กว่าจะได้เวลาออกจากตลาดพระอาทิตย์ก็ตกดินพอดี ขณะที่ฟอเนียกำลังจะมุ่งหน้าไปยังร้านอร่อยที่เจ้าของที่พักแนะนำไว้ เมืองทั้งเมืองก็ถูกย้อมเป็นสีน้ำเงินเข้มของยามพลบค่ำแล้ว
หยางเดินตามหลังฟอเนียที่พูดคุยกับลี่อิงอย่างสนิทสนมเป็นพิเศษพลางคิดว่าวันนี้ต้องอยู่กับยายนี่ทั้งวัน ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมผู้หญิงถึงได้ชอบเที่ยวกับซื้อของได้ไม่ลืมหูลืมตาขนาดนี้
ฟอเนียดูเป็นผู้ลากมากดีมีชาติตระกูล แต่นิสัยกลับไม่ต่างจากเด็กผู้หญิงที่โกดังใต้ดินเลย
จังหวะนั้นเองมีลมพัดมาวูบหนึ่ง เป็นสายลมอบอุ่นแผ่วเบา
ฟอเนียมองขึ้นฟ้าด้วยความตกใจ สายลมนั้นพัดพาเอาดอกไม้มาด้วย มวลดอกไม้ลอยละลิ่วตามลมลงมาจากท้องฟ้าอย่างอ้อยอิ่ง
“ตกลงมาแล้ว” หยางพึมพำพลางแหงนหน้ามองฟ้า
“สุดยอด!” ฟอเนียเบิกตากลมโต
ภาพที่เห็นราวกับเทพนิยาย ดอกไม้ห้อมล้อมด้วยแสงจางๆ จนมองทะลุได้ ราวกับเป็นดอกไม้กระดาษเนื้อบางเบาดุจขนนก หรือไม่ก็เหมือนใครสักคนจุดไฟบนขี้ผึ้งรูปดอกไม้
ฟอเนียยื่นมือออกไปทำท่าจะคว้าดอกไม้ แต่เพียงชั่วขณะที่ดอกไม้สัมผัสมือเธอ มันก็หายวับไปอย่างไร้ร่องรอย
ฟอเนียดูฝ่ามือที่มั่นใจเหลือเกินว่าได้สัมผัสโดนดอกไม้เมื่อครู่ แต่กลับไม่มีความรู้สึกใดหลงเหลือเลย
“สัมผัสไม่ได้งั้นเหรอเนี่ย?”
“เจ้าพวกนี้มันเป็นดอกไม้จริงหรือภาพลวงตาก็ไม่มีใครรู้”
หยางส่งเสียงหัวเราะเฝื่อนเมื่อเห็นฟอเนียดูอาลัยอาวรณ์
ปรากฎการณ์ "ดอกไม้ร่วง" นี้สามารถพบเห็นได้แต่เฉพาะที่เกาะกิเลนเท่านั้น ส่วนเกิดจากอะไรนั้นไม่อาจรู้ได้ ไม่รู้แม้แต่มันคือดอกอะไรหรือว่าบานอยู่ที่ไหน
“เจ๊ฟอเนีย ไปบ่อน้ำตรงลานหน้าพระราชวังกันเถอะ ตรงนั้นสวยกว่านี้อีกนะ!”
ลี่อิงคว้ามือฟอเนียแล้วควบฝีเท้าออกไป ฟอเนียที่หลงใหลดอกไม้รีบตามไปจนเกือบเสียหลักกลิ้งล้ม
“ลี่อิง! จู่ๆ จะวิ่งออกไปแบบนี้ไม่ได้นะ!”
หยางตวาด แต่ลี่อิงก็ยังไม่หยุด
“ลูกพี่ มาเร็ว!”
ทำไมต้องเสียแรงวิ่งไปดูด้วยวะ หยางเดาะลิ้นอย่างไม่พอใจนัก แต่ก็วิ่งเหยาะๆ ตามทั้งคู่ไป
ดอกไม้ที่ร่วงหล่นมาโดนไหล่และหลังของทั้งสามที่กำลังวิ่งระเบิดออกเป็นแสงวาบแล้วก็หายวับไป
ร้านรวงริมถนนที่คนขายกำลังจะแควนโคมไฟให้ความสว่าง เมื่อเห็นดอกไม้ที่ร่วงหล่นลงมาก็พากันหยุดชะงักโดยไม่รู้ตัว
สถานที่ที่ลี่อิงพาฟอเนียมาคือลานกว้างหน้าพระราชวังจักรพรรดิ
พระราชวังแห่งนี้ล้อมด้วยกำแพงสูงตระหง่าน หน้าประตูมีเหล่าทหารใส่เกราะคอยคุ้มกัน หากคนธรรมดาอย่างหยางเข้าไปใกล้คงถูกไล่ออกมาในชั่วพริบตาเป็นแน่ แต่บริเวณด้านหน้ามีลานกว้างขวางที่เปิดให้คนทั่วไปเข้ามาเยี่ยมชมได้ บริเวณรอบๆ ลานกว้างมีต้นไม้ใหญ่เขียวขจี ห่างออกไปจากวังหลวงมีมุมหนึ่งสร้างเป็นบ่อน้ำ มีสะพานโค้งที่มีรั้วลูกกรงสีแดงสดพาดผ่าน
บนสะพานโค้งมีกลุ่มคนมาชุมนุมกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ลี่อิงตาดีที่เจอที่ว่างจึงลากฟอเนียไปทางสะพานโค้งแห่งนั้น
“เอ้า ดูสิเจ๊!”
“ดอกไม้จมลงไป!”
ฟอเนียที่ถูกคะยั้นคะยอให้ไปดูที่บ่อน้ำส่งเสียงร้องด้วยความตกใจ หยางที่เพิ่งตามมาทันทั้งสองทันเห็นภาพดอกไม้ที่กำลังส่องแสงกำลังจมลงไปในบ่อน้ำ
ช่างน่าพิศวง
ดอกไม้นั้นหากหล่นกระทบพื้นหรือร่างกายคนจะหายวับไป แต่หากกระทบโดนน้ำกลับยังรักษารูปทรงให้คงเดิมเอาไว้ได้
“ที่นี่มีดอกไม้ร่วงลงมาจากฟ้าจริงๆ ด้วย! ว่าแล้วเชียวว่าเกาะกิเลนต้องเป็นเกาะที่ได้รับความรักจากเทพเจ้าเป็นพิเศษ”
ฟอเนียปีนขึ้นรั้วลูกกรงเพื่อให้เห็นภาพได้ชัดขึ้น
“เฮ้ย เดี๋ยวก็ตกลงไปหรอก!” หยางออกปากเตือน
เห็นภาพนั้นแล้วบรรดาสาวๆ ชาวเกาะกิเลนที่อยู่แถวนั้นคงนึกเอ็นดูนักท่องเที่ยววัยเยาว์จากเกาะเสือขาว จึงส่งเสียงทักทายมา
“คุณหนูเพิ่งเคยมาเที่ยวที่ดินแดนเทพกิเลนเป็นครั้งแรกเหรอจ๊ะ?”
“อ๊ะ ใช่จ้ะ ครั้งแรกเลย” ฟอเนียที่รู้สึกว่ามีคนเรียกหันไปสนทนาด้วย
“ถ้าเช่นนั้นคุณหนูก็โชคดีมากเลยนะที่ได้เห็นดอกไม้ร่วงที่งดงามเช่นนี้”
ฟอเนียดูอึ้งไปไม่น้อยเมื่อได้ยินประโยคนี้ คงไม่เข้าใจว่าตัวเองโชคดีอย่างไร ลี่อิงจึงพูดแทรกขึ้นมา
“ถ้าเป็นตอนกลางวันจะไม่มีทางได้เห็นดอกไม้สวยๆ แบบนี้หรอกนะ”
“ใช่ ยิ่งไปกว่านั้น เดี๋ยวนี้ดอกไม้ร่วงก็เริ่มลดปริมาณลงไปเรื่อยๆ แล้วด้วย”
“จริงเหรอ?”
พวกสาวๆ ส่งสายตาไปที่บ่อน้ำ
“ใช่แล้วจ้ะ หลายปีแล้วที่เป็นแบบนี้ ปรากฎการณ์ดอกไม้ร่วงที่ปกติจะเกิดขึ้นทุกสัปดาห์ เดี๋ยวนี้กลายเป็นซักสองสามสัปดาห์โน่นแหละถึงจะร่วงซักครั้ง”
“น้อยลงขนาดนั้นเลยเหรอเนี่ย?”
“ใช่จ้ะ บ้างก็ว่าเพราะลมเปลี่ยนทิศ บ้างก็ว่าพลังปกปักรักษาขององค์เทพีถดถอยลง”
“พลังปกปักรักษาขององค์เทพีน้อยลงงั้นเหรอ?” ฟอเนียพึมพำด้วยความกังวล
แต่เพราะไม่รู้ว่าดอกไม้ร่วงลงมาจากที่ไหน จะให้หาสาเหตุก็คงลำบาก
เชื่อกันว่าดอกไม้ที่ร่วงหล่นเปรียบเหมือนพรแห่งความสุขจากองค์เทพี ดังนั้นการที่ปริมาณของมันลดลงจึงทำให้ผู้คนหวาดเกรงอย่างบอกไม่ถูก
“ก็แค่เรื่องที่พูดต่อๆ กันมาเท่านั้นเอง จริงไม่จริงเราก็ไม่รู้ซักหน่อย แค่ได้มาเห็นดอกไม้ร่วงแบบนี้ย่อมหมายความว่าการเดินทางมาที่นี่ของเธอต้องมีเรื่องดีๆ เกิดขึ้นแน่”
“ขอบคุณนะ”
“อ้อ ถ้าอย่างนั้นหนุ่มๆ ก็ช่วยพาคุณหนูน่ารักคนนี้เที่ยวให้สนุกละ”
ผู้หญิงคนหนึ่งในกลุ่มนั้นกล่าวทิ้งท้ายไว้กับหยางกับลี่อิงก่อนจะจากไป
สำหรับหยางนี่เป็นการช่วยเหลือที่เกินจำเป็น แต่สำหรับลี่อิงดูท่าทางจะไม่ยี่หระ แถมยังยิ้มแย้มและตอบรับเสียด้วยว่า "ไว้ใจข้าได้เลย"
ขณะนั้นฟอเนียเบนสายตากลับไปมองที่บ่อน้ำอีกครั้ง ไม่รู้เพราะติดใจคำพูดของหญิงคนนั้นหรืออย่างไร
หยางมีความรู้สึกแปลกๆ และอดคิดไม่ได้ว่าเธอคนนี้มักจะไว้ใจและเชื่อถือคนอื่นอย่างง่ายดายเกินไป แค่มีคนพูดว่าพลังปกปักรักษาขององค์เทพีถดถอยลงก็ดูมีท่าทีกังวลขึ้นมาเสียแล้ว แถมยังยื่นตัวลงบ่อน้ำไปมากเสียขนาดนั้นมันจะดีหรือ?