“สวัสดีค่ะคุณคิมหันต์”
“ครับ เป็นยังไงบ้างครับ”
“หนูวาทำงานดีมากเลยหมอ”
“ผมมั่นใจว่าคุณวาต้องทำได้ดี”
“แกมาทำไมไอ้คิม”
“ทำไมถามเพื่อนแบบนั้นล่ะธาร”
“ฉันเห็นว่าใกล้เวลานัดรับยาของคุณย่าแต่ไม่มีคนไปรับก็เลยอาสามาส่ง”
“หึ ผู้อำนายการโรงพยาบาลมาส่งให้แบบนี้ช่างดีเหลือเกินนะ”
ชายหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงประชดพร้อมกับเดินตามผู้เป็นย่าเข้าไปในห้องรับรองเพื่อสังเกตพฤติกรรมของพยาบาลสาว
“นี่เป็นยาที่คุณย่าต้องทานเป็นประจำนะครับรายละเอียดเขียนไว้ในถุงหมดแล้ว ส่วนนี้...ของคุณครับ”
“ของวาเหรอคะ?”
“ครับ”
คิมหันต์ยื่นกระเป๋าผ้าให้กับทิวาพร้อมกับยิ้มให้เธออย่างอ่อนโยนสร้างความหงุดหงิดให้กับใครบางคนเป็นอย่างมาก
“อะไรเหรอหมอ มีของฝากให้กันด้วย?”
คุณหญิงอนงค์ถามขึ้นพร้อมกับสังเกตอาการของหลานชายก่อนจะยิ้มออกมาอย่างพอใจ
“วิตามินครับผมอยากให้คุณวาบำรุงตัวเองบ้าง”
“ไม่เห็นต้องลำบากเลยนี่คะ”
“สำหรับคุณวาผมไม่เคยลำบากเลยครับ”
ยิ่งเห็นท่าทีของเพื่อนรักชายหนุ่มก็ยิ่งหงุดหงิดเพราะรู้ได้เลยทันทีว่าตอนนี้คิมหันต์กำลังหลงทิวาจนโงหัวไม่ขึ้นเป็นดั่งที่แฟนสาวของเขาได้บอกเอาไว้ว่าหล่อนใช้ความสวยหว่านเสน่ห์ให้กับผู้ชายทุกคนที่เข้าใกล้
“อยู่ทานข้าวด้วยกันก่อนนะหมอ”
“ยินดีเลยครับ”
“วาไปเตรียมจัดยาให้นะคะคุณย่า”
“หนูวา”
“คะ?”
“ช่วยขึ้นไปที่ห้องย่าแล้วหยิบถุงชาให้หน่อยนะย่าจะให้คุณคุณหมอเค้าเอากลับไปดื่ม”
“ค่ะคุณย่า”
หญิงสาวเดินขึ้นไปที่ชั้นสองเพื่อทำตามที่คุณหญิงอนงค์สั่งโดยไม่รู้เลยว่ากำลังมีสายตาคู่หนึ่งกำลังจับจ้องหล่อนอยู่ไม่วางตา
“ถุงชา...อยู่นี่เอง”
“เป็นอย่างที่ฉันได้ยินมาไม่ผิด”
“ว้าย!!”
หญิงสาวถึงกับสะดุ้งเมื่อเสียงเข้มพูดดังมาจากด้านหลังของหล่อน ชายหนุ่มยืนกอดอกมองหญิงสาวด้วยสายตาหงุดหงิดและนั้นก็ทำให้หล่อนรู้ว่ากำลังถูกหาเรื่องอีกตามเคย
“จะมาเป็นพยาบาลดูแลคนแก่ให้เหนื่อยทำไม ดูท่าไอ้คิมมันพร้อมที่จะดูแลเธอเต็มแก่เลยนะ”
“........”
“ออกไปเป็นเมียผู้อำนวยการโรงพยาบาลน่าจะเหมาะกับเธอมากกว่า”
หญิงสาวไม่ตอบโต้คนหาเรื่องเพราะรู้ว่าเสียเวลาเปล่าเพราะในสายตาของชายหนุ่มมีแต่อคติเท่านั้นที่มช้มองเธอในตอนนี้
“จะไปไหน”
“โอ๊ย!!”
มือหนากระชากแขนหญิงสาวเอาไว้แน่นเมื่อหล่อนมีท่าทีว่าจะเดินหนีเขาไป
“ฉันกำลังแนะนำอยู่นะ จะเดินหนีทำไม”
“แนะนำหรือดูถูกคะ เท่าที่ฟังวาก็เห็นคุณกำลังดูถูกอยู่แค่นั้น”
“แล้วคนอย่างเธอนอกจากความสวยแล้วมีอะไรอีกที่จะทำให้ตัวเองสบาย”
“คุณธารา!!”
“โอ๊ย!! ทิวา!!”
หญิงสาวผลักคนปากร้ายให้ออกห่างก่อนจะรีบเดินหนีแต่ก็ไม่พ้นถูกมือหนากระชากแขนเอาไว้
“คุณบ้าไปแล้วเหรอคะคุณธารา คุณจะหาเรื่องวาไปถึงไหน”
“ก็จนกว่าเธอจะลาออก”
หญิงสาวมองคนตรงหน้าด้วยความน้อยใจที่เขาเอาแต่ไล่หล่อนทั้งๆที่ไม่เคยมองความสามารถ การดูแลทีาหล่อนตั้งใจเอาไว้วันนี้มันไม่มีค่าในสายตาของเขาเลยสักนิดเพราะหล่อนเองก็อยากได้ค่าตอบแทนเพื่อไปเลี้ยงดูครอบครัวและส่งน้องชายเรียน
“วาไม่ลาออกค่ะ”
“นี่เธอ...”
“ยังไงวาก็ไม่ลาออกเพียงเพราะคนอคติอย่างคุณ”
“นี่เธอกล้าว่าฉันเหรอ!”
“ค่ะ ทีคุณยังดูถูกวาสารพัดเลยนี่คะ”
“หึ ปากคอเราะร้ายใช่ได้”
“อือออ”
ร่างสูงกดตัวหญิงสาวลงที่โซฟาก่อนที่จะเอื้อมมือไปจับแก้มนวลเอาไว้
“ตราบใดที่เธอยังยืนกรานว่าจะอยู่ที่นี่ฉันก็จะกวนเธอแบบนี้แหละ”
“ปล่อยนะคะ”
“แล้วมาดูกันว่าเธอจะมีความอดทนมากแค่ไหนทิวา”
“คุณวาครับ”
“หึ!!”
ชายหนุ่มรีบลุกขึ้นจากตัวของหญิงสาวเมื่อได้ยินเสียงเรียกของคิมหันต์
“อ้าวไอ้ธาร เข้ามาทำอะไรในห้องนี้วะ”
“ฉันต้องถามแกมากกว่าว่าขึ้นมาทำไม”
“กูเห็นคุณวาขึ้นมานานแล้วก็เลยมาตามหา”
“อ๋อ ทนคิดถึงไม่ไหวนี่เอง”
“บ้าน่า ฉันก็แค่อยากมาตามคุณวาลงไปทานขนมข้างล่าง”
ทิวารีบเดินออกไปจากห้องโดยไม่พูดอะไรอีกเพราะยิ่งอยู่ใกล้คิมหันต์ธาราก็จะยิ่งดูถูกหล่อนมากเท่านั้น
เวลา 12:00 น.
“เสียดายจังเลยนะครับที่วันนี้ผมมีประชุมบอร์ดบริหารไม่อย่างนั้นผมคงต้องขออยู่ทานข้าวเย็นกับคุณย่าด้วย”
“เอาไว้มาบ่อยๆนะคะมาเมื่อไหร่ก็ได้”
“ขอบคุณนะครับคุณย่าคราวหน้าผมไม่เกรงใจแล้วนะครับ”
“ขับรถดีๆนะหมอ”
ชายหนุ่มยิ้มแล้วยกมือไหว้คุณหญิงอนงค์เพื่อบอกลาและไม่ลืมที่จะส่งตาหวานให้กับพยาบาลสาวพร้อมกับขับรถคันหรูออกไปทันที
“เข้าไปข้างในกันเถอะค่ะตอนนี้แดดแรงอยู่”
“หนูวาทำอาหารอร่อยมากเลยนะ เมื่อกี้หมอก็ชมไม่ขาดปาก”
“เอาไว้วาจะทำให้คุณย่าทานทุกวันเลยนะคะ”
“หนูวาจะไม่เหนื่อยใช่ไหม”
“ไม่ค่ะ วาจะได้ควบคุมอาหารและจัดของมีประโยชน์ให้คุณย่าด้วยดีไหมคะ”
“ดีๆ ดีที่สุดในโลกเลย”
คุณหญิงอนงค์ยิ้มแล้วเดินเข้าไปในบ้านกับทิวา หญิงสาวที่ท่านอยากได้มาเป็นหลานสะใภ้เพราะความดีของทิวาทำให้ท่านไว้ใจที่จะให้ดูแลหลานชายของท่าน
เวลา 19:00 น.
ลานจอดรถโรงพยาบาล
“เดี๋ยวสิครับปิ่น”
ชายหนุ่มดึงแขนจองแฟนสาวเอาไว้เมื่อหล่อนกำลังจะเดินลงจากรถ
“มีอะไรอีกคะ”
“ผมรู้ว่าคุณโกรธแต่ผมไม่อยากเสี่ยงเพราะคุณย่าชอบทิวามาก”
“หวังว่าคุณจะไม่ชอบเธอไปอีกคนนะคะ”
“โธ่ปิ่นครับผมไม่มีวันมองผู้หญิงคนไหนนอกจากคุณนะ ผมขอเวลาสามเดือนเท่านั้น”
ชายหนุ่มพยายามพูดง้อแฟนสาวที่งอนเขาเรื่องการไล่ทิวาออกจากการเป็นพยาบาลส่วนตัวของคุณหญิงอนงค์
“แล้วจำเป็นต้องสามเดือนด้วยเหรอคะ ยิ่งเวลานานเท่าไหร่คุณหญิงก็จะยิ่งถูกหลอกมากขึ้นเท่านั้นนะคะ”
“เวลาสามเดือนมันนานพอที่จะให้ทิวาเผยทาสแท้ออกมาให้เห็นนะครับ”
“ปิ่นจะรอดูนะคะหวังว่าคุณจะไล่หล่อนไปได้สำเร็จ”
“ครับ”
“งั้นปิ่นขอตัวไปทำงานก่อนนะคะจะขึ้นเข้าเวรแล้ว”
“ครับ พรุ่งนี้ตอนเที่ยงผมมารับไปทานข้าวนะ”
“ค่ะ”
หญิงสาวเดินลงไปจากรถแล้วกำหมัดเอาไว้แน่นความเจ็บใจทำให้หล่อนยิ่งหงุดหงิด ทิวาได้เข้าไปในที่ที่หล่อนควรจะได้อยู่และหล่อนก็กลัวเหลือเกินว่าแฟนหนุ่มที่หล่อนต้องการจะจับใกล้ชิดกับทิวาแล้วจะตกหลุมรัก
เวลา 20:00 น.
“ต้องนอนแล้วนะคะวาไม่ตามใจคุณย่าแล้วนะ”
พยาบาลสาวเริ่มทำเสียงดุเมื่อคุณหญิงอนงค์ยังคงนั่งอ่านหนังสืออยู่บนเตียง
“หนูวาก็...ย่าขอให้จบเล่มก่อนนะ”
“ไม่ได้นะคะนี่ดึกมากแล้ว”
“รอตาธารก่อนนะป่านนี้ยังไม่มาเลย”
“ไม่ได้ค่ะ”
“ก็ได้ๆ หนูวาเวลาดุเนี่ยน่ากลัวจัง”
หญิงสาวยิ้มแล้วห่มผ้าให้กับคุณหญิงอนงค์ที่เตรียมตัวนอนก่อนจะปิดไฟในห้องแล้วออกไปจากห้องหล่อนเองก็ต้องรีบเตรียมจัดยาและเข้านอนเพื่อตื่นให้ทันในตอนเช้าตรู่
“ถุงยาที่ได้มา....”
หญิงสาวหยิบกระเป๋ายาและเตรียมต้มน้ำร้อนเอาไว้เพื่อชงนมร้อนสำหรับตัวเอง
บรื้นนนนน
เสียงเครื่องยนต์ของสปอร์ตหรูทำให้หญิงสาวที่อยู่ในครัวรู้ว่าตอนนี้หลานชายเพียงคนเดียวของตระกลูกำลังกลับมาและหล่อนคงต้องรีบขึ้นไปข้างบนเพื่อหลีกเลี่ยงการพบเจอ
“ทิวา”
“!!!!!”
ยังไม่ทันที่หล่อนจะเข้าไปในห้องชายหนุ่มที่ยืนอยู่ตรงประตูหน้าบ้านเรียกหล่อนเอาไว้ ความหวังที่จะไม่ทะเลาะต้องหมดลงเพราะเขาเจอตัวหล่อนก่อนที่จะเข้าไปในห้อง
“นี่หยุดนะ!!”
“ว้าย!!”
“โอ๊ย!!”
“คุณธารา!!”
หญิงสาวอุทานออกมาเมื่อนมร้อนในแก้วหกเข้าเต็มอกกว้างจากแรงดึง
“ร้อนๆ!!”
“ถะ ถอดเสื้อออกก่อนค่ะ”
“!!!!!!”
วิญญาณพยาบาลเข้าทันทีที่เห็นคนเจ็บตรงหน้าหล่อนจัดการถอดเสื้อของชายหนุ่มทันทีที่ตั้งสติได้
“วาไปเอายามาให้นะคะอย่าพึ่งเช็ดนะคะ”
หญิงสาววิ่งไปที่ตู้ยาแล้วหยิบกล่องปฐมพยาบาลออกมาแล้วตรงเข้าไปในห้องรับรองทันที
“จะทำอะไร”
“เช็ดทำความสะอาดก่อนนะคะเดี๋ยววาทายาให้”
“นี่!!”
หญิงสาวเช็ดทำความสะอาดที่แผงอกกว้างโดยไม่เขินอายใดๆก่อนจะเริ่มทายาเพื่อให้เขาหายร้อน
“ว่านหางจรเข้จะทำให้แผลไม่ฟกนะคะพอกเอาไว้จะได้ไม่แสบ”
“.......”
ชายหนุ่มมองหญิงสาวนิ่งเพราะรู้สึกว่าหล่อนแตะต้องตัวเขาโดยไม่เขินอายใดๆแถมตอนนี้เขายังเปลือยท่อนบนอีกด้วย
“เรียบร้อยแล้วค่ะ.....”
ทิวาชะงักเมื่อมือหนาคว้าข้อมือของหล่อนเอาไว้และนั้นก็ทำให้หล่อนพึ่งได้สติว่าชายหนุ่มตรงหน้ายิ่งจับผิดหล่อนอยู่ด้วย
“นี่ลอบทำร้ายฉันยังไม่พอ ยังกล้าถอดเสื้อฉันอีกเหรอ”
“!!!!!!!”
“ร้ายจริงๆ”
“ขะ คุณพูดอะไรคะวาแค่ปฐมพยาบาล”
“พึ่งจะรู้ตัวเหรอว่าต้องอาย หืม?”
“ว้าย!!”
มือหนาดึงหล่อนเข้าไปใกล้อย่างแนบชิดจนใบหน้าของหล่อนเกือบจะชนเข้ากับใบหน้าของชายหนุ่ม
“ร้ายจริงๆทิวา”
“ปะ ปล่อยนะคะ อื้อ!!”
ชายหนุ่มกดตัวหล่อนลงนอนที่โซฟาแล้วใช้มืออีกข้างปิดปากหล่อนเอาไว้ไม่ให้ส่งเสียง
“กลัวฉันมากนักหรือไงถึงได้วิ่งหนีขนาดนั้น”
“อืออ”
“หรือว่ากลัวฉันจะจับผิดเธออีกเลยต้องหนี”
“ยะ อย่านะคะนี่คุณจะทำอะไร”
“คนใช้ก็กลับไปนอนที่เรือนหลังเล็กแล้วส่วนคุณย่าก็หลับไปแล้ว ตอนนี้เหลือแค่เราสองคนคิดว่าฉันควรทำอะไรดี”
“อื้อ!!”
ชายหนุ่มยิ้มเมื่อเห็นท่าทีหวาดกลัวของคนตัวเล็กตรงหน้าที่เขาสามารถแกล้งหล่อนได้
“อือออ”
“คุณธารา!! อืออ”
มือหนาปิดปากหญิงสาวเอาไว้แล้วก้มลงคลอเคลียต้นคอเนียนเพื่อหวังจะแกล้ง
“!!!!!”
“ยะ อย่า”
กลิ่นกายหอมหวานอ่อนๆทำให้คนแกล้งเริ่มปั่นป่วนในอก เจตนาล้อเล่นในตอนแรกจบลงเพียงเพราะความหอมของหญิงสาว
“อือออ”
ริมฝีปากร้อนพรมจูบที่ต้นคอขาวแล้วสูดกลิ่นหวานนั้นเข้าไปด้วยสัญชาตญาณดิบของชายหนุ่ม อารมณ์ร้อนในอกเริ่มทวีคูณเมื่อจมูกโด่งเป็นสันเลื่อนลงมาที่เนินอกอิ่ม
“ไม่!!”
ผัวะ!!
“โอ๊ย!!”
หญิงสาวหยิบรีโมททีวีขึ้นมาแล้วฟาดไปที่หัวของคนตัวสูงก่อนจะรีบวิ่งหนีออกมาทันทีปล่อยให้ชายหนุ่มกุมหัวอยู่แบบนั้นเพราะความเจ็บปวด ทิวาเข้าไปในห้องแล้วรีบล็อกประตูด้วยความหนาแน่นเพื่อเอาตัวรอดจากคนกวนประสาท การที่หล่อนเข้ามาทำงานแล้วต้องเจอกับคนแบบนี้ยิ่งทำให้หญิงสาวตระหนักแล้วว่าเงินทีาได้จะคุ้มกับการอยู่ร่วมชายคากับคนอย่างธาราหรือไม่
โปรดติดตามตอนต่อไป