บทนำ
บทนำ
#
แอดพี่ลู่
##
เขาเรียกผมว่าไอ้เฉิ่ม
ริมสนามบาสในยามเย็นของมหาลัยคร่าเต็มไปด้วยเหล่านักกีฬาที่กำลังโยนส่งเจ้าลูกวงกลมสีส้มผลัดกันไปมา กัปตันทีมคนหล่อกำลังกระโดดโยนทำคะแนนเพื่อเรียกเสียงกรี๊ดจากเหล่าหญิงสาวริมขอบสนาม ยิ่งทำคะแนนได้มากเท่าไหร่เสียงกรีดร้องก็ยิ่งดังลั่นมากเท่านั้น เจ้าของรอยยิ้มหวานจับใจกำลังยืนทำหน้าพอใจอยู่กลางสนามซึ่งท่วงท่าในแต่ละคราของการเคลื่อนไหว ก็ช่างเป็นไปได้อย่างงดงามสมบูรณ์แบบ
คุณกัปตันทีมอย่าง ฮาย หรือที่รู้จักในนามเซฮายกำลังยืนยิ้มร่าเพื่อแจกยิ้มหวานให้แก่เหล่าแฟนคลับสาวน้อยใหญ่ที่นั่งมองตาเยิ้ม ท่านกัปตันสุดหล่อมองซ้ายมองขวาก่อนที่จะหันมาส่งรอยยิ้มพิฆาตเพื่อเรียกเสียงกรี๊ดอีกรอบ
“ยิ้มอะไรนักหนา ไม่เล่นซักทีหละไอ้ควาย” สุดท้ายแล้ววิมานที่ปานองค์ชายก็ถูกดักชะงักโดยเสียงพูดของเพื่อนร่วมทีม ฮายแสดงสีหน้าแสนเก้อออกมาและสุดท้ายคุณกัปตันของเราก็เริ่มออกตัววิ่งไล่ลูกอีกครั้ง เมื่อเวลาเริ่มเย็น แสงจากรพะอาทิตย์ก็เริ่มเลือนหาย จนสุดท้ายสนามที่เคยเต็มด้วยผู้คนก็เหลือทิ้งไว้เพียงกลุ่มนักกีฬาอย่างพวกเขา
“วันนี้พอแค่นี้ก่อนมั้ยวะฮาย”
“พวกมึงกลับไปก่อนก็ได้ กูยังอยากเล่นต่ออีกนิดว่ะ” เมื่อได้คำตอบแบบนี้เหล่าเพื่อนพ้องอันรักยิ่งก็เริ่มเคลื่อนตัวหายไปทีละคน การเล่นบาสคนเดียวสำหรับคนอื่นอาจมองว่าคือเรื่องที่น่าเบื่อหน่าย แต่สำหรับฮายที่รักบาสเป็นชีวิตจริงใจ ไม่ว่าจะเล่นกี่คนเขาก็มองว่ามันสนุกอยู่ดี ในระหว่างที่เลี้ยงลูกบาเพื่อซ้อมความแม่นจู่ๆสายตาของเขาก็ดันเผลอเบนสบไปพบกับเงาบางอย่างที่ยืนตะคุ่มอยู่หลังต้นไม้
ฮายพยายามจ้องและเพ่งเล็ง
จ้องและเพ่งเล็ง
จ้องและ...
..พรึบ..
“เหี้ย
!
” เสียงร้องว้ากหลุดดังจากริมฝีปากสีสดที่เริ่มซีดจนแทบจะเป็นกระดาษ ฮายเผลอทรุดถอยร่างกายจนนั่งแผละลงกับพื้น ดวงตาคู่สวยพยายามมองจ้องไปยังเงาดำประหลาดที่เริ่มเคลื่อนตัวออกจากมุมมืดของเงาต้นไม้ ผี ผีแน่ๆ... พุทโธ ธัมโม สังโข พุทโธ ธัมโม สังโข พุทโธ ธัมโม สังขัง กะละมัง...
“กะละมัง แค่ก ถุ้ย
!
ไม่ ไม่เกี่ยว
!
” สติสตังที่เริ่มหดหายทำให้ฮายต้องรีบเรียกคืนความมาดแมนของตัวเอง ชายหนุ่มรูปหล่อปีสามกำลังนั่งตบแก้มตัวเองเพื่อเรียกคืนสติ สุดท้ายพอลดความหวานกลัวได้ฮายก็ตัดสินใจลุกขึ้นยืนแล้วทอดสายตามองตรงไปอีกครั้ง
ผีตัวนั้น มันช่าง
ใส่แว่น...
“หื้มม” ฮายหลุดครางในลำคอด้วยความแปลกใจ ความกลัวที่เคยมีก็เปลี่ยนเป็นความสงสัยที่เข้าแทรกแซง ร่างสูงตามมาตรฐานชายไทยตัดสินใจก้าวข้อขาเพื่อพาตัวเองให้ตรงเข้าไปหาเจ้าสิ่งแปลกประหลาดที่มีแว่นเป็นส่วนเด่นของใบหน้า
และนั่นมัน..
“ไอ้เหี้ยซีน
!
โหย ไอ้เฉิ่ม
!
” พอค้นพบว่าคือใครฮายก็จัดการเดินเข้าไปเบิดกะโหลกแม่งที กูหละอยากตบให้หัวสั่น หน้าตาเฉิ่มเบอะไม่พอยังเสือกกล้ามาทำให้คนมาดแมนแบบเขาตกใจจนฉี่แทบราดอีก ส่วนคนที่โดนรังแกก็ยังคงทำเพียงยืนเงียบแล้วใช้สายตามองฮายด้วยความไม่เข้าใจ
อะไรกัน เขาก็ยืนของเขาอยู่เฉยๆ
อยู่ดีๆมาตบหัวกันเฉยเลย...
“มึงมาทำอะไรแถวสนามบาสหะ เห็นหน้าแล้วหงุดหงิด...เดี๋ยวกูก็ตบแม่งอีกรอบ”
“แล้วทำไมผมจะต้องมาสนามบาสไม่ได้ด้วย” นอกจากจะไม่ตอบแล้ว ไอ้เฉิ่มมันยังมีหน้ามาถามเขากลับด้วยใบหน้าแสนใสซื่อที่เห็นแล้วโคตรอยากจะมอบรองเท้าประเคนใส่หน้าให้ ฮายเลิกคิ้วด้วยอารมณ์ครุกครุ่นเพราะตั้งแต่เกิดมามันก็ยังไม่มีใครหน้าไหนที่กล้าเมินคำถามของเขา
แล้วไอ้เฉิ่มนี่มัน...
!
“ทำไมพี่ต้องมองหน้าผมแบบนี้ด้วยหละ ตลกจัง”
“ตลก ตลก ตลกพ่องสิ...
!
กวนตีนกูหรอหะ
!
” ที่หงุดหงิดได้ขนาดนี้ก็เพราะแววตาวาววับภายใต้กรอบแว่นของใครอีกคนที่ปรากฏให้ฮายได้เห็น ไอ้เฉิ่ม มันคือบุคคลที่ไม่ว่าจะกับใครมันก็ต้องยอมเขาไปเสียหมด แต่เรื่องที่น่าเศร้าก็คือ ฮายถือเป็นคนเดียวที่ไอ้คนตรงหน้ากล้าต่อปากต่อคำด้วย ทั้งที่ความจริงแล้วคนที่ซีนควรเกรงมันจะต้องเป็นเขา เขาคือนักเลงหัวไม้ เขาคือกัปตันทีมบาสของมหาลัย ที่สำคัญ เขารุ่นพี่มันนะเว้ย
!
“ไปไกลๆตีนกูเดี๋ยวนี้ ก่อนที่จะโดนกูกระทืบ”
“ไม่ไปครับ”
“ทำไม...”
“ก็พี่น่ารัก”
นะ น่ารัก....
น่ารัก แม่มึงเส่ ไอ้เฉิ่มมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม
!
# # # # # # #
ฝากด้วยน้าาา><
กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น