ตึกตัก...
คฤหาสน์สองชั้นหลังใหญ่สไตล์ยุโรป รถยนต์เคลื่อนตัวตามทางทอดยาวตรงเข้าไปทางโรงจอดรถซึ่งสร้างไว้ติดกับข้างบ้าน
พอประตูโรงจอดรถเปิดออก ฉันแทบจะอ้าปากค้างแต่ต้องเก็บกิริยาท่าทางเอาไว้ มองรถแบบเดียวกันของนายนี่ที่จอดเรียงรายเป็นแถวอยู่หลายคัน
เพราะฉันมัวแต่ตะลึงจนลืมลงจากรถ เนิร์สเดินอ้อมมาเปิดประตูรถออกให้
ดูเป็นสุภาพบุรุษมากเลยทีเดียวเชียว..
คาบผู้ชายเลวๆในวันนั้นของเขาตอนนี้ได้หายสาบสูญไปแล้ว
"นายพาฉันมาที่นี่ทำไม?"
เขาพาฉันเดินมาตรงประตูหน้าบ้านบานใหญ่ลายแกะสลักรูปงามไม้ชั้นดี
ฉันมองไปรอบๆอย่างคนสงสัย
"ที่นี่บ้านฉันเอง"
เนิร์สหันมาบอกแล้วเดินนำฉันเข้ามาในบ้าน
ภายในบ้านตกแต่งสไตล์ยุโรป หน้าบ้านมีลานกว้างและสวนหย่อมดอกไม้พรรณไม้นานาชนิด
ส่วนด้านในมีห้องโถงขนาดใหญ่ มีบันไดวนตรงกลางปูพรมสีแดงทั้งพื้น โคมไฟระย้าขนาดใหญ่ติดบนเพดานสีขาวสะอาดตา
ฉันไม่เคยรู้อะไรเกี่ยวกับหมอนี่เลยแม้แต่เรื่องเดียว.. กระทั่งเรื่องฐานะของเขาที่ร่ำรวยออกขนาดนี้ ฉันยังไม่รู้เลย...
"เธอมองฉันทำไม?"
ฉันสะดุ้งตกใจนิดหน่อย เพิ่งรู้สึกตัวว่าเผลอมองเขาซะนาน
"เปล่า..."
ฉันรีบปฏิเสธเสียงแข็ง
"ก็เห็นอยู่ว่ามอง"
"ไม่หนิ ฉันเลิกมองนานแล้ว.."
"ตอนนี้ก็ยังมอง"
เขาเดินไล่ต้อนฉันให้เดินถอยหลังมาเรื่อยๆจนหลังฉันติดกับกำแพงบ้าน
นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันทำอะไรโดยที่ไม่รู้ตัว เดิมทีฉันควรจะซัดหน้าหมอนั่นให้ออกห่างไปซะ! แต่ตอนนี้ร่างกายมันแข็งทื่อทำอะไรไม่ถูกเลย
เอาเถอะ!อย่ามัวแต่คิดอะไรมากเลย รีบๆยั้งตัวเขาไว้ซะก่อน เมื่อได้สติฉันยกมือขึ้นกันตัวเองให้ออกห่างจากเขาทันที แต่แรงของอีกฝ่ายเยอะกว่ามากฉันสู้แรงเขาไม่ได้เลย..
หมอนั่นจับคว้าข้อมือฉันไว้ทั้งสองข้างด้วยมือข้างเดียวของเขา ส่วนอีกข้างยันกำแพงกักตัวฉันเอาไว้ในอาณาเขตของเขา
ให้ตายเถอะ! เขาจะทำอะไรฉัน!?
ใบหน้าของอีกฝ่ายกำลังโน้มลงมาตรงข้างแก้มของฉันเรื่อยๆ
เขาจะแกล้งอะไรฉันอีกล่ะ!?
โธ่เว้ย!! ขัดขืนอะไรไม่ได้เลย..
"ว้ายยย!!! คุณหนู!!"
เสียงเสียงหนึ่งดังขึ้นช่วยชีวิตของฉันเอาไว้ ทำให้เนิร์สหยุดการกระทำนั้นไปอย่างฉุดกึ่ง
เขาถอนหายใจทิ้งเฮือกใหญ่ก่อนจะขยับตัวถอยออกห่างฉัน แล้วหันไปมองผู้หญิงวัยกลางคนที่แต่งชุดแม่บ้าน เธอคนนั้นยืนอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากเราทั้งสองคน
"พี่มุ่ยช่วยไปทำอาหารเพิ่มอีกสักสองเมนูนะครับ"
น้ำเสียงเรียบเฉย แต่ซ่อนความข่มอารมณ์เอาไว้
"คะ ค่ะคุณหนู!"
แม่บ้านคนนั้นตอบรับแล้วรีบวิ่งเข้าครัวไปด้วยท่าทางลนลาน
อะไรกัน!?
แล้วทำไมเขาจะต้องมาจริงจังกับฉันขนาดนี้ด้วย
เมื่อกี้ฉันก็แค่มองเขาเองนะ
หรืออาจจะเป็นเพราะว่าฉันไม่ยอมพูดความจริงกับเขาน่ะเหรอ?
ถ้าหากเป็นเช่นนั้น..
"ใช่ เมื่อกี้ฉันมองนาย! มองนายไม่ได้รึยังไง จำเป็นต้องเล่นกันถึงขนาดนี้เลยหรอ!?"
เขาหันมามองหน้าฉันนิ่ง ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบตึง
"มองน่ะมองได้ แต่เธอชอบปากแข็งไม่ยอมรับความจริง ทำผิดก็ไม่เคยว่าตัวเองผิด ชอบทำตัวเฉยชาไปซะ ทุกๆอย่าง ฉันเลยต้องเล่นงานให้หนักๆแล้วมันก็ได้ผลดีนิ!"
โห....ตอบมาละเอียดยิบเลยแฮะ นายสังเกตฉันมากี่วันแล้วเนี่ย
"เสียงดังไปถึงข้างบนบ้านเลยนะลูก มีเรื่องอะไรกันหรือเปล่า ฮึ.."
เสียงที่ดูเป็นมิตรเอ่ยขึ้นพร้อมผู้หญิงคนนึงเดินลงบันไดบ้านมาทางเราสองคนที่ยืนอยู่ ผู้หญิงรูปร่างผอมเพรียวใบหน้าไม่ได้แต่งแต้มมากนัก เห็นริ้วรอยจากความชราบางส่วนบนใบหน้า ริมฝีปากอมชมพูขยับยิ้มอย่างอ่อนโยน มองฉันตั้งแต่หัวจรดเท้า แล้วมาหยุดอยู่ตรงหน้าฉันอีกครั้งอย่างประเมิน
"ศีรษะไปโดนอะไรมาจ๊ะหนู?"
"......." ฉันไม่ได้ตอบคำถามของอีกฝ่าย
ผู้หญิงตรงหน้าฉันตอนนี้ รูปหน้าคล้ายกับนายเนิร์สเลยแฮะ อย่าบอกนะว่าเธอคือแม่ของเขา
"นี่แม่ฉันเอง"
"......." แม่จริงด้วย
"หนิ..เธอฟังฉันอยู่หรือเปล่า!?"
"......." หมอนี่ถอดแบบมาจากแม่ได้เป๊ะๆเลยสินะ
"นิเธอ..." เนิร์ดพยายามสะกิดฉันเบาๆ แต่ฉันยังคงตาค้างมองแม่ของเขาอยู่อย่างนั้น
"สวยแฮะ"
ฉันเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา คนตรงหน้ายิ้มหวานมาให้ทีนึงแล้วขยับเข้ามาใกล้ฉันเกือบจะประชิดตัว
"คนๆนี้คือแฟนลูกเหรอ?"
กึก!
"ไม่ใช่!" ฉันรีบปฏิเสธเสียงแข็งขึ้นทันควัน สมองปะติดปะต่อได้แล้ว จึงรีบกระพุ่มมือเป็นรูปดอกบัวตูมไหว้พร้อมกับก้มศีรษะลงหนึ่งที
พอฉันเงยหน้าขึ้นก็ได้เจอกับสีหน้าที่ดูจะผิดหวังของคุณผู้หญิงคนนั้น
"สวัสดีค่ะ"
เอ่ยจบฉันวางมือลงข้างลำตัวโดยอัตโนมัติทันที
"หนูชื่อว่าอะไรเหรอจ๊ะ?"
แม่นายเนิร์สพูดพร้อมกับทำท่าจะเข้ามาลูบหัวฉัน ฉันรีบถอยหลบมาอีกทางทำให้เนิร์สต้องรีบคว้าร่างแม่ของเขาที่เกือบจะเซล้มไว้อย่างฉุดลหุ
ฉันเบิกตากว้างมองอย่างตกใจก่อนจะทำอะไรไม่ถูก หันไปทางไหนก็มีแต่คนที่ฉันไม่รู้จักทั้งนั้นเลย... ทุกคนกำลังเพ่งเล็งมาทางฉัน สายตาดูไม่เป็นมิตรเอาซะเลย..
ทำไมเขาต้องพาฉันมาในที่แห่งนี้ด้วย!?
"ฉันจะกลับบ้าน"
ฉันไม่รู้เลยจริงๆว่าควรต้องทำตัวแบบไหนต่อหน้าพวกเขาณเวลานี้
กดดัน และก็เกร็งตัวไปหมด ฉันไม่เป็นตัวของตัวเองเลย...
"คิกๆหนูคนนี้ช่างน่ารักน่าเอ็นดูซะจริงๆเลยนะเนิร์ส.."
แม่นายเนิร์สพูดแล้วยิ้มขำเบาๆ
"แม่ มาครับ นั่งก่อน'
นายเนิร์สพยุงแม่เดินไปนั่งตรงโซฟาสีทองขนาดใหญ่ที่วางอยู่ตรงกลางบ้าน จากนั้นเขาก็เดินมาคว้าข้อมือฉันดึงให้เดินตามมานั่งลงโซฟาอีกตัวที่อยู่ติดกัน
"เธอต้องได้รับบาดเจ็บเพราะช่วยผมเมื่อเช้านี้ เพราะเธอไม่มีที่จะไป ผมเลยอาสาจะดูแลเธอจนกว่าจะหายเป็นปกติครับแม่"
เนิร์สอธิบายแล้วนั่งลงข้างๆฉัน แต่เพราะคำพูดของเขาเมื่อกี้มันทำให้ฉันต้องรีบคลึงตาใส่อย่างไม่สบอารมณ์
"ฉันมีบ้าน..."
เอ่ยเสียงแผ่วเบา
"ขอบใจหนูมากนะที่ช่วยตะเนิร์สลูกชายของน้า งั้นหนูก็พักอยู่ที่บ้านน้าไปก่อนก็แล้วกัน ไว้หายเป็นปกติแล้วค่อยว่ากันใหม่นะจ๊ะ"
จะให้ฉันอยู่ที่นี่เนี่ยนะ!
ฉันนิ่งอึ้ง...
ไม่เอาน่า อย่ามาล้อเล่นกับฉันได้มั้ย!
คุณน้าคนนี้เธอนิสัยดีออกจะเกินไปซะด้วยซ้ำ
จะให้ฉันมาอยู่กับคนอย่างคุณน้าคนนี้น่ะเหรอ ฉันว่ามีหวังคุณน้าเธอได้อกแตกตายกันพอดี
ฉันเองก็ทำตัวไม่ถูกอีกด้วย..
ฉันรีบหันมองหน้านายเนิร์สแล้วส่ายหน้าให้อย่างปฏิเสธ แต่อีกฝ่ายหน้าตึงกลับมาให้
"ครับแม่ เธอจะอยู่ที่บ้านเราสักระยะ"
+++++++++++