"พี่ลักให้แสนดีติดรถไปมอด้วยนะ นะ นะค้าาาาาาคนดี๊คนดีของแสนดี"
"ไม่!!!"
"พี่ลักใจร้าย ถ้าจักยานเค้าโซ่ไม่ขาดเค้าไม่มาง้อไปด้วยหรอก จำไว้เลย!!"
เสียงถอนหายใจราวกับกำลังโล่งอกโล่งใจที่ฉันสะบัดหน้าเดินหนีออกมาจากโรงจอดรถที่บ้านของเค้าไล่ตามหลังมาให้ฉันได้ยิน ฉันพยายามพาขาอันสั้นของตัวเองเดินช้าๆเพื่อยื้อเวลารอฟังใครบางคนตะโกนมาง้อถึงแม้ว่าจะไม่เคยง้อก็ตามเถอะ สุดท้ายฉันก็ต้องเดินคอตกหอบหนังสือเดินไปหน้าปากซอยเพื่อไปใช้บริการพี่วิน
พี่ลักมักจะปฎิเสธฉันเสมอ เราเป็นเพื่อนบ้านกันมาได้หลายเดือนแล้ว ฉันย้ายมาจากเชียงใหม่เข้าเมืองกรุงตามความฝันอันริบหรี่นั่นก็คือการเข้าเรียนในมหาลัยชั้นนำของประเทศอย่างมหาวิทยลัย M ในคณะที่สุดแสนจะทรหศอย่างวิศวะ
และโชคดีมากๆที่พี่ชายข้างบ้านที่ฉันมาเช่าอยู่ก็เป็นรุ่นพี่ที่เรียนอยู่คณะเดียวกันกับฉัน ฉันเลยถือโอกาศตีสนิทกับเค้าแบบเนียนๆ ทำกับข้าวไปแบ่งให้บ้าง เอาขนมไปแขวนไว้หน้าประตูบ้านบ้าง รดน้ำดอกไม้หน้าบ้านให้บ้าง ล่าสุดคือตัดหญ้าหน้าบ้านให้เลยนะ แต่ทำถึงขนาดนั้นพี่ลักก็ไม่เคยแม้แต่จะชายตาแลหรือสนใจจะมาเป็นเพื่อนบ้านกับผู้หญิงอย่างฉันเลย ข้าวที่ทำให้ก็ไม่กินจนมันบูด ขนมที่เอาไปแขวนก็ไม่ยอมรับบางครั้งหมาก็คาบไปกินซะงั้น
เห้ออออออ.....เย็นชาชะมัดเลย!!
คิดเพลินจนตอนนี้ฉันเดินเตะฝุ่นมาจนถึงหน้าปากซอยแล้ว ปากที่กำลังจะอ้าเปล่งเสียงใช้บริการพี่วินก็ต้องหุบฉับลงด้วยฝ่ามือใหญ่ของใครซักคนที่เอามาปิดปากฉันไว้
"จะไปมั้ยมอ" เสียงกระซิบที่ข้างหูทำให้หัวใจฉันเต้นรัวเร็ว รีบหันขวับกลับไปมองคนด้านหลังคอแทบหัก
"พี่ลัก!" ฉันดีใจจนยิ้มแก้มปริแต่ผู้ชายตรงหน้าที่ชอบทำหน้าไม่รู้ร้อนรู้หนาวหรือบางครั้งก็เหมือนไปโกรธใครเค้ามาเป็นสิบชาติหน้านิ่งเรียบไม่บอกอารมณ์ใดๆ แตกต่างจากฉันทั้งดีใจทั้งตื่นเต้นเมื่อกี้ได้กลิ่นน้ำหอมจากตัวพี่ลักเต็มปอดเลยอ่ะ โอ้ยยยกำไรชีวิตแสนหวาน
"ยืนยิ้มเป็นคนบ้า ไม่ต้องไปแม่งล่ะมอ" จะพูดด้วยดีๆไม่ได้เลยรึไง ฉันหุบยิ้มแล้วยุ่นจมูกใส่พี่ลักอย่างหมันใส้
คนตัวใหญ่ในชุดช็อปสีน้ำตาลตัวเก่งปลดกระดุมทุกเม็ดด้านในสวมเสื้อยืดคอกลมสีดำธรรมดา กางเกงยีนส์สีเข้มพร้อมรองเท้าผ้าใบสุดฮิตที่ฉันรู้ว่าราคามันไม่น่ารักเอาซะเลย ไล่มาที่หน้าหล่อๆของพี่ลักที่กำลังหยีตาเพราะแสงแดดยามสาย พี่ลักเทห์ระเบิดไปเลยในชุดนี้ พี่ลักกำลังนั่งอยู่บนมอร์ไซต์ตัวใหญ่สีดำเงินสุดเทห์ที่ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำวายี่ห้ออะไรแต่คงหลายตังส์ หูยยยยหัวใจฉันเต้นแรงเหมือนผู้หญิงนิสัยไม่ดีที่อยากได้พี่ลักมาเป็นสามีมากเลยตอนนี้
"จะไปมั้ยวะ ร้อน!!"
"ไป..ไปค่ะ" ฉันรีบกระโดดจะขึ้นซ้อนมอไซต์แต่แขนก็ถูกกระชากไว้ซะก่อน พี่ลักยื่นหมวกกันน็อคใบดตของตัวเองมาให้ฉัน ฉันมองมันอย่างงๆว่าเค้าจะยื่นมาให้ฉันทำไม จะให้ฉันถือให้งั้นหรอ ฉันเอื้อมมือไปรับมาถือไว้อย่างงๆ พี่ลักคงเห้นว่าฉันไม่รู้จะทำยังไงกับหมวกใบโตในมือเลยคว้ามันขึ้นมาสวมลงบนหัวฉันอย่างรุนแรง ฉันยู่หน้าเพราะพี่ลักทำแรงจนฉันเจ็บหัว
"โง่" ด่าอีกแล้ว ใครจะไปรู้เล่าว่ายื่นมาให้เค้าใส่ ก็ไม่พูดอ่ะไม่ได้โง่ซักหน่อย
ฉันปีนขึ้นไปนั่งซ้อนหลังมอไซต์คนใหญ่ของเค้าอย่างทุลักทุเลเพราะไม่เคยขึ้นมาก่อน ไม่รู้ทำไมวันนี้ใจดีให้ฉันติดรถไปด้วยก็ไม่รู้ สงสัยจะเริ่มใจอ่อนให้กับฉันบ้างแล้วแน่ๆเลย โอ้ยยยยฟินกับแผ่นหลังของพี่ลักจังตัวก็ห๊อมมมหอม อ้าาาาาฉดฉื่นนนนน
"ยัยโรคจิต เกาะแน่นๆจะพาซิ่งมัวแต่ดมอยู่นั่นเดี๋ยวได้หงายหลังตกรถกลิ้งไปให้สิบล้อเหยียบแบนกว่าเดิมหรอก"
ไม่พูดป่าวพี่ลักยังดึงมือฉันให้ไปกอดรอบเอวเค้าไว้อีกด้วย ตอนแรกก็ไม่ได้ตั้งใจฟังที่พี่ลักเตือนให้เกาะเค้าแน่นๆหรอกจนรถเคลื่อนตัวออกมาถนนใหญ่ หัวใจฉันจะวายเพราะพี่ลักขับรถได้เลวร้ายเอามากๆฉันกอดแน่นหลับตาปี๋มาตลอดทางเพราะกลัวว่าตัวเองจะกลิ้งไปให้สิบล้อเหยียบจริงๆ
"ลงไปได้แล้วยัยบื้อ"
"อ่ะ ถึงแล้วหรอคะ"
ฉันกระโดลงจากท้ายรถคนใหญ่เมื่อพี่ลักพามาจอดนิ่งในลานจอดรถตึกคณะที่มีรถจอดอยู่เต็มและมีนักศึกษาคนอื่นกำลังวุ่นอยู่กับการหาที่จอดรถ เมื่อเท้าแตะพื้นตัวฉันก็เซเล็กน้อยงื้อออออขามันอ่อนไปหมด ยังดีที่มือของฉันคว้ามอไซต์ข้างๆไว้ไม่งั้นล้มตึงแน่ เสียงหัวเราะในลำคอของพี่ลักทำให้ฉันต้องย่นจมูกใส่เค้าอีกครั้ง จากนั้นก็ถอดหมวกแล้วคืนให้พี่ลักไปก่อนจะขอบคุณแล้วเดินเบลอๆขึ้นตึกเรียน จะไม่ขอติดรถมาเรียนอีกแล้วเข็ดแล้วววฮืออออออ มากับพี่วินยังจะรู้สึกปลอดภัยกว่านี้ถึงตัวจะไม่หอมเท่าก็เถอะ!!!
วันทั้งวันฉันเอาแต่จดจ่ออยู่กับการเรียนและการอ่านหนังสือเพื่อหาความรู้เข้าสมอง ไม่เก่งไม่ฉลาดเลยต้องขยันกว่าเพื่อนๆคนอื่นๆหน่อย มีเรียนแค่ช่วงเช้าช่วงบ่ายฉันก็หมกตัวอยู่ที่ห้องหนังสือเพื่อนจะลืมหน้าฉันอยู่แล้ว เอาล่ะนี่ก็เย็นมากแล้วคงได้เวลากลับบ้านซักที ฉันหอบหนังสือกองโตไปเก็บบางเล่มก็ยืมกลับบ้าน
คราวนี้คงต้องได้กลับบ้านกับพี่วินหน้ามอแล้วล่ะแสนดี ฉันเดินเอื่อยเฉื่อยชมนกชมไม้ข้างทางไปเรื่อยจนถึงหน้ามอแล้วเรียกใช้บริการพี่วินให้ไปส่งที่หมายอย่างปลอดภัย
วันนี้ผ่านไปอีกวันแล้วสินะ น่าเบื่อจัง ฉันล้มตัวนอนแผล่หลาบนเตียงอย่างเหนื่อยๆเบนสายตาไปมองหนังสอเล่มหนาบนเตียงอย่างขี้เกียจจะหยิบมันขึ้นมาอ่านแล้ว พักสายตาซักหน่อยดีกว่าเดี๋ยวเค้าอาบน้ำล่ะกัน
ฉันงัวเงียตื่นขึ้นมาเพราะเสียงมอไซต์อันคุ้นหูของพี่ลัก กี่โมงแล้วเนี่ยเพิ่งจะทุ่มนิดๆเองหรอ หลับนานเหมือนกันนะฉันกะว่าจะงีบซักครึ่งชั่วโมง หิวข้าวจัง มือน้อยๆลูบท้องตัวเองป้อยๆแขนสั้นๆของตัวเองเอื้อมมือไปจะเปิดสวิทไฟแต่ไหงมันไม่ติดง่ะ ฉันพยายามเปิดอยู่นานแต่ก็ไม่ติด ทำไมมันมืดไปหมดแบบนี้ล่ะน่ากลัว ใครจะรู้มั้ยว่าแสนดีคนนี้กลัวผีที่สุด
ฉันรีบเปิดไฟฉายในโทรศัพย์วิ่งแจ้นลงมาหน้าบ้านอย่างกับไฟลนตูด มองไปบ้านตรงข้ามก็ดับ ดับหมดหมู่บ้านเลย ไหนจะเสียงลมพัดน่ากลัวฟ้าคึ้มฝนนั่นอีก ไม่นะฉันเกลียดฟ้าร้องเกลียดบรรยากาศขนหัวลุกแบบนี้ ไม่เอานะ ขอร้องล่ะอย่างน้อยก็อย่าทำให้มันน่ากลัวขึ้นด้วยการทำให้ไฟดับเลย ฮือออออออ...
เสียงลมพัดดังสนั่นหวั่นไหว รอบข้างฉันมันมืดสนิทเห็นเป็นเพียงเงาของสิ่งของต่างๆ ต้นไม้ที่กำลังไหวลู่ลมยิ่งสร้างบรรยากาศขนหัวลุกให้กับฉัน ตอนนี้ใจฉันมันเริ่มสั่นกลัวเป็นอย่างมาก ไม่นานก็เกิดเสียงฟ้าร้องดังลั่นมันทำให้ฉันกรี๊ดสุดเสียงก่อนจะเกิดพายุฝนเทกระท่ำลงมาอย่างแรง ฉันรีบกระโดดขึ้นไปบนเตียงเอาผ้าห่มคลุมตัว นอนกอดตัวเองภายใต้ความมืดมิด มือก็ปิดหู ตาก็หลับปี๋ ฉันนอนร้องให้ด้วยความกลัว ภาพผีต่างๆผุดขึ้นมาเต็มไปหมด ฮืออออ...ฉันกลัว
ติ้ง!
จู่ๆหน้าจอโทรศัพย์ของฉันก็สว่างวาบขึ้นมา เพราะมีใครซักคนส่งข้อความมาหาฉันนั่นเอง ฉันรีบเปิดอ่านทันที
LUC : อยู่ไหน
SANDEEEE : อยู่ในบ้าน
SANDEEEE : พี่ลักค์อยู่ไหน แสนดีกลัว
LUC : อยู่หน้าประตูบ้าน
LUC: ออกมาเปิด
SANDEEEE : พี่ลักค์แสนดีกลัวผี
เปรี้ยง!!!! กรี๊ดดดด!!!!
ข้อความสุดท้ายถูกส่งไปไม่กี่วินาที เสียงฟ้าผ่าดังเปรี้ยงก็ดังขึ้นสนั่นหวั่นไหวเล่นเอาโทรศัพท์ในมือฉันลอยหวือไปตกที่หน้าประตูห้องนอนเหมือนจับวาง เห็นแบบนั้นก็ไม่กล้าลงไปเก็บได้แต่ขดตัวอยู่ใต้ผ้าห่ม ร้องให้น้ำหูน้ำตาไหล ถ้าหากไฟฟ้ายังส่องสว่างฉันคงไม่สติแตกขนาดนี้ แต่นี่มันยังกะฉากในหนังผี มันน่ากลัวอ่ะ ภาพน่ากลัวต่างๆก็เอาแต่ผุดเข้ามาในหัว กลัวอ่าาา กลัวโว้ยยยย หยุดคิดถึงผีซักทีสิวะแสนดี!!!
เมื่อไหร่นจะหยุดตกซักที เมื่อไหร่ไฟจะมา ฮืออออ...ไม่ไหวล่ะนะ
ในระหว่างที่ฉันกำลังคุยกับตัวเอง จู่ๆผ้าห่มที่ฉันคลุมโปงอยู่ก็ถูกกระชากออกอย่างแรงตามมาด้วยไฟที่สว่างจ้าฉายเข้าตา ฉันรีบยกมือขึ้นมาบังแสงนั้นทันที
"แสนดี ทำไมไม่รู้จักล็อคประตูบ้าน!!"
"พี่ลักค์!!!"
"ก็เออสิวะ" พี่ลักค์ท่าทางหัวเสีย ตัวเค้าเปียกนิดหน่อยสังเกตุได้จากปลอยผมที่มีน้ำฝนเกาะอยู่ประปราย ไหนจะเสื้อช็อปที่เปียกเป็นเม็ดฝนนั่นอีก แต่เหนือสิ่งอื่นใดแค่ได้เห็นหน้าพี่ลักค์ใจฉันก็ชื้นขึ้นมาเป็นกอง
"พี่ลักค์เข้ามาได้ไง"
"ก็เปิดประตูเข้ามาดิ ทำไมไม่ล็อคประตูบ้าน"
"แสนดีล็อคแล้วนะ แสนดีไม่เคยไม่ล็อคประตูบ้าน" ฉันเถียงแบบขาดใจ เห็นเปฺ็นคนไม่น่าจะเต็มร้อยแต่ฉันก็ไม่เคยเลินเล่อต่อความปลอดภัยของตัวเองนะ
บ้านที่ฉันมาเช่าอยู่เป็นบ้านเดี่ยวเหมาะสำหรับนักศึกษา ตัวบ้านจะเป็นชั้นเดียวแบ่งออกเป็นห้องนอนมีห้องน้ำในตัว เปิดประตูออกจากห้องนอนก็จะเป็นห้องรับแขกเล็กๆน่ารัก ถัดไปก็จะเป็นครัวมินิ เปิดประตูด้านหลังครัวออกไปจะเป็นสวนน่ารักๆสำหรับเอาไว้ปลูกผักหรือทำกิจกรรมต่างๆได้ ส่วนหน้าบ้านจะมีประตูรั้วถัดเข้ามาถึงจะเป็นประตูบ้าน และฉันมั่นใจว่าตัวเองล็อคบ้านแล้ว
พี่ลักค์เงียบไป ก่อนที่จะทำหน้าเคร่งเครียด ไฟฉายในมือเค้าถูกเจ้าตัวปิดลง พี่ลักค์กระโดดขึ้นมาบนเตียงกับฉัน มันทำให้ฉันตกใจกับการกระทำของเค้าจนเกือบจะส่งเสียงกรี้ดออกไปแต่ก็มีมือใหญ่มาตะกรุบปากฉันเอาไว้ได้ซะก่อน ลมหายใจของคนที่กำลังโอบกอดฉันจากด้านหลังรินรดลงบนต้นคอจนขนฉันลุกชันด้วยความหวิวๆ
"ชู่วว...เงียบก่อน" พี่ลักค์กระซิบที่ข้างหู เล่นเอาหัวใจฉันเต้นรัวเร็วไม่เป็นจังหวะ หูอื้อตาลายไปหมด
แต่ฉันก็ทำตามที่พี่ลักค์บอก รอบข้างเงียบสงัดมีเพียงเสียงนและเสียงลมแรงมาเป็นระยะ และที่ขาดไม่ได้สำหรับบรรยากาศแบบนี้ก็คือเสียงฟ้าผ่าฟ้าร้องนั่นเอง มันดังเป็นระยะๆสายตาของฉันนั้นมองไปที่ประตูห้อง ไม่กี่อึดใจหลังจากที่พี่ลักค์กระซิบคำนั้นกลอนประตูห้องนอนของฉันก็สั่นๆเหมือนมีคนพยายามจะเปิดมันออก แต่เปิดไม่ได้เพราะด้านในมีกลอนล็อคอีกชั้น เห็นแบบนั้นก็เล่นเอาฉันตัวแข็งทื่อ กอดแขนพี่ลักค์แน่น หัวใจตัวรัวเร็วด้วยความกลัว
อย่าบอกนะว่าด้านหลังประตูนั่นคือ...โจร!!!!
ฉันอยู่กับโจรมาตลอดเลยงั้นหรอ?!!!
"ไม่ต้องกลัว พี่อยู่นี่" พี่ลักค์กระซิบข้างหูเบาๆ ฉันพยักหน้าหงึกหงักตอบเค้ากลับไป ก็พูดไม่ได้ไงเพราะมือพี่ลักค์ปิดปากอยู่อ่ะ
"เราจะออกไปทางหน้าต่าง โอเคมั้ย แสนดีออกไปก่อนแล้วพี่จะตามไป" ฉันมองไปที่หน้าต่างห้องนอนที่เป็นกระจกบานเลื่อน แล้วพยักหน้าให้พี่ลักค์
ฉันเดินแบบลงเท้าให้เบาที่สุดไปที่หน้าต่าง เสียงประตูห้องที่มีคนพยายามจะดันมันเข้ามาก็ดังไม่หยุด พี่ลักค์กำลังยืนถือเก้าอี้เหล็กของฉันอยู่หน้าประตูห้องนอน เพื่อรอฟาดมันถ้าเกิดมันพังประตูเข้ามาได้
เมื่อฉันออกมาได้แล้วพี่ลักค์ก็ตามออกมาอย่างปลอดภัย เพราะว่ากำแพงกั้นบ้านมันสูงเกินไปเราจึงต้องวิ่งมาที่หน้าบ้านเพื่อออกทางนี้แทน พี่ลักค์จับมือฉันวิ่งจนในที่สุดตอนนี้ฉันก็กำลังนั่งอยู่ในบ้านพี่ลักค์ด้วยอาการทั้งหนาวทั้งกลัวและตกใจว่านี่มันวันบ้าอะไรของฉันกันวะเนี่ย!!!!
_____________________________________
หลบหน่อยค้าบบบพระเอกจะเดินนน
( มีคำผิดต้องขอโทษด้วยนะค้าาา )