นานจน(เกือบ)ลืมเธอ
ตอนที่ 11
เมื่อจัดการกินยาคุมฉุกเฉินแล้วศิรสาก็เดินกลับมาที่ร้านเพชรแต่ดูเหมือนณัฐนิธานยังไม่ออกมาจากห้อง จึงเดินดูเพชรไปเรื่อยๆแก้เซ็งรอเวลาเขาออกมา
"ชอบชิ้นไหนเป็นพิเศษไหมครับคุณรสา ไอ้ณัฐมันพร้อมเพย์นะครับ"
หญิงสาวหันมาตามเสียง ก็เห็นณัฐนิธานกับชายหนุ่มหน้าตาดีคนหนึ่งยืนยิ้มมองอยู่ก่อน จึงยิ้มให้แล้วส่ายหน้าปฏิเสธ
"ผม..มนต์ธร เรียกว่าธรก็ได้ เป็นเพื่อนกับไอ้ณัฐ ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ"
หนุ่มตี๋หล่อพูดขึ้นก่อนชูมือให้ เธอจึงยื่นมือตัวเองให้เขาสัมผัสแล้วบอกสั้นๆว่า
"รสาค่ะ"
"งั้นกูไปก่อนนะ ต้องเข้าโรงงานก่อนบ่ายโมง มีประชุม ไปก่อนนะครับคุณรสา"
พูดจบมนต์ธรก็ก้มหัวให้เธอแล้วเดินจากไป หญิงสาวหันมามองสามีที่เดินเข้ามาโอบไหล่เธอไว้ พยายามเบี่ยงตัวหลบแต่ก็ถูกมือใหญ่ยึดไว้แน่นขณะพาเธอออกมานอกร้าน
"เดี๋ยวพี่แวะอีกร้านหนึ่งนะคะ อาจนานหน่อยนะ"
ณัฐนิธานกระซิบบอกข้างหู แล้วพาภรรยามาหยุดยืนที่ร้านอาหารจีนสุดหรู ที่เคยเป็นร้านโปรดของหญิงสาว ก่อนที่เขาจะบอกพนักงานว่า
"จองไว้สองที่ ชื่อคุณณัฐครับ"
พนักงานก้มหัวรับทราบ แล้วเดินนำทั้งสองคนมาที่โต๊ะอาหารด้านในสุด ที่สามารถมองเห็นวิวสวยจากด้านนอกอาคารได้จนสุดลูกหูลูกตา หญิงสาวเลือกนั่งฝั่งตรงข้ามกับชายหนุ่ม เขาสั่งอาหารสี่ห้าอย่างที่เป็นของโปรดภรรยาทั้งหมด ก่อนพูดเบาๆ ว่า
"ทานข้าวก่อนนะคะ พี่หิวแล้ว"
ศิรสารับฟังนิ่งเฉยและนั่งเงียบมาตลอด เธอกำลังสงสัยว่า ..
ณัฐนิธานต้องการอะไรจากเธอกันแน่ ทั้งที่เขาก็ได้ในสิ่งที่ต้องการไปตั้งนานแล้ว ยังจะกลับมาอีกทำไม และที่สำคัญตอนนี้เธอก็ไม่มีผลประโยชน์ใดให้เขามาตักตวงได้อีกแล้ว
"คุณต้องการอะไรกันแน่คะคุณณัฐ?"
ชายหนุ่มหันมามองหน้าสวยก่อนขมวดคิ้วแล้วถามกลับว่า
"พี่ต้องการอะไรหรอคะ? ก็ไม่ได้อยากได้อะไรนี่"
"แล้วคุณเข้ามาวุ่นวายกับฉันทำไม?"
"วุ่นวาย? หนูเรียกสิ่งที่พี่ทำว่าวุ่นวายหรอคะ? พี่ก็แค่ทำหน้าที่สามีที่ควรจะทำมาตั้งนานแล้ว ก็เท่านั้นเองค่ะ" ชายหนุ่มพูดสีหน้างุนงง
"พอเถอะค่ะ คุณเลิกแสดงละครได้แล้ว ฉันรำคาญ"
ณัฐนิธานนั่งมองหน้าภรรยาคนสวยอย่างชั่งใจ แล้วลุกจากที่นั่งตัวเองมานั่งข้างๆเธอ เขาเอื้อมมือไปจับมือนิ่มของเธอมาถือไว้ ศิรสานิ่วหน้ามองการกระทำของสามีพยายามดึงมือกลับมา แต่เขาก็ยื้อไว้แล้วใช้อีกมือล้วงกระเป๋ากางเกงหยิบบางอย่างขึ้นมา
ศิรสามองเห็นสามีถือกล่องเล็กๆ กำมะหยี่สีน้ำเงินเข้ม เขาค่อยๆ เปิดมันออกมาจนเธอเห็นเป็นแหวนเพชรวงน้อย ซึ่งมันเป็นแบบเดียวกับ
แหวนแต่งงานของเธอ
แหวนเพชรน้ำงาม ที่เขาให้ไว้ตอนแต่งงานเมื่อสี่ปีที่แล้ว
ณัฐนิธานหยิบแหวนออกมาใส่ให้ภรรยาที่นิ้วนางข้างซ้าย ยกมันขึ้นมาจุมพิตเบาๆ แล้วยิ้มหวานให้เธอ
"แหวนแต่งงานพี่สั่งไอ้ธรทำให้ใหม่แล้ว ต่อไปก็ระวังหน่อยนะคะ อย่าให้มันหายอีกล่ะ" เขาพูดเสียงนุ่มนวล
"มันไม่ได้หาย แต่ฉันเอาไปขายต่างหาก เอาของคุณคืนไปเถอะ เพราะถ้าวันหนึ่งฉันไม่มีจะกินขึ้นมาก็คงต้องเอาไปขายอีก"
ศิรสาพูดเสียงห้วน แล้วดึงแหวนออกจากนิ้วตัวเอง แต่ก็ถูกคุณสามีจับมือไว้ เขาบอกเธอด้วยเสียงแผ่วเบาว่า
"พี่ให้หนูแล้ว มันเป็นสิทธิ์ของหนูที่จะทำอะไรกับมันก็ได้ จะเก็บไว้หรือว่าจะขายก็แล้วแต่หนูเลยค่ะ แต่ถ้าหนูขาย พี่ก็มีหน้าที่สั่งไอ้ธรให้มันทำให้ใหม่ก็แค่นั้นเอง"
"ไม่ต้องห่วง เพราะฉันเอาไปขายแน่"
ภรรยาสาวพูดประชดมองหน้าสามีตัวเองกี่งหมั่นไส้ผสมดีใจ
เขาพาเธอมาที่นี่เพราะจะมาเอาแหวนวงนี้หรอกหรอ?
ธุระของเขาคือซื้อแหวนแต่งงานวงใหม่ให้เธอหรอเนี้ย?
เธอแอบยิ้มในใจแต่ใบหน้าภายนอกกลับเรียบเฉย เพราะไม่อยากให้ณัฐนิธานรู้ว่าเธอปลื้มใจในสิ่งที่เขาทำให้ เป็นจังหวะเดียวกับที่พนักงานนำอาหารมาเสิร์ฟจนครบ เขาจึงพูดกับเธอว่า
"ทานข้าวเถอะค่ะ"
"คุณกลับไปนั่งที่ตัวเองได้แล้ว ฉันอึดอัด"
เธอสั่งเขา แต่ดูเหมือนสามีสุดหล่อจะไม่ได้สนใจฟัง เขาตักอาหารมาไว้ในจานให้เธอแล้วเริ่มทานอาหารของตัวเองอย่างเงียบๆ ปล่อยให้ศิรสาฮึดฮัดอย่างขัดใจไปคนเดียว ก่อนจะลงมือตักอาหารเข้าปากบ้าง
หื้อ.. อร่อยจัง!!
เธอคิดแล้วหลับตาซึมซับรสชาติอาหารที่ไม่ได้ลิ้มลองมานาน เพราะตั้งแต่ตำรวจอายัดสมบัติของพ่อไปจนหมดเธอก็แทบสิ้นเนื้อประดาตัว ไม่เคยได้ทานอะไรดีๆเลยสักมื้อ ส่วนใหญ่ที่ทานประจำจะเป็นบะหมี่กึ่งสำเร็จ ไข่แล้วก็ปลากระป๋อง นี่ก็หรูสุดสำหรับเธอแล้ว หญิงสาวทานอาหารหมดอย่างรวดเร็ว ณัฐนิธานเห็นอย่างนั้นจึงถามขึ้นว่า
"หนูอิ่มไหมคะ? เดี๋ยวพี่สั่งเพิ่มให้"
"พอแล้ว"
เธอตอบสั้นๆ แต่สามีก็เรียกพนักงานมาสั่งอาหารกลับบ้านอีกหลายอย่าง เขาหันมายิ้มให้แล้วพูดว่า
"รอแป๊บนึงนะรสา พี่สั่งอาหารกลับบ้านเอาไว้เป็นมื้อเย็นด้วย"
"ทำไมคุณไม่กลับบ้านคุณไปซะที" เธอถามเขาตรงๆ
"หนูอยู่ที่ไหน พี่ก็อยู่ที่นั่นแหละค่ะ หรือว่าหนูอยากไปอยู่ที่บ้านพี่"
"ไม่!!"
เธอรีบปฏิเสธเขาทันที จนอีกฝ่ายส่ายหัวแล้วยิ้มอ่อน
"พี่ก็คิดว่าอย่างนั้นแหละค่ะ"
☆☆☆☆☆☆☆
หลังมื้อเที่ยงณัฐนิธานพาศิรสาไปซื้อของใช้ส่วนตัว หญิงสาวเลือกเฉพาะของที่จำเป็นเพราะงบมีจำกัด แต่ชายหนุ่มกลับหยิบทุกอย่างที่เขาจำได้ว่าเธอเคยใช้และของใช้ส่วนตัวของเขาเองด้วย โดยไม่สนใจว่าชิ้นนั้นมันจะมีราคาเท่าไหร่
เมื่อจัดการทุกอย่างเรียบร้อย หญิงสาวจึงยื่นเงินในส่วนของเธอให้เขา แต่ชายหนุ่มกลับมองเฉยเธอก็เลยจับเงินยัดใส่มือแล้วเดินออกมาก่อน ปล่อยให้คุณสามีเข็นรถเข็นเดินตามมาห่างๆ เมื่อขึ้นมานั่งบนรถ ณัฐนิธานสตาร์ทเครื่องเปิดแอร์เรียบร้อย แต่เขายังไม่ได้ขับรถออกไปไหนเพราะมัววุ่นวายกับการใช้โทรศัพท์มือถือ
ศิรสาหันมามองเมื่อเห็นเขาจิ้มโทรศัพท์โดยไม่สนใจใคร จึงนั่งรออย่างเงียบๆ เพราะคิดว่าเขาคงคุยกับเพื่อน
อาจจะเป็นคุณมนต์ธรเจ้าของร้านเพชร?
สักพักก็มีเสียงเตือนดังจากโทรศัพท์มือถือของศิรสา เธอหยิบขึ้นมาดูก็ขมวดคิ้วเรียวสวยแล้วหันไปมองคุณสามีด้วยสายตาไม่พอใจ ถามเขาเสียงห้วนว่า
"คุณโอนเงินมาให้ฉันทำไมตั้งเยอะ? แล้วรู้เลขบัญชีธนาคารฉันได้ไง"
เธอถามอย่างหงุดหงิดใจเมื่อเห็นตัวเลขที่เขาโอนเข้ามาให้จำนวน
.. ส อ ง แ ส น ..
"ค่าใช้จ่ายเดือนนี้ หนูเอาไว้ใช้นะคะ ถ้าไม่พอเดี๋ยวพี่โอนให้อีก"
ณัฐนิธานพูดขณะวางโทรศัพท์ที่คอนโซนรถ แล้วเคลื่อนรถออกไปช้าๆ
"เอาของคุณคืนไป ฉันไม่ต้องการ ขอเลขบัญชีด้วย"
เธอพูดจริงจังมองเขาสีหน้าโกรธแต่ณัฐนิธานชิงพูดขึ้นว่า
"แต่พี่พิมต้องการนะรสา หนูก็รู้ดีว่าค่าใช้จ่ายในการล้างไตมันครั้งละเท่าไหร่ ถือซะว่าพี่ช่วยค่าล้างไตของพี่พิมก็แล้วกัน"
คำพูดของณัฐนิธานทำให้หญิงสาวชะงักไป
เขารู้ได้ยังไงว่าพี่พิมป่วยเป็นโรคไต?
แต่ก็ใช่!! ณัฐนิธานพูดถูก
ศศิพิมมีปัญหาเกี่ยวกับไต และการฟอกไตแต่ละครั้งมีค่าใช้จ่ายที่สูงมาก ลำพังรายได้ของเธอคนเดียวแค่ค่ากินค่าอยู่ก็แทบไม่พอแล้ว
แต่ศศิพิมต้องฟอกไตทุกสัปดาห์ ทำให้เงินเก็บของสองพี่น้องที่ได้มาจากมรดกฝั่งมารดาถูกใช้จ่ายไปกับเรื่องนี้จนเกือบหมดแล้ว
☆☆☆☆☆☆☆
รับไว้เถอะรสา เงินสามีก็เหมือนเงินตัวเอง เป็นไรท์จะบอกว่าไม่พอ ขอเพิ่มอีกค่าาา อิ_อิ
ถ้าชอบขอคนละคอมเม้นท์น้า