Ep 3 ของฝากตำรับลับ
“จามูอิ่น ข้าอยากได้มีดพกเล็กสักเล่ม เจ้ามีสวยๆหรือไม่” ในร้านนี้มีเพียงตู้ไม่กี่ใบเรียงอยู่ด้านหลัง
“เจ้าจะเอาไปทำอะไรหรือ”
“มอบให้ญาติผู้น้อง” จามูอิ่นหันไปเปิดตู้ใบหนึ่ง หยิบมาให้เลือกสองสามเล่ม
“ท่านจะไปหัวเมืองหรือ? มีดพวกนี้ใช้เหล็กชั้นดี ปลอกมีดฝังหินโมรา ถูกใจหรือไม่”
“มีอย่างอื่นอีกหรือไม่” ดูเหมือนจะหาง่ายเกินไป เขาต้องเตรียมของขวัญไปให้องค์ชายห้าด้วย อย่างน้อยก็มีข้ออ้างว่าเขายุ่งอยู่กับการหาของกำนัลของฝากพวกนี้ จึงทำตัวให้ดูยุ่งยากวุ่นวายขึ้นอีกนิด แม้สมบัติในวังจะมีมากมายแต่ข้าวของที่มากไปด้วยความใส่ใจอย่างนี้น่าสนใจยิ่งกว่า
“ถ้าเป็นของฝากจุกจิก ข้าคิดว่าเตาพกแบบใหม่ที่มีลายสวยงามก็ดี” จามูอิ่นหลงจู๊ของร้าน หยิบสินค้ามาวางให้เขาเลือกอีกหลายอย่าง เขาเลือกกาเหล้าทรงสูง ตะปิ้งเงิน อะแฮ่ม! และของใช้อื่นๆไว้อีกหลายชิ้นจ่ายเงินแล้วออกจากร้าน
จากนั้น เข้าไปร้านขายยา เจ้าของร้านแนะนำน้ำมันทาตัวชนิดใหม่ที่ผสมผงแป้งเป็นเนื้อครีมนุ่มนวล เขาลองทาดูแล้วกลิ่นหอมเป็นพิเศษ สิ่งนี้น่าจะถูกใจหญิงสาว…เพียงแต่ว่า
“ถ้าคุณชายจะซื้อไปให้บิดามารดาพี่สาวน้องชายในครอบครัวนั้นย่อมไม่ปัญหา แต่ถ้าเป็นคนในแคว้นอื่น เกรงว่าคุณชายจะเอาไปให้ส่งเดชมิได้”
“อืม เรื่องนี้ข้าเข้าใจดี” ในเมื่อเป็นเครื่องประทินผิวที่มีกลิ่นหอม จะมีความพิเศษเป็นส่วนตัวมากไป ฉะนั้นเขาจะมอบให้หญิงสาวที่ไม่ใช่คู่หมั้นหรือภรรยาไม่ได้ นอกจากมอบให้ท่านแม่ไว้ และในใจคิดแบ่งบางส่วนเอามาทดลองผสมยาลับนั่นเข้าไป…อืม ดูหน้าตาที่หล่อเหลาของเขาแล้วคงไม่มีใครคิดว่าเขาต้องใช้ของอย่างนี้ เพียงคิดเป็นของกำนัลเพื่อซื้อใจคนได้บ้าง
“ขอบใจหลงจู๊จามูอิ่น” เขาเลือกครีมน้ำมันได้สี่ตลับสี่กลิ่น จามูอิ่นสั่งเด็กในร้านห่อให้เขาอย่างเรียบร้อย
“ขอบคุณคุณชาย วันหน้ามาอุดหนุนอีกนะขอรับ”
หลังจากนั้นเขาเข้าไปที่ร้านสมุนไพร ซื้อดอกหญ้าและสมุนไพรบางชนิดที่เขาจะเอาไปปรุงยา เสร็จแล้วถึงกลับบ้านไป
ขั้นตอนต่อมาเขาแค่ปรุงยาตำรับลับและยาถอนพิษนำติดตัวไปต้าเหลียง สามวันนี้ยังคงหลบหน้านายน้อยได้สบาย
…
แสงอาทิตย์อัสดงลาลับขอบฟ้าไปนานแล้ว ภายใต้แสงสีสนธยาความน่าเกรงขามของบุรุษไล่ความผิดหวังไม่ยินยอมออกไปจากหัวจิตหัวใจเย็นชามากขึ้น เสียงฝีเท้าม้าย่ำมาถึงหน้าประตูตงจยาเหมิน ผ่านทหารเฝ้าประตูวังหลวง เมื่อมาถึงตำหนักองค์ชายห้าลงจากหลังม้าส่งบังเหียนให้ทหารด้านข้างแล้วเดินเข้าประตูด้านในไป
ความในใจยังไม่สงบลง แต่ว่าเขากลับยอมรับได้มากขึ้นแล้ว บางครั้งคนเราก็พร่ำพิรี้พิไรอยู่ในใจได้บ้างไม่จำเป็นต้องทำตัวแข็งแกร่งอยู่ตลอดเวลา ยิ่งในตอนนี้เขานอนแผ่มองดวงดาวบนท่องฟ้า ที่เริ่มเปล่งประกายขึ้นทีละดวงสองดวง
แค่เพียงสามวันต้องเตรียมขบวนออกเดินทาง ไม่มีเวลาให้คร่ำครวญฟูมฟายถึงวาสนาดอกท้อที่ขาดสะบั้นในชั่วคืนนั้นได้
มารดามันเถอะ ยังมีเจ้าลูกเต่าเอาเขาไปขายให้พระมารดาหมดสามสี่กระสอบนั่น
ยังดีที่เหนียงเหนียงเตือนความจำของเขาเมื่อครั้งยังเยาว์วัยเพียงแปดขวบ เคยพูดจาอันใดไว้กับ กงจู่สูงศักดิ์อันดับสิบสี่หรือไม่ การสู่ขอคงไม่ได้ทำเป็นลืมเลือนไป เสด็จพ่อของเขาก็ยังมีดำริเห็นดีเห็นงามว่าสมควรสนับสนุนให้มีการเชื่อมวาสนานี้ไว้อีกสายหนึ่ง
จะว่าไปก็เพราะพวกเขาต่างรู้ดีว่าสถานะต่างกัน เป็นเขาที่ดูเหมือนจะด้อยกว่านางขั้นหนึ่ง แม้ว่าสู่ขอนางมาได้จริงๆ ทุกคนในวังเสด็จพ่อมิต้องหุ้มเท้าเดินหรอกหรือ นางสูงศักดิ์กว่าเขาเช่นนั้น
แต่เมื่อเติบโตขึ้นมาทั้งหมดต่างก็ต้องมีหน้าที่เพื่อบ้านเมือง บางเรื่องเอาแต่ใจหาได้ไม่ อย่างน้อยเป็นลูกผู้ชายพูดคำใดไว้ย่อมต้องยึดมั่น
หรือว่าต้องเชิญพระพุทธรูปองค์นั้นเข้าบ้านเสียแล้ว ป่านนี้นางเติบโตขึ้น รูปร่างโฉมงามเพียงใด ใคร่อยากเจอเช่นกัน
ep3 ต่อ
สามวันมานี้ องค์ชายไม่ใช้สิทธิ์ในการพูดอีกเลยสักประโยค จนถึงเมืองเฝิง เขาเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าต้องทำให้เกิดความประทับใจเสียหน่อย
ครั้งนี้เขาเดินทางไปที่ราบภาคกลางเมืองต้าเหลียงทำให้การเดินทางรอบนี้ดูน่านับถือว่าเขาเติบโตแล้วเหมือนที่เหนียงเหนียงทรงเอ่ยเตือน ใครจะคิดอย่างไรก็ช่าง แต่จะให้ใครรู้ความรู้สึกภายใจลึกๆไม่ได้ว่าเสียความมั่นใจในการเกี้ยวหญิงสาวมาไม่นาน
สำหรับบุรุษหลายๆคน ถ้าการมีสาวงามในอ้อมกอดถือว่าโชคดีที่ได้หาความสุขในชีวิตนั้น ไม่ใช่บุรุษในตัวตนของเขาอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นความจริงหรือการประชดประชันก็แล้วแต่
เพียงแต่คนที่มีความในใจกลับเปิดเผยความในใจนั้นแสดงออกมาทางร่างกาย หนวดเคราเริ่มครึ้ม ผมที่ยาวอย่างไร้รูปแบบถักเปียไว้เพื่อกันกระเซอะกระเซิงยามออกแดดต้องลมในทะเลทราย
เหนียงเหนียงอดทนมองดูไม่ได้ จึงให้ไหวกงกงมาดูแลอาบน้ำชำระกายแช่น้ำอุ่น เปลี่ยนชุดแต่งตัวเสียใหม่ ศีรษะผ่านการสระผม เล็มปลายผมที่ไร้รูปแบบออกเล็กน้อย ถักเปียรอบข้างจนเรียบร้อย ค่อยดูเป็นผู้เป็นคนเป็นองค์ชายผู้สูงศักดิ์ขึ้นมาหน่อย
ก่อนหน้านั้น
เขาเดินผ่านชุมชนในฝั่งตะวันตก จูงม้าไปหยุดที่โรงเตี๊ยมแห่งหนึ่งแล้วเดินไปในตลาด เจอร้านค้าข้างทางเล็กๆ มีแผงทำนายดวง จึงโยนก้อนเงินให้หมอดูท่านนั้นไปก้อนหนึ่ง
นึกถึงบางคำพูดจากผู้เฒ่าโหราทำนายดวงชะตาผู้นั้น
ในห้าปีนี้ เสี่ยงทายเรื่องโชคลาภดี มีดวงด้านความรัก เทวีโชคสโลกเสลา โดยพื้นดวงมีคนหนุนหลังทั้งมียศศักดิ์ (แน่นอนละสิ เขาเป็นถึงองค์ชายเจ้าสาวย่อมมียศศักดิ์ เป็นไปได้อย่างสูง) ทั้งมีอำนาจในการตัดสินใจ จะประสบความสำเร็จได้จากการเดินทางไกล มีหลายเรื่องในหนหลังที่เป็นสิ่งดีสามารถนำมาแก้ปัญหาทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตได้ เรื่องครอบครัวบิดามารดาไม่มีปัญหา สุขภาพแข็งแรง ยิ่งดูยิ่งร่ำรวย มีภรรยายิ่งเป็นมงคลใหญ่ในชีวิต ใครจะวาสนาดีเท่าเขากันเล่า ไม่เชื่อก็ทำใจให้เชื่อเพื่อลบล้างจิตใจช่วงอกหักไปก่อน เขาไม่ปากมากขัดคำทำนาย รับแต่สิ่งดีดีกลับมาให้อุ่นในใจ
แล้วก็ควักเงินให้หมอดูเฒ่าไปอีกหลายตำลึง ในฐานะที่ทำให้เขาเบิกบานใจก่อนเดินทาง
ณ เมือง ฉางจิ่น อำเภอซ่ง
บ้านของรองนายอำเภอเล็กๆแห่งนี้ คือจิ้วจิ่ว น้าชายของอาไค เขาสอบได้รับราชการอยู่ที่นี่ ต้นเดือนสี่ เขาให้ฮูหยินและลูกสาวทั้งสองคนเตรียมตัวต้อนรับอาไค ที่กำลังเดินทางมากับขบวนเสด็จของฮองเฮา แม่ของอาไคเป็นพี่สาวของรองนายอำเภอหลัวผู่ที่นางไปอยู่ในแคว้นทะเลทรายแห่งนั้น นับว่าทางบ้านเขาได้ดีเพราะมีพี่สาวส่งเงินให้น้องชายจนกระทั่งเขาสอบได้ซิ่วไฉ* ทั้งได้รับราชการอยู่ที่นี่ เดิมทีก็คิดว่าจะได้กตัญญูเลี้ยงดูมารดาให้ท่านสุขสบายยามชรา
ไม่คิดว่าจะสอบได้เป็นถึงรองนายอำเภอ เขาจึงขอบุตรีเหล่าซือผู้สอนวาดภาพให้แก่บัณฑิตมาแต่งงานได้ เวลานี้บุตรสาวทั้งสองคนจิ่งถิง จิ่งอิง และบุตรชายคนเล็กจิ่งหู่ ได้รับการศึกษาไม่น้อยหน้าลูกหลานเหล่าขุนนางในอำเภอ ฮูหยินของเขาและบุตรสาวมีหน้ามีตาขึ้น พวกนางจึงคิดจะแต่งออกไปกับเรือนผู้ร่ำรวยและมียศตำแหน่งดีกว่านี้
“วันนี้เจ้าไม่สบายใช่หรือไม่อิงเอ๋อร์ ถ้าอย่างนั้นก็อยู่บ้านไปก่อน อย่าเพิ่งออกไปโดนลมที่ข้างนอกเลย จะทำให้เป็นไข้ขึ้นมาอีก”น้องสาวของนางมีผื่นขึ้นที่ใบหน้า ที่นางทำเหมือนมิรู้ว่าไปติดโรคจากที่ใดมาทั้งที่พี่สาวอย่างนางวางแผนกับบางสิ่งไว้แล้วเกิดผลเช่นนี้
“พรุ่งนี้ขบวนเปียวเกอมาจากแดนไกล น้องอาจจะไปรับไม่ได้เสียแล้ว นี่นับว่าเสียมารยาทโดยแท้”อิงเอ๋อร์ทอดถอนใจ
นางเพียงต้องการแสดงน้ำใจออกไปต้อนรับอาไคญาติผู้พี่ เพราะนานหลายปีแล้วที่พวกนางไม่เคยพบพี่ชายท่านนี้
“ไม่เป็นไรเสียหน่อย ข้าจะบอกพี่ชายให้ว่าเจ้าป่วย เรื่องแค่นี้ มีพี่สาวไปรับก็นับว่าไม่เสียมารยาทแล้ว” นางทำไมจะไม่ยินดีที่น้องสาวไม่อาจออกนอกเรือนไปต้อนรับขบวนเสด็จได้ นี่นับเป็นการกำจัดหญิงสาวที่จะเข้าใกล้บุรุษที่มาจากแดนไกลเหล่านั้น
อย่างน้อยตัวนางเองก็จะได้เห็นองค์ชายและพี่ชายของนางก่อน และได้ทำให้พวกเขาประทับใจยามที่พบหน้ากันครั้งแรก โชคดีแค่ไหนแล้วที่ครอบครัวของนางมีความสัมพันธ์กับท่านป้า ทั้งเป็นนางกำนัลใกล้ชิดฮองเฮาฮวาเจี๋ยซูหลัน แม้จะเป็นเพียงหญิงสาวตามขบวนแต่งงานออกไปก็ตาม แต่บัดนี้กลับได้ดีออกเรือนกับขุนนางอันดับต้นๆของฮว่าเจี๋ย ดังนั้นพรุ่งนี้นางหวังว่าจะได้เข้าใกล้ขบวนมากกว่าผู้ใด ทั้งมีหญิงสาวไปต้อนรับองค์ชายยิ่งน้อยเท่าใดยิ่งดี หึหึ
แต่นางกลับคว้ามือน้องสาวขึ้นมาแล้วตบหลังมือเบาๆ เพื่อให้น้องสาวไม่คิดอยากออกนอกเรือนในช่วงเวลานี้
…………………………
*เหนียงเหนียง คำเรียกยกย่องเสมือนมารดา
*เปียวตี๋เปียวเม่ยหมายถึงญาติลูกพี่ลูกน้องผู้ชายและผู้หญิง
*เครื่องดนตรีที่มีลักษณะคล้ายกัน ในที่นี้หมายถึงเข้ากันได้ดี
~~~~~~---
นิยายเรื่องนี้เป็นซีรีย์เซทเดียวกับเรื่อง > ชายารักป่วนมิติ(วังวสันต์) ซึ่งวางebook ในmebmarket แล้ว ติดตามได้นะคะ
ทั้งสามารถแยกอ่านได้ค่ะ ขอบคุณมากค่ะ