ตอน
ปรับแต่ง
สารบัญ
ตอนนิยาย ()

ปรับแต่งการอ่าน

พื้นหลังการอ่าน
รูปแบบตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
ระยะห่างตัวอักษร

บทนำ

 

 

 

       

        คืนนี้เขาอยากแอ้มสาวใจแทบขาด...

แต่ทำไมพระเจ้าถึงลิขิตชีวิตให้ต้องอยู่บ้านเป็นเพื่อนเด็กสาว ๆ ที่ยังไม่ทันพ้นรั้วมัธยมปลายดีแล้วริดื่มกินน้ำเมาด้วยวะ

ปรัชญ์ กิติวงศ์ ชายหนุ่มอายุยี่สิบปี ผิวพรรณขาวเนียนไม่แพ้ผู้หญิง แถมหุ่นเพรียวที่น้ำหนักค่อนข้างน้อยกว่ามาตรฐานไม่พอดีกับส่วนสูงหนึ่งร้อยเจ็ดสิบเจ็ดเซนติเมตรนั้น ทำให้ผู้พบเห็นมักจะคิดว่าเขาเป็นเด็กหนุ่มที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ

ถึงแม้จะออกกำลังกายและเล่นกล้ามเหมือนหนุ่มวัยเลขสองส่วนใหญ่ที่มักจะทำกัน แต่ทว่าหุ่นที่สูงชะลูดยังดูเก้งก้างมากกว่ามาดแมน...

ถึงแม้ภายนอกจะดูเหมือนเด็กวัยเอ๊าะ แต่สมองและความรับผิดชอบต่อหน้าที่ทุก ๆ ด้านของชีวิตกลับล้ำหน้าเพื่อนฝูงไปมากโข

โดยเฉพาะบทบาทพี่ชายคนโตที่มี ภัสสร กิติวงศ์ น้องสาววัยห่างกันสามปีเพียงคนเดียวนั้น ทำให้เขาต้องรับผิดชอบดูแลเธอแทนบิดามารดาที่กำลังอยู่ในช่วงขยับขยายบริษัทเคแอนท์ ที เอ็กซ์ปอร์ต ซึ่งเป็นบริษัทส่งออกผักและผลไม้ไทยระหว่างประเทศในแถบอาเซียนของครอบครัวกิติวงศ์มาสามช่วงอายุคนแล้ว

และด้วยหน้าที่พี่ชายที่แสนดีนี้แหละที่ทำให้ช่วงชีวิตวัยรุ่นของเขาต้องเว้าแหว่งไปบ้าง...

แถมชีวิตเช็กซ์ที่เกิดความต้องการตามธรรมชาติต้องถูกควบคุม ซึ่งบางครั้งการเกิดกำหนัดอยากจะแอ้มสาวเหมือนเช่นคืนนี้ก็พลอยสะดุดลงไปด้วย

นั่นทำให้ไฟแห่งความปรารถนาที่ร้อนรุ่มจนเลือดในกายเดือดพล่านไม่ได้รับการบรรเทาเกิดขึ้นบ่อยครั้งมากในหลายเดือนนี้

เซ็งโว๊ย!!

ปรัชญ์นั่งยกขวดเบียร์ขึ้นกระดกเข้าปากเป็นขวดที่สาม แล้วก็เดินกระสับกระส่ายท่ามกลางเสียงเพลงวัยรุ่นสากลของกลุ่มเพื่อนของน้องสาวที่ฉลองสอบเสร็จเป็นเทอมสุดท้ายของโรงเรียนมัธยมปลายที่เล็ดลอดเข้ามาในห้องนอน...

ให้ตาย แค่กำลังจะจบชั้นมอหก เด็กสาวแก่แดดพวกนี้ก็เรียนรู้การดื่มสปายค๊อกเทลแล้วเหรอวะ

และกว่าเสียงเพลงและเสียงพูดคุยกลุ่มผองเพื่อนของน้องสาวจะเงียบลงขวดเบียร์ของเขาก็วางอยู่ข้างเตียงนอนหกขวดพอดิบพอดี

จากนั้นปรัชญ์จึงทำตามหน้าที่คือเดินออกจากห้องนอนไปตรวจดูความเรียบร้อยบริเวณหน้าเทอเรสที่ปราศจากเด็กสาว ๆ สาม-สี่คนที่คุ้นหน้าคุ้นตาเขามาตลอดสาม-สี่ปีนี้... เมื่อเข้าใจว่าทุกคนคงเข้าไปนอนในห้องของน้องสาวเรียบร้อยแล้ว ปรัชญ์ก็เดินเข้าไปห้องนั่งเล่นเพื่อปิดไฟดวงสุดท้าย...

ทว่าเขากลับเห็น น้ำผึ้ง ประภาวงศ์ นอนหลับสนิทอยู่บนโซฟาตัวยาว

ด้วยท่วงท่าตะแคงข้างอย่างเย้ายวนตามประสาสาวที่สูงหนึ่งร้อยหกสิบแปดเซนติเมตร แถมยังมีหุ่นอกเอวสะโพก... สามสิบสี่ยี่สิบสองและยี่สิบสามตามลำดับ

ถึงเขาจะไม่ค่อยชอบหญิงสาวที่ทำตัวก๋ากั๋นเสมือนเป็นสาวมาดมั่น ที่มักแต่งเนื้อแต่งตัวตามสมัยนิยมจนเกินวัยสดใสก็เถอะ แต่ในเมื่อเธออยู่ในกลุ่มเพื่อนสนิทของน้องสาว พี่ชายที่แสนดีเช่นเขาก็ต้องจำใจเผื่อแผ่ความเป็นห่วงเป็นใยมาให้เธอผู้นี้เสมอมาเช่นกัน

บางส่วนอาจจะเป็นเพราะเขานับถือเด็กแก่กว่าวัยคนนี้ที่ขยันขันแข็งทำงานพิเศษหลังเลิกเรียนโดยการเป็นสาวเชียร์สินค้าในห้างสรรพสินค้า โดยเฉพาะแผนกเครื่องสำอางที่มีหลากหลายยี่ห้อ

ซึ่งตอนแรกเขาก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมเพื่อนน้องสาวคนนี้ถึงถังแตกขวนขวายหาเงินหาทองตั้งแต่อยู่ในช่วงวัยรุ่น...

แต่เมื่อรู้จากภัสสรว่าบิดาของเธอเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งปอด และมารดาซึ่งเป็นแม่บ้านก็มีสามีใหม่รับราชการที่มีเงินเดือนไม่ได้มากมายอะไร แถมยังต้องเลี้ยงดูลูกชายที่มีกับสามีใหม่อีกสองคน ทำให้น้ำผึ้งที่อยู่ในวัยสิบเจ็ดปีต้องหาเงินเพื่อมาใช้จ่ายส่วนตัว... เผลอ ๆ เงินที่ได้จากการเป็นสาวเชียร์สินค้ายังต้องแบ่งให้มารดาเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายภายในบ้านอีกด้วย

เฮ้อ ดูเหมือนชีวิตเธอช่างรันทด แต่แม่คนหยิ่งในศักดิ์ศรีกลับไม่เคยคิดอย่างนั้น... เธอกลับสนุกกับประสบการณ์ชีวิตและมีความสุขที่ได้หาเงินเป็นกอบเป็นกำเสียอย่างนั้น

ปรัชญ์ส่ายศีรษะที่เริ่มจะหนักหน่วง จิตใต้สำนึกที่หวังดีต่อสาวน้อยเบื้องหน้าส่งให้แขนแกร่งช้อนอุ้มร่างไร้สติขึ้นมาแนบอก คาดว่าจะก้าวขาไปที่ห้องนอนแขก แต่ไฉนกลับเผลอเดินไปยังประตูห้องนอนของตนเองด้วยความเคยชินเสียอย่างนั้น

ระหว่างที่สมองเบลอเพราะฤทธิ์เบียร์ขวดสีเขียวหกขวด เท้าเจ้ากรรมดันสะดุดพรมหน้าเตียง ส่งผลให้ทั้งสาวเจ้าที่อยู่ในอ้อมแขนและตัวเองล้มไปบนที่นอนหนา ทับร่างนุ่มนิ่มหุ่นเย้ายวนนั่นเข้าอย่างจัง

พอร่างกายสัมผัสที่นอนอันคุ้นเคย และความคิดที่หมกมุ่นอยู่กับฝันราคะกับเดทช่วงหัวค่ำที่เป็นหมัน... เขาก็กระชับอ้อมแขน กกกอดสิ่งที่สมมุติเป็นสาวคนนั้นแล้วเผลอหลับไปด้วยฤทธิ์น้ำเมาทันที

       

เวลาเจ็ดโมงเช้าวันต่อมา...

น้ำผึ้งรู้สึกตัวกึ่งฝันรัญจวนที่มาพร้อมกับความอึดอัดแสนหวาน เหมือนอะไรมาทับหน้าอกหน้าใจและแม้กระทั่งลำตัวท่อนล่าง

มิวาย... มือหนานุ่มเนียนที่มีความสากระคายน้อยนิดได้ลูบคลำหน้าอกผ่านเสื้อยืดพอดีตัวของตนจนเนินทรวงครัดเคร่งที่สุดในชีวิต

โอ... ดูเหมือนไม่ใช่อกอวบของเธอเท่านั้นที่ตั้งชันเสียแล้ว เพราะหน้าท้องแบนราบที่รับกับเอวคอดของวัยสาวยังรับรู้ถึงท่อนแข็งปานเหล็กกล้าบดเบียดเข้ามาหาเป็นจะหวะจะโคนเสียด้วย

แล้วใช่ว่าเธอจะถดถอย... เพราะเรือนร่างที่กำลังครึ่งหลับครึ่งฝันตอบสนองด้วยการแอ่นหยัดอย่างร้อนรุ่มรับแรงถาโถมเข้ากระหน่ำเนื้อตัวประหนึ่งเหมือนคลื่นซัดที่ปลายประสาทมากเกินจะทนไหว

“อืมม์...”

เสียงหวานครางผะแผ่วปลุกเร้าร่างสูงที่กระสันอยากอยู่ตั้งแต่เมื่อคืนวานเกิดอารมณ์คึกคะนองเป็นพิเศษ ส่งผลให้ริมฝีปากที่เป่าลมหายใจบนกระหม่อมบางเคลื่อนไหวไปตามแก้มนวลอย่างเป็นธรรมชาติ... จากนั้นจึงมาจบลงที่ริมฝีปากอิ่มเต็มด้วยอาการกึ่งหลับกึ่งฝันเฟื่องเฉกเช่นเดียวกัน

เมื่อปากพบปากแล้วจึงไม่รอช้า ปากสวาทรีบประกบจูบดูดดื่มริมฝีปากนุ่ม ขมเม้นย้ำหนักหน่วง และเมื่อริมฝีปากอีกฝ่ายเผยอขึ้น ลิ้นกระตือรือร้นได้สอดไล้เข้าไปเกาะเกี่ยวลิ้นเล็กที่ไม่คุ้นเคย...

แต่ทว่ามันกลับโหมให้ร่างกายเขาร้อนเป็นดั่งเปลวเพลิงได้อัตโนมัติ

“อ่าห์...”

เสียงแหบห้าวครางต่ำเบา ๆ ทำให้หญิงสาวที่เห่อร้อนเห่อหนาวจากรสชาติจูบบดขยี้ฝืนลืมตาที่หนักอึ้งด้วยความยากลำบาก...

และแล้วเธอก็เห็นขนตายาวของใครบางคนอยู่เหนือดวงตาเธอ โดยมีฝ่ามือขาวข้างหนึ่งกำลังขยำบีบเคล้นอกอิ่มของเธอเต็มอุ้งมืออย่างเมามัน ส่วนแขนขาวอีกข้างก็ทำหน้าที่กกกอดเธอไว้อย่างแน่นหนา...

ส่วนตัวเธอเองก็กำลังกอดรัดเบียดชิดกับร่างสูงอย่างพอดิบพอดี

โอ... ม่ายยยยย...

การขยับตัวของหญิงสาวเรียกให้ชายหนุ่มที่อยู่ในห้วงฝันลามกรู้สึกตัว

เฮ้ยยย!!”

ว้ายยย!!”

สองเสียงตื่นตระหนกดังขึ้นพร้อม ๆ กับสองร่างผละตัวหนีห่างราวกับเจอของร้อน ต่างก็ผุดลุกขึ้นเด้งตัวขึ้นไปยืนตรงข้างเตียงนอนคนละฝั่ง

เธอมานอนห้องฉันได้อย่างไง!!”

น้ำผึ้งทำหน้างงงวย ดวงตาเบิกโตและก้มมองดูเรือนร่างตัวเองสลับกับจุดแข็งตัวของพี่ชายเพื่อนที่ดันกางเกงนอนชี้พุ่งมาที่ใบหน้าเธออย่างไม่เชื่อสายตา

พี่ปรัชญ์ทำอะไรผึ้งหรือเปล่าเนี่ย ก้มมองดูเสื้อยืดกางเกงขาสั้นสีขาวของตัวเองที่ยังอยู่ในสภาพเดิมด้วยความโล่งใจในระดับหนึ่ง... ซึ่งก็ได้เพียงแค่ระดับเดียวเท่านั้น นั่นเพราะในปากเธอยังมีรสชาติของเขาอยู่เต็มโพรง...

ทำอะไร... ฉันน่าจะเป็นคนถามเธอซะมากกว่านะ ว่าเธอทำอะไรกับฉันบนเตียงนี้ฮึ เพราะนี่มันห้องนอนของฉัน และเธอเข้ามานอนในนี้ได้ไง

น้ำผึ้งอึ้งต่อคำถามของปรัชญ์ไปสิบวินาทีเต็ม

เธอคิดจนหัวแทบแตกก็จำไม่ได้ว่าตัวเองเข้ามานอนในห้องนี้ได้อย่างไร

ส่วนปรัชญ์ตอนนี้หัวสมองยังปวดหนึบจากฤทธิ์เบียร์ที่ดื่มกินไปตั้งหลายขวด ยิ่งจำไม่ได้ว่าตัวเองเป็นคนอุ้มเพื่อนน้องสาวหุ่นเซ็กซี่เข้ามานอนห้องของตนแทนห้องนอนแขก

อ้อ... รู้แล้ว... เธอมาลักหลับกับฉันนั่นเอง…” ปรัชญ์หรี่ตามองอีกฝ่ายอย่างเอาเรื่อง “นี่เธอคิดอกุศลกับฉันใช่มั้ยฮันนี่” คำว่า ฮันนี่ ผุดขึ้นมาในสมองและเอ่ยออกไปโดยไม่ได้ตั้งใจและไม่รู้สึกตัว “เป็นผู้หญิงยิงเรือประสาอะไร กินบนเรือนขี้รดบนหลังคาชัด ๆ ดอดเข้ามาในห้องเจ้าของบ้านยามวิกาล... อย่างนี้ใช้ได้ที่ไหนฮึ...”

อ้ายยยยย...คนบ้า น้ำผึ้งกรีดเสียงร้องโหยหวน อย่า... อย่ามาพูดจาดูถูกผึ้งนะพี่ปรัชญ์... ผึ้งไม่ใช่... และผึ้งก็ไม่ได้เป็นอย่างที่พี่ว่าด้วย...”

“ดูถูก... ใช่ฉันดูถูกจริง ๆ ด้วยแหละ แล้วเธอลองคิดดูสิ ว่าฉันดูผิดตรงไหน” กวาดมือไปบนที่นอนหนานุ่มที่มีร่องรอยการนอนของคนสองคน “หลักฐาน... ความจริง... ก็เห็นกันอยู่โต้ง ๆ ว่าเธอเข้ามานอนบนเตียงของฉัน!” เลิกคิ้วขึ้นเพื่อให้อีกฝ่ายเถียงกลับ

“อี้...  คนทุเรศ มัน... มันจะมากไปแล้วนะ” น้ำผึ้งเชิดหน้าขึ้น คิดหาคำพูดเข้าข้างตัวเองถึงสถานการณ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออกชั่ววินาทีหนึ่ง “มัน... มันเป็นอุบัติเหตุ... เมื่อคืนผึ้งคงเมาและจำผิด คิดว่าห้องนี้เป็นห้องของยัยภัส... อ๊ะ อ๊ะ...” ชี้นิ้วใส่ใบหน้าขาวหยกของพี่ชายเพื่อน “อย่า... อย่าบังอาจยัดเยียดความคิดลามกใส่หัวสมองของคนอื่น เพราะที่จริงแล้วผึ้งชอบผู้ชายเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ย่ะ ไอ้ที่ครึ่ง ๆ กลาง ๆ เข้าครัวทำกับข้าวทำขนมอบเบเกอรี่แบบพี่ปรัชญ์เนี่ยไม่ใช่สเป็คผึ้งแน่นอน... รู้เอาไว้ซะด้วย

“เธอ... เธอ...”

แต่น้ำผึ้งกลับไม่ยอมเปิดโอกาสให้ชายหนุ่มสวนกลับ เพราะเธอพูดจบก็เหยียดสายตามองชายหนุ่มเจ้าของห้องตั้งแต่ศีรษะยันปลายเท้า จากนั้นจึงสะบัดผมยาวหยักศกไล่ระดับสยายเต็มแผ่นหลัง นำพาหุ่นเย้ายวนออกจากห้องคนที่เธอตัดสินให้เป็นชายครึ่งหญิงครึ่งไปเรียบร้อยด้วยความหงุดหงิดหัวใจชะมัดยาด

ชิว์ ใครจะไปลักหลับกับเกย์ได้ลงคอวะ

 

อะโนขอฝากโหลดนิยายเรื่องนี้ที่เวปเมพในราคาเพียง 79 บาทเท่านั้นจ้า... (รอเมพอนุมัติแป๊บนะค้า)

 

แสดงความคิดเห็น

ความคิดเห็นทั้งหมด ()

ยังไม่มีการแสดงความคิดเห็น