เมื่อชมดอกไม้ร่วงจนหนำใจแล้วก็ถึงเวลาที่ทั้งหมดจะได้มุ่งหน้าไปยังร้านอาหารที่เจ้าของที่พักแนะนำฟอเนียเสียที
ท่าทางจะเป็นร้านดังเสียด้วย มาถึงลูกค้าก็จับจองที่นั่งเพียบจนโต๊ะเกือบเต็มแล้ว พอฟอเนียบอกชื่อเจ้าของที่พักไป บริกรที่ร้านจึงเชื้อเชิญให้เข้าไปยังที่นั่งกว้างขวางด้านในของร้าน ทั้งหยางทั้งลี่อิงสั่งอาหารอย่างไม่เกรงอกเกรงใจ เพียงพริบตาเดียวบนโต๊ะจึงเต็มไปด้วยอาหาร
ขนมปังนึ่งทำจากข้าวสาลีเป็นรูปทรงดอกไม้ ซุปที่เสิร์ฟเต็มไปด้วยรสชาติจากทะเลสดๆ เนื้อหมูและเนื้อเป็ดน่าจะเป็นเมนูแนะนำของทางร้าน เนื้อบดละเอียดกับผักหั่นฝอยห่อด้วยแป้งสาลี ทั้งหมดถูกต้มมาในซุปรสอ่อนๆ ทั้งอร่อยและช่วยให้ร่างกายของพวกเขาอบอุ่น
ดูเหมือนอาหารที่ยกมาเสิร์ฟจะเป็นอาหารที่ฟอเนียไม่คุ้นเคยนัก สังเกตว่าเห็นอาหารจานไหนก็เป็นต้องผงะและถามว่าข้างในมีอะไร แต่พอลองกินก็ดูจะติดใจไม่ใช่น้อย
พนักงานวัยกลางคนถือจานพลางโค้งตัวมากระซิบข้างหูฟอเนียว่า
“ทางเราเตรียมเหล้าดอกไม้ไว้ให้นะขอรับ”
ฟอเนียส่งสายตาไปทางหยางแบบอึ้งๆ
เหล้าดอกไม้เป็นเครื่องดื่มที่แตกต่างจากเหล้าโดยทั่วไปเพราะหมักจากดอกไม้ที่ตกลงมาจากปรากฏการณ์ดอกไม้ร่วง
แต่เนื่องจากปรากฏการณ์ดอกไม้ร่วงที่ลดจำนวนลง ตอนนี้จึงมีกฎห้ามผลิตเหล้าดอกไม้ออกมา ปริมาณของเหล้าดอกไม้ที่เคยผลิตกันมาจนถึงปัจจุบันจึงเหลือน้อยเต็มที
แม้จะยังคงมีคนลักลอบผลิตกันอยู่ แต่ก็แทบเป็นสิ่งที่หาไม่ได้ หากจะซื้อขายจึงต้องแลกเปลี่ยนด้วยราคาที่สูง
“เหล้าดอกไม้นี่แรงมากไหม?”
“ก็ใช้ได้เลยนะ”
“ทางเราจะเสิร์ฟให้เฉพาะลูกค้าที่น่าเชื่อถือเท่านั้น หรือจะให้เสิร์ฟแบบผสมน้ำก็ได้นะขอรับ” พนักงานแนะนำเช่นนั้น
ท่าทางจะเป็นเหล้าที่แรงจริงเสียด้วยจึงไม่แปลกที่ฟอเนียจะลังเล แต่หยางสนใจเรื่องราคามากกว่า แม้จะรู้ว่าไม่ต้องจ่ายเองก็ตาม
“เอาแก้วสามขามาหนึ่งใบ เอาน้ำมาด้วย แล้วก็เอาจอกมาด้วยสามจอก” หยางสั่งอย่างว่องไว
“รับทราบขอรับ จะนำมาให้เดี๋ยวนี้”
พอพนักงานหายเข้าหลังร้านไป ฟอเนียก็ถอนหายใจโล่งอกทันที
“ที่ชวนมากินข้าวด้วยกันเพราะตั้งใจอยากจะขอบคุณแท้ๆ...แต่กลายเป็นข้าต้องให้พวกเจ้าช่วยตลอดเลย ถ้าต้องมาคนเดียวข้าก็คงไม่รู้ว่าจะสั่งอะไรยังไง”
“หืม อาหารที่บ้านเจ๊ต่างจากที่นี่มากเลยเหรอ?”
ลี่อิงเอียงคอสงสัยในสภาพเคี้ยวขนมปังกร้วมๆ เต็มกระพุ้งแก้ม
“จ้ะ ต่างกันมากเลย แต่อาหารที่บ้านข้าก็อร่อยมากเลยนะ”
“งั้นเหรอ! แหม คุณตาที่โรงเตี๊ยมนี่ก็รสนิยมใช้ได้ ร้านนี้เนี่ยสุดยอด...โคตรอร่อยเลย”
“จริงเหรอ? ข้าดีใจนะที่พวกเจ้าพอใจ...ว่าแต่ลี่อิง อะไรติดปากเจ้าน่ะ?”
“เอ๊ะ ซวยละ”
เมื่อถูกเตือนลี่อิงก็รีบลนลานเช็ดปาก ฟอเนียที่เห็นท่าทางแบบนั้นของเด็กหนุ่มก็หัวเราะคิกคัก
เป็นลูกน้องที่ไม่ได้เรื่องจริงๆ เลย หยางคิดพลางคีบเนื้อส่งเข้าปาก
ตัวเขาที่กินอาหารคำโตอย่างนี้คงจะเรียกว่าผู้ดีไม่ได้ แต่ก็ช่างเถอะ ปกติชีวิตก็ไม่ค่อยสมพงศ์กับพวกผู้ลากมากดีอยู่แล้ว
ไม่นานนักพนักงานร้านคนเดิมก็นำเหล้ามาเสิร์ฟ บนถาดมีถ้วยดินเผาสามขากับขวดน้ำ มีจอกสามใบวางอยู่ เมื่อของทุกอย่างถูกนำมาวางบนโต๊ะของพวกหยางเรียบร้อยพนักงานก็เดินจากไปอีกครั้ง
“เนี่ยเหรอเหล้าดอกไม้?”
ฟอเนียจ้องถ้วยดินเผาสามขาด้วยความสนอกสนใจอย่างออกนอกหน้า
ถ้วยสามขามีรูปทรงกระบอก ด้านบนมีฝาปิด มีขาสูงๆ สามขา ตรงกลางกระบอกมีมือจับ
“ลองดื่มแบบเพียวๆ กันก่อนดีไหม?”
“อื้ม แต่แค่นิดเดียวเท่านั้นนะ”
ฟอเนียพยักหน้าแล้วรินเหล้าดอกไม้เป็นสีเหลืองอำพันปริมาณเล็กน้อยลงในถ้วยขนาดใหญ่
“ถึงจะเรียกว่าเหล้าดอกไม้ แต่หน้าตาก็ไม่ได้ต่างจากเหล้าทั่วไปเนอะ”
“ได้ยินว่าตอนทำเขาจะหมักดอกไม้ทิ้งไว้ พอเวลาผ่านไปสักพักแสงพวกนั้นก็จะหายไป มองไม่เห็นอีกแล้ว”
“งั้นเหรอ?”
ฟอเนียพยักหน้าเมื่อได้ยินคำอธิบายของลี่อิง ก่อนจะยกจอกเหล้าเข้าปาก ดื่มเข้าไปแค่อึกแรกสาวน้อยก็รีบวางถ้วยเอามือมาปิดปากทันที
“ระ แรงจัง!”
เหล้าแบบนี้เป็นเหล้าที่ไม่มีขายบนเกาะเสือขาว รสชาติของมันมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
ลี่อิงส่งเสียงหัวเราะเมื่อเห็นฟอเนียดูตระหนก
“คิดถูกจริงๆ ที่เมื่อกี้เจ๊ฟอเนียสั่งน้ำมาด้วย”
ระหว่างที่พูดลี่อิงก็รินน้ำเติมลงไปในจอกของเธอเพื่อให้เหล้าเจือจาง
ฟอเนียลองดื่มอีกครั้งอย่างกล้าๆ กลัวๆ ตอนนี้รสชาติเริ่มได้ที่ขึ้นมาหน่อยแล้ว
“ขอบใจจ้ะ ลี่อิง”
“ไม่เป็นไร...เฮ้ย ลูกพี่ ขอข้าบ้างสิ!”
ลี่อิงออดอ้อนแบบนั้นหยางจึงรินเหล้าให้อีกแก้ว...แต่เทไปเพียงแค่นิดเดียวก็วางถ้วยสามขาลง
“เอ๊ะ...น้อยไปรึเปล่า?”
“เจ้าก็กินแบบผสมน้ำด้วยสิ!” พูดเสร็จหยางก็รีบรินน้ำตามลงไปแบบไม่มีจังหวะให้ลี่อิงขัด
เทน้ำลงไปขนาดนี้อย่าเรียกว่าเหล้าผสมน้ำเลย เรียกว่าน้ำที่เติมเหล้าจะเหมาะกว่า
“ลูกพี่เนี่ยใจร้ายจัง!”
ลี่อิงส่งเสียงทักท้วง ฟอเนียเห็นเหตุการณ์ตรงหน้าก็เลยมองลี่อิงด้วยความประหลาดใจ
“ลี่อิงนี่อายุเท่าไรเหรอ?”
“...ข้าอายุสิบสอง”
ลี่อิงตอบคำถามทั้งที่ตกตะลึง ทันใดนั้นฟอเนียจึงพูดขึ้นด้วยสีหน้าจริงจังว่า
“...เจ้าคิดยังไงถึงได้ดื่มเหล้าแรงๆ ตั้งแต่ยังเด็กเนี่ย?”
ที่เกาะเสือขาวเองก็มีเด็กๆ ที่ดื่มเหล้าบ้างเหมือนกัน แต่ตามปกติเด็กๆ จะไม่ค่อยโปรดปรานรสชาติของเหล้ามากเท่าไหร่อยู่แล้ว แค่นำมาแตะๆ ลิ้นเวลาถวายเครื่องเซ่นเท่านั้น
ใช่ว่าเหล้าที่เกาะจะเป็นพิษต่อร่างกาย แต่การจะปล่อยให้เด็กดื่มจนเมาก็อันตรายเกินไป
เช่นเดียวกับฟอเนียเองที่ปกติเธอเองก็ไม่ดื่มเหล้าเช่นกัน
ลี่อิงก็ยังคงอารมณ์ค้างที่ถูกสั่งสอน
“มันก็...แล้วเจ๊ฟอเนียล่ะ อายุเท่าไรเหรอ?”
“ข้าอายุสิบหก”
“แก่กว่าข้าแค่สี่ปีเอง!”
“เพราะอย่างนั้นก็เลยต้องกินแบบอ่อนๆ เหมือนกันสิถูกไหม?”
“...ก็ได้”
ระหว่างที่ลี่อิงยังอารมณ์ค้าง หยางก็รินเหล้าที่ไม่ผสมน้ำลงในจอกของตัวเอง
หยางเองก็อายุได้แค่สิบเจ็ดปี คงไม่ค่อยดีนักหากจะดื่มเหล้าแรงๆ แบบนั้น
แต่ครั้งหนึ่งช่วงที่ยังอาศัยอยู่ในโกดังใต้ดิน เขาเคยฉกเหล้าของเหมยมาดื่มเป็นประจำก็เลยชิน เพียงแต่ยังไม่เคยดื่มเหล้าดอกไม้มาก่อนก็เท่านั้นเอง