เซนท์ดึงโทรศัพท์ฉันไปแล้วกดรับสายด้วยความหงุดหงิด

เซนท์ทำเสียงดุฉันเมื่อเห็นว่าฉันเรียกเค้าจนคนปลายสายรู้ตัว

เซนท์กดวางสายแล้วมองฉัยด้วยความหงุดหงิด

ฉันรีบลุกขึ้นยืนเพราะเธียร์เตอร์ยืนมองเราสองคนพร้อมกับยิ้มเจ้าเล่ห์อยู่

ฉันรีบวิ่งเข้าไปในบ้านเพราะไม่กล้าสู้หน้าเซนท์อีก บ้าบ้าบ้า ทำไมฉันถึงได้ยอมให้เค้าจูบได้ล่ะเนี่ย

ฉันรีบเดินขึ้นไปที่ชั้นบนแล้วเข้าไปในห้องทันที เฮ้อออ แล้วฉันจะมองหน้าเซนท์ได้ยังไงเนี่ย

ฉันตกใจเมื่อเซนท์อยู่ในห้องนอนของฉันแล้วยืนมองฉันนิ่งๆ

คนตัวสูงมองฉันนิ่งๆแช้วเดินเข้ามาหาฉันเรื่อยๆจนฉันต้องถอยหลังหนีเค้าโดยอัตโนมัติ

ตุบ!!

เซนท์ดึงฉันเข้าไปกอดแล้วล้มตัวลงบนเตียงก่อนจะขึ้นมาคร่อมตัวฉันเอาไว้

ฉันพยายามดันแผงอกกว้างตรงหน้าเพราะเค้าเริ่มทำเรื่องน่ากลัวกับฉัน

คนตัวสูงล้มตัวลงนอนข้างๆฉันแทนก่อนจะหันมามองหน้าฉันอีกครั้ง

คนตัวสูงแกล้งหลับตาแล้วไม่ฟังเสียงของฉันที่เรียกให้เค้าปล่อยตัวฉัน

คนฉวยโอกาสก้มลงมาหอมแก้มฉันแล้วหลับตาทั้งๆที่ยังยิ้มอยู่

ฉันกับเซนท์รีบเด้งตัวลุกขึ้นจากเตียงเมื่อได้ยินเสียงของเอริอยู่นอกห้อง

เซนท์ไม่มีทางเลือกต้องรีบลงไปหลบใต้เตียงตามที่ฉันบอก

ฉันมองที่ใต้เตียงแล้วปลาอยให้เอริเข้าไปในห้องน้ำก่อน

เธียร์เตอร์ยิ้มแล้วเดินออกจากห้องไปทันที

เซนท์หอมแก้มฉันเร็วๆแล้วออกจากห้องไปทันทีโดยไม่รอให้ฉันด่าเค้า

คนเจ้าเล่ห์ชอบฉวยโอกาสคนอื่น

วันต่อมา....

เวลา 07:00 น.

ฉันบอกคนตัวเล็กที่นั่งให้ฉันถักเปียผมให้อยู่ที่โซฟาห้องรับแขก

ฉันขำสีหน้าของเพื่อนแต่ละครก่อนจะเดินไปตักข้าวต้มให้เพื่อนๆ

สาวๆต่างนั่งทานข้าวเช้ากันเพื่อเตรียมจะออกไปนั่งเล่นที่ชายหาด เซนท์ยังไม่ตื่นเหรอเนี่ย

เมื่อคืนนี้ก็ดื่มแค่นิดเดียวไม่ใช่เหรอ เป็นอะไรหรือเปล่านะ

สาวๆต่างวิ่งลงไปที่ทะเลกันด้วยความสนุกสนาน

ฉันนั่งมองสาวๆที่ลงไปเล่นน้ำกัน ฉันไม่กล้าพอที่จะลงไปเล่นน้ำทะเลจริงๆ

เลยได้แต่นั่งเล่นทรายอยู่ที่บนหาด

เสียงเข้มทักทายฉันด้วยความเยือกเย็น ศิลาที่ไม่น่าจะมาอยู่ที่นี่ยิ้มให้กับฉันเหมือนเจ้าป่ากำลังจะล่าเหยื่อ

นี่มันอะไรกัน!! เค้ามาที่นี่ได้ยังไง