INTRO...
“ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไปไม่ต้องมาทำงานที่บริษัทผมอีกแล้วนะคุณภีม”
เสียงประธานบริษัทอย่างราชันย์ดังขึ้นสร้างความตกใจเป็นอย่างมากให้กับร่างโปร่งที่ยืนอยู่ตรงหน้าเพราะสีหน้าของเขาเจือนลงไปอย่างเห็นได้ชัด
“ผะ…ผมทำอะไรผิดเหรอครับคุณราชันย์” ภีมวิทธิ์หรือ 'ภีม' ชายหนุ่มนักเรียนนอกที่เพิ่งเรียนจบปริญญาโทและเข้าทำงานกับบริษัทแห่งนี้ด้วยตำแหน่งเลขานุการของประธานบริษัทถามขึ้นอย่างสงสัยระคนเสียใจเป็นอย่างมากเพราะเจ้าตัวเพิ่งจะเริ่มทำงานที่นี่ได้เพียงแค่อาทิตย์เดียวเท่านั้น
“ไม่ผิดหรอกคุณทำงานทุกอย่างที่ผมมอบหมายได้เป็นอย่างดี” ราชันย์ตอบก่อนจะลุกขึ้นยืนจนเต็มความสูงพลางมองไปยังอีกฝ่ายที่ได้แต่ขมวดคิ้ว
“แล้วทำไมคุณถึงไล่ผมออกล่ะครับ” ภีมทำหน้าเศร้าก่อนจะตัดสินใจพูดในสิ่งที่ตัวเขาไม่เข้าใจออกไป
“ใครบอกว่าผมไล่คุณออก” ร่างสูงตอบอีกคนกลับหน้าตาย
“อะไรนะครับ!?” ภีมถามขึ้นอย่างไม่เชื่อหูก่อนประธานบริษัทอย่างราชันย์จะค่อยๆ อธิบายเขากลับ
“ผมไม่ได้ไล่คุณออกเพียงแต่โยกย้ายตำแหน่งของคุณให้ไปอยู่ในความดูแลของเพื่อนผมเท่านั้น”
“เพื่อน?”
“ใช่พอดีตำแหน่งของคุณที่นี่ผมยกมันให้กับพนักงานอีกคนไปแล้ว” ร่างสูงแสยะรอยยิ้มร้ายออกมาอย่างนึกสนุกเมื่อพูดถึงอีกคนที่เขากำลังจะรับเข้ามาทำงานในตำแหน่งนี้แทนภีมวิทธิ์
“พอจะบอกผมได้มั้ยครับว่าใคร” ร่างโปร่งถามขึ้นอย่างสงสัยเพราะกลัวว่าคนที่มาแทนจะทำงานต่อจากเขาได้ไม่ดีเพราะถ้าหากเป็นคนที่เขาพอจะรู้จัก ภีมก็ยังสามารถไปกำชับกับคนนั้นได้
“เขายังไม่เข้ามาทำงานแต่สำหรับคนนี้ผมจำเป็นต้องจ้างเขาจริงๆ” ราชันย์พูดเพียงแค่นั้น แต่มันกลับทำให้ภีมสบายใจขึ้นเพราะร่างโปร่งเชื่อว่าหากราชันย์มั่นใจก็แสดงว่าคนๆ นั้นมีดีพอจะรับตำแหน่งนี้แทนเขา
“แล้วบริษัทเพื่อนของคุณราชันย์?” ภีมวิทธิ์ถามเมื่อยังไม่ทราบข้อมูลของบริษัทใหม่ที่เขาจะต้องไปทำงาน
“จริงสิ ผมลืมไปเลย…นี่เป็นข้อมูลและระเบียบการทำงานคร่าวๆ ที่ทางนั้นส่งมาให้กับผมเพื่อที่คุณจะได้อ่านและทำความเข้าใจก่อนเริ่มงาน” ร่างสูงยื่นแฟ้มบางที่บรรจุเอกสารเพียงสองสามอย่างให้กับร่างโปร่ง
ภีมรับเอาแฟ้มที่ว่าก่อนจะล้วงเอกสารข้างในออกมาและกวาดสายตาอ่านเนื้อความที่ระบุทั้งคุณสมบัติประจำตำแหน่ง ลักษณะงานประจำตำแหน่งหรือแม้กระทั่งเงินเดือนที่เขาจะได้รับซึ่งมันมากกว่าที่นี้อยู่ประมาณนึงจนร่างโปร่งถึงกับเบิกตาโพรง
“เงินเดือน?”
“ตามนั้น”
“งั้นก็คงมีอะไรผิดพลาดแน่ๆ” ภีมแย้งเมื่อจำนวนเงินเดือนที่เขาจะได้สูงกว่ามาตรฐานตามวุฒิของเขาอยู่หลายหมื่น
“เรื่องนี้ผมเองก็ไม่รู้คุณต้องไปถามทางโน้นเขาเองมากกว่าเห็นว่าได้มากกว่าบริษัทผมใช่มั้ย” ราชันย์ถามก่อนที่ภีมจะพยักหน้ายอมรับออกมาอย่างไม่ปิด
“มันก็ใช่ครับแต่ผมคิดว่ามันมากจนเกินไป” ภีมเริ่มหนักใจกับข้อเสนอที่อีกบริษัทให้มาจนไม่กล้าตัดสินใจ
“ไม่มีอะไรมากไปหากทางนั้นเขาเต็มใจจ่ายหรอก เอาเป็นว่าถ้าคุณตกลงเพื่อนผมบอกให้เข้าไปหาวันมะรืนนี้”
“มะรืนนี้เลยเหรอครับ”
“พอดีพนักงานของมันกำลังขาดอยู่เลยเร่งรัดคุณนิดหน่อยไม่ว่ากันนะ”
“เอ่อ…ครับ” ภีมไม่นึกถือสาก่อนจะถอนหายใจและเอ่ยคำพูดออกไปอีก
“ถ้าอย่างงั้นแล้วคุณราชันย์ครับ” ร่างโปร่งเดินเข้าไปหาราชันย์
“มีอะไร”
มือเรียวยื่นออกไปตรงหน้าของร่างสูงก่อนที่คนเป็นนายจะยื่นมือของตัวเองคว้าจับกับมือของอีกคนเอาไว้
“ขอบคุณคุณราชันย์มากนะครับแม้ว่าจะเพียงแค่อาทิตย์เดียวแต่ผมก็ได้เรียนรู้งานจากคุณมาก” ภีมพูดออกมาจากใจจริง
“ขอให้คุณโชคดี” ร่างสูงเองก็เอ่ยอวยพรอีกคนกลับเช่นเดียวกัน
“ยินดีที่หลังจากนี้ไปผมก็เคยได้ร่วมงานกับคุณครับ” ภีมโค้งตัวลงก่อนจะก้าวเดินออกจากห้องไปท่ามกลางสายตาที่ราชันย์ใช้มองอีกฝ่ายจนกระทั่งประตูห้องถูกปิดลงด้วยฝีมือคนข้างนอกอย่างแผ่วเบา ราชันย์ทรุดนั่งลงบนเก้าอี้อย่างคิดหนัก สายตาที่เขาใช้มองไปยังประตูห้องยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน
มันคือสายตาที่เต็มไปด้วยความหนักใจ…หนักใจเมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายกำลังจะเจอกับอะไรที่ตัวเขาเองไม่สามารถห้ามได้นอกเสียจากยอมเล่นตามหมากของเพื่อนอีกคนที่กำชับมาอย่างแน่นหนัก
++++++++++++
ภีมเดินกลับมายังโต๊ะของตัวเองก่อนจะทรุดตัวนั่งลงพลางถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่จนมินตราพนักงานฝ่ายบุคคลที่บังเอิญเดินผ่านมาต้องออกปากถาม
“คุณราชันย์เรียกภีมไปคุยเรื่องอะไรเหรอ”
“ผมโดนย้าย”
“โดนย้าย!?” มินตราตะโกนลั่นอย่างไม่เชื่อหูก่อนที่พนักงานคนอื่นๆ แถวนั้นจะหันมาให้ความสนใจกับพวกเขาทั้งคู่ทันที
“ใช่วันนี้ก็ทำงานวันสุดท้ายแล้วด้วย” ร่างโปร่งพูดออกมาอย่างระเหี่ยใจก่อนจะเอนหลังพิงพนักพร้อมกับปิดเปลือกตาลงเพื่อทบทวนเรื่องที่เพิ่งจะเกิดขึ้น
“ทำไมเร็วแบบนี้ล่ะ” มินตราลากเก้าอี้ที่ว่างบริเวณนั้นมานั่งอย่างใคร่รู้
“ไม่รู้เหมือนกันเห็นว่าทางนั้นขาดพนักงานผมเองก็ยังงงๆ อยู่เลย” ภีมถอนหายใจออกมาอีกระลอกก่อนที่รุ่นพี่ในที่ทำงานคนนี้จะถามขึ้นอีก
“แล้วย้ายไปไหนล่ะ”
“ไม่รู้”
“อ้าว!”
“ก็ผมยังไม่ได้สนใจบริษัทนั้นนี่นาแค่รู้ว่าจะโดนย้ายก็จุกจนพูดไม่ออกแล้ว”
“แต่พี่อยากรู้จังเลยอะภีม” เสียงหวานที่ถูกส่งออกมาโดยขาเม้าท์ประจำบริษัททำเอาภีมที่ปิดพับดวงตาอยู่ถึงกับขนลุก
“ในแฟ้มนี่แหละครับถ้าพี่มินอยากรู้ก็เปิดดูได้เลยแต่ตอนนี้ขอผมทำใจสักพักนะ” ร่างโปร่งเอื้อมมือตบลงบนแฟ้มที่ถูกวางไว้บนโต๊ะก่อนที่มินตราจะหยิบขึ้นมาเปิดดูทันที
“หูย~ ไม่ใช่เล่นๆ เลยนะภีมนี่มันบริษัทคู่ค้ารายใหญ่ของเราเลยนะ” ภีมลืมตาขึ้นก่อนจะถามอีกฝ่ายถึงคำพูดที่เพิ่งจะได้ยิน
“พี่มินว่าไงนะครับ”
“ก็นี่ไง! ทำไมนายถึงไม่รู้เรื่องอะไรอย่างนี้นะ!” มินตราเอ็ดก่อนจะหยิบเอาเอกสารแผ่นดังกล่าวออกมาพร้อมกับยื่นไปตรงหน้าของเขาและชี้ไปยังชื่อบริษัทที่เด่นหราบนหัวกระดาษด้วยท่าทีตื่นเต้น
“ก็ผมเพิ่งมาทำงานได้แค่อาทิตย์เดียวนี่นา ผมไม่รู้หรอกครับว่าใครเป็นมิตรหรือเป็นศัตรู” ภีมที่มองตามปลายนิ้วเรียวพูดขึ้น
“ได้ทำงานที่นี่ก็ไม่ต้องคิดมากแล้วภีมเอ้ย!” นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มกวาดมองเนื้อความข้างในอีกครั้งก่อนจะสะดุดเข้ากับชื่อบริษัทที่ตัวเขาเองกลับไม่รู้จักจนต้องเอ่ยถามเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง
“ขนาดนั้นเลย?”
“แหงล่ะแว่วๆ มาว่าสิ้นปีที่แล้วทำกำไรตั้งหลายร้อยล้านแหนะ” มินตราว่าพลางตาลุกวาว
“โชคดีแล้วกันนะน้องรักไว้ว่างๆ มาหากันบ้างนะพี่คิดถึง” มือเรียวตบลงบนไหลของร่างโปร่งก่อนที่มีนตราจะเดินจากไปในที่สุด
ภีมวิทธิ์หันกลับมามองแผ่นกระดาษตรงหน้าอย่างครุ่นคิดอีกครั้ง ชื่อบริษัทที่ไม่เคยเห็นหากแต่มันกลับทำให้เขารู้สึกคุ้นหูขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ
'CHOM Group Co., Ltd.'
บริษัทนี้ลงทุนจ้างเขาด้วยเงินเดือนสูงขนาดนั้นเพื่ออะไรกันนะ!?
#สั้นไปมั้ยถามใจเธอดู
รออ่านเรื่องนี้กันด้วยนะ
จะพยายามแต่งควบคู่ไปกับ ราชันย์พ่ายรัก
พระเอกนิสัยพอๆ กับราชันย์แหละ (ไม่คล้ายจะเป็นเพื่อนกันได้ไงล่ะ -_-'')
หากใครชอบแนวฉุดกระชากลากถูก็แนะนำเรื่องนี้นะ ฮึๆ
เม้นท์ๆ โหวตๆ เป็นกำลังใจกันด้วยนาาาาา
ฝากเพจด้วยจร้าาาาา