“ลงไปแล้วยิ้มด้วย อย่าทำหน้าเหคนใกล้ตายแบบนี้”
น้ำเสียงเย็นชาพูดกับฉันเมื่อรถตู้คันหรูจอดตรงหน้าบันไดงานเลี้ยง ฉันมองไปด้านนอกก็เห็นกองทัพนักข่าวที่มารอถ่ายภาพคุณฌาณนักธุรกิจหนุ่มไฟแรงและภรรยาสาวที่พึ่งแต่งงานกันเมื่อวานนี้
“ค่ะ”
คุณฌาณส่งสัญญาณให้คนขับรถให้เดินไปเปิดประตูและเค้าก็ก้าวลงไปแล้วเอื้อมมือให้ฉันจับเพื่อลงไปจากรถ
“ยิ้ม”
คนตัวสูงกอดเอวฉันแล้วก้มลงมากระซิบข้างหูฉันพร้อมกับยิ้มให้นักข่าวที่ถ่ายภาพของเราสองคนก่อนจะโอบเอวฉันเข้าไปในงาน คนตัวสูงยิ้มแล้วกอดฉันเอาไว้เคียงข้างเหมือนคนที่รักกันมาก สายตาของคนทั้งงานจับจ้องมาที่เราเป็นตาเดียว
“คุณฌาณ”
คุณฌาณหันไปมองตามเสียงแล้วยกมือไหว้ท่านอวุโสที่เดินมาทักทาย
“สวัสดีครับท่านชายนพ”
“สวัสดี”
“นี่เอย ภรรยาของผมครับท่าน”
“ลูกสาวของเกื้อใช่ไหมเนี่ย”
“ใช่ครับ เอยครับนี่ท่านชายนพเพื่อนพ่อพี่เอง”
“สวัสดีค่ะท่านชายนพ”
ฉันยิ้มแล้วยกมือไหว้ท่านชายนพด้วยความนอบน้อม แววตาอบอุ่นของท่านชายมองมาที่เราสองคนพร้อมกับยิ้มให้ด้วยความปิติยินดี
“สวยสมคำล่ำลือจริงๆ”
“คะ?”
“ผมก็เคยได้ยินเกื้อเล่าเรื่องลูกสาวอีกคนให้ฟัง บอกว่าสวยมาก”
คุณพ่อเล่าเรื่องเอยเหรอคะ”
“ตอนเมาน่ะ บอกว่ารักลูกสาวคนนี้มาก”
สิ่งที่ท่านชายนพพูดออกมาทำให้ฉันยิ้มด้วยความดีใจ คุณพ่อเคยพูดแบบนั้นจริงๆเหรอ ท่านบอกว่ารักฉันต่อหน้าทุกคนดีใจจริงๆ
“เพราะสวยแบบนี้ไงครับ ผมเห็นเลยติดใจ”
คุณฌาณยิ้มแล้วกระชับอ้อมแขนที่กอดเอวฉันให้แน่นขึ้นกว่าเดิมต่อหน้าท่านชายนพ ท่านมองเราสองคนแล้วยิ้มออกมาด้วยความปลื้มปริ่ม
“อย่าหวานกันให้มากเลยนะฌาณ สงสาคนอยากมีลูกสะใภ้อย่างอาบ้าง”
“ครับ แต่ผมก็อกใจไม่ไหวจริงๆ”
“คุณฌาณ”
“แหมๆ ข้าวใหม่ปลามันทำไมมันหวานแบบนี้กันนะ”
คุณฌาณปล่อยกอดฉันแล้วหันไปมองชายหนุ่มรูปงามในชุดสูทสีขาวที่ยิ้มให้เราสองคนพร้อมกับเดินเข้ามายืนข้างๆท่านชายนพ ใบหน้าเรียวยาวคม จมูกโด่งเป็นสันสวย รับกับดวงตาคมกริบและริมฝีปากเรียวสุดเซ็กซี่
“ไปไหนมาเนี่ย งานประมูลเพชรจะเริ่มอยู่แล้วนะ”
“มีธุระต้องไปจัดการน่ะครับ”
“ฉันขอแนะนำนะ นี่ฮานลูกชายของผมเอง”
“สวัสดีค่ะคุณฮาน”
“คนที่นายอยากแต่งด้วยไม่ใช่คนนี้นี่ฌาณ”
รอยยิ้มหวานแต่เคลือบไปด้วยยาพิษของคุณฮานทำให้ฉันหายใจไม่ทั่วท้องเมื่อโดนเค้ายิงคำถามที่คุณฌาณก็คงตกใจไม่ใช่น้อย
“ไอ้ฮาน พูดอะไรของแก”
“ก็ผมได้ยินวงในเค้าพูดมา งานแต่งก็เปลี่ยนชื่อเจ้าสาวกระทันหัน”
“ก็ใช่”
คุณฌาณยังคงยิ้มเหมือนไม่รู้สึกอะไรที่โดนคุณฮานตอกหน้า เค้าเอื้อมมือไปแตะไหล่ของคุณฮานก่อนจะหันมามองฉัน
“แต่เอยก็มีดีไม่แพ้คนเดิม”
“จำใจยอมแต่งแบบนี้จะอยู่กันรอดเหรอฌาณ แล้วแบบนี้แพรวาก็เป็นของฉันได้น่ะสิ”
“ไอ้ฮาน!!”
“ไม่เอาๆ เลิกทะเลาะกันต่อหน้าคนอื่นนะแกก็เลิกหาเรื่องฌาณสักที”
ท่านชายนพรีบห้ามทั้งสองคนเพราะกลัวว่าคนในงานจะรู้ตัวว่าทั้งสองคนมีเรื่องกัน
“ถ้ามึงแตะแพรวา กูไม่ยอมแน่”
“หวงผู้หญิงคนอื่นต่อหน้าเมียแบบนี้มันจะดีเหรอ”
คุณฌาณชะงักมือที่บีบไหล่คุณฮานก่อนจะหันมามองฉันที่ยืนอยู่ข้างๆ คุณฌาณรักคุณแพรวามากแต่ฉันเองที่เข้ามาทำลายความรักของเค้าก็ไม่ผิดที่จะต้องรับความเจ็บปวดเช่นนี้
“หึ! ผมขอตัวนะครับท่าน”
“ได้ๆ”
คุณฌาณเดินออกไปจากงานแล้วหลบไปยังสวนในหลังห้องจัดเลี้ยงเพื่อสงบสติอารมณ์ ฉันจึงเดินตามเค้าไปเงียบๆโดยไม่พูดให้เค้ายิ่งหงุดหงิด
“เห็นไหมว่าการที่ฉันต้องมาแต่งงานกับคนอย่างเธอมันน่าสมเพชขนาดไหน”
คนตัวสูงหันมามองฉันแล้วพูดจาร้ายๆใส่ฉัน ฉันไม่สบตาเค้าแล้วเบือนหน้าไปมองทางอื่นเพราะเจ็บที่คุณฌาณโมโห ฉันรู้ดีว่าฉันเกิดมาเป็นตัวถ่วงของใครหลายๆคน ไม่เคยมีใครอยากให้ฉันเกิดมาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว
“เอย...”
“ทำไมฉันต้องมาแต่งงานกับคนอย่างเธอด้วย”
มือหนากระชากตัวฉันเข้าไปใกล้แล้วบีบแขนฉันแรงๆเพื่อให้ฉันเจ็บปวด
“เอย...ขอโทษค่ะ”
“ขอโทษแล้วมันได้อะไรขึ้นมา เพราะฉันเสียหน้าไปแล้ว”
“คุณรังเกียจเอยขนาดนั้นเลยเหรอคะ”
ฉันมองคนตัวสูงแล้วข่มอารมณ์น้อยใจเอาไว้ คุณฌาณทำเหมือนกับว่าการแต่งงานกับฉันมันน่าอายและเสียหน้าที่สุดในชีวิต
“ใช่ ฉันรังเกียจเธอ”
คุณฌาณผลักฉันลงไปนั่งที่เก้าอี้ในสวนแล้วจะสูดหายใจเข้าลึกๆเพื่อทำให้ตัวเองใจเย็นลง
“เอยขอโทษนะคะที่ทำให้คุณขายหน้า”
ฉันมองลงพื้นแล้วปล่อยให้น้ำตาแห่งความเจ็บปวดไหลลงมาอาบทั้งสองแก้ม ฉันผิดเหรอที่เกิดมาต่อยต่ำไม่ได้เพรียบพร้อมเหมือนคุณแพรวา ฉันเองก็อยากให้เค้ามองนิสัยใจคอของฉันมากกว่าชาติกำเนิด ขอแค่มองฉันใหม่จะรู้ว่าฉันไม่ได้คิดร้ายกับเค้าเลย
“นี่ร้องไห้เหรอ”
“อึก”
“หยุดร้องเดี๋ยวนี้นะเอย!! เธอต้องอยู่ในงานกับฉันอีกนาน”
“อึก ฮือๆ”
ฉันร้องไห้ออกมาอย่างห้ามไม่ได้ คนตัวสูงกระชากฉันเข้าไปใกล้แล้วบังคับให้ฉันหยุดร้องไห้
“เอย!!”
“อึก เอยเจ็บค่ะ”
“รีบเช็ดน้ำตาซะเอย ไม่อย่างนั้นกลับไปเธอเจอดีแน่”
“อึก”
“ทำไมฉันต้องมาเจอคนอย่างเธอด้วยวะ!!”
คนตัวสูงโยนผ้าเช็ดหน้าให้ฉันด้วยความหงุดหงิดแล้วเดินเข้าไปในงานโดยไม่รอฉัน ฉันเช็ดให้เบามือที่สุดพร้อมกับสูดหายใจไล่ความรู้สึกเจ็บปวดไปให้พ้นๆหัวใจ
“โอ๊ะ!”
ฉันหันไปมองคุณฮานที่เดินเข้ามาหาฉันพร้อมกับยิ้มให้ด้วยความร่าเริง
“.......”
“คุณผู้หญิงมานั่งร้องไห้แบบนี้ได้ยังไงกัน”
“อย่าหาเรื่องเอยเลยค่ะคุณฮาน”
“ใครบอกว่าผมจะหาเรื่องคุณล่ะ ผมจะมาขอบคุณคุณต่างหาก”
“ขอบคุณ?”
“ครับ ขอบคุณที่แต่งงานกับไอ้ฌาณแล้วทำให้ผมได้ใกล้ชิดกับแพรวา”
รอยยิ้มสดใสนั้นเหมือนมีดกรีดกลางใจฉัน เค้าเองก็มาเพื่อดูถูกฉันเหมือนคนอื่นๆ
“ค่ะ”
“เดี๋ยวสิ ผมยังพูดไม่จบ”
“คุณจะทำอะไรคะ”
“ผมก็จะขอบคุณคุณที่เอาไอ้ฌาณออกไปจากชีวิตคุณแพรว มันคงโมโหมากที่ต้องแต่งงานกับลูกนอกสมรสอย่างคุณแทน”
มือหนาจับแขนฉันเอาไว้อย่างเสียมารยาท คนตัวสูงดึงฉันเข้าไปใกล้แล้วมองหน้าฉันพร้อมกับเอยวาจาดูถูกฉันไม่ยอมหยุด
“คุณ!!”
“สะใจเหลือเกินที่มันไม่ได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการบ้าง ลูกมาเฟียก็เหมาะสมกับลูกเมียน้อยแล้วล่ะ”
ฉันกำหมัดแน่นเมื่อโดนพูดจาดูถูดไม่หยุด คุณฮานยังคงจับไหล่ฉันเอาไว้แน่นแล้สยิ้มเยะเย้ยฉัน
“ลูกเมียน้อยแล้วมันยังไงคะ”
“หืม?”
คุณฮานชะงักรอยยิ้มหวานเมื่อฉันเริ่มตอบกลับเค้า ฉันปล่อยให้เค้าดูถูกมามากพอแล้วและหากไม่ตอบกลับเค้าคงจะดูถูกไปถึงคุณพ่อของฉัน
“อย่างน้อยลูกเมียน้อยอย่างเอยก็ไม่เคยมานั่งดูถูกคนอื่นเพียงเพราะชาติกำเนิดของเค้า”
“.......”
“คุณคิดว่าตัวเองสูงส่งแต่มันก็เป็นแค่ชาติตระกูลของคุเท่านั้น ถึงเอยจะไม่เคยเป็นผู้ดีแต่ก็รู้ว่าควรปฏิบัติตัวยังไงไม่ให้เป็นที่รังเกียจของสังคมแบบคุณ”
“!!!!!”
“คนที่ดูถูกคนอื่นเพียงเพราะชาติกำเนิดของเค้าอย่างคุณควรแล้วเหรอคะที่จะเรียกตัวเองว่าปัญญาชนผู้เจริญทางสังคมชั้นสูง”
ฉันมองคุณฮานแล้วแกะมือหนาของเค้าออกห่าง ใบหน้าอึ้งของชายหนุ่มตรงหน้าเริ่มแปลเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มเหมือนคำด่าเมื่อกี้คือคำชมแสนหวาน
“หึหึหึ คุณนี่ทำให้ผมอึ้งไปเลยรู้ตัวไหม”
“ถึงเอยจะเกิดมาต่ำต้อยแต่เอยก็ไม่เคยมองขอเสียของคนอื่นก่อนที่จะได้รู้จักคนคนนั้น”
“ครับ ผมขอโทษที่พูดจาไม่ดีกับคุณ”
ฉันไม่ตอบคุณฮานแล้วเดินกลับเข้าไปในงานทันที
อีกด้านหนึ่ง
“หึหึหึ น่าทึ่งจริงๆแม่สาวน้อย....”
สายตาคมแตะมือที่จมูกแล้วสูดดมกลิ่นหอมที่ติดมาจากกายหญิงสาวที่เขาพึ่งจะดูถูกไปหยกๆ เอยมีอะไรบางอย่างที่สามารถดึงดูดเขาได้และตราตรึงคำด่าของหล่อนเอาไว้ในใจ เขาไม่คิดเลยว่าผู้หญิงตัวเล็กๆอย่างเอยจะกล้าต่อปากต่อคำกับเขาได้ถึงขนาดนี้ มันช่างน่าสนใจกว่าผู้หญิงสูงส่งอย่างแพรวาซะเหลือเกิน
โปรดติดตามตอนต่อไป