"เดี๋ยว" ยศพลกึ่งเดินกึ่งวิ่งเพื่อให้ทันกะรัตที่กำลังเปิดประตูรถแท็กซี่
"อะไรของคุณอีกเนี่ย!" น้ำเสียงที่ไม่ค่อยสบอารมณ์นักของกะรัตพร้อมกับทำหน้านิ่วคิ้วขมวดอย่างขัดใจ
"ฉันจะกลับด้วย" พูดจบมือหนาก็จับแขนเรียวยัดเข้าไปในรถโดยเร็วลืมระวัง จนศีรษะทุยของหญิงสาวโขลกตรงประตูรถอย่างจัง
"โอ้ย! นี่คุณทำอะไรเบาๆจะเป็นมั๊ย ฉันเจ็บนะ" กะรัตตวาดชายหนุ่มด้วยความโมโห
"เงียบน่า...ฉันรีบไปหาน้องพิมพ์ดา ป่านนี้คงถึงบ้านแล้ว" ยศพลเลี่ยงที่จะปะทะฝีปากกับหญิงสาวข้างกายด้วยการเบี่ยงเบนความสนใจ เมื่อรถแท็กซี่ขับมาถึงคฤหาสน์มานพ มือหนาล้วงกระเป๋าสตังค์ราคาเเพงหยิบแบงค์สีเทาให้กับโชเฟอร์ที่ค่อนข้างมีอายุโดยไม่รับเงินทอน ก่อนจะก้าวลงจากลงอย่างสง่า กะรัตจึงรีบกุลีกุจอลงรถจากรถตามด้วยความเงียบ
"พี่อินทรีย์ยังไม่ถึงอีกหรอ" ยศพลพึมพำอยู่คนเดียวโดยมีกะรัตยืนมองเขาพูดด้วยความมึนงง
ชายหนุ่มล้วงโทรศัพท์ในกระเป๋าสูทด้านในกดโทรหาจิรดาทันทีเมื่อเห็นว่าหญิงสาวที่ออกมาก่อนกับพี่ชายยังไม่ถึงบ้าน
"ฮะ...."
[อ๊า..อึก..ซี๊ดส์.....] ยศพลพอจะจำได้ว่าเสียงสูดปากร้องครางกระเส่าเป็นเสียงของจิรดา
[อ้าส์...ตื่นเต้นหรอ อ่าส์ อย่ารัดแน่น พี่จุก] เสียงแหบพร่าของอินทรีย์ พี่ชายที่เขารักกำลังส่งเสียงอยู่ปลายสายจนยศพลถึงกับเข่าอ่อน
เสียงกิจกรรมเข้าด้ายเข้าเข็มของปลายสายทำเอายศพลช็อคถึงกับมือสั่น ในสมองมันหนักอื้อตาลายไปหมด เขาไม่ใช่เด็กอ่อนประสบการณ์ที่จะไม่รู้ว่าเสียงกิจกรรมเมื่อครู่นี้เป็นเสียงใครกำลังทำอะไร พิมพ์ดากับพี่ชายของเขามีสัมพันธ์ลึกซึ้งกันตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมถึงปล่อยให้เขาโง่งมอยู่ฝ่ายเดียว
"คุณ...มีใครเป็นอะไรหรอ" เมื่อเห็นว่าชายหนุ่มยืนอึ้งราวกับปลายสายมีเรื่องไม่ดี จึงรีบเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง
"อย่ามายุ่ง!"
"ว้าย!" หญิงสาวรู้สึกสะดุ้งตกใจเมื่อชายหนุ่มหันกลับมาตวาดตนลั่น
"ผู้หญิงก็เหมือนกันทุกคน คนที่ทำดีแทบตายไม่เคยรัก กลับไปรับแต่คนที่พูดจาร้ายๆใส่ตัวเอง แล้วเขาจะทำดีกันไปเพื่ออะไรวะ!" ยศพลตะคอกใส่หน้าหญิงสาวด้วยความอัดอั้นตันใจอย่างบอกไม่ถูก
เขารู้แต่เพียงว่าตอนนี้เขาต้องการระบายมันออกไปจากใจให้หมด เพราะจิตใจของเขาตอนนี้มันปวดอัดไปด้วยความรู้สึกจุกแน่นตามลำคอไปทั้งใจ
"นี่! เป็นบ้าอะไรของนายเนี่ย!"
"ไปให้พ้น!" ยศพลตะคอกสุดเสียงใส่หญิงสาวด้วยความโมโห
"..." กะรัตมองหน้าชายหนุ่มด้วยความเอือมระอา เธอไม่รู้หรอกว่าชายหนุ่มได้ยินอะไรจากปลายสายเมื่อครู่ เขาก็ไม่ควรที่จะมาระบายความรู้สึกลงกับเธอ
ร่างบางของหญิงสาวหมุนตัวเดินกลับไปยังเรือนเล็กด้วยความรู้สึกเจ็บปวดหัวใจอยู่ไม่น้อย นอกจากเขาจะดูถูกดูแคลนเธอแล้วเขานึกอยากระบายด่าทอเธอไปยังไงก็ช่าง เธอหวังแค่ว่าสักวันหนึ่งเธอจะสามารถตั้งตัวและออกโผบินไปตามทางของเธอ
หญิงสาวเดินมาถึงเรือนเล็กก่อนจะคว้านหากุญแจขึ้นมาไขหมุนลูกบิดกำลังจะเข้าไปภายในห้อง
หมับ! หญิงสาวตาเบิกกว้างเมื่อมือหนากำแน่นเข้าที่ข้อมือเล็กอย่างแรง พร้อมกับดวงตาคมที่ฉายแววโรจราวกับปีศาจร้ายจ้องมองเธอราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ
"มานี่!" ร่างหนาผลักประตูพร้อมกับกระชากข้อแขนเรียวเล็กเข้าไปในห้อง พร้อมกับใช้เท้าถีบประตูปิดเสียงดังก่อนจะกดล็อคประตู ใบหน้าคมค่อยๆหันมาจ้องใบหน้างามด้วยสายตาที่อ่านยาก
"คะ คุณ...เข้ามาทะ ทำอะไร" คำถามตะกุตะกักบวกกับน้ำเสียงสั่นพอๆกับร่างกายที่กำลังสั่นเทาราวกับลูกนก
"ไหนๆฉันก็ไม่เหลืออะไรแล้ว..."
ขายาวค่อยๆก้าวย่างไปยังร่างบางในชุดราตรี ใบหน้างามกับชุดที่เผยเนินอก อวดผิวขาวเนียนทำเอายศพลที่กำลังจ้องมองกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก แววตาหื่นกระหายเงยขึ้นสบตากับดวงตางาม จนหญิงสาวเริ่มรู้สึกร้อนๆหนาวๆอย่างบอกไม่ถูก
"คะ คุณ...ฉันว่า คุณกลับไปนอนพักดีกว่านะ นี่มันก็ดึกแล้ว" กะรัตพยายามเอาน้ำเย็นเข้าลูบพูดกับชายหนุ่มให้ดีขึ้น
"หึ!" ยศพลเหยียดยิ้มก่อนมือหนาจะผลักไหล่บางอย่างแรง
"กรี๊ด..." ร่างบางล้มลงไปนอนบนเตียงจนกระโปรงเลิกขึ้นสูงจนเห็นเนินขาอ่อนงาม
เอาแล้วไง จุดกำเนิดของเรื่องราวต่อไปนี้นะคะที่รัก อัพวันละตอน สองตอนตามระเบียบ ขอบคุณที่แวะเข้ามาอ่านนะคะ รัก ❤