นานจน(เกือบ)ลืมเธอ
ep.56 เผชิญหน้ากับแม่สามี
ภายในบ้านหลังใหญ่ที่มีเนื้อที่เกือบห้าร้อยตารางวาตั้งเด่นตระหง่านอยู่ใจกลางย่านธุรกิจหลักของประเทศ ด้านในตกแต่งอย่างหรูหราด้วยเฟอร์นิเจอร์คุณภาพพรีเมี่ยมที่นำเข้ามาจากยุโรปทุกชิ้น
ที่ดินตรงนี้เจ้าของตัวจริงคือมารดาผู้ให้กำเนิดของณัฐนิธานซึ่งเสียชีวิตไปนานแล้วด้วยอุบัติเหตุ ทำให้มรดกส่วนนี้ได้ตกเป็นของลูกชายเพียงคนเดียวอย่างเขาไปโดยปริยาย
หลังกลับจากอังกฤษชายหนุ่มจึงเริ่มสร้างบ้านมาเรื่อยๆจนเพิ่งเสร็จสิ้นเมื่อไม่กี่เดือนก่อนหน้านี้ เขาตั้งใจสร้างบ้านเพื่อต้องการจะพาศิรสามาอยู่ด้วยกันแต่เมื่อภรรยาสาวยืนกรานเสียงแข็งว่าอยากจะอยู่บ้านของเธอเองเพื่อจะได้มีเวลาดูแลศศิพิมที่ร่างกายไม่แข็งแรงนัก คุณสามีจึงต้องย้ายตัวเองไปอยู่บ้านภรรยาด้วยอีกคน ปล่อยทิ้งบ้านสวยหลังนี้ให้แม่บ้านคนเก่าแก่ของครอบครัวดูแลแทน แต่ชายหนุ่มก็แวะเวียนมาดูบ้านอยู่เป็นประจำ
ณัฐนิธานพาศิรสาและศศิพิมเข้ามาภายในห้องรับแขกของบ้าน ก็พบกับชายหญิงต่างวัยสี่คนนั่งรออยู่
เดวิด แซนวู้ด แดดดี๊ของณัฐนิธานที่รูปร่างหน้าดี แต่งกายภูมิฐาน วางตัวเป็นผู้ใหญ่ที่น่านับถือ
กนกกานต์ แซนวู้ด แม่ของณัฐนิธาน อันที่จริงเธอมีศักดิ์เป็นคุณป้าของเขา แต่หลังจากน้องสาวและน้องเขยเสียชีวิตในอุบัติเหตุ เธอก็รับอุปการะหลานชายคนเดียวเอาไว้เป็นบุตรบุญธรรมที่ถูกต้องตามกฏหมาย
พอล เวลลิงตัน พี่ชายของจัสมิน หนุ่มลูกครึ่งไทยอังกฤษ
และหญิงสูงวัยที่ดูสง่างามอีกคนหนึ่ง ซึ่งศิรสาไม่รู้จัก
ณัฐนิธานให้ภรรยาและพี่สาวของเธอนั่งที่โซฟาหลุยส์ตัวยาว ซึ่งเท่ากับว่าทั้งสองสาวนั่งอยู่ต่อหน้ากับทั้งสี่คนพอดี
การเผชิญหน้ากับแม่สามีครั้งนี้ ทำให้ศิรสานั่งเกร็งทำตัวไม่ถูกเมื่อต้องมาอยู่ต่อหน้ากับพ่อแม่สามีที่บ้านหลังใหญ่ของณัฐนิธาน
ซึ่งแม้จะมีสามีกับศศิพิมพี่สาวอยู่เคียงข้าง แต่เธอก็รู้สึกถึงรังสีบางอย่างที่พุ่งออกมาจากตัวของแม่สามีจนตัวเริ่มสั่นเอาแต่ก้มหน้าไม่กล้าสบตาใคร
"แล้วยังไงกันณัฐ จะแค่จดทะเบียนกันเฉยๆ ไม่จัดงานแต่งงานกันแล้วใช่ไหม?"
เสียงเข้มของกนกกานต์ถามลูกชาย ขณะที่เขายังนั่งจับมือภรรยาไว้แน่นอย่างให้กำลังใจ
"คือเราจดทะเบียนสมรสกันมานานแล้วนี่ครับแม่ จะมาจัดงานแต่งตอนนี้ผมว่ามันจะดูไม่ดี"
"ไม่ดียังไง ลองบอกเหตุผลมาให้แม่ฟังซิลูก"
"เอ่อ คือ.."
ณัฐนิธานพูดอ้ำอึ้งเหมือนคนที่หาคำตอบไม่ได้ แม้ตัวเขาเองก็ยังรู้สึกเกรงใจในตัวมารดาจนไม่กล้าพูดอะไรออกไป
"รสาเป็นลูกที่มีพ่อมีแม่นะณัฐ แค่ลูกไปหลอกให้เขารักและจดทะเบียนสมรสมันก็แย่พอแล้ว แล้วนี่ลูกจะทำเหมือนไม่ให้เกียรติพ่อรสาที่เสียชีวิตไปแล้วได้ยังไง"
คำพูดตักเตือนของกนกกานต์ที่แสนนุ่มนวลทำให้ศิรสาถึงกับเงยหน้าขึ้นมองเจ้าของน้ำเสียงอย่างไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง
"แล้วตอนนี้ตั้งท้องกี่เดือนแล้วล่ะ? อาการตกเลือดคุณหมอว่ายังไงบ้าง"
คำพูดแฝงความเอื้ออาทรของคุณแม่สามีที่ดูจะรู้ประวัติและเข้าใจเธอไปหมดทุกอย่างถามลูกสะใภ้เสียงแผ่วเบาแตกต่างจากตอนที่คุยกับลูกชายราวฟ้ากับเหว
"อายุครรภ์สิบห้าสัปดาห์แล้ว คุณหมอดลวิทย์ดูแลรสาอยู่ครับ ตอนนี้อาการคุณแม่ปลอดภัยดีส่วนคุณลูกก็แข็งแรงมากครับ"
ณัฐนิธานรีบตอบคำถามของแม่แทนภรรยา ด้วยเห็นว่าศิรสานั่งนิ่งเงียบมาตลอด
กนกกานต์เดินมานั่งข้างๆศิรสา ทำให้เธอสังเกตว่าแม่ของณัฐนิธานช่างเป็นผู้หญิงที่สง่างามเหลือเกิน ส่วนมิสเตอร์เดวิดพ่อของเขานั้นก็ดูสุขุมน่านับถือมากเช่นกัน
หญิงสูงวัยก้มหน้าลงเล็กน้อย ใช้มือตัวเองลูบท้องที่ยื่นออกมาของศิรสาเบาๆ
"คงเจ็บมากซินะรสา อยู่ในท้องแม่อีกไม่กี่เดือน แล้วเราก็จะได้เห็นหน้ากันแล้วนะหลานย่า"
น้ำตาลูกสะใภ้ไหลลงอาบแก้ม คุณแม่สามียื่นมือไปเช็ดเบาๆที่ใบหน้า
"กลัวหรอจ๊ะ? ไม่ร้องไห้แล้วนะลูก เดี๋ยวแม่จัดการทุกอย่างให้เอง อยากจะคลอดที่ไทยหรือที่อังกฤษดีล่ะ แม่ว่าไปอังกฤษดีกว่านะ หลานจะได้สัญชาติด้วย เรามีธุรกิจอยู่ทางโน้นมากมาย ย่าจะยกให้หลานหมดเลย"
"แล้วแต่คุณแม่จะกรุณาค่ะ สำหรับรสายังไงก็ได้"
ศิรสาตอบน้ำเสียงสะอื้น รู้สึกตื้นตันใจกับความเมตตาของแม่สามี
"ดีจ๊ะ งั้นณัฐไปจัดการเรื่องวีซ่าให้น้อง เอาให้เร็วที่สุดนะ เดี๋ยวท้องแก่กว่านี่จะเดินทางไม่ได้ แล้วเราเป็นพี่สาวรสาหรอจ๊ะ? ไปอังกฤษกับน้องนะลูกไปอยู่เป็นเพื่อนกันสักพัก ถ้าคลอดแล้วทุกอย่างเข้าที่เข้าทางอยากจะกลับเมืองไทย แม่จะพามาส่งถึงบ้านเองจ๊ะ"
กนกกานต์หันมาพูดคุยกับศศิพิมที่พยักหน้ารับอย่างว่าง่าย
"ได้ค่ะคุณป้า"
"เรียกแม่เหมือนรสาเถอะลูก เราก็ถือเป็นคนในครอบครัวเดียวกันแล้ว"
ศศิพิมยกมือไหว้แม่ของณัฐนิธาน พลันสายตาของศิรสาก็เหลือบไปเห็นหญิงสูงวัยที่หน้าตาสะสวยแต่ใบหน้าหมองหม่น จนทำให้อดคิดไม่ได้ว่า
แล้วผู้หญิงคนนั้นที่กลับมาจากอังกฤษพร้อมคุณแม่เป็นใครกันนะ?
และเหมือนอีกฝ่ายจะรับรู้ได้ เธอหันมามองสบตาศิรสาที่มองอยู่ก่อนด้วยใบหน้าเศร้าหมอง
"เออ แม่ก็มัวแต่ถามแต่เรื่องลูกหลานตัวเอง ลืมไปเลยว่ามีอีกเรื่องที่สำคัญกว่า"
เสียงกนกกานต์เอ่ยขึ้นเหมือนคนที่รู้สึกผิดพร้อมหันไปมองลูกสะใภ้แล้วพูดว่า
"นี่คือคุณน้ามัลลิการ์ แม่ของพอลกับจัสมินจ๊ะรสา แล้วนี่ก็พอล คงรู้จักกันแล้วเนาะ"
ศิรสาและศศิพิมต่างพากันตกตะลึงกับการแนะนำตัวของคุณแม่สามี แม้จะตกใจแต่ก็รีบยกมือไหว้หญิงสูงวัยอย่างนอบน้อม กนกกานต์จึงถามตรงประด็น
"คุณน้ากำลังทุกข์ใจอยากจะรู้เรื่องของหนูแจ๊ส มีใครพอจะบอกคุณน้าได้ไหมลูก?"
"คนสุดท้ายที่ได้พูดคุยกับแจ๊สคือพี่อธิปครับ ทั้งสองคนเอ่อ .. กำลังคบหากันอยู่"
ณัฐนิธานเอ่ยไม่เต็มเสียง ศิรสาที่นั่งใจระทึกจึงตัดสินใจพูดว่า
"พี่อธิปก็ทุกข์ใจไม่แพ้คุณน้าเลยนะคะ พยายามตามหาคุณจัสมินเกือบตลอดสองเดือนที่ผ่านมา แต่ก็ไม่เจอ ตอนนี้พี่อธิปกลับไปอยู่บ้านที่ต่างจังหวัดค่ะ รสาตั้งใจจะไปหาอยู่พอดี คุณน้าสะดวกไปพร้อมกับรสาไหมคะ?"
"ไปค่ะ หนูรสาช่วยพาน้าไปทีได้ไหมลูก?"
"ได้ค่ะคุณน้า แต่พรุ่งนี้รสามีนัดตรวจครรภ์คงต้องเป็นวันมะรืนถึงจะพาไปได้นะคะ"
"ได้จ๊ะ แค่วันเดียวน้ารอได้"
☆☆☆☆☆☆☆☆☆
เฮียตี๋.. เตรียมตัวต้อนรับคุณแม่ยายเลยจ้า
ถ้าชอบขอคนละคอมเม้นท์น้า