสั่งลูกชาย เมื่ออธิปได้ฟังก็ทำหน้ามุ้ยรีบค้านทันที
"โห ม๊าครับ ให้ผมอยู่ห้องเดียวกับมะลิไม่ได้เหรอฮะ"
"ถ้าหนูมะลิไม่อนุญาตก็คือไม่ได้ เข้าใจนะอาตี๋"
"ครับ"
ชายหนุ่มจำใจรับปากแม่ตัวเอง ก่อนส่งสายตาวิงวอนไปทางจัสมินที่แอบยิ้มนั่งก้มหน้ามองมือตัวเองอยู่เหมือนเดิม
"เอาล่ะ เดี๋ยวม๊าจะเข้าไปที่ร้านหน่อย มะลิไปกับม๊านะ ปล่อยไว้ที่นี่ไม่ได้แล้ว เดี๋ยวมีคนรังแกอีก"
"ม๊าครับ ผมไม่กล้าทำแล้ว ให้ผมได้คุยกับมะลิบ้างซิฮะ สองสามวันมาเนี้ยคุยกันนับคำได้เลย"
"ไม่ได้ มะลิไปรอที่รถก่อน เดี๋ยวม๊าตามไป"
หญิงสาวลุกขึ้นอย่างว่าง่าย แล้วเดินออกจากห้องนั่งเล่นไปอย่างรวดเร็ว ไม่แม้จะหันมามองสายตาที่วิงวอนของอธิปเลยสักนิดเดียว
☆☆☆☆☆☆☆☆☆
วันและจัสมินกลับมาบ้านในช่วงค่ำพร้อมถุงอาหารเต็มสองมือของสาวลูกครึ่ง เนื่องจากทั้งสองช่วยกันเคลียร์เงินที่เป็นรายได้ของร้านในวันนี้
และวันยังให้ว่าที่ลูกสะใภ้ดูแลเรื่องเงินเดือนลูกน้อง รวมไปถึงดูแลค่าใช้จ่ายทั้งหมดของร้านอีกด้วย เหมือนเป็นการสอนงานจัสมินไปในตัว
เพราะวันและสามีตั้งใจจะยกร้านทองให้เป็นสินสอดทองหมั้นในวันที่ลูกชายขอจัสมินแต่งงาน ทำให้ใช้เวลาในการทำงานนานกว่าปกติ และยังสอนให้ว่าที่ลูกสะใภ้อย่าเพิ่งยกโทษให้อธิป ขอให้เล่นตัวนานกว่านี้อีกหน่อย วันอยากเห็นลูกชายตัวเองกระอักเลือดเพราะไม่ได้ใกล้ชิดกับจัสมิน
"มะลิต้องใจแข็งเข้าไว้นะลูก"
วันย้ำกับว่าที่ลูกสะใภ้อีกครั้งเมื่อปิดร้านแล้วเดินมาที่รถยนต์หรู ก่อนจะตัดสินใจสั่งอาหารจากภัตตาคารจีนชื่อดัง แทนการกลับมาทำเองที่บ้าน
สองสาวต่างวัยเดินเข้าบ้านก็เจออธิปมารอรับพร้อมรอยยิ้ม เขารีบยื่นมือไปรับถุงอาหารจากมือคนรัก แล้วเนียนจับมือเธอไว้พาเข้ามาในบ้านพร้อมกัน
จัสมินพยายามดึงมือตัวเองออก แต่อธิปก็จับไว้แน่นไม่ยอมปล่อย เขาเดินให้ช้าลงเพื่อปล่อยให้หม่าม๊าเดินนำไปก่อน ทิ้งระยะเวลาพอสมควรเพื่อต้องการจะคุยกับจัสมินเพียงลำพัง
"มะลิคุยกันก่อนซิ เฮียโทร.หาตั้งหลายครั้ง ทำไมไม่รับสายเลยล่ะครับ"
"เฮียมีธุระอะไรคะ"
"ต้องมีธุระด้วยเหรอครับ ถึงจะคุยกับแฟนตัวเองได้"
จัสมินมองหน้าอธิปแล้วก่อนจะหลบสายตาอย่างเขินอาย
แฟนเหรอ? ใช้คำนี้ได้แล้วซินะ
'มะลิเป็นแฟนเฮีย'
เธอนึกถึงคำพูดเขาที่ร้านทองอย่างรู้สึกดีเพราะไม่เคยคิดว่าจะมีวันนี้ วันที่ผู้ชายที่แลดูโหดร้ายในตอนแรกจะกลายเป็นคนอ่อนหวานนุ่มนวลไปได้
"เฮียอย่าทำแบบนี้เลยค่ะ เดี๋ยวม๊าเห็น จะโดนดุเอานะคะ"
"งั้นมะลิก็บอกม๊าซิครับ ว่าจะให้เฮียไปนอนที่ห้องด้วย นะ นะครับ"
สาวน้อยลูกครึ่งมองหน้าชายหนุ่มแล้วรีบหลบตา
นี่.. เฮียพูดอ้อนเป็นด้วยเหรอ?
ม๊าสั่งไว้ว่าอย่าใจอ่อนกับเฮียเด็ดขาด เธอบอกตัวเองในใจดังๆ
"ไม่ได้หรอกค่ะ ม๊าสั่งให้เฮียนอนที่ห้องนอนแขกนี่คะ"
"แต่ม๊าบอกว่าถ้ามะลิอนุญาต เฮียก็ไปนอนได้ นะ..มะลินะ เฮียคิดถึงมะลิ แล้วก็มีเรื่องจะคุยกับมะลิตั้งหลายเรื่อง"
คำพูดที่อ่อนหวานไม่สมกับเป็นอธิปนั้นทำสาวน้อยสงสัยอีกแล้ว
เขาคิดถึงเธอ หรือคิดถึงร่างกายเธอกันแน่นะ?
ถึงแม้ชายหนุ่มจะพูดอ้อนจัสมินมากขนาดไหน แต่เมื่อถึงเวลาทานอาหารพร้อมหน้า เธอกลับไม่ยอมใจอ่อนและไม่ยอมพูดกับวันเรื่องอนุญาตให้เขาเข้ามานอนในห้องด้วย
อธิปจึงต้องใช้แผนขั้นสุดท้าย คือแผนเดิมที่เขาใช้ตั้งแต่วันแรกที่กลับมาบ้าน นั่นคือแอบย่องเข้าไปหาจัสมินในห้องนอน เพราะเขามีกุญแจห้องนอนตัวเองอยู่แล้ว จึงไม่เป็นการยากเลยที่จะเข้าไป
☆☆☆☆☆☆☆☆☆
จะเอายังไงดีคะม๊าาา เฮียย่องเข้าไปหาน้องอีกแล้ว ไม้เรียวค่ะ หาด่วน
ถ้าชอบฝากกดติดตามด้วยน้าา