นานจน(เกือบ)ลืมเธอ
ep.48 น้องสามีกับพี่สะใภ้
"แจ๊สเข้ามาก่อนซิ เป็นไงบ้างเห็นไมค์บอกว่าไม่ค่อยสบาย"
ณัฐนิธานที่รู้มาจากเลขาไมเคิลว่าจัสมินกำลังป่วยอยู่ เขาจึงรีบทักทายหญิงสาวก่อนอย่างอารมณ์ดี เพราะไม่อยากให้เธอเก้อเขินที่ต้องยืนเคว้งคว้างอยู่กลางห้อง จึงพูดเชิญให้เข้ามานั่งใกล้ๆที่เก้าอี้ตัวที่วาทิตเคยนั่งอยู่ก่อนหน้า
"สวัสดีค่ะพี่นาธาน"
หญิงสาวยกมือไหว้พี่ชายอีกครั้ง แล้วหันไปหาศิรสาพร้อมยกมือไหว้เธอเช่นกัน ทำให้อีกฝ่ายต้องรีบยกมือรับไหว้ด้วยความตกใจแทบไม่ทันในกิริยาที่นอบน้อมของสาวสวยลูกครึ่ง
"สวัสดีค่ะพี่รสา เอ่อ.. คือแจ๊สอยากจะมาขอโทษพี่รสาในเรื่องที่แจ๊สได้ทำลงไป"
"รู้ตัวว่าผิดแล้วสำนึกก็ดีแล้วจ๊ะแจ๊ส พี่รสาเขาไม่โกรธเคืองน้องหรอก"
ผู้เป็นพี่ชายรีบพูดชี้นำก่อนอย่างรวดเร็วจนคุณภรรยาหันไปค้อนใส่วงใหญ่ แล้วทำหน้าดุใส่คุณสามีทันที รู้สึกหมั่นไส้เขาที่ออกโรงปกป้องน้องจนออกนอกหน้า แต่สาวน้อยไม่ทันได้เห็น เพราะเธอนั่งก้มหน้าอยู่ตลอดเวลา
"แจ๊สรู้ว่าตัวเองทำผิดอย่างไม่น่าให้อภัย ถ้าพี่รสาจะไม่ยกโทษให้ แจ๊สก็ไม่ว่าอะไรเลยค่ะ"
จัสมินพูดขณะที่นั่งก้มหน้าน้ำตาเริ่มหยดลงมาที่ตักตัวเองเป็นทาง ศิรสาเห็นน้ำตาสาวน้อยเธอก็ใจอ่อนทันที
"พี่ไม่ได้โกรธคุณจัสมินเลยค่ะ แต่โกรธคนนี้มากกว่า" ศิรสาพูดพลางชี้นิ้วไปทางสามีที่ร้องโวยวายขึ้นมา
"อ้าว ทำไมโกรธพี่ล่ะคะรสา?"
"ล้อเล่นค่ะ ใครจะโกรธคุณสามีได้ลงล่ะคะ?" เธอรีบตอบแล้วยิ้มกริ่มอย่างพอใจที่เห็นชายหนุ่มเริ่มหน้าเสีย
"พี่สองคนรู้ความจริงหมดแล้วนะแจ๊ส เพราะปภาวีคนเดียวที่ทำให้เกิดเรื่องเหล่านี้ขึ้น พี่รสาก็เข้าใจน้องทุกเรื่องแล้ว ใช่ไหมคะรสา?"
ประโยคสุดท้ายของณัฐนิธานหันไปพูดกับภรรยา ซึ่งเธอก็พยักหน้ารับอย่างเห็นด้วย
"อย่าคิดมากเลยนะคะคุณจัสมิน ตอนนี้พี่กับลูกก็ปลอดภัยทั้งคู่แล้ว ไม่มีอะไรให้น่าห่วงกังวล คุณจัสมินสบายใจได้แล้วค่ะ"
"จริงหรอคะ? พี่รสายกโทษให้แจ๊สแล้วใช่ไหมคะ?"
หญิงสาวพูดทั้งน้ำตา เธอเงยหน้าขึ้นมองศิรสาอย่างเต็มตาเป็นครั้งแรก
"ก็อย่างที่บอกไปนั่นล่ะค่ะ ว่าพี่ไม่เคยโกรธคุณจัสมินเลย"
"ขอบคุณนะคะพี่สะใภ้ แจ๊สดีใจที่สุดเลย เพราะถ้าหลานต้องเป็นอะไรไป แจ๊สจะไม่ให้อภัยตัวเองเลยจริงๆค่ะ"
"พี่สะใภ้หรอคะ?" ศิรสารู้สึกดีกับคำพูดคำนี้ของจัสมิน
"ใช่ค่ะ พี่รสาเป็นภรรยาพี่นาธานก็มีศักดิ์เป็นพี่สะใภ้ของแจ๊สไม่ใช่หรอคะ?"
"ถูกต้องจ๊ะ และแจ๊สเองที่เป็นน้องสาวของพี่ก็มีศักดิ์เป็นน้องสามีนั่นเอง" ณัฐนิธานพูดด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
"น้องสามีกับพี่สะใภ้"
ศิรสาเอ่ยเบาๆ มองหน้าจัสมินแล้วส่งยิ้มให้ สาวน้อยที่ฟังคำพูดประโยคนี้แล้วมันกระทบใจอย่างแรงจนน้ำตาไหลลงมาเรื่อยๆ
พี่สะใภ้ที่เห็นอย่างนั้นจึงกางมือออกทั้งสองข้าง จัสมินจึงโผเข้ากอดศิรสาอย่างลืมอาย เธอร้องไห้สะอึกสะอื้นคล้ายเด็กน้อยที่หลงทาง
"ไม่ร้องไห้แล้วนะคะคนเก่ง"
ศิรสาปลอบจัสมินเบาๆ ณัฐนิธานที่เห็นภาพประทับใจนี้ก็อดถ่ายรูปเก็บไว้ในโทรศัพท์มือถือไม่ได้ เขากดชัตเตอร์รัวๆอย่างปลื้มใจ เพราะอยากให้วันนี้มาถึงตั้งนานแล้ว
วันที่ทุกคนเข้าใจกันและอยู่ด้วยกันเป็นครอบครัว
หลังจากนั้นณัฐนิธานก็ซักถามจัสมินถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นตั้งแต่แรก หญิงสาวก็เริ่มเล่าความจริงทั้งหมดที่ถูกปภาวีหลอกให้ทั้งสองสามีภรรยาฟังอย่างละเอียด
ซึ่งใจความสำคัญก็จะคล้ายๆกับที่วาทิตเล่าให้ฟังก่อนหน้า เธอพูดไปร้องไห้ไปจนพี่ชายอดรนทนไม่ไหวลุกขึ้นไปโอบกอดน้องสาวไว้ด้วยความสะเทือนใจ แล้วบอกให้เธอหยุดเล่าได้แล้ว
"พี่เข้าใจแจ๊สตั้งแต่แรกแล้วนะ พี่ให้อภัยน้องสาวคนนี้ได้เสมอ เพราะเรื่องนี้พี่เองก็มีส่วนผิดอยู่เหมือนกัน ที่ไม่ได้เล่าเรื่องระหว่างพี่กับพี่รสาให้แจ๊สได้รู้มาก่อน แต่ต่อไปถ้ามีเรื่องอะไรให้ถามกันก่อนนะจ๊ะเด็กดื้อของพี่"
คำพูดของณัฐนิธานทำให้คนฟังถึงกับสะอื้นอีกพักใหญ่ ศิรสาได้เห็นความรักที่พี่ชายมีต่อน้องสาวก็แอบยิ้มตาม
ทั้งรู้สึกเห็นใจและเข้าใจจัสมินในคราวเดียวกัน เพราะมันช่างเหมือนเห็นตัวเองกับอธิปยังไงยังงั้น
อธิปหนุ่มข้างบ้านที่ไม่มีความเกี่ยวข้องทางสายเลือด แต่เขาก็รักเธอกับศศิพิมเหมือนน้องสาวแท้ๆของตัวเอง
ทั้งสามคนยังคุยกันต่ออีกพักใหญ่ จนพยาบาลกุ้งได้เข้ามาแจ้งว่าคุณหมอดลวิทย์สั่งให้ส่งตัวศิรสาไปตรวจเช็คอีกรอบ จัสมินจึงขอตัวลากลับ เพื่อให้ศิรสาเริ่มกระบวนการรักษาขั้นต่อไปทันที
เธอเดินออกจากโรงพยาบาลมาที่ลานจอดรถอย่างปลื้มปริ่มใจที่พี่ชายและพี่สะใภ้ไม่ได้โกรธและเกลียดเธออย่างที่คิด กลับรู้สึกว่าอันที่จริงแล้วพี่สะใภ้เธอเป็นคนดีและน่ารักกว่าที่เธอคาดคะเนไว้เยอะมาก
มิน่าล่ะ.. ไม่แปลกใจเลยที่เฮียอธิปจะรักพี่รสามาก
ถ้าเฮียรู้ว่าเธอกับพี่สะใภ้ปรับความเข้าใจกันแล้ว เฮียจะยังโกรธเกลียดเธออยู่ไหมนะ?
เธอแอบคิดถึงเขาอีกแล้ว ทั้งที่พยายามห้ามใจแต่มันก็อดไม่ได้จริงๆ คิดแล้วก็แอบยิ้ม
อยากให้อธิปรู้เรื่องนี้เร็วๆจัง
หญิงสาวขับรถช้าๆออกจากโรงพยาบาลปลายทางอยู่ที่คอนโด
เอหรือว่า .. จะแวะห้างแล้วซื้อวัตถุดิบไปทำอาหารรอเฮียกลับมาดีนะ?
เธอคิดแล้วรีบตีไฟเลี้ยวเข้าไปยังห้างสรรพสินค้าทันที จัสมินใช้เวลาเลือกซื้อของยาวนานมาก เธอเลือกซื้อแต่วัตถุดิบเกรดพรีเมียมเพื่อที่อธิปจะได้พอใจ จนใช้เวลาเดินวนอยู่ในชั้นซุปเปอร์ถึงสี่ชั่วโมงจึงหอบหิ้วของที่ซื้อมาใส่ในรถเกือบไม่ไหว แล้วรีบขับกลับมาที่คอนโดอย่างรวดเร็วเพราะจะได้มาทำอาหารไว้รออธิปกลับมารับประทานพร้อมกันในช่วงเย็น
จัสมินหอบข้าวของพะรุงพะรังเดินเข้ามาในคอนโดอย่างทุลักทุเล เธอยืนรอลิฟท์อยู่เป็นเวลานานก็ยังไม่มา จนได้ยินเสียงทักจากด้านหลังจึงหันไปดู
"ป้าวันสวัสดีค่ะ ลงมาซื้ออะไรหรอคะ?"
หญิงสาวทักทายเพื่อนบ้านคนใหม่อย่างอารมณ์ดี ส่วนวันที่เห็นเธอถือข้าวของมามากมายก็ถึงกับอึ้งก่อนจะรีบยกมือขึ้นมาช่วยเธอถือบางอย่างไว้
"มาซื้อของกินนิดหน่อยจ๊ะ แล้วนี่หนูมะลิซื้ออะไรมาเยอะแยะค่ะเนี้ย"
"ซื้อตุนไว้น่ะค่ะ ขึ้นห้องแล้วก็ขี้เกียจลงมา"
"มา เดี๋ยวป้าช่วยถือจ๊ะ"
เมื่อประตูลิฟท์เปิดออก ทั้งสองคนก็เดินเข้าไปในลิฟท์ เมื่อถึงชั้นสิบแปดก็เดินคุยกันออกมาอย่างสนิทสนม
วันรู้สึกแปลกใจตัวเองที่เอ็นดูจัสมินเป็นพิเศษจนนึกอยากให้ลูกชายตัวดีจีบสาวน้อยคนนี้มาเป็นลูกสะใภ้ให้เธอจัง
แต่เมืื่อมาคิดอีกที จัสมินที่สวยน่ารักขนาดนี้จะยังโสดอยู่หรือเปล่า เธออาจจะมีแฟนอยู่แล้วก็ได้
"อย่าหาว่าป้าอย่างงั้นอย่างงี้เลยนะหนูมะลิ หนูซื้อของเยอะขนาดนี้คงไม่ได้เอาไว้ทานคนเดียวใช่ไหมจ๊ะ?"
"ค่ะ แจ๊สซื้อมาเผื่อเอ่อ .. .."
หญิงสาวเกือบหลุดชื่ออธิปออกมา แต่ก็ยั้งปากไว้ทัน นึกขึ้นได้ในวันแรกที่ทั้งสองมีความสัมพันธ์สึกซื้ง ชายหนุ่มได้พูดไว้ว่า
แล้วอย่าได้คิดเอาเรื่องบนเตียงครั้งนี้มาผูกมัดฉันเด็ดขาด
เธอคงบอกใครเรื่องอธิปไม่ได้ซินะ เพราะเขาคงจะไม่มีวันยอมรับในตัวเธออย่างแน่นอน
"ซื้อมาเผื่อแฟนหรอจ๊ะมะลิ? ไม่ต้องอายหรอกสวยๆอย่างหนูไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะมีแฟน แต่ป้าก็แอบเสียดาย กำลังจะให้ลูกชายป้ามาจีบซะหน่อย"
วันพูดกับเธอทีเล่นทีจริง จนจัสมินแอบขำในคำพูดของหญิงสูงวัยเพื่อนบ้าน
เมื่อถึงหน้าห้องจัสมิน เพื่อนบ้านสูงวัยได้รอให้หญิงสาวไขกุญแจห้อง แล้วจึงถือของเดินตามเจ้าของห้องเข้าไปข้างใน เอาของทั้งหมดไปวางไว้ให้ที่โต๊ะในห้องครัว
☆☆☆☆☆☆☆☆☆
ว่าที่แม่สามีกับว่าที่ลูกสะใภ้เข้ากันได้ดีจริงน้าา
ถ้าชอบ .. ขอคนละคอมเม้นท์น้าาา