X-SOS 'Devil Guy [ X * Pie R ] 1
ประเทศเกาหลีใต้ 10.30 น.
“พายจัดกระเป๋าเสร็จรึยัง มัวแต่นั่งใจลอย” เสียงของแม่พูดกับหญิงสาวหน้าตาน่ารัก นั่นก็คือ พายอาร์ เธอเป็นลูกสาวคนเดียวและดูเหมือนว่าเธอจะไม่ค่อยอยากหยิบเสื้อผ้าที่กองอยู่ตรงหน้าพับเก็บใส่กระเป๋าตามที่แม่บอกไว้ เธอเอาแต่นั่งถอนหายใจซ้ำแล้วซ้ำอีก อย่างกับว่าการจัดกระเป๋าเดินทางครั้งนี้ พายอาร์ไม่ตกลงและยินดีที่จะไป จากสีหน้าที่ไม่มีความสดใสเลยสักนิด
“ทำไมเราต้องกลับไป อยู่ที่นี่มันก็ดีแล้วนะแม่” เธอพูดออกไป แต่สีหน้ายังคงหมดอาลัยตายอยากแบบเดิม ตรงข้ามกับแม่ของเธอที่ยิ้มบางๆกลับมาให้ ก่อนเดินมานั่งข้างลูกสาวและลูบหัวอย่างเอ็นดู พายอาร์เป็นหญิงสาวที่ดูใสซื่อแต่ก็หัวดื้ออยู่บ้าง
“พ่อก็เสียไปหลายปีแล้ว ตอนนี้พายก็เรียนจบ ใจคอเราจะอยู่เกาหลีไปจนแก่เลยรึไง?”
“แต่..แม่ก็พาพายมาอยู่ตั้งแต่ยังไม่จบมัธยมปลาย แบบไม่มีเหตุผล” พายอาร์พูดออกไปแบบนั้น อีกมือก็คอยหยิบเสื้อผ้าขึ้นมาพับใส่กระเป๋า เพราะเธอรู้ดีว่ายังไงก็ไม่มีทางจะขัดใจแม่ได้อยู่ดี เธอเติบโตในครอบครัวที่มีธุรกิจเงินทองมากมาย แต่มีบางเหตุการณ์ที่ทำให้แม่ของเธอต้องหอบพายอาร์มาใช้ชีวิตที่เกาหลีจนถึงตอนนี้ที่เธอเรียนจนจบ และกำลังกลับไปที่ไทย..
สองวันต่อมา..ประเทศไทย 21.00 น.
-พายอาร์-
“หลายอย่างเปลี่ยนไปเยอะเลยนะ ธุรกิจก็คงไปได้สวยใช่ไหม” ฉันได้แต่นั่งฟังแม่คุยกับคนขับรถที่มารอรับเราสองคนจากสนามบิน ดูแม่จะมีความสุขที่ได้กลับมาที่ไทยอีก แต่ฉัน..กลับไม่รู้สึกแบบนั้นเลยทั้งที่ฉันก็เป็นคนไทยไม่ใช่ลูกครึ่งอย่างใครหรอก แค่รู้สึกไม่ค่อยดีน่ะ
“แล้วคุณนายจะพาหนูพายย้ายมาอยู่ถาวรเลยไหมครับ” หนูพายเหรอ..ฉันว่าตัวเองก็โตขึ้นมากแล้วนะ ฉันอายุยี่สิบเอ็ดค่ะ เรียนจบก่อนเพื่อนคนอื่นหนึ่งปี เพราะชีวิตฉันตั้งแต่จำความได้ก็มีแต่เรียนหนังสือ การเรียนทุกอย่างเลยดูง่ายดายไปหมด
“มันก็หลายปีแล้วไม่ใช่เหรอ แค่ฉันกับลูกกลับมาอยู่เงียบๆ คงไม่มีปัญหาอะไร”
“ปัญหาอะไรหรอแม่ แค่เรากลับมาอยู่ที่ไทยเองนะ” แบบเดิมเลยค่ะ แม่ไม่ยอมตอบคำถามนี้กับฉัน ไม่ว่าฉันจะอายุเท่าไหร่ตอนที่ถาม ถ้าแม่ไม่เงียบก็บอกว่าฉันยังเด็กเกินไปที่จะรู้ และฉัน..ก็ได้แต่เงียบแล้วเก็บความสงสัยไว้แบบนี้ต่อไปไม่มีสิ้นสุด แล้วคงไม่ได้คำตอบ
เอี๊ยดดดดด!!!!
“มีอะไรเหรอ ทำไมเบรกกะทันหันแบบนี้ล่ะ” แม่รีบถาม ฉันเองก็ทรงตัวไม่อยู่เหมือนกันจากแรงกระชากของเบรกรถเมื่อกี๊ แต่คนขับรถไม่ตอบอะไรเลย เอาแต่มองไปรอบๆรถคันนี้ พอฉันมองตามก็เห็นรถสีดำหลายคันขับมาประกบข้างปิดหัวท้ายรถ สภาพตอนนี้รถที่ฉันกับแม่นั่งอยู่เหมือนถูกล้อมให้อยู่ตรงกลาง ถ้าเป็นแบบนี้ก็ขยับไปไหนไม่ได้เลยสิ แล้วพวกนี้เป็นใครกัน
“คนพวกนี้เป็นใครหรอแม่ ทำไมถึง..ถือปืนมายืนข้างรถ”
“พาย..ค่อยๆก้มหัวลงช้าๆ..” ฉันไม่เข้าใจที่แม่บอก แต่แม่ไม่ละสายตาจากผู้ชายกลุ่มนี้เลย ฉันก็ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับเรา หางตาของฉันเหลือบไปมองกระจกด้านข้างก็เห็นแววตาผู้ชายคนนึงจ้องมองฉันเหมือนคิดจะทำอะไร ฉันกลัวสายตาคู่นั้นมากจนมือไม้สั่นไปหมด.
“พายจะโทรหาตำรวจเดี๋ยวนี้” ฉันหมอบลงกับเบาะรถ แล้วพยายามใช้มือที่สั่นไม่หยุดของตัวเองค้นหามือถือในกระเป๋าออกมา
ปั้ง!!!!!
...เลือดกระเด็นเข้าที่หน้าฉันทันทีหลังจากเสียงปืนนัดนั้นดัง ฉันที่หมอบลงกับเบาะเห็นร่างของแม่ค่อยๆร่วงลงมาต่อหน้าต่อตา..
“แม่!!!!!”
[ END Pie R ]
อีกด้าน บนดาดฟ้าตึก
แก๊ก!!
...เสียงเปิดกระป๋องเบียร์ พร้อมกับสามหนุ่มที่นั่งห้อยขาอยู่ขอบตึกบนดาดฟ้าสูง ที่มองฝั่งตรงข้ามได้อย่างชัดเจน เบียร์ในมือที่เพิ่งเปิดไม่กี่นาที เอ็กซ์กระดกแค่ครั้งเดียวเขาก็บีบกระป๋องเปล่าๆจนยุบแล้วโยนลงถังขยะไปชีวิตเขายังคงเดินตามเส้นทางสีดำอย่างเดิม
“เราไม่ได้ไปหาเฮียทัพนานเท่าไหร่แล้ววะ” เอ็กซ์พูดออกมาพร้อมมือที่หยิบบุหรี่มาจุด แต่นิกกับปืนก็ยังเงียบไม่ตอบอะไร..
“ไม่รู้ว่ะพี่ แต่ก็ดีแล้วไม่มีพวกพี่สองคน ชีวิตเฮียทัพคงมีคุณภาพขึ้นเยอะ เชื่อผมดิ”
“เชื่อมึง?” เอ็กซ์เอียงคอแล้วถามปืนแบบหงุดหงิด แต่ปืนไม่รู้สึกรู้สากับแววตาของเอ็กซ์ นั่นทำให้เอ็กซ์จับคอเสื้อปืนไว้แน่น แล้วทำท่าจะผลักปืนให้หล่นลงจากตึก นิกที่มองอยู่หัวเราะอย่างเดียวและเชียร์ให้เอ็กซ์ปล่อยคอเสื้อเพื่อที่ปืนจะหล่นลงไปตายด้านล่าง
“อะไรวะพี่ ผมแค่แซวเล่น แม่งจริงจัง” ปืนพูดแล้วคอยขยับตัวเข้ามาเพราะความกลัว แต่เอ็กซ์ก็ยังแกล้งกระชากไปมาอยู่ดี
“ปล่อยแม่งเลยไอ้เอ็กซ์คนอย่างมันถ้าไม่ถือปืนจะทำห่าไรได้!” นิกพูดและหัวเราะลั่นดาดฟ้า ยิ่งทำให้ปืนหงุดหงิดกับคำพูด
“ไม่มีเฮียทัพ ชีวิตแม่งก็ลำบากเอาเรื่องว่ะ” เอ็กซ์ทำสีหน้านิ่งๆ เพราะพวกเขาสามคนขอเดินออกมาใช้ชีวิตกันเองสักพักใหญ่
“ใจคอพวกพี่จะเกาะไข่เฮียทัพแดกจนแก่ตายเลยไงวะ” คำพูดของปืน ทำให้เอ็กซ์ขมวดคิ้วแล้วกระชากตัวปืนอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เขาดันตัวปืนให้ออกไปนอกระเบียงที่นั่งมากกว่าเดิมทำเอาปืนเบือนหน้าหนีจากความสูงด้านล่าง ที่ตกลงไปก็คือตายอย่างเดียว
“ลำบากเหี้ยไร มึงดูเงินที่กูได้พนันวันนี้ดิวะ เหลือๆ ถ้ามึงตีชนะมวยกรงแบบนี้ทุกวันนะไอ้เอ็กซ์ แป๊ปๆก็รวย!” นิกพูดและเอาเงินปึกหนามาตบแรงๆที่มือ พร้อมสูดดมกลิ่นของเงินนั่นที่นิกโปรดปรานมากกว่าทุกสิ่งอย่างบนโลกใบนี้
“คนอย่างมึงมีเงินเท่าไหร่ก็ไม่พอ เฮียทัพอุส่าห์ยกบ่อนให้ เสือกไปขายแดก”
“แบบนั้นไม่ได้เรียกว่าขายไอ้เอ็กซ์ กูแค่เอาไปฝาก มีเงินเมื่อไหร่กูไปเอาคืนแน่” เอ็กซ์ส่ายหัวกับคำพูดของนิก แต่มือของเขาก็ยังจับคอเสื้อปืนไว้ไม่ปล่อย แต่เหมือนว่าปืนจะไม่ได้ฟังที่พวกเขาสองคนคุยกัน แต่สายตาของปืนกำลังมองบางสิ่งบางอย่าง
“พี่ดูพวกแม่งดิ เอาอะไรมาโยนลงสะพาน” ปืนชี้ไปทางสะพานแขวนฝั่งตรงข้าม ทั้งสามคนพยายามใช้สายตามองรถคันสีดำที่มีผู้ชายหิ้วบางอย่างและโยนลงแม่น้ำใต้สะพานไป แบบที่ไม่มีใครรู้ได้เลยว่าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นก่อนหน้าการทิ้งบางอย่างลงแม่น้ำนั่น
“ห่อถุงดำแบบนั้น จะมีอะไรได้วะ คงเป็นขยะ แดกเบียร์ต่อดิมองห่าไรนานๆ” นิกพูดแล้วโยนเบียร์ให้เอ็กซ์ แต่เขายังคงมอง
“แต่เหมือนผมได้ยินเสียงปืนว่ะพี่” ปืนพูดออกไปแบบสงสัย แต่นิกไม่สนใจรับรู้อะไร มีแค่เอ็กซ์ที่ขมวดคิ้วไปมาและยังมองอยู่
“มึงยิงปืนเยอะ หูแม่งก็เพี้ยน ฟังห่าเหวอะไรเป็นเสียงกระสุนไปหมดไอ้เวร” นิกยังตอบแบบไม่สนโลกและนั่งมองหน้าเอ็กซ์
“จริงอย่างไอ้นิกมันพูด เพราะกูไม่ได้ยินอะไรสักอย่าง”
“แต่ผมได้ยินจริงๆว่ะพี่ ผมยิงปืนมาตั้งกี่ปีทำไมจะไม่รู้วะ ว่าแม่งเสียงยิงกัน” เอ็กซ์จ้องหน้าปืนที่พยายามอธิบายว่าเสียงที่เขาได้ยินมันคือเสียงปืนแต่เอ็กซ์ก็ไม่สนใจ กระชากคอเสื้อปืนเข้ามาจนหล่นไปนอนด้านในระเบียง และกระโดดลงมายืนสูบบุหรี่ต่อ
“สมน้ำหน้าไอ้สัส เพ้อเจ้อดีนัก” นิกพูดแล้วโยนซองบุหรี่ให้กับปืน แต่เขายังถือเงินก้อนนั้นไว้แน่น แล้วกระดกเบียร์แบบสบายใจ
“ส่วนมึงเอาเงินมานี่ดิ!” เอ็กซ์ขึ้นเสียงใส่นิก ก่อนหยิบเงินก้อนนั้นมานับและแยกออกไป ทำให้นิกมีอาการหงุดหงิดหัวเสียทันที
“มึงทำไรไอ้เอ็กซ์ แบ่งเหี้ยไรเยอะแยะแบบนั้นวะ!”
“กูเป็นคนชก ต้องได้ส่วนแบ่งมากกว่าพวกมึง เรื่องง่ายๆมึงอย่าแกล้งบ้าไม่เข้าใจไอ้นิก” เอ็กซ์พูดออกไปแล้วพับเงินใส่กระเป๋า เขาไม่ได้หันไปมองฝั่งสะพานนั้นอีก ไม่มีท่าทีจะสนใจอะไรเลย นอกจากหยิบมือถือแล้วเลื่อนดูเบอร์ผู้หญิงนับร้อย
“พี่จะไปไหนวะไม่อยากรู้เหรอว่า พวกแม่งเอาอะไรมาทิ้ง?” เอ็กซ์ที่กำลังก้าวขาเดินออกมา ก็หันไปมองหน้าปืนอีกครั้ง และหางตาของเขาที่เหลือบมองไปฝั่งสะพาน ได้แอบเห็นกลุ่มผู้ชายกำลังตบตีผู้หญิงใส่ชุดขาวคนนึงก่อนจะอุ้มขึ้นรถและขับออกไป..
“ไม่อยากรู้ ไม่สนใจ ใครจะตาย..ก็ไม่ใช่เรื่องของกู”
กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น