“พะ พี่ครับ...”
เมื่อได้ยินคำพูดจากปากที่เคยปิดสนิทอยู่ของโนอึล ซังฮาก็ละสายตาจากผู้คนมาทางโนอึลแทน ทว่ารอยยิ้มสกปรกๆ ที่ไม่เหมาะกับใบหน้าสุภาพก็ยังไม่ยอมหายไปสักที โนอึลมองรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความสกปรกของอีกคนก่อนจะส่ายหน้า
“ถ้าจับใครสักคนในนี้ได้ นายก็จะได้กลับเข้าสังกัด แล้วก็ทำการแสดงเหมือนเดิมนะ”
ต้นสังกัดกับการแสดง
โนอึลส่ายหัวอยู่ตลอดขณะมองคนมากมายทางฝั่งตรงข้ามกับเขาและซังฮา เขาถอยหลังไปหนึ่งก้าวเพื่อหลีกเลี่ยงคนข้างตัว ทว่าเมื่อกำลังจะหันหลังกลับไปที่ประตูทางเข้า ซังฮาก็คว้าแขนของโนอึลที่ตั้งใจจะออกไปอย่างรีบร้อน
“นายบอกว่าต้องหาต้นสังกัด แล้วก็อยากกลับเข้าวงการไม่ใช่เหรอ”
สายตาของซังฮาเริ่มลอยและไม่โฟกัสในที่มืด โนอึลจึงดันอีกฝ่ายออก แต่ซังฮาก็จับแขนของโนอึลไว้ไม่ปล่อยเหมือนไม่รู้สึกอะไร
“มองตรงนั้นสิ ชั้นบนน่ะ มีแต่คนรวยๆ ทั้งนั้นเลยนะ”
พอซังฮาหันหน้าไป โนอึลเลยหันตามสายตาของอีกฝ่าย สายตาทั้งสองคู่มองเห็นชายหญิงทั้งหลายในเสื้อผ้าน้อยชิ้นกำลังแย่งกันเก็บเงินจนคล้ายกับพวกซอมบี้อยู่ด้านล่าง ส่วนผู้ชายที่โปรยเงินพร้อมกับหัวเราะดังๆ ดั้วยความสนุกสนานยืนอยู่อีกด้านของผนัง คนโปรยใส่สูทครบชุดต่างจากชายหญิงสภาพเกือบเปลือยที่พากันที่คว้าเงินบนพื้น ก่อนที่อีกฝ่านจะโปรยกัญชาที่ดูคล้ายกับบุหรี่ลงพื้นด้านล่างต่อ พอมองให้ละเอียดขึ้นอีกนิดก็เห็นว่าข้างๆ ชายหนุ่มคนนั้นมีหญิงสาวร่างเปลือยสองคนกอดอยู่พลางหัวเราะคิกคักเหมือนแม่มดจนรู้สึกประหลาดชอบกล
“ผู้ชายคนนั้นคือกรรมการผู้จัดการโดของเอสดีไง เขาว่าโปรยเงินทีก็หลายล้านอยู่นะ”
“พะ พี่ จะบ้าเหรอ”
สายตาหลุดโฟกัสเหมือนวิญญาณปลิวหายของซังฮาหยุดลงบริเวณที่ผู้คนมากมายวิ่งเข้าหาชายหนุ่มที่ถูกเรียกว่ากรรมการผู้จัดการโดคล้ายเมาทั้งยา เมาทั้งเงินจนดูใจลอย... สุดท้ายโนอึลก็ยกมือขึ้นมาจับแขนซังฮาเขย่า
ซังฮาเป็นนักแสดงเกรดซีที่ไม่ได้มีคนติดตามมากเท่าไหร่ แต่ก็ถือว่ายังโดดเด่นและอาจจะแสดงได้ดีจนเป็นที่ยอมรับสักวันนึง อีกฝ่ายมักจะอวดดีเกินกว่าระดับของตัวเองอยู่เสมอ ทว่าในตอนนี้กลับต่างออกไป
โนอึลอยากถามว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้แล้วเขย่าแขนคนเปลี่ยนไป ซังฮาหัวเราะฮ่าๆ พร้อมโยกอย่างไร้แรงต่อต้านอยู่ในมือโนอึล เดินโซเซราวกับคนเมายาและกำลังจะพังทลายในไม่ช้า
“พี่ครับ ตั้งสติหน่อย พี่ เป็นแบบนี้ไม่ได้นะ พี่...”
“โนอึล ตอนนี้พี่อยู่ในละครเหรอ”
รอยยิ้มเลื่อนลอยบนใบหน้าของซังฮาน่ากลัวมาก เมื่อเห็นแบบนั้นโนอึลจึงหยุดมือตัวเอง
“หึๆ ...นาย นายก็ทำได้”
ดาราน่ะ มันเยอะกว่าที่คิดนะ
โนอึลหน้าตาหล่อเหลาตั้งแต่เด็กจนได้ยินคำชมว่าเหมือนดาราบ่อยๆ ดังนั้นก็เลยคิดว่าถ้าหากเป็นดาราได้เหมือนที่คนอื่นพูดก็คงจะดี และท้ายที่สุดเขาก็ได้เป็นดาราจริงๆ ทว่ากลับเป็นดาราที่คนทั่วไปไม่รู้จักและไม่รับรู้ถึงการมีอยู่ของตัวเขาด้วยซ้ำ
ซังฮาหัวเราะอย่างหมดแรง หัวเราะอยู่ตลอดเวลาเหมือนไม่รู้ว่าจะทำยังไงเพราะทุกอย่างมันดีมากๆ สายตาหลุดโฟกัสสั่นไหวราวกับกำลังร้องไห้ต่างจากริมฝีปากที่ส่งเสียงหัวเราะออกมา โนอึลถอยหลังออกห่างจากซังฮาโดยไม่รู้ตัวทีละก้าว ทีละก้าว ทุกๆ ครั้งที่เขาถอยออกมา อีกฝ่ายก็จะหัวเราะเสียงดังขึ้นไปอีก
“เด็กๆ ที่มารวมตัวกันที่นี่ ส่วนใหญ่ก็มาเพราะอยากได้กันทั้งนั้นแหละ ไม่ต้องกังวลหรอก เขาบอกให้ฉันพาเด็กที่โอเคมาแหละ”
ความว่างเปล่า ความสิ้นหวัง และความยินดีอันสกปรกปะปนกันจนดูไร้สติ โนอึลหัวร้อนกับสภาพของซังฮาที่เละเทะคล้ายอดีตของตัวเขาเอง
อีกก้าวหนึ่ง
ซังฮาค่อยๆ ยกมือขึ้นอย่างเชื่องช้าไปทางโนอึล ทว่าโนอึลส่ายหัวเพราะไม่สามารถรู้ได้เลยว่ามือสั่นเทานั้นมีความหมายแบบไหนหรือต้องการอะไร
“โนอึล ไปกับพี่ไหม”
ตึกตึกตึกตึก
เสียงซังฮาที่แผ่วเบาเหมือนสายลมท่ามกลางเสียงเพลงดังหนวกหูฝังลงไปในหูราวกับเป็นสว่าน เขาคุ้นเคยกับคำพูดที่ออกมาจากปากของอีกคนมาก สุดท้ายโนอึลก็ยกมือขึ้นมาปิดหูตัวเองทั้งสองข้างจากคำพูดที่ชัดเจนในสมองและหัวใจ
ระหว่างที่ไม่รู้ตัวแสงภายในคลับก็สว่างขึ้นจนเพียงพอต่อการมองเห็น ภายใต้แสงอีโรติกด้านหลังซังฮาเต็มไปด้วยผู้คนที่แทงเข็มฉีดยาลงบนแขนตัวเอง คนที่ดึงคนอื่นเข้ามากอด ประกบริมฝีปากกัน ไปจนถึงผสานร่างเข้าด้วยกัน มันไม่ใช่ภาพลักษณ์ของคลับที่โนอึลคิดไว้เลย เขาพลาดท่าให้กับคนที่เคยเชื่อใจ ไม่สิ เขาตกลงไปในการแก้แค้นของซังฮาง่ายดายมากๆ
แม้ซังฮาจะไม่ซื่อตรง แต่ก็ใช้ชีวิตนักแสดงอย่างใสสะอาด และถึงแม้หน้าตาจะธรรมดา แต่หากใครต้องการบทตัวประกอบที่ช่วยประคับประคองนักแสดงนำ อีกฝ่ายก็มักจะได้รับการติดต่อให้รับบทเช่นนั้นอยู่เสมอ ซังฮาใช้ชีวิตในวงการบันเทิงอย่างใสสะอาดต่างกับโนอึล
สุดท้ายโนอึลก็ขยับตัวออกห่างจากซังฮาที่ตอนนี้เลือกจะออกไปในทางเดินที่เต็มไปด้วยกลิ่นคาวและสกปรก เมื่อเข้ามาในทางเดินนี้ เขาก็รู้ดีว่าจะไม่สามารถกลับออกไปได้อีก มันหอมหวานแต่เป็นอันตรายต่อชีวิต ในขณะเดียวกันก็ทำให้รู้สึกอยากตายด้วย... โนอึลถอยห่างจากทางเดินตรงหน้าที่ไม่อยากเข้าไป
“พี่... ผมไม่เข้าไปหรอก”
เขาไม่เข้าไปอีกครั้งแน่ เพราะช่วงเวลาที่เข้าไปนั้น...
โนอึลหันหลังหนีซังฮาที่กำลังขยับเข้ามาใกล้ ไม่สามารถอยู่กับอีกฝ่ายได้อีกต่อไปแล้ว เขาขยับเท้าไปตรงทางเดินยาวๆ ที่เคยเข้ามา เมื่อละสายตาออกจากซังฮาตา ก็มองเห็นผู้คนที่กำลังผสานร่างเข้าหากันตรงนั้นตรงนี้อย่างไม่เหมาะสม พวกเขาที่กำลังเมาเหล้ากับฤทธิ์ยาไม่สนใจเลยว่าใครจะมองตัวเอง คล้ายในความคิดเต็มไปด้วยเรื่องเซ็กซ์เท่านั้น
โนอึลรู้ดีว่าฤทธิ์เหล้าทำให้คนเป็นแบบนี้ มันกดความคิดและทำให้ทรงตัวตามปกติไม่ได้
เขากุมขมับด้วยมืออันสั่นเทาขณะเดินผ่านผู้คนที่นัวเนียกันอยู่เพื่อกลับไปในทางเดินเส้นเดิม ทว่าลมหายใจกลับติดขัดกับทางเดินยาวๆ ที่มืดสลัว จมูกได้กลิ่นของกัญชา ดวงตามองเห็นมอร์ฟีนและมือที่สั่นช้าๆ คล้ายจะเป็นอัมพาต สุดท้ายมือที่เคยกุมขมับก็เลื่อนลงมากุมคอตัวเอง โนอึลเร่งฝีเท้ากับอาการอยากยา ความกระหายที่กลั้นเอาไว้อย่างสุดความสามารถ มันเริ่มตีขึ้นมาช้าๆ ตั้งแต่ปลายเท้าจนถึงลำคอ
ระหว่างคิดว่าทางเดินมันยาวถึงขนาดนี้เลยเหรอ ก็มองเห็นแสงสีเขียวแสดงให้รู้ถึงประตูทางออกในที่สุด ถึงมันจะเป็นแค่แสงสว่างของประตูฉุกเฉิน แต่โนอึลกลับมองมันเหมือนแสงแห่งความอยู่รอด ขณะเปี่ยมไปด้วยความหวังว่าจะสามารถออกไปข้างนอกและหลุดพ้นจากเรื่องนี้สักที เขาก็ได้ยินเสียงอึกทึกครึกโครมดังมาจากด้านหลัง รู้สึกเหมือนใครบางคนกำลังโปรยยา โนอึลคิดว่ามันเป็นเรื่องของคนอื่นพร้อมกับมองหาแสงไฟอ่อนๆ อย่างลุกลี้ลุกลน และย่ำเท้ามาจนถึงสุดทางเดินจนได้
“อะไรกัน จะกลับแล้วเหรอ”
ทว่าเมื่อเปิดประตูเพื่อออกไป ไหล่ของเขากลับถูกคว้าเอาไว้ โนอึลตกใจกับน้ำเสียงที่เพิ่งเคยได้ยินเป็นครั้งแรกก่อนจะหันหน้าไปช้าๆ เขาไม่สามารถรับรู้ได้เลยว่าอีกฝ่ายเป็นใครภายใต้ทางเดินมืดๆ ไร้แสงไฟแบบนี้
“ตอนนี้มันเริ่มแล้วนะ จะออกไปก่อนได้ยังไงล่ะ”
“อะไรวะ นี่คนรู้จักนายเหรอ”
“แล้วนายเคยเห็นหน้าไหมล่ะ มาบอกว่าเป็นคนรู้จักน่ะ”
ไม่ได้มีแค่เสียงเดียว มีน้ำเสียงเต็มไปด้วยความขี้เล่นกับเสียงที่เบากว่านั้นอีกหนึ่ง เสียงของผู้ชายทั้งสองคนฟังดูยานคางจนรับรู้ถึงการเสพยา โนอึลรู้ดีว่าตัวเองไม่สามารถเอาชนะคนเสพยาได้ ดังนั้นจึงคิดอย่างรวดเร็วว่าต้องทำยังไงถึงจะหลุดพ้นจากสถานการณ์นี้
“ไปด้วยเถอะกันน่า วันนี้สนุกเพราะจินฮึนมาด้วยนะ จะกลับก่อนได้ไง”
“ใครมาเห็น คงนึกว่านายสนิทกับคังจินฮึนนะเนี่ย”
“ก็เรียนม.ปลายที่เดียวกัน ก็สนิทดิ ไม่ใช่งั้นเหรอ”
คนที่จับไหล่เขาพูดล้อเล่นกับผู้ชายอีกคน โนอึลพยายามบิดไหล่ออกแล้วอ้าปากพูด
“ผะ ผม...”
“ไปไหม”
ทั้งสองคนพูดคุยกันโดยไม่สามารถจับใจความได้พลางหัวเราะเสียงดัง เขาถอยหลังหนึ่งก้าวเพื่อหนีออกจากบทสนทนาของอีกฝ่าย ก่อนจะนิ่วหน้ากับอะไรบางอย่างที่กระทบไหล่เขาอย่างแรง สองคนนี้ไม่คิดจะฟังคำพูดโนอึลเลย แถมย้อมถามว่าทำไมถึงหลบแบบนั้นพร้อมกับดึงไหล่ที่จับอยู่อย่างรุนแรง แม้จะเป็นผู้ชายเหมือนกัน แต่ก็สัมผัสได้ถึงความแตกต่างจากเรี่ยวแรงที่มี อีกปัญหาก็คืออีกฝ่ายเสพยาและไม่ได้อยู่คนเดียวด้วย โนอึลกลืนน้ำลายเหนียวๆ และใช้ความพยายามเพื่อให้ตัวเองหลุดออกจากมือชายหนุ่ม
ทางเดินที่เคยรู้สึกว่ายาวมากตอนอยู่คนเดียวกลับสิ้นสุดลงอย่างรวดเร็วเหมือนตอนที่เดินไปกับซังฮา โนอึลนิ่วหน้ากับภาพความบันเทิงที่ปรากฏขึ้นตรงหน้าอีกครั้ง แต่เหมือนว่ามันจะเฉอะแฉะมากกว่าก่อนหน้านี้ ชายหญิงที่เคยใส่เสื้อผ้าน้อยชิ้นต่างก็ถอดไปเสียครึ่งหนึ่งจนหน้าของโนอึลกลายเป็นสีแดง เมื่อรู้สึกว่าสูญเสียการมองเห็น มือที่จับไหล่เขาอยู่ก็ผละออกไปเช่นกัน โนอึลหันไปมองหน้าเจ้าของของมือภายใต้แสงสีเขียวเข้ม ซึ่งเป็นคนที่เขาเพิ่งเคยเห็นครั้งแรกในชีวิต
“อะไรกัน เป็นผู้ชายเหรอ”
หลังจากชายหนุ่มที่มีใบหน้าขี้เล่นสำรวจใบหน้าโนอึลเสร็จก็ย่นหน้าอย่างแรง
“เฮ้ย ไหนบอกว่าเป็นผู้หญิงไง”
“ตอนหนี ก็เห็นว่าเป็นผู้หญิงนี่นา”
ชายหนุ่มที่เคยจับไหล่เขากับอีกคนที่คอยโต้ตอบกันดูเหมือนไร้สติทั้งคู่ เสื้อเชิ้ตสีขาวที่สวมตอนแรกถูกถอดออกอย่างลวกๆ โนอึลรับรู้ได้ว่าทั้งสองคนเป็นพวกนักธุรกิจร่ำรวยจากเน็กไทด์ที่โผล่ออกมาจากกระเป๋ากางเกง หลังจากการทำงานในช่วงวันธรรมดาที่ผ่านมา พวกเขาก็ไร้สติกับปาร์ตี้ยาในเย็นวันศุกร์เช่นนี้
โนอึลยืดหลังตรงอย่างรีบร้อนเมื่อทั้งสองคนสับสนกับการที่เขาเป็นผู้ชาย ก่อนจะเขาหันตัวหนีเพราะถ้าหากคนพวกนั้นไม่นิยมผู้ชาย เขาก็สามารถหนีออกไปจากที่นี่ได้
“เอาเถอะ คังจินฮึนก็กกพวกผู้ชายด้วยไม่ใช่เหรอ ถึงเป็นผู้ชายก็คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง”
“จริงๆ นอกจากโดอีกอมแล้ว ก็กกผู้ชายกันได้หมดนั่นแหละ ผู้ชายก็มีรูเอาไว้เสียบเหมือนกันนี่”
“เออ ถึงจะสกปรกไปหน่อย แต่ก็มีรูแหละเว้ย”
แม้แต่พวกนักธุรกิจร่ำรวยก็มีแบ่งระดับเหมือนกัน และพวกนักธุรกิจระดับใกล้เคียงกันก็มักจะเข้ากันได้ดี
โนอึลฟังการกล่าวถึงคนชื่อคังจินฮึนอยู่เรื่อยๆ อย่างเหม่อลอย เหมือนสองคนตรงหน้าเขาไม่ได้อยู่ระดับสูงเทียบเท่าเจ้าของชื่อนั้น เขารู้สึกเฉอะแฉะคล้ายจมอยู่ในความต่ำต้อย
ก่อนที่โนอึลจะทิ้งสองคนนั้นไว้ข้างหลัง เขาวิ่งหนีคนที่กำลังแลกเปลี่ยนบทสนทนากันอยู่อีกครั้งอย่างรวดเร็ว จะต้องหนีออกจากที่นี่ขณะยังมีสติครบถ้วนให้ได้ แม้จะมีเพียงน้อยนิดก็ตาม เขาเดาไม่ออกเลยว่าจะถูกจับไปทำอะไรบ้าง และในปาร์ตี้ยาเขาก็ไม่สามารถปกป้องตัวเองจากคนพวกนั้นได้ด้วย พวกนักธุรกิจมั่งคั่งน่ะ มีอิทธิพลอยู่เหนือกฎหมายของประเทศ และสำหรับคนพวกนั้น นักแสดงกับคนธรรมดาก็เป็นแค่สิ่งมีชีวิตเหมือนกับแมลงเท่านั้น
โนอึลวิ่งหนีด้วยฝีเท้ากระวนกระวาย หลังหนีจากซังฮา เขาก็ไม่มีเวลามาวุ่นวายใจกับการถูกจับได้อีก เพราะคิดแค่ว่าจะต้องหลุดพ้นจากกลุ่มนักธุรกิจมั่งคั่งที่น่ากลัวพวกนี้
“เฮ้ย! ทำไมถึงชอบหนีอยู่เรื่อยเลยวะ”
“ฮะ เฮือก”
เขาคิดว่าจะหนี ไม่สิ ต้องหนีให้ได้ แต่ร่างกายกับความคิดหวาดกลัวมองข้ามการได้ยิน ลืมสิ่งที่คอยดูดเรี่ยวแรงไปจากร่าง กลิ่นยาและเหล้าติดอยู่ที่จมูกจนโนอึลต้องลงไปคลานสี่ขา ทว่าชายหนุ่มก็คว้าข้อเท้าของโนอึลไว้พร้อมกับหัวเราะเสียงประหลาดๆ
“จริงๆ มองแล้วก็สวยเหมือนกันนี่ ถึงจะตัวใหญ่ แต่ก็ไม่อ้วน”
“เออ จริงด้วยว่ะ”
“บะ แบบนี้มัน...”
“ทำไมเล่า นายเองก็มาเพราะมีของที่อยากได้ไม่ใช่เหรอ ฉันจะช่วยเอง”
ท้ายสี่สุดโนอึลก็ต้องกรีดร้องเมื่อถูกคนที่จับข้อเท้าไว้ลากตัวไปเหมือนเป็นสิ่งของ เสียงพูดคุยของอีกฝ่ายที่คล้ายเมากัญชาเรียบร้อยแล้วดังมากพอจนเขาไม่ได้ยินเสียงดนตรีหนวกหูจากรอบข้าง ความรู้สึกทั้งหมดส่งสัญญาณอันตรายออกมาแล้ว เขาส่งเสียงกรีดร้องกับความคิดว่าอยากจะหนีออกไปแม้จะต้องตัดข้อเท้าทิ้ง พร้อมกับพยายามคว้ามือของชายหนุ่ม แต่มันก็ไม่สำเร็จ