บทที่10เพียงความฝัน
3 กรกฏาคม 2402
ช่วงกลางฤดูร้อน
พระอาทิตย์ดวงโตโพล่พ้นขอบฟ้า แสงแดดยามเช้าสาดส่องสว่างไสว สายลมพัดพากระแสลมอันร้อนแรง
หยางเฉิงตื่นนอนเช้าก่อนอาบน้ำแต่งตัวไปเรียนพิเศษตามปกติ วันนี้เขาสามชุดลำลองแขนสั้นและกางเกงขายาวเข้าชุดกัน
หลี่ลู่หลานมาส่งลูกชายถึงโรงเรียนในเวลา 7.40 นาที หยางเฉิงกล่าวลาก่อนเอากระเป๋าเป้ไปบนชั้นวางของ ซึ่งตู้วางของก็ตั้งอยู่ในมุมหนึ่งของห้องสอน
"อรุนสวัสดิ์หยางเฉิง"
"อรุนสวัสดิ์ค่ะพี่ชายเป่ย"
วังต้าเหมาโบกมือทักทายเขา คนที่ยืนอยู่ข้างเขาคือหลิวอิง หยางเฉิงพยักหน้ารับก่อนเดินตรงไปหาทั้งสองที่นั่งอยู่บนพื้น
"หลังจากนี้อีก 3 วันหลังเลิกเรียนไปเที่ยวที่บ้านฉันไหม มันเป็นนี้วันเกิดของคุณแม่ ที่บ้านจะจัดงานเลี้ยงฉลองวันเกิดให้กับแม่ของฉัน"
วังต้าเหมาเอ่ยปากชวนเพื่อนทั้งสองตามกล่าวของผู้เป็นแม่
"ฉันพาครอบครัวไปด้วยได้ไหม คุณพ่อต้องไม่อนุญาตให้ฉันไปคนเดียวแน่ๆ"
หลิวอิงเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเป็นกังวล
"ได้แน่นอน หยางเฉิงนายก็พาครอบครัวมาด้วยสิ"
"อืม ไว้พักเที่ยงโทรศัพท์บอกแม่ ท่านจะได้มีเวลาจัดเตรียมของขวัญตั้งแต่เนิ่นๆ"
เขาไม่แน่ใจว่าพ่อของเขาจะไปไหม แต่แม่ของเขานั้นค่อนข้างสนิทสนมกับคุณน้าจื่อหลิน เธออาจจะไป เขาหวนนึกถึงภาพใบหน้าของสวยงามอ่อนเยาว์ของเธออย่างช่วยไม่ได้ แววตาของเขาทอประกายลึกลับยากจะคาดเดาออกมาวูบหนึ่ง
"นายมีโทรศัพท์ด้วยเหรอ"
วังต้าเหมาตาเป็นประกายแวววาวด้วยความตื่นเต้น หยางเฉิงพยักหน้ารับ
"แม่เพิ่งพาไปซื้อเมื่อวาน"
"น่าอิจฉาจริงๆ ฉันเองก็อยากมีโทรศัพท์บ้างเหมือนกัน"
ทั้สามพูดคุยกันอีกสักพักก่อนที่อาจารย์สอนจะเดินเข้ามาในห้อง เพราะได้เวลาเริ่มต้นการสอน
"ครูมีชื่อว่า หลู่หยาง นับตั้งแต่วันนี้จะเป็นคนสอนทักษะการเล่นกีฬาเทควันโดทุกคน ขอให้นักเรียนทุกคนมาเข้าแถวเรียงหน้ากระดาน"
ครูสอนกีฬาเทควันโดที่มีชื่อว่า หลู่หยาง นั้นเป็นชายวัย 40 ปีที่มีท่าทางเคร่งขรึม เขาอยู่ในชุดสีขาวล้วน มีสายผูกเอวสีดำ บอกให้รู้ว่าเขาเป็นนักกีฬาเทควันโดสายดำ
หลู่หยางกราดตามองนักเรียนทุกคน ซึ่งเกือบทั้งหมดเป็นเด็กผู้ชาย มีเด็กผู้หญิงเพียงคนเดียวในห้องนั้นคือหลิวอิง
"เอาล่ะ ดีมาก ต่อไปครูจะมอบชุดเทควันโดให้กับทุกคน ได้รับแล้วให้เดินตามพี่เลี้ยงไปเปลี่ยนชุดที่ห้องเปลี่ยนชุด"
หลู่หยางแจกชุดให้กับนักเรียนทุกคนตามขนาดไซต์ที่พ่อแม่ของเด็กได้ระบุเอาไว้ หลังจากนั้นเขาได้ส่งสัญญาณให้ครูพี่เลี้ยงประจำห้องสอนพาเด็กๆไปเปลี่ยนชุด
"มา เดี๋ยวครูช่วยเปลี่ยนชุดให้"
ครูพี่เลี้ยงเสนอความช่วยเหลือ ด้วยคิดว่าเด็กในวัยนี้ยังไม่สามารถเปลี่ยนชุดเองได้
"ผมเปลี่ยนเองได้ครับ"
หยางเฉิงบอกกับครูพี่เลี้ยง เขาถือชุดของตัวเองแล้วเดินเข้าไปเปลี่ยนในห้องเปลี่ยนชุด ใช้เวลาไม่นานเขาก็เดินออกมาพร้อมกับชุดแต่งกายที่เสร็จเรียบร้อย
"พี่ชายเป่ย พี่ช่วยฉันเปลี่ยนชุดได้ไหม"
หลิวอิงจับชุดเอาไว้ในอ้อมแขน หยางเฉิงเดาว่าครูพี่เลี้ยงคงกำลังช่วยเด็กคนอื่นเปลี่ยนชุดอยู่
"ได้สิ"
เขาพาเธอเดินเข้าไปในห้องเปลี่ยนชุดที่เขาเพิ่งเดินออกมา
"เธอถอดเสื้อกับกระโปรงออกเองได้ไหม"
เขารู้สึกอึดอัดเล็กน้อย ท้ายที่สุดเธอยังคงเป็นผู้หญิง แม้จะยังเด็กอยู่ก็ตาม
"ได้ค่ะ"
หลิวอิงไม่ได้คิดมาก เธอเริ่มต้นการถอดเสื้อผ้าของตนออก จนเหลือเหลือกางเกาชั้นในตัวเดียว เผยให้เห็นผิวกายสีขาวหิมะเนียนนุ่มละเอียดอ่อน
"แล้วต้องทำยังไงต่อค่ะ"
หยางเฉิงหยิบชุดของเธอขึ้นมาแล้วเริ่มแต่งตัวให้เธอ หลิวอิงมองมือเล็กของเขาที่กำลังช่วยเธอแต่งตัวอย่างเพลิดเพลิน
"เสร็จแล้ว"
เขาลอบถอดหายใจด้วยความโล่งอก พลางสัญญากับตัวเองว่าจะไม่ช่วยเธอเปลี่ยนชุดอีก เพราะเขารู้สึกว่าตนเองกำลังเอาเปรียบเธอเพราะมีเจตนาที่ไม่บริสุทธิ์ ยังไงซะเขาก็เป็นผู้ชาย ทั้งอายุวิญญาณของเขาก็ไม่ใช่เด็ก หากนับกันตามอายุขัยในใบโลกนี้ เขาสามารถเป็นปู่ทวด 4 ช่วงอายุก่อนหน้าของเธอได้เลย
"เราออกไปข้างนอกกันเถอะ"
"พี่ชายเป่ย ฉันรู้ว่าภายนอกพี่ดูเฉยชา แต่จริงๆและพี่เป็นคนใจดีและใส่ใจคนรอบข้างมาก"
หลิวอิงจับกุมมือของเขาพยางยกยิ้มน่ารักบนใบหน้า
"ไร้สาระ"
หยางเฉิงหน้าแดงเล็กน้อย เขาแกะมือของเธอออกก่อนจะเดินออกไปด้านนอกอย่างงุนง่าม
ใช้เวลา 30 นาทีในที่สุดทุกคนก็เปลี่ยนชุดเสร็จ ครูพี่เลี้ยงจึงพาพวกเขากลับไปที่ห้องเรียน อาจารย์หลู่หยางบอกให้เด็กจับคู่กัน
"ฉันจะจับคู่กับพี่ชายเป่ยค่ะ"
หลิวอิงเลียริมฝีปากอย่างน่ารัก หยางเฉิงได้แต่ส่ายหน้าเอือมระอา แต่ไม่ได้ปฏิเสธ
เมื่อทุกคนจับคู่กันแล้วคุณครูจึงได้เริ่มสาธิตท่าทางการฝึกเล่นขั้นพื้นฐาน
"โอ๊ยย!!"
ขณะก้าวถอยหลังหลิวอิงกลับสะดุดเท้าตัวเองล้มก้นจ้ำเป้าบนเบาะกันกระแทก
"เป็นอะไรรึเปล่า เจ็บตรงไหนไหม"
หยางเฉิงมีสีหน้าตื่นตระหนกพลางรีบปรี่เข้าไปถึงตัวเธอ
"ฉันไม่เป็นไรค่ะ แค่เจ็บก้นนิดหน่อย"
มือเรียวเล็กลูบก้นตัวเองป่อยๆ
"ระวังหน่อยสิ"
เขาถอนหายใจ พอดีกับอาจารย์หลู่เดินเข้ามาดูอาการด้วยความเป็นห่วง
"หนูไม่เป็นไรค่ะ"
ครูหลู่สั่งให้เธอได้พักก่อนชั่วคราว และให้หยางเฉิงมาฝึกซ้อมกับเขาแทน ซึ่งเขาจดจำและร่วมฝึกกับครูฝึกได้อย่างราบรื่น ทั้งยังได้รับคำชมจากครูฝึก
หลังเลิกเรียนหยางเฉิงเลี้ยงไอติมวังต้าเหมาและหลิวอิงตามสัญญา
......
ตกดึกในคืนนั้น
ร่างเล็กนอนหลับอยู่บนเตียงกว้าง คิ้วของเด็กน้อยขมวดเข้าหากันแน่น จิตใจของเขาจมดิ่งลงไปในห้วงแห่งความฝันหรือความจริงก็ไม่อาจตัดสิน
เขาเหมือนคนที่กำลังตกอยู่โลกที่เต็มไปด้วยความว่างเปล่า รอบกายมืดมิดและหนาวเหน็บ กาลเวลาและอวกาศราวกับถูกหยุดนิ่ง
ตึก! ตึก! ตึก!
เขาได้ยินเพียงเสียงเดินของตัวเอง รอบด้านมีเสียงความมืดมิดอันไร้ที่สิ้นสุด ไม่ว่าจะเดินไปไกลแค่ไหมก็ไม่สามารถมองเห็นปลายทาง คิ้วของเขาขมวดเข้าหากัน เขาลดสายตามองร่างกายของตัวเอง แต่กลับถูกความมืดมิดคล้ายเมฆหมอกหนาทึบบดบังจนมองไม่เห็นอะไร
ที่นี่ที่ไหนกัน!
หยางเฉิงได้เอ่ยถามกับตัวเองในใจ เขาหยุดเดินแล้วใช้มือลูบคลำสัมผัสร่างกายของตัวเองเพื่อยืนยันข้อสงสัยอะไรบางอย่าง
"เป็นไปไม่ได้"
ดวงตาของเขาฉายแววตื่นตระหนก นี่มันเรื่องอะไรกัน ทำไมเขา.....
ตึก! ตึก! ตึก!
ยังไม่ทันที่เขาจะคิดสิ่งใดออก เมื่อหูของเขาได้ยินเสียงเหมือนคนกำลังเดิน แต่มันจะเป็นไปได้ยังไงในเมื่อตอนนี้เขาหยุดยืนอยู่กับที่
เสียงนั้นเหมือนดังอยู่ไม่ไกล แต่เขากลับไม่สามารถมองเห็นอะไรได้เลย เขาพยายามเพ่งสายตามอบไปรอบๆ
ตึก! ตึก! ตึก!
ยังคงเป็นเสียงเดิม เพียงแต่คราวนี้จังหวะการเดินกลายเป็นเร็วขึ้น
สิ่งที่เขารู้แน่ชัดคือในตอนนี้เขาอยู่ในร่างเดิมก่อนที่จะเสียชีวิต
"หรือว่าในความเป็นจริงแล้วข้ายังไม่ตาย และทุกสิ่งที่เห็นของการเกิดใหม่คือภาพลวงตา"
เขารู้สึกสับสนจนจับต้นชนปลายไม่ถูก ในสถานการณ์ที่คาดเดาไม่ได้ แทนที่เขาจะร้อนรนจิตใจของเขายิ่งสงบนิ่งและเยือกเย็นยิ่งกว่าเดิม
ตึก! ตึก! ตึก!
นอกจากจังหวะการเดินเขายังได้ยินเสียงอัตราการเต้นของหัวใจบีบหนักถี่รั่ว
'เธอเป็นใครกันแน่'
เสียงพูดของใครคนหนึ่งดังขึ้นท่ามกลางความมืดมิด
"ใคร ใครที่กำลังพูด"
เขาเอ่ยถาม แต่กลับไม่มีเสียงตอบกลับ ไม่นานหลังจากนั้นทุกอย่างตกสู่ห้วงแห่งความเงียบสงบดังเดิม
หยางเฉิงสะดุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมกับเหงื่อเปียกโชกไปทั้งกาย เขามองสำรวจร่างกายตัวเองอีกครั้ง เขายังคงอยู่ในร่างของเด็กชาย
มันเป็นเพียงความฝันหรือไม่?
นั้นคือสิ่งที่เขาคิดกับตัวเอง
.......................................................................