ตอนที่ 1 สามปีหลังจากการหย่าร้าง
“ขอโทษด้วยแต่เราไม่จ้างผู้หญิงที่อายุเกินสามสิบ” ผู้จัดการร้านอาหารบอกเซี่ยซิงเหออย่างหงุดหงิดแล้วไล่เธอออกไป
ขณะที่ซิงเหอเดินจากไปอย่างเซื่องซึม เธอก็ได้ยินผู้จัดการร้านพูดพึมพำเบาๆ ว่า “ใครจะอยากเข้ามาอุดหนุนกิจการของฉันกัน ถ้ามีพนักงานเสิร์ฟที่แก่และน่าเกลียดอย่างนี้”
ซิงเหอขมวดคิ้วเล็กน้อย เกือบตัดสินใจที่จะหันกลับไปแล้วบอกผู้จัดการว่าเธออายุแค่ยี่สิบห้าเอง!
แต่แล้วเธอก็หยุดชะงักเมื่อมองเห็นภาพสะท้อนของตัวเองในหน้าต่างข้างๆ
ใบหน้าของเธอได้สูญเสียความอ่อนเยาว์ไปแล้ว ดวงตาที่เคยเปล่งประกายสดใส ตอนนี้กลับดูมัวหมอง
ร่างกายซูบผอม ผมแห้งเสีย ริ้วรอยบนใบหน้า บวกกับการแต่งตัวที่ดูล้าสมัย ทำให้เธอดูแก่กว่าวัยเป็นสิบๆ ปี
ซิงเหอตระหนักว่าเธอได้กลายเป็นยัยแก่ภายในช่วงเวลาไม่กี่ปีที่ผ่านมา…
ถึงแม้ว่าจริงๆ แล้วเธอจะอายุแค่ยี่สิบห้าก็ตาม!
ซิงเหอยิ้มอย่างขมขื่นเมื่อนึกถึงความยากลำบากที่ถาโถมเข้าใส่เธอในช่วงไม่กี่ปีมานี้ ขณะที่เธอลากสังขารอันเหน็ดเหนื่อยออกมาจากตรงนั้น ก็สังเกตเห็นรถคันหนึ่งมาจอดอยู่ข้างหลังเธอ
การมาถึงของรถมายบัคราคาแพงไม่สามารถรอดพ้นจากสายตาของผู้จัดการร้านอาหารไปได้
“ท่านประธานสี ยินดีต้อนรับครับ ยินดีต้อนรับ!” ผู้จัดการกล่าวอย่างประจบสอพลอ ซิงเหอรีบหยุดฝีเท้าของเธอลงทันที
“มู่ไป๋ คุณช่วยไปชอปปิ้งเสื้อผ้าเป็นเพื่อนฉันหลังจากนี้ได้ไหมคะ วันนี้จะมีสินค้าของชาแนลออกมาใหม่น่ะ” ฉู่เทียนซินถามขึ้นอย่างจริงจังขณะที่พวกเขาลงจากรถ มือของเธอคล้องแขนของสีมู่ไป๋อย่างแสดงความเป็นเจ้าของ
มู่ไป๋เหลือบมองเธอแล้วตอบสั้นๆ ว่า “อืม!”
เพียงแค่หนึ่งคำก็ส่งผลให้ซิงเหอยืนนิ่งอยู่กับที่!
ก่อนที่จะหยุดตัวเองได้ทัน เธอค่อยๆ หันกลับไป…
แล้วตาเธอก็จับจ้องอยู่บนใบหน้าอันหล่อเหลาของมู่ไป๋!
ต้องเป็นเขาแน่ๆ …
ซิงเหอคิดไม่ถึงเลยว่าเธอกับเขาจะได้พบกันอีกทีในสถานการณ์เช่นนี้หลังจากหย่ากันไปเมื่อสามปีที่แล้ว
เธออยู่ในสภาพที่ย่ำแย่และโชคร้ายอย่างถึงที่สุด
ส่วนเขายังคงดูสงบนิ่งและสูงส่งกว่าคนทั่วๆ ไปไม่เปลี่ยน
เทียนซินที่อยู่ข้างๆ เขาก็ยังคงสวยและสง่างามเหมือนเมื่อสามปีก่อน
ในที่สุดพวกเขาทั้งสองคนก็ได้ลงเอยกัน
แต่หลังจากคิดดูอีกที พอไม่มีเธออยู่แล้ว มันก็ไม่น่าประหลาดใจอะไร
“เซี่ยซิงเหอ?” มู่ไป๋เอ่ยขึ้นเมื่อเห็นเธอ เขาแทบไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง
สีหน้าของเทียนซินเปลี่ยนไปเล็กน้อยแล้วอ้าปากค้างอย่างตกใจ “โอ้พระเจ้า นั่นใช่เธอจริงๆ เหรอ เซี่ยซิงเหอ เกิดอะไรขึ้นกับเธอ”
หลังจากที่ซิงเหอได้สติขึ้นมา เธอก็รีบหันหน้าไปทางอื่นแล้วพูดเบาๆ ว่า “คุณจำคนผิดแล้ว!”
เธอรีบวิ่งหนีไปอย่างรวดเร็ว
ไม่มีทางที่เธอจะอยากเผชิญหน้ากับทั้งสองคนในวันนี้ ไม่มีผู้หญิงคนไหนหรอกที่จะเต็มใจเผชิญหน้ากับอดีตสามีผู้ร่ำรวยและอดีตคู่แข่งทางความรักผู้งดงามในสภาพที่น่าอนาถขนาดนี้
โดยเฉพาะอย่างยิ่งไม่ใช่หลังจากที่ทั้งคู่คบกันแล้ว!
การเปรียบเทียบระหว่างผู้ชนะกับผู้แพ้นั้นมันเห็นได้ชัดจนเกินไป
มู่ไป๋ไล่ตามซิงเหอที่กำลังหนีพร้อมตะโกนว่า “เซี่ยซิงเหอ หยุดอยู่ตรงนั้นนะ!”
ชั่วขณะที่มือเขาจับแขนเธอไว้ได้ ซิงเหอก็กรีดร้องลั่นราวกับโดนเข็มทิ่ม “ปล่อยฉัน! ฉันไม่ใช่เซี่ยซิงเหอ ไม่ใช่จริงๆ!”
ซิงเหอจดจ่ออยู่กับการดิ้นรนเพื่อจะหนีจากมู่ไป๋ เลยไม่ทันได้สังเกตว่ามีรถกำลังวิ่งมาบนถนนด้วยความเร็ว ในที่สุดเมื่อเธอดิ้นจนหลุดก็รีบวิ่งข้ามถนนไป
“ซิงเหอ ระวัง!” มู่ไป๋ตะโกนบอก แต่มันก็สายเกินไป รถคันนั้นชนเข้าใส่เธออย่างจัง
หัวของซิงเหอกระแทกลงกับพื้นแล้วสลบไปในทันที
เธอจมดิ่งลงไปในความฝันอันเนิ่นนาน…
กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น