หลายวันต่อมา
“มันเกิดอะไรขึ้นเกียร์ ทำไมลูกถึงได้กลับมาในสภาพแบบนี้”
แม่เอ่ยถามฉันหลังจากที่ฉันเอาแต่หลบหน้า เพราะร่องรอยตามเนื้อตัวของฉันยังคงเห็นได้ชัด
“เกียร์ทะเลาะกับพ่อค่ะ วันนั้นพ่อทำร้ายเกียร์”
“อะไรนะ? ”
“พ่อทำร้ายเกียร์ เพื่อปกป้องผู้หญิงคนนั้น”
“โธ่เกียร์”
“เกียร์ไม่เป็นไรหรอกค่ะแม่ อย่างน้อยมันก็ทำให้เกียร์ได้รู้อะไรหลาย ๆ อย่าง”
“แค่ทะเลาะกับพ่อ แค่นั้นหรอเกียร์”
“เกียร์ออกมาจากบ้าน โดยที่ไม่ได้หยิบกระเป๋าออกมาด้วยค่ะแม่ เกียร์เลยกลับมาแค่ที่แม่เห็น”
ฉันเลือกที่จะบอกแม่แค่นั้น
“แม่ขอโทษนะเกียร์”
“แม่ไม่ผิดอะไรเลยค่ะ เกียร์ผิดเอง ผิดที่ไม่ฟังแม่แล้วดื้อดึงที่จะไป”
“สัญญากับแม่นะว่าจะไม่กลับไปที่นั่นคนเดียวอีก”
“ค่ะแม่ เกียร์จะไม่กลับไปที่นั่นคนเดียวอีก”
เพราะที่นั่นมีแต่คนโกหกหลอกลวง
“เกียร์จะว่าอะไรมั๊ยถ้าแม่....”
“แม่พูดมาเถอะค่ะ”
“ถ้าแม่จะตกลงแต่งงานกับคุณไมเคิล”
ฉันรู้เรื่องที่คุณลุงไมเคิลตามจีบแม่มาได้ซักระยะนึงแล้วเหมือนกัน ถ้าแม่จะเริ่มต้นชีวิตครอบครัวใหม่ ฉันก็ไม่มีปัญหาหรอกนะ
“อะไรที่เป็นความสุขของแม่ เกียร์โอเคค่ะ”
ฉันรู้สึกโอเคจริง ๆ การเริ่มต้นชีวิตใหม่ มันก็ต้องเป็นเรื่องดี ๆ ในชีวิตอยู่แล้วนี่ และอีกอย่าง คนที่แม่เลือก เท่าที่ฉันรู้จัก เค้าเป็นผู้ชายที่ดีคนนึงเลย ถ้าไม่ดีจริง แม่คงไม่ตอบตกลง
“เกียร์ไม่โกรธแม่ใช่มั๊ย”
“เกียร์เข้าใจแม่ค่ะ”
“ขอบใจนะเกียร์ แล้วนี่เกียร์จะออกไปไหน”
“เกียร์ไม่อยากอยู่ว่าง ๆ ค่ะแม่ เกียร์ว่ะออกไปหางานพาร์ทไทม์ทำค่ะ”
“เดี๋ยวเกียร์ก็จะเปิดเทอมแล้วนะลูก”
“เปิดเทอมก็ไม่เห็นเป็นอะไรเลยค่ะ ทำงานไปด้วยเรียนไปด้วย เกียร์ไหวค่ะแม่”
“ดื้อขนาดนี้ แม่คงห้ามอะไรไม่ได้หรอก”
แม่ว่าฉัน พร้อมกับมองค้อนมาที่ฉันเบา ๆ
“ขอบคุณนะคะแม่ เกียร์ไปนะคะ”
“อย่ากลับค่ำนะลูก”
“รับทราบค่ะคุณแม่”
ฉันเดินไปกอดแม่ พร้อมกับหอมแก้มทั้งสองข้างหนัก ๆ
“อ้อนเก่งนะเราเนี่ย ไม่รู้จัดโตซักที”
ฉันยิ้มอ่อน ก่อนจะเดินออกมาจากบ้าน เพราะฉันเองไม่อยากอยู่แบบฟุ้งซ่าน เอาแต่คิดถึงคนโกหกคนนั้น ฉันเลยเลือกที่จะหาอะไรทำ
“ฉันต้องเริ่มต้นใหม่ให้ได้ ฉันต้องลืมคนโกหกคนนั้นให้ได้”
@กรุงเทพมหานคร
9CLUB
ผมเข้ามาฝังตัวอยู่ในคลับของเมฆาเป็นเวลาหลายชั่วโมงแล้ว
ผมคิดว่าเวลาผ่านไปผมจะทำใจลืมเด็กนั่นได้ แต่เปล่าเลย
ยิ่งเวลาผ่านไป มันยิ่งทำให้ผมคิดถึงเด็กนั่นมากขึ้นไปกว่าเดิม
“ยังไงครับคุณวายุ ซดเอาซดเอา นี่มึงกะจะกินให้ลืมทางกลับบ้านเลยหรอวะ”
“ไม่ได้หรอ”
ผมก็อยากทำอย่างที่มันว่าจริง ๆ นั่นแหละ แต่ผมไม่ได้จะดื่มให้ลืมทางกลับบ้านหรอกนะ แต่ผมจะดื่มให้ลืมเด็กใจร้ายนั่นต่างหาก
“ไหนอาการมันเป็นยังไง บอกมาซิ๊”
“แล้วมึงว่าอาการกูดูเป็นยังไงวะ”
“กวนตีนแหละตอนนี้”
เมฆมามันด่าผม
“แค่นี้?”
“อกหักมารึไง ถึงได้ดื่มแบบไม่ลืมหูลืมตาแบบนี้”
“มั้ง”
ก็จริงอย่างที่เมฆามันบอก ผมอกหักครับ โดนเด็กหลอกเข้าเต็ม ๆ
“ผู้หญิงคนไหนมันกล้าทิ้งผู้ชายอย่างมึงวะไอ้วา”
ผู้ชายอย่างผม ก็ไม่ได้มีดีกว่าผู้ชายทั่ว ๆ ไปหรอกนะ ผมก็แค่ หล่อแล้วก็รวย แค่นั้น
“บอกไปมึงก็หาไม่เจอหรอก ขนาดกูเองหาแทบตายยังหาไม่เจอเลย”
ผมขับรถวนกลับไปที่ที่เจอเธอครั้งแรกแทบจะทุกวัน แต่ก็ไร้วี่แวว
“งงในงงเข้าไปอีกกู”
“ไม่เอากูแล้วก็บอกกูดี ๆ ก็ได้ป๊ะวะ นี่เล่นหนีไปเลย แถมยังไม่คิดจะถามความจริงจากกูซักคำ”
ผมไม่ได้บอกอีกเรื่องนึง ผมตื่นขึ้นมาในตอนเช้า แล้วเจอกระดาษโน้ตแผ่นเล็ก ๆ แผ่นนึง ใจความสรุปได้คือเธอบอกว่าผมมีครอบครัวแล้ว แต่ยังคิดที่จะหลอกเธอ
และนั่นคงเป็นสาเหตุ ที่เธอหนีผมไปโดยไม่ยอมบอกกล่าว ที่มันน่าเจ็บใจไปกว่านั้น เธอไม่ยอมรับสิ่งของที่ผมมอบให้เลยแม้แต่ชิ้นเดียว
“เรื่องมันเป็นไงมาไงวะ”
“กูอกหัก แค่นั้นแหละ”
ผมตอบสั้นๆ เพราะไม่อยากอธิบายอะไรเพื่อตอกย้ำความเสียใจให้กับตัวเองไปมากกว่านี้
“โว๊ะอะไรของมึงวะ”
“ดื่มเป็นเพื่อนกูหน่อยซิ”
“กูต้องทำงานมั๊ยไอ้วา”
“มึงเป็นเจ้าของคลับ มึงจะหยุดงานแล้วนั่งดื่มเป็นเพื่อนกูแค่คืนเดียว คลับมึงคงไม่เจ๊งหรอกมั้ง”
ถึงคลับมันเจ๊ง มันก็ไม่เดือดร้อนหรอก เพราะฐานะทางบ้านมันใช่ย่อยที่ไหน
“ปากมึงเนี่ยนะ อวยพรได้ดีจริง ๆ ”
“แก้วนี้ดื่มให้กับความใจง่ายของกู”
ใจง่ายที่หลงรักเด็กใจร้านที่พึ่งรู้จักกันได้ไม่นาน
“เออชน!!”
“ส่วนขวดนี้ กูขอดื่มเพื่อลืมเธอว่ะ”