ณ.โรงแรมแห่งในสังกัดองค์กรมาเฟีย ในประเทศไทย
นักข่าวชั้นนำมากมายที่กรูกันมาอยู่หน้าโรงแรม และก็ทำได้แค่ยืนอยู่ด้านนอกเนื่องจากบอดีการ์ดที่นี่คุมเข้มเป็นอย่างมาก และทุกคนมีอาวุธครบมือ เพียงแค่ใครสักคนรุกล้ำเข้ามาในเขตพื้นที่ส่วนบุคคลนี้ก็เตรียมกะโหลกพรุนได้เลย โดยทางเดินเข้ามาด้านในโรงแรมนั้นมีพรมสีแดงกำมะหยี่ปูวางเป็นทางยาวเข้าไปถึงด้านในเพื่อต้อนรับสมาชิกในองค์กรเท่านั้น !
ส่วนใหญ่จะเป็นรถ Sport Car, Audi R8, BMW, Mercedes-Benz, Lamborghini Huracan, Ferrari F430 Spider, Lamborghini Aventador, Jaquar F Type, Aston Martin DB7 และอื่นๆอีกมากมายที่จอดลงหน้าโรงแรมก่อนจะปรากฏตัวแขกผู้สูงศักดิ์รวมทั้งผู้คนมากมายที่มีสิทธิ์ในที่นั่งขององค์กรค่อยก้าวลงมาจากรถโดยมีบอดีการ์ดส่วนตัวที่ค่อยๆยื่นมือรับร่างสวยก้าวลงมาพร้อมกับชุดที่อลังการณ์อย่างกับมาเดินแบบที่เมืองคานส์
ทุกสายตาที่หันไปมองรถคันหนึ่งค่อยขับมาและชะลอจอดลงที่หน้าโรงแรม ก่อนจะปรากฏตัวหญิงสาวที่จับชายกระโปรงสีขาวที่มีชายยาวจนละพื้นค่อยๆก้าวขาสวยลงมาจากรถใบหน้าสวยที่หันมายิ้มให้บอดีการ์ดส่วนตัวอย่างเป็นมิตรแม้ในใจอยากจะโวยวายแทบตายก็บอดีการ์ดเธอตอนนี้บ่นเป็นหมีกินผึ้ง !
“เธอแต่งมาลำบากฉันแท้ๆเลยยัยบ้า” เป็นการบ่นที่แทบจะไม่ค่อยขยับปากแทบหญิงสาวกับยกมุมปากยิ้มและเอื้อมมือที่สวมถุงมือสีขาวยาวขึ้นมาจนถึงข้อศอกเนียนมนมาวางบนฝ่ามือใหญ่ของ.. แมกซิม !!
“ช่วยไม่ได้ย่ะ คริสโตเฟอร์ต่างหากที่เลือกชุดนี้ให้ฉันใส่” ทุกคนต่างพากันจับตามองไปที่ฮาเวียร์หญิงสาวร่างสวยที่อยู่ในชุดราตรีสีขาวนวลบนชุดนั้นถูกตกแต่งด้วยลูกไม้เคลือบเพชรชายกระโปรงที่ยาวละพื้น
หลังจากนั้นแมกซิมที่กลืนน้ำลายเสียงดังก่อนจะพาหญิงสาวที่สวยราวกับเทพธิดาหรือเจ้าหญิงในละครโดยเขาสามารถพูดได้ด้วยปากตัวเองเลยว่าคืนนี้เธองามมากที่สุด ! ก่อนจะเดินเข้าไปด้านในโรงแรมโดยทางเดินบนพื้นพรมแดงนั้นมันช่างยากลำบากสำหรับแมกซิมเหลือเกินเพราะเขามัวแต่กังวลหน้าหลังกลัวว่าเธอจะสะดุดชายกระโปรงและล้มหน้าคะมำไปสะก่อน
แชะ แชะ แชะ !!!!
แมกซิมที่ไม่ปล่อยมือของหญิงสาวให้หยุดเดินโดยการเรียกร้องขอถ่ายรูปจากนักข่าวทั้งไทยและเทศ มากมาย โดยเธอนั้นก็เข้าใจก่อนจะจ้ำอ้าวเดินตามเขาพรางกรนด่าในใจแต่ก็ทำได้แค่นั้น
[Aetan Talk Special]
สมาชิกในองค์กรมากมายที่ต่างเดินกันมานั่งที่โต๊ะของตนเอง ซึ่งผมนั้นก็ดันเสล่อนั่งอยู่โต๊ะแรกของงานโดยด้านข้างมี มาร์คัส ชิโร่ คริส แอช และอาร์โตที่นั่งอยู่ในโต๊ะเดียวกัน ส่วนลูอีส เจคิว เทมัช และแขกอีกสองคนที่ผมลงทุนเสียศักดิ์ศรีส่งการ์ดเชิญไปทั้งที่รู้ในใจว่าพวกมันจะไม่มาแท้ๆแต่ก็ดันโผล่มาก็คือมาติน กับ เมราดิกส์ เฮ้อ ! เซ็งชะมัด ! แต่ก็ช่างเหอะ เพราะตอนนี้คนที่ผมต้องการที่สุดในชีวิตกำลังเดินทางมา และทุกคนในที่นี้ทั้งหมดก็ต่างรอเธอแค่คนเดียวอีกด้วย
ยัยนั่นไงล่ะ !!!!
ฮืออออฮา ฮืออฮา
เสียงผู้คนที่เริ่มฮือฮาหลังจากเห็นใครสักคนที่กำลังเดินเข้าก่อนจะค่อยๆยืนขึ้นจนบังการมองผม ทำให้ผมต้องลุกขึ้นเต็มความสูง 187 ซม ทันใดนั้นสายตาก็ดันไปสบตา บอกเลยว่าสบตา ! กับเธอ จนทำให้ผมถึงกับผงะด้วยความตกใจ !!
“เฮ้ย ! นั่นใช่ ฮาเวียร์ป่ะวะน่ะ” เสียงเจ้าชิโร่ที่ลุกขึ้นยืนตามผมหลังจากนั้นทั้งโต๊ะของผมก็ลุกขึ้นยืนทั้งหมด ยัยนั่น !!
“โคตรสวยเลยวะ รับไม่ได้เลยที่จะต้องเห็นเธอเป็นเมียแก” เจ้านั่นหันมาแขวะผมทำเอาผมต้องหันไปบอกมันให้เงียบปาก
“เงียบน่า” สายตาผมที่โฟกัสไปที่ร่างสวยก่อนที่เธอจะหยุดชะงักเมื่อเห็นใครบางคนที่เดินออกมาหาโดยที่เธอเองก็โผเข้ากอดด้วยความคิดถึง
มาตินยังไงล่ะ !
เมื่อแมกซิมเห็นดังนั้นก็ต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพี่ชายเธอโดยที่มันก็เดินมาที่โต๊ะที่เจ้าลูอีสยืนอยู่โดยที่หันมามองหน้าผมและยักคิ้วให้กวนๆ
ผมอยากจะกระชากเธอให้มาอยู่กับผมเร็วๆสะเหลือเกิน !!!
ทุกสายตาที่จับจ้องไปยังเธอและมาตินก่อนที่เจ้านั่นจะรับช่วงต่อเสียงปรบมือที่ดังขึ้นเมื่อมันพาเธอเดินย่างกรายเข้ามาตรงนี้ ตรงที่ผมยืนอยู่ ! ร่างสวยของเธอที่ดันสบตากับผมพอดีก่อนที่เธอจะแอบแลบลิ้นปลิ้นตาทำให้ผมต้องหลุดขำออกมา เพราะไม่เคยเห็นเธอทำตัวน่าโดนฟัดขนาดนี้มาก่อนเลย ให้ตาย !!! หลังจากนั้นทุกคนที่ยืนขึ้นก็ค่อยๆนั่งลง สถานการณ์ตอนนี้กำลังสงบลง เนื่องจากผู้หญิงคนเดียวที่ผมต้องการมากที่สุดหยุดยืนต่อหน้าพร้อมกันกับมาติน
“วันนี้ผมในฐานะหนึ่งในเก้าอี้หุ้นส่วนและทายาทขององค์กร” ไม่พูดเปล่ามันที่เดินไปอยู่ด้านหน้าฮาเวียร
ก่อนจะยื่นแขนเพื่อให้เธอสวมแขนเข้ามา
“....”
มันเดินเข้ามาหาผมก่อนจะยิ้มให้อย่างเปิดเผน ซึ่งนั่นก็ทำให้ผมก็ต้องเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้ามันและผายมือ
ออกไป เป็นการรับฝามือเล็กที่ค่อยๆเอื้อมมาวางอย่างน่ารักต่อหน้าต่อตาผม
“ขอคืนอำนาจที่ยึดมาจาก เอเธนส์ แอนเทิร์นดอว ทั้งหมด และขอแต่งตั้ง”
“ให้เป็นหนึ่งในเก้าอี้ขององค์กร รวมทั้งทางองค์กรและสมาชิกทุกๆคน”
“......”
“อนุญาตให้ฮาเวียร์ใช้นามสกุล แอนเทิร์นดอว ได้หลังจากนี้เป็นต้นไป” ร่างเล็กที่ยืนข้างๆบนย่อขาลงเล็กน้อย ซึ่งผมก็ก้มศีรษะให้ ทำให้ทุกคนต้องปรบมือและยกแก้วที่วางไว้วนโต๊ะขึ้นมาชูพร้อมกัน ชิโร่ที่หันไปรับสองแก้วที่แก้วหนึ่งเป็นของผม อีกแก้วหนึ่งเป็นของเธอก่อนจะยื่นมาให้ตรงหน้า
มือเล็กของเธอเอื้อมไปรับอย่างยินดีและหันมามองหน้าผมโดยไม่พูดอะไรหลังจากที่ผมรับมา เจ้าชิโร่ก็พูดต่อ
“ทุกคนในห้องนี้จะเป็นพยายานรักให้ว่า พวกเธอทั้งสองคนเป็นสามี-ภรรยา อยู่รวมกัน พร้อมกับให้กำเนิดทายาทไว้สืบหน้าที่ในองค์กร”
“ดื่ม !!!”
“Cheer !!!!!!!!!!!!!”
สิ้นสียงนั้นผมก็หันไปฝังจมูกลงบนแก้มสีสมพูใสของเธออย่างเปิดเผย ซึ่งเธอก็ดันหันมาหาผมในเวลาเดียวกันจนทำให้ริมฝีปากเล็กนั้นสัมผัสกับริมฝีปากผม
“ยินดีกับนายด้วยนะ” น้ำเสียงมีความสุขพูดขึ้นหลังจากสบตาอยู่สักพัก
“ยินดีต้อนรับเข้าสู่ครอบครัววุ่นวายของฉัน ฉันรักเธอนะ” ผมที่พูดออกไปก่อนจะหันไปมองพี่ชายของเธอที่ยกแก้วขึ้นและทำท่าเหมือนจะชนแก้วจนผมต้องยิ้มให้แบบไม่ได้รู้เกลียด อันนี้ผมยิ้มให้จากใจจริงๆ ก่อนที่จะหันมามองใบหน้าสวยราวกับเจ้าหญิงจริงๆวันนี้และคล้องแขนเผื่อจะดื่มไวน์ที่มีราคาแพงหูดับขององค์กร ! ผมก็เป็นผมเหมือนเดิมที่เมื่อดื่มเสร็จก็คว้าท้ายทอยสวยของเธอมานาบริมฝีปากจูบอย่างโหยหา ไหนๆก่อนที่วันนี้จะผ่านไปก็ขอแสดงความรักให้เธอเห็นหน่อยละกัน
“อื้ออ !” ริมฝีปากสวยที่จูบตอนผมจนทำให้คนในห้องต้องปรบมืออีกครั้งราวกับเป็นพยานรักของเราทั้งสองแล้วพรุ้งนี้เราจะไปจดทะเบียนสมรสกัน ดีใจเว้ย !
“พอได้แล้วน่า อายชาวบ้านเค้า !” ฮาเวียร์บ่นอุบแต่นั่นก็ทำให้ผมรู้สึกอยากจะฟัดเธอเอาสะตรงนี้เลย !
“ไม่พอ เธอทำให้ฉันเป็นคนที่โลภมาก เพราะฉันไม่เคยรู้จักพอกับเธอเลย” หลังพูดจบฮาเวียร์ก็หูแดงปรี๊ด
ขึ้นจนผมเองที่สังเกตเห็นและคว้าเธอเข้ามากอด
ยัยนี่มัน !!
รักเธอว่ะ !!!!
รักแบบไม่เคยรักใครเท่านี้มาก่อนเลย ให้ตาย !!!
หลังจากนั้นฮาเวียร์ที่ขอตัวไปคุยกับคริสและครอบครัวของผม ซึ่งผมก็อนุญาตเมื่อผมเห็นคริส แอช และอาร์โตกอดเธอ เพื่อแสดงความดีใจผมก็ดีใจ (มาก) ไปด้วย แม้จะแอบหวงๆก็เถอะ
“ไง ฝากดูน้องฉันด้วยล่ะ อย่าทำให้ยัยนั่นร้องไห้เชียว ไม่งั้นฉันมาฆ่าแกแน่” ผมเดินไปหามาตินที่ทำท่าเหมือนจะเดินมาหาอยู่แล้วแต่เมื่อผมเดินไปก็ถูกฝ่ามือใครสักคนวางลงที่ไหล่กว้างทำให้ผมต้องหันไปมอง
อย่างสงสัย ทายสิ ! ว่าเจ้านี่ที่วางแขนผมไหล่ผมอยู่เป็นใคร ?
“ยินดีด้วยครับ คุณเอเธนส์ เป็นฝั่งเป็นฝาแล้ว” เมราดิกส์หรือเพื่อนของมาตินพูดขึ้นก่อนจะหันมายิ้มให้ผมและถือวิสาสะชนแก้วจนผมนั้นเหวอไปสักพัก แต่ก็นะ... ไหนๆก็ครอบครัวเดียวกันแล้ว เฮ้อออ !!
“ฉันไม่คิดว่าพวกนายจะมาด้วยซ้ำ เห็นว่าอยู่อังกฤษ”
“ไม่มาก็โดนยัยนี้ด่าหูชาทั้งชาติแน่” เจ้าคนที่กระดกไวน์เป็นว่าเล่นอย่างเมราดิกส์
“น้องสาวแต่งงานทั้งคน ไม่มาไม่ได้หรอก” สีหน้ามาตินที่มีแววห่วงน้องสาวนิดหน่อย แต่ก็ถอนหายใจก่อนจะหันมามองหน้าผมด้วยสีหน้าจริงจัง
“แกต้องดูแลยัยนั่นให้ได้นะ รักเธอให้มากๆ”
“ฉันรับปาก ว่าจะดูยัยนั่นเป็นอย่างดี ดูแลแบบมดไม่ไต่ ไรไม่ให้ตอมเลยล่ะ”
“....” กำ มุกไม่ผ่าน.................................
“ฉันรู้แล้วน่า ไม่ทำให้ผิดหวังหรอก เชื่อใจฉันสิ อีกอย่าง”
“ขอบคุณมากนะที่มา”
หมับ !
“ยินดีน่า” มาตินที่คว้าไหลผมไปกอดแบบผู้ชายซึ่งผมก็ตบไหล่ไปเป็นอันว่ารู้กัน
“ฉันอ่านข่าวแกตลอด ตอนอยู่อังกฤษ เห็นแล้วก็เบื่อ” หลังจากที่ผละออกจากกันมาตินก็พูดปนขำ ซึ่งนั่นก็ทำให้เมราดิกส์ที่ยืนรินไวน์อยู่ด้านข้างก็ขำตามไปด้วย นั่นกลับทำให้ผมต้องขำตามอย่างเลี่ยงไม่ได้จริงๆ
“เป็นครอบครัวกันแล้ว ถ้ามีอะไรให้ช่วยก็บอกได้ตลอด”
“ไม่มีอะไรให้ต้องช่วยหรอก” มาตินพูด นั่นก็ทำให้เพื่อนซี้ของเจ้านั้นต้องหันมากระแทกแขนที่สีข้างอย่างแรง
“เหรอวะ ไม่มีจริงเร้ออ !!”
“เงียบน่า !!”
“นึกว่าจะไม่มาซะแล้ววว” ฮาเวียร์ที่โผล่มาข้างหลังผมก่อนจะกระโดดก่อนพี่ชายตัวเอง ไม่ต้องสังเกตุเลยว่าเจ้านั้นก็แทบจะรับเธอไว้ไม่ทันรวมกับมือที่ยังถือแก้วไวน์อยู่
“ไม่มาได้ไง น้องสาวแต่งงานทั้งคน”
“ดีใจมากนะ ที่อุส่าต์รีบบินจากอังกฤษมาเลย” ฮาเวียร์กอดมาตินแน่นหลังจากนั้นเธอก็ค่อยๆปล่อยออกเมื่อรู้ว่าจะหล่นจึงทำให้ผมต้องเข้าไปพยุงเธอแต่พอสังเกตุดีๆยัยนี่สวมรองเท้าแตะมาทำเอาผมต้องเงยหน้ามองและขำเด็กโง่อย่างเธอ ซึ่งก่อนที่เราจะส่งกำหนดงานให้กับองค์กรเธอก็พูดขึ้นมาเลยว่างานนี้จะไม่ใส่ส้นสูงเพราะกระโปรงที่ยาวก็ลำบากตายอยู่แล้ว อีกอย่างก็ไม่มีใครที่สามารถเห็นเท้าเธอได้ด้วย ผมจึงไม่อยากเถียงมากจึงคว้าเธอเข้าห้องนอนอย่างหิวกระหาย แต่เธอก็ดันทำมันจริงๆ
“หึ เธอนี่” ผมพูดก่อนจะส่ายหัวให้เธอ ทำให้ฮาเวียร์ต้องหันมามองและหรี่ตา
“อะไรหึงหรือไง แค่ฉันกอดพี่ตัวเอง แค่นี้ทำหึง”
“ฉันไม่ได้หึง แต่เธอดันใส่รองเท้าแตะมางานใหญ่แบบนี้ ยอมใจเธอเลยจริงๆ” เมื่อได้ยินดังนั้นฮาเวียร์ก็ยกนิ้มชี้ขึ้นจรดปากตัวเองเพราะกลัวว่าจะมีคนอื่นรู้ ทำให้เมราดิกส์ต้องเดินมาทางผมก่อนจะหัวเราะเสียงดังเพราะไม่คิดว่ามันจะเรื่องจริง
“เห้ย ! จริงวะ !! ฮ่าๆ”
“เงียบนะ ถ้าใครรู้เข้าฉันอายตายแน่”
ไม่พูดเปล่ายังปล่อยมือกอดออกจากพี่ชายตัวเองและเดินมาทางผมก่อนจะจับเนคไทสีขาวของผมและรูดขึ้นมาจนชิดคอ ทำเอาผมต้องสำลัก
“ฮึกก !! อึ่กกๆๆ ยะ..ยัยบ้า ฉันหายใจไม่ออก !”
“หยอกเล่นน่า ฉันไม่ฆ่านายแม้จะอยากก็เถอะ” พูดจบร่างเล็กก็เขย่งขาขึ้นโดยที่มือข้างนึงก็ดึงเนคไทผมลงทำให้ผมต้องก้มลงมาเธอก่อนจะจรดริมฝีปากกัน กลายเป็นเธอที่ครั้งนี้เป็นคนละเลงริมฝีปากกับผม จนสัมผัสได้ถึงลิ้นเล็กที่ดุ้นดันจนผมต้องคว้าท้ายทอยของเธอเพื่อยึดจับและกระแทกจูบหนักๆลงไปอย่างหมันเคี้ยว !
จะจูบกันที พูดดีๆก็ได้มั้ยย !
“โว้ย !! เบื่อพวกมีเมีย” แมกซิม
“เออ เบื่อด้วย !” เมราดิกส์
ผมที่ได้ยินดังนั้นก็ถอนจูบออก แม้สีหน้าเธอในตอนนี้ทำให้ผมอยากจะกระชากชุดนี้ออก ซึ่งเมื่อผมคิดได้ดังนั้นก็ก้มลงไปกระซิบข้างหู
“คืนนี้ฉันจะสั่งสอนเธอให้หนักเลย”
“หึ จะคอยดู”
“เลิกกินยาคุมได้แล้ว”
[Aetan talk end]
2 ปีผ่านไปไวเหมือนโกหก
หญิงสาวสวมชุดสบายๆก่อนจะยกกล้องโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายภาพตรงหน้าที่ทำเอาเธอถึงกับต้องมนต์สะกด เนื่องจากหนุ่มหล่อที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสามีของเธออย่างเต็มตัวลงไปนั่งเล่นกับลูกแฝดชายสอง นิ้วเล็กที่กดถ่ายภาพนั้นมาเนื่องจากแบล็คกราวนั้นเป็นสถานที่ที่เธอใฝฝันอยากไปมากที่สุดก็คือ หอไอเฟล กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศสนั่นเอง หนุ่มหล่อสวมชุดไปรเวทน่ารักๆเงยหน้าขึ้นมามองภรรยาตัวเองและเอ่ยปากเรียก
“ถ่ายรูปอยู่เหรอ ?”
“อืมม” ฮาเวียร์ที่เดินไปหาเอเธนส์ก่อนจะถูกแขนใหญ่ของชายหนุ่มดึงลงมาทำให้หญิงสาวที่ไม่ทันตั้งตัวต้องเซล้มลงมานั่งบนตักอย่างเลี่ยงไปไหนไม่ได้
“จะให้นั่งก็บอกดีๆสิ รุนแรงจัง” ฮาเวียร์หันไปทำขรึมใส่เอเธนส์ทำให้ลูกๆนั้นต้องหันมามองก่อนจะพยายามเดินมาหา แต่สุดท้ายก็ทำได้แค่ยืนและล้ม
“ดูฟรานซ์สิ พยายามจะเดินมาหาแม่” ฟรานซ์ที่เอเธนส์พูดก็คือเด็กผู้ชายอายุขวบกว่าๆมีดวงตาสีน้ำตาลอ่อนที่สะท้อนกับแสงแดดยามเช้า ที่พยายามจะเดินมาหาจนสุดท้ายก็ล้มลงไปทับเด็กน้อยอีกคน
“เฮ้ ! อลาสการ์ เจ็บมั้ยคะ” มือเล็กของฮาเวียร์ที่วิ่งไปจับลูกชายอีกคนที่ตอนนี้ถูกฟรานซ์นอนทับไปแล้ว เมื่อเอเธนส์เห็นดังนั้นก็ต้องรีบลุกขึ้นมาอุ้มฟรานซ์ด้วยใบหน้ามีความสุข หลังจากนั้นพวกเขาก็ลุกขึ้นแต่ยังไม่ถึงไหนเลย ฟรานซ์ก็เอื้อมมือเล็กๆมาตีหน้าอลาสการ์
แหมะ !
นัยน์ตาสีดำของอลาสการ์ที่เงยหน้ามองมืออย่างสนใจ แต่สิ่งนั้นกลับทำให้เอเธนส์ตกใจก่อนจะรีบแยกลูกๆออกจากกัน แต่อลาสการ์กลับสงเสียงเรียกอย่างน่ารัก
“แดดเดดดดด”
“ว่าไงครับ คนเก่ง” เอเธนส์เดินกลับมาหาอลาสการ์ก่อนที่ลุกน้อยจะทำท่าเหมือนอยากจะให้คนเป็นพ่ออุ้มมากกว่าทำให้ฮาเวียร์ต้องเงยหน้ามองและขำ
“ขำอะไร ชอบใจเหรอเห็นลูกของเราตีกันเป็นนักเลง”
“เปล๊า !” มือใหญ่ของเอเธนส์ที่เอื้อมมารับลูกชายอีกคนจากอ้อมแขนของฮาเวียร์ ทันใดนั้นมือเล็กๆก็ตีแหมะไปที่หน้าของเอเธนส์เต็มๆ
“งืออ ตีพ่อทำไมครับ ไม่รักพ่อเหรออลาสการ์”
แหมะ !
รอบนี้เป็นมือเล็กๆของฟรานซ์ที่ตีไปที่แก้มของเอเธนส์หลังจากนั้นเด็กน้อยก็ขำเหมือนชอบใจ
“รังแกพ่อทำไมครับบ”
“มานี่เดียวช่วยอุ้ม” ฮาเวียร์พูดก่อนจะเดินไปหาเอเธนส์แต่ก็ถูกเขาห้ามก่อนที่สายตาจะมองต่ำลงไปที่หน้าท้องของฮาเวียร์ที่ตอนนี้เริ่มใหญ่ขึ้น
“ไม่ต้อง เธอดูแลลูกแฝดในท้องไปเถอะ เดียวฉันอุ้มเอง”
“... แน่ใจนะว่าไหว”
“แน่ใจสิ ขอหอมแก้มให้ชื่นใจหน่อยได้มั้ย ??” น้ำเสียงออดอ้อนของเอเธนส์ทำให้ฮาเวียร์ต้องหันไปมองและพูดอย่างน่ารัก
“ก็เห็นหอมทั้งคืน ยังไม่พอใจอีกรึไง”
“ก็เคยบอกแล้วไง ว่าเธอทำให้ฉันโลภ”
“....”
“และตอนนี้ฉันก็โลภมากๆด้วย :)”
เป็นตอนจบแบบ Happy ending อย่างแรกเลยเค้าต้องขอโทษรีดทุกคนด้วยนะคะที่หายไปชาตินึงเลยย ไม่มีข้อแก้ตัว ขอโทษจริงๆ ที่กลับมาแต่งต่อเพราะว่าเค้าคิดถึงทุกคนแล้วเห็นว่าทุกคนก็รอนิยายเค้าลงต่อจริงๆ เลยกลับมาเขียนอีกครั้ง ทุกคนคือแรงบันดาลของเค้าที่ทำให้แต่งจบแบบสมบูรณ์นะคะ ถึงบางคู่จะไม่ได้คู่กันก็เถอะ (ความหมันไส้เล็กๆ) สุดท้ายก็จบลงจนได้เรื่องนี้ ขอโทษที่ปล่อยให้รอนะคะ รักทุกคนนะะ ไม่มี Special Chapter นะคะ ขอบคุณแฟนพันธ์แท้ตระกูลนี้จริงๆ อยู่กันมาตั้ง 3 เรื่องรักสุด !!