@คอนโด G

22:31 น.

Chapter: Milin

ฉันเดินฮัมเพลงออกมาจากห้องน้ำพร้อมกับผ้าขนหนูที่ห่อหุ้มตัวเอาไว้

หลังจากที่แต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้วฉันก็รีบทิ้งตัวลงที่นอนนุ่มๆพร้อมกับเปิดโน๊ตบุ๊คเพื่อจะดูซีรี่ส์เกาหลีสุดโปรด

ฉันเนี่ยติ่งเกาหลีตัวยงพวกซีรี่ส์หรือเพลงฉันก็ติดตามหมดนั่นแหละ

เพราะพรุ่งนี้คือวันเสาร์ฉันไม่มีเรียนเลยสามารถนอนดึกแค่ไหนก็ได้

Line!

ขณะที่กำลังนอนกินขนมดูซีรี่ส์อยู่นั่นก็มีเสียงไลน์ดังขึ้นมาจากมือถือที่ฉันชาร์จแบตไว้บนหัวเตียง

ฉันรีบดันตัวเองลุกจากหน้าจอโน๊ตบุ๊คก่อนจะคลานไปหยิบมือถือที่วางอยู่เพื่อดูการแจ้งเตือนต่างๆ

Chat Line : Guide

อ่านแล้ว

END Chat: Guide

เขาส่งสติกเกอร์หมีสีน้ำตาลมาให้ ฉันจึงกดอ่านแต่ไม่ตอบอะไรเขากลับไป

ฉันเลิกสนใจก่อนจะวางมือถือกลับไปนอนดูซีรี่ส์ต่อ~~

.

.

.

@คอนโด G

09:54 น.

ตืดดดด....ตืดดดด📲📲

ฉันใช้มือคลำๆหามือถือที่สั่นอย่างหนักหน่วงด้วยความหงุดหงิด

วันนี้วันหยุดของฉันนะ จะโทรมากวนทำไมแต่เช้า

คนจะหลับจะนอนโว๊ย!!!

ฉันกดรับสายก่อนจะเอาแนบใส่หู

ฉันเบิกตากว้างทันทีที่ได้ยินเสียงนุ่มลึกที่คุ้นหู

ฉันรีบเอามือถือออกจากหูเพื่อดูรายชื่อคนที่โทรเข้ามา

เชี่ย.... ไกด์โทรมาจริงๆด้วย

เขากดวางสายทิ้งทันที

ฉันรีบลุกพรวดพราดออกจากที่นอนและรีบคว้าผ้าเช็ดตัววิ่งเข้าห้องน้ำไป

- 15นาทีต่อมา -

ฉันวางลิปสติกลงก่อนจะยืนขึ้นสำรวจความเรียบร้อยของตัวเองอยู่หน้ากระจก

เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยแล้วฉันหยิบมือถือ สายชาร์จ แบตสำรองและเครื่องสำอางใส่กระเป๋าก่อนจะรีบลงไปหาไกด์ที่รออยู่ด้านล่าง

เขาพูดจบก่อนจะเดินอ้อมไปขึ้นรถฝั่งคนขับ

สรุปเขาจะพาฉันไปไหน?

ไกด์เอ่ยปากถามพร้อมกับมองหน้าฉันขณะที่รถกำลังติดไฟแดงอยู่

เขาเลิกสนใจความไร้สาระของฉันก่อนจะเข้าเกียร์และขับรถไปต่ออย่างเงียบๆ

ฉันถามขึ้นเมื่อตอนนี้เรากำลังอยู่บนมอเตอร์เวย์ที่จะออกจากกรุงเทพ

ไอ้ที่ถามเนี่ยก็พ่อคุณเขาเอาแต่ยิ้มหึๆ ยิ้มอะไรของเขาก็ไม่รู้ เหมือนอารมณ์ดีแบบน่ากลัวอ่ะ

เขาถอนหายใจออกมาด้วยความเบื่อหน่าย

ฉันเองก็ไม่ยอมแพ้หรอกอยากจะรู้ว่าเขามีแฟนจริงๆหรือเปล่า

ฉันไม่รู้หรอกนะว่าน้ำเสียงของฉันมันสื่อไปทางไหน

แต่เขากลับถามในสิ่งที่ทำให้ใจฉันสั่นแปลกๆ

เขาไม่ตอบแต่หันไปขับรถแบบเงียบๆ

เราสองคนไม่ได้พูดอะไรกันอีก

ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะฉันกังวล

ใช่! กังวลมากเพราะฉันไม่ใช่คนที่จะเข้ากับผู้ใหญ่ได้ง่ายๆและอีกอย่างเราสองคนไม่ได้เป็นแฟนกันจริงๆซะหน่อย

ถ้าพวกท่านถามฉันจะตอบยังไงล่ะ ยิ่งผู้ใหญ่เนี่ยฉันไม่โกหกแน่ๆและจะให้ฉันทำตัวยังไงนี่เกร็งไปหมดแล้วนะ!

ฉันไม่รู้หรอกว่าอยู่ในห้วงความคิดของตัวเองนานแค่ไหน รู้สึกตัวอีกทีก็เมื่อได้ยินเสียงเขาพูดขึ้นเนี่ยแหละ

แต่เมื่อเขาพูดขึ้นฉันเลยลองปรายตาไปรอบๆด้วยความสังเกต

เขาไม่ได้ถามต่อแต่เปิดประตูรถลงไป ซึ่งฉันก็ตามเขาลงไปด้วย

ฉันลอบสังเกตตัวบ้านของเขามันใหญ่มากเป็นบ้าน3ชั้นที่มีความอินเตอร์หรูหราแบบผู้ดี

แถมมีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่พร้อมกับสถามหญ้าสีเขียวสวยงามให้ได้วิ่งเล่นหรือนั่งผ่อนคลายอีกด้วย

กลิ่นอายผู้ดีมาเต็มสุดๆ

สักพักก็มีผู้หญิงหน้าตาน่ารักวิ่งออกมาจากตัวบ้าน

สีหน้าดีใจเรียกไกด์แบบนี้แสดงว่าต้องเป็นน้องสาวของเขาแน่ๆ

แต่ทำไมน้องเขากับเขาไม่เหมือนกันเลยนะ

ไกด์หันหน้าไปดุน้องจนอีกฝ่ายต้องเปลี่ยนเป็นเดินแทน

น้องที่ชื่อกะทิพูดขึ้นแถมทำหน้ามุ่ยใส่ด้วย น่ารักจัง~~

น้องพยักหน้าให้แล้วก็เดินไปเปิดรั้วก่อนจะเดินเข้าไปข้างในซึ่งฉันก็เดินตามน้องไปด้วย

เอาไงดีวะ

ฉันเอื้อมมือไปยีหัวน้องกะทิพร้อมส่งรอยยิ้มหวานๆไปให้

หัวใจกระฉุ่มกระฉวยขึ้นมาทันทีเมื่อน้องกะทิก็ยิ้มตอบกลับมาเหมือนกัน

น้องกะทิดูเหมือนจะทำท่าทางน้อยใจ

เขาพูดเหมือนจะดูไม่รักษาความรู้สึกน้องสาว

แต่การกระทำเขามันสวนทางกับคำพูดมาก

เพราะใบหน้าที่ดูนิ่งและเคร่งครึมของเขาตอนนี้มันระบายออกมาเป็นความอ่อนโยนแปลกๆ

มือหนาเอื้อมไปลูบหัวน้องสาวเบาๆทำเอาฉันที่ยืนดูอยู่ก็อดยิ้มออกมาไม่ได้กลับความน่ารักของพี่น้องคู่นี้

พูดจบก็ลากฉันออกจากตัวบ้านให้ออกมาข้างนอก

ฉันเดินตามเขามาเรื่อยๆ เส้นทางก็ไม่น่าจะดูซับซ้อนสักเท่าไหร่

แดดก็ไม่ค่อยร้อนมากแถมยังมีลมพัดมาเอือยๆอีกด้วย วิวดีจริงๆ

ฉันเดินดูน้ำในคลองที่ใสสะอาดมีปลาเล็กปลาน้อยแหวกว่ายไปมาอย่างเพลินตาจนไม่ทันได้ระวังบุคคลตรงหน้าเลยแม้แต่น้อย

ตุบ!

จู่ๆไอ้คนตรงหน้าก็หยุดเดินทำให้หัวเหม่งๆของฉันชนกับแผ่นหลังกว้างของเขา

ฉันบ่นพร้อมกับเอามือคลำหน้าผากเบาๆ หัวจะแตกมั้ยชนซะแรงเชียว..

ฉันตอบรับไปโดยไม่ทันคิดอะไรนักหรอก เขาพาฉันเดินมาหยุดอยู่ที่ร้านอาหารริมทางร้านหนึ่ง

ฉันหันไปมองเขาพร้อมกับพยักหน้า

เขาถามเมื่อเรามานั่งที่โต๊ะแล้ว

เขาพยักหน้าให้ประจวบเหมาะกับที่มีเด็กสาวคนหนึ่งเดินมารับออเดอร์พอดี

เสียงเรียกแบบตกใจดังขึ้นทำเอาฉันกับไกด์หันไปมอง

เด็กสาวแร็ปใส่ไกด์ไม่หยุด

เขาเอ่ยขัดขึ้นมาทำเอาฉันแทบจะสำลักน้ำลายตัวเอง เด็กข้าวปุ้นเบรคตัวก่อนจะยิ้มแหยๆให้

เขาพยักหน้าให้

หึ! ลำไยมากับผู้ชายหน้าตาดีก็อยู่ยากลำบากแบบนี้แหละ

ฉันหันไปแซะใส่

สักพักเด็กข้าวปุ้นก็เอาข้าวมันไก่มาเสิร์ฟพอเสิร์ฟเสร็จหล่อนก็ไม่ได้ย้ายสังขารตัวเองไปไหนรีบลากเก้าอี้มานั่งฝั่งตรงข้ามไกด์ทันที

เขาพูดขึ้นก่อนจะเริ่มกิน ฉันเองก็ด้วย

ฉันพูดขึ้นเมื่อสังเกตเห็นเด็กวัยรุ่นในร้านมองมาที่เขาเป็นตาเดียวกัน

ฉันพูดพลางทำหน้าแหยงๆ

ไอ้หน้าเรียบแถมเนียนนั่นยังไม่วายปล่อยคาริสม่าใส่คนอื่นอีก

รู้ว่าหล่อ หน้าขาว สันกรามโผล่ คิ้วเข้ม จมูกตั้งเหมือนศัลมา ปากสีเข้มที่ได้มาจากการสูบบุหรี่ ยอมรับว่าน่าจูบ

เห็นแบบนี้อยากทำให้หน้าเขาเป็นรอยจริงๆจะได้ตัดปัญหา

โธ่พ่อคุณ มั่นหน้ามั่นโหนกเว่อร์

นางพูดเองเออเองคนเดียวค่ะทุกคน!

นี่น่ารักหรอคะน้อง เอาตาตุ่มทำตารึป่าว?

เขาไม่ได้ยิ้มค่ะน้องมันแค่กระตุกยิ้มมุมปากเท่านั้น

ยิ้มจริงๆไม่ใช่แบบนี้นะเบบี๋ พี่ยังไม่เคยเห็นรอยยิ้มจริงๆจังๆของหมอนี่เลย

เขาหยิบทิชชู่มาก่อนจะโน้มตัวลงมาเช็ดปากให้ในระยะเผาขน

เขาบ่นออกมาหน้าขำก่อนจะเขกหน้าผากฉันไปทีนึง

ฉันทำหน้ามุ่ยใส่

ไกด์พูดจาเหมือนมะนาวไม่มีน้ำใส่จากนั้นก็พาฉันออกมาจากร้าน

แต่นะ! ฉันรู้สึกหงุดหงิดชอบกล

สายตาที่มองมาแทบจะทิ่มแทงฉันเป็นรูแล้วเนี่ย ให้ตายเถอะมองอะไรกันนักหนาวะ!!

หมับ!

ฉันควงแขนล่ำๆทันที ทำให้เขาหันมามองเหมือนจะถามว่าฉันกำลังจะทำอะไรกันแน่

ฉันเองก็มองเชิดใส่เขาแบบไม่เกรงกลัว

ก็กำลังทำหน้าที่แฟนอยู่นี่ไง^^

อี๋! มิลินแกพูดอะไรออกไปเนี่ย

ดูสิ่งที่เขาตอบกลับมา กวนบาทาชิบหาย...

ฉันหันไปขยิบตาให้สองสามที แต่ทว่า.....

ให้ตายเถอะ! ไอ้โย่งเอ๊ย จะมาโง่อะไรตอนนี้ล่ะย๊ะ!

เสียแผนหมด ปัดโธ่!!

ฉันอุตส่าห์ส่งซิกให้จะมากวนประสาทอะไรกันตอนนี้

ฉันถอยหายใจออกมาเพราะคิดว่าทำไมต้องมาทำอะไรแบบนี้ด้วย

ในจังหวะที่ฉันกำลังจะผละตัวออกจากเขา มือหนาก็ยกขึ้นมาลูบหัวฉันเบาๆ ทำเอาฉันต้องเงยหน้ากลับขึ้นไปมองเพราะความสูงเราต่างกัน

เขาส่งสายตามาบอกว่าถ้าฉันยกเลิกต้องเป็นเรื่องแน่

เหอะ! แล้วจะกวนตีนเพื่อ??

END Chapter: Milin

.

.

.