นานจน(เกือบ)ลืมเธอ
ตอนที่ 25
เมื่อสองสามีภรรยาเดินเข้ามาในห้องนอน ณัฐนิธานปิดประตูและล็อคห้องเรียบร้อยเขาก็เริ่มปฏิบัติการง้อภรรยาทันที
"รสา.. พี่ขอโทษนะคะ ขอโทษที่พี่ทำเรื่องงี่เง่ามากมายจนทำให้หนูไม่พอใจ"
คุณสามีเดินเข้าไปสวมกอดภรรยาจากทางด้านหลัง ศิรสายืนนิ่งไม่ไหวติง ในใจเธอยังโกรธเขามากแต่ภายนอกเธอกลับมีสีหน้าเรียบเฉย
"หนูจะด่าจะว่าพี่ยังไงก็ได้ แต่ขอให้หนูพูดกับพี่สักคำเถอะนะ อย่าเงียบแบบนี้เลยค่ะ"
"คุณต้องการอะไร?" หญิงสาวถามด้วยใบหน้านิ่ง
"เอ่อ คือ.. พี่อยากให้หนูยกโทษให้.."
สามีพูดไม่ทันจบดี ศิรสาก็พูดสวนขึ้นมาว่า
"ฉันยกโทษให้ พอใจไหม?"
"แล้วเราจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ไหมคะ? พี่จะกลับมาอยู่กับหนูที่นี่ได้หรือเปล่า?"
เขาวิงวอนน้ำเสียงอ้อนทั้งที่ยังไม่คลายอ้อมกอดจากเธอ
"บ้านหลังนี้เป็นของพี่พิมที่ใช้เงินของคุณสร้างขึ้นมาใหม่ฉันเป็นเพียงผู้อาศัย ไม่มีสิทธิ์ตัดสินใจได้หรอก คุณต้องไปถามพี่พิมเอง"
"หนูยังไม่หายโกรธพี่จริงๆด้วย พี่ต้องทำยังไงหนูถึงจะยกโทษให้พี่คะ?"
"ก็บอกว่ายกโทษให้ไปแล้ว จะเอาอะไรอีกล่ะ?"
ศิรสาตะคอกใส่หน้าสามีอย่างโมโหที่เขาพูดไม่รู้เรื่อง
"ก็หนูพูดประชดนี่ พี่รู้ตัวว่าทำผิดที่ต่อว่าหนูเรื่องวาทิต ก็พี่หึง เวลาเราอยู่ด้วยกันหนูไม่เคยยิ้มหรือหัวเราะกับพี่แบบที่ทำกับวาทิตเลยสักครั้ง ทั้งที่มันก็หลอกลวงหนูเหมือนกันนี่นา"
"แต่ความผิดมันต่างกัน พี่วาแค่นอกใจ แต่คุณทำร้ายครอบครัวฉันจนพ่อฉันต้องไปตายในคุก คุณจะให้ฉันยิ้มหรือหัวเราะกับคนที่ทำลายครอบครัวตัวเองได้ยังไงกัน"
"หนูก็รู้ว่าพ่อหนูทำผิดกฏหมาย ถึงพี่ไม่จับคนอื่นเขาก็ทำอยู่ดี พ่อหนูค้ายาเสพติดแล้วยังมีคดีฟอกเงินอีก ถ้าไอ้ยานรกนั้นถูกส่งไปตลาดมืดได้ จะมีเด็กเยาวชนอีกกี่พันกี่หมื่นคนที่ต้องตกเป็นทาสมัน หนูไม่สงสารเด็กๆเหล่านั้นหรอคะ?"
ณัฐนิธานพูดอย่างเหนื่อยใจที่ต้องมาถกเถียงเรื่องนี้กันไม่จบไม่สิ้น เขาไม่อยากฟื้นฝอยให้เธอต้องเจ็บปวด แต่กลับเป็นเธอเองที่มักจะเอาเรื่องนี้มากั้นกลางระหว่างสามีภรรยา จนกลายเป็นปมในใจมาตลอด
"คุณก็เลยเลือกที่จะสงสารเด็กเหล่านั้นแต่ไม่สงสารฉันเลย คุณไม่รู้หรอกว่าฉันต้องเจอกับอะไรบ้างตอนที่คุณจากไปแล้ว"
ศิรสาพูดด้วยน้ำเสียงที่เศร้าหมอง
"พี่รู้ค่ะว่าหนูต้องเจอกับอะไรมาบ้าง พี่รู้ทุกเรื่องของหนู พี่ลาออกจากตำรวจเพื่อเป็นการไถ่โทษที่ทำไว้กับทุกคน" สามีมองหน้าภรรยาสีหน้าลึกซึ้งก่อนจะพูดต่อ
"พี่ตัดสินใจไปทำงานที่อังกฤษกับแดดดี้เพราะอยากหาเงินให้ได้จำนวนหนึ่ง เมื่อได้มากพอแล้วพี่ก็รีบบินกลับมาหาหนูเพราะอยากจะชดเชยทุกอย่างให้ แม้มันจะเทียบไม่ได้กับสิ่งที่พี่ทำไว้ก็ตาม พี่อยากจะมาอยู่ใกล้ๆคอยดูแลหนูไปจนกว่าเราจะตายจากกัน ตอนอยู่ที่อังกฤษไม่มีวันไหนที่พี่ไม่คิดถึงหนูเลยนะ มันเป็นช่วงเวลาที่ทรมานมากสำหรับพี่"
คำพูดร่ายยาวจากสามีทำให้หญิงสาวนิ่งเงียบ
"ความผิดของพี่ครั้งนี้ หนูพอจะอภัยให้ได้ไหมคะ ที่พี่ทำไปเพราะพี่รักหนูมาก พี่ไม่อยากเสียรสาไปอีกแล้ว ถ้าไม่มีรสา พี่ก็คงจะมีชีวิตต่อไปไม่ได้จริงๆค่ะ"
เธอมองเขาก่อนจะถอนหายใจออกมาอย่างคนที่ตัดสินใจแล้ว
"ฉันยกโทษให้คุณก็ได้ แต่ถ้าภายในหนึ่งปีนับจากนี้ คุณยังโกหกหลอกลวงฉันอีก คุณต้องหย่าให้ฉันทันทีตกลงไหม?"
"ตกลงค่ะรสา เอาตามนั้นเลย แต่ภายในปีนี้ ห้าข้อเสนอเดิมของพี่ยังอยู่นะคะ หนูเอาแหวนแต่งงานมาใส่เดี๋ยวนี้เลยค่ะ"
เขาแกล้งทำเสียงดุออกคำสั่งใส่เธอทันที ซึ่งหญิงสาวก็ตอบกลับด้วยเสียงเรียบเฉยทันควันเช่นกัน
"ฉันขายไปแล้ว"
"รสา พี่รู้ว่าหนูยังไม่ได้ขาย หนูไม่เคยขายแหวนแต่งงานของเราตั้งแต่วงแรกแล้วใช่ไหมคะ"
"ฉันขายไปแล้วจริงๆ คนจนอย่างฉันไม่มีทางเลือกนักหรอก แล้วแหวนของคุณก็ขายได้ราคาสูงซะด้วย"
ณัฐนิธานส่ายหน้าระอาใจกับคำประชดของภรรยา แล้วรีบออกคำสั่งเสียงเข้มใส่เธอ
"หนูจะไปเอามันมาใส่ที่นิ้วเอง หรือจะให้พี่หาให้คะ ถ้าให้พี่ทำเองพี่อาจจะรื้อข้าวของหนูกระจายเลยก็ได้นะ"
คำขู่ของสามีทำให้หญิงสาวสะบัดตัวออกจากอ้อมกอดเขา ใบหน้างอง้ำอย่างขัดใจที่สามีรู้ทันเธอไปซะทุกเรื่อง
โดยเฉพาะเรื่องแหวน
เขารู้ได้ยังไงกันนะ ว่าเธอยังเก็บแหวนแต่งงานที่เขาให้ไว้ทุกวง
อ่อ..ลืมไป ก็เขาเป็นถึงอดีตตำรวจฝ่ายสืบสวนสอบสวนนี่นา คำโกหกของเธอโดนเขาจับได้อย่างง่ายดายซะแล้วซินะ
เธอเดินไปทิ้งตัวนั่งบนเตียง หยิบกระเป๋าถือมาเปิดซิปออกแล้วหยิบกล่องแหวนขึ้นมา เปิดกล่องดึงแหวนเพชรน้ำงามออกมาใส่ที่นิ้วนางข้างซ้าย พร้อมชูมือขึ้นให้เขาดูแล้วถามเชิงประชดว่า
"เอ้า พอใจยัง?"
"พอใจแล้วค่ะ งั้นเราดีกันนะคะ"
สามีพูดอย่างอารมณ์ดีแล้วเดินเข้าไปนั่งใกล้ๆ เธอจึงพยักหน้ารับเบาๆ เขายิ้มเจ้าเล่ห์ยื่นหน้าเข้าไปใกล้จนจมูกชนจมูก ปากชนปาก ถามเธอเพื่อขออนุญาตว่า
"งั้น.. จูบนะคะ?"
ศิรสาที่ใบหน้านิ่งเฉยแม้ความรู้สึกโกรธยังมีอยู่แต่มันเจือจางลงมากแล้ว คำพูดของเขาจึงทำเธออายสามีที่อยู่ตรงหน้า แต่เธอก็เก็บอาการเอาไว้ รีบลุกยืนเดินเอากระเป๋าถือไปวางไว้บนโต๊ะเป็นการแก้เก้อ
ณัฐนิธานยิ้มอ่อนแล้วลุกขึ้นเดินตามภรรยาไป การได้พูดคุยกันครั้งนี้ ทำให้เธอมองเห็นมุมดีๆของเขาขึ้นมาเยอะเลย และหวังว่าเขาจะไม่ทำให้เธอต้องเสียใจอีก เพราะถ้าเขาทำอีกครั้ง เธอจะไม่ให้อภัยเขาอีกแล้ว
คุณสามีตัวดีเดินมารั้งเธอให้หันมาเผชิญหน้ากันเขาโน้มหน้าลงมาจุมพิตที่ปากภรรยาเบาๆ ใช้สองมือประคองใบหน้างามให้เงยขึ้นมาสบตาเขา สายตาลึกซึ้งที่เขามองมาที่เธอทำให้ศิรสารับรู้ได้ว่าเขาสำนึกผิดจริงๆ และคำว่ารักที่เขาบอกเธออยู่เสมอนั้น มันเป็นคำที่เขาพูดมาจากหัวใจที่แท้จริง
หญิงสาวเอื้อมมือเรียวไปลูบไล้ร่างกายสามีไล่ตั้งแต่หัวไหล่ อกหนาล่ำลงมาเรื่อยๆแล้วใช้อ้อมแขนกอดเอวเขาไว้
คุณภรรยาคนสวยเขย่งปลายเท้ายื่นใบหน้าไปหอมแก้มสามีแล้วลามไปที่ปาก เลื่อนสองมือที่โอบเอวเขาไว้ขึ้นไปโอบรอบต้นคอโน้มใบหน้าคนสันให้ลงมารับจูบจากเธอ
การกระทำอันนุ่มนวลของศิรสาทำให้ณัฐนิธานยิ้มอย่างพอใจ ปฎิกิริยาของเธอเกินจากที่เขาคาดการณ์ไว้เยอะมาก จูบหวานๆของภรรยานอกจากจะทำให้สามีเคลิบเคลิ้มแล้ว ยังทำให้เลือดในกายชายหนุ่มสูบฉีดจนพลุ่งพล่านไปทั่วกายไม่มีคำพูดใดออกจากปาก เพราะสองร่างใช้ภาษากายสื่อสารแทนแล้ว
☆☆☆☆☆☆☆
ง้อจนสำเร็จแล้วนะพี่ณัฐ อย่าทำให้รสาโกรธอีกน้าา ไม่งั้นล่ะก็.. โดนพี่อธิปแน่
ถ้าชอบขอคนละคอมเม้นท์น้า