"นายจะเอายังไงกันแน่ ไหนว่า พวกเขารักกัน ไง พี่เข้าใจว่านายอยากทำตัวเป็นเทพอุ้มสมเสียอีก" ไจ๋เทียนหลินเอ่ยปากทันทีที่ประตูลิฟท์ปิดลง
"ตกลงนายจะรั้งอาหลงไว้เองเหรอ" เขาหันมามองเผิงกวนอิงที่ยืนล้วงกระเป๋าอยู่ข้างๆ
"ปะ เปล่า" เผิงกวนอิงตอบ ท่าทางหงุดหงิด
"แล้วมันยังไงกัน ขึ้นต้นมานายก็เริ่มกัดก่อนแล้ว"
"ก็ ก็ พี่ดูท่าทางเหล่าไป๋สิ ไม่ให้ผมยั๊วะได้ไง เจอหน้าก็ไม่ยอมพูดยอมจา คิดหาเรื่องผมตั้งแต่ยังไม่เข้าประตูแล้วมั้ง" เผิงกวนอิงยังฮึดฮัดอยู่ เขาทำท่าจะพูดต่อแต่ประตูลิฟท์เปิดเสียก่อน เหล่ยลี่ที่ยืนอยู่ด้านหน้าก้าวออกลิฟท์ไปก่อน เขามองไปรอบด้านก่อนจะหันมาพยักหน้าให้แล้วก้าวนำไปก่อน ไจ๋เทียนหลินกับเผิงกวนอิงจึงรีบก้าวออกไป
ทั้งสามคนก้าวยาวๆผ่านโถงที่ไม่มีผู้คนนอกจากยามที่ยืนอยู่ใกล้ประตู ด้านนอกมีรถตู้ VIP เปิดประตูจอดรออยู่ ซูอวี้หลิงผู้จัดการของไจ๋เทียนหลินชะโงกหน้าออกจากรถ มองซ้ายขวาก่อนจะส่งสัญญานโอเคให้ทุกคน
พอขึ้นรถได้เรียบร้อย ไจ๋เทียนหลินก็พูดต่อ
"นายไม่น่าจะลืมว่านายมาที่นี่ทำไม.... พี่อยากจะเตือนนายเหมือนกัน แต่พี่ไม่รู้จริงๆว่านายคิดอะไรอยู่กันแน่" เขานั่งตะแคง หันไปมองหน้าเผิงกวนอิงที่เก้าอี้ท้ายรถ เขานั่งวางขาเหยียดยาวมาข้างหน้า
"นายส่งรูปอาหลงนอนหลับไปให้เขาดู นายโทรไปยั่วเขาโกรธ แล้วนายยังมีหลินชิงหูกับจางฟงคอยเป็นลูกคู่ช่วยนายอยู่ ....เฮ้อ ถ้าพี่เป็นไป๋อวี่ พี่คงฟาดนายด้วยไม้กอล์ฟตั้งแต่นายโผล่เข้าประตูห้องมาแล้ว พี่ไม่แค่ทำหน้างอใส่นายหรอก" ไจ๋เทียนหลินถอนใจปิดท้ายคำพูดอีกครั้ง
"พอได้ยินกับหูว่านายไล่เหล่าไป๋ให้ไปพ้นๆอาหลง พี่ก็นึกว่านายเปลี่ยนใจ จะไม่ยอมปล่อยอาหลงให้ไป๋อวี่เสียอีก" เขาว่าก่อนขยับตัวเป็นนั่งตรงๆพิงพนักเก้าอี้
"ก็ถ้าหมอนั่นยังคิดอย่างนั้นอยู่ เขาก็ไม่ควรอยู่ใกล้อาหลงแล้ว" เผิงกวนอิงพูดมาจากด้านหลัง
"หากเขาคิดจะยึดอาหลงไว้เป็นของตัวเอง อาหลงจะลำบาก"
"ฉันว่าไป๋อวี่คงไม่ได้คิดอย่างนั้นเสียทั้งหมดหรอก" ไจ๋เทียนหลินพูดโดยไม่หันมามอง
"เขาไม่ใช่เด็กๆ เขาต้องรู้สิว่าคนแต่ละคนก็ย่อมต้องมีชีวิตเป็นของตัวเอง ไม่ใช่เป็นทรัพย์สินของใคร"
"พี่ไม่ได้ยินที่เขาพูดหรือไง เขาว่าอาหลงเป็นของเขา... เห็นอาหลงเป็นเสื้อเป็นผ้าที่แขวนไว้ในตู้หรือไง จะไม่ให้ผมโมโหจนเอ่ยปากไล่ได้ยังไง" เผิงกวนอิงฮึดฮัดขึ้นมาอีก
"นายไม่ได้คิดให้ถี่ถ้วนแล้ว คราวนี้" ไจ๋เทียนหลินหันมามองหน้า ชี้นิ้วให้ซูอวี้หลิงย้ายเก้าอี้ พอเธอย้ายไปนั่งด้านหลังไจ๋เทียนหลิน เผิงกวนอิงจึงขยับขึ้นมานั่งแทน ที่เก้าอี้ด้านข้าง
.....
"ไป๋อวี่หึงนาย นายก็รู้อยู่ เห็นนายเขาก็ติดป้ายศัตรูหัวใจให้ก่อนแล้ว ที่เขาประกาศว่าอาหลงเป็นของเขาก็เพราะเขาอยากจะบอกนายว่าอย่ามายุ่ง เขาไม่ได้หมายความว่าเขาเห็นอาหลงเป็นสิ่งของเสียเมื่อไหร่ล่ะ" ไจ๋เทียนหลินเอ่ยอย่างติดรำคาญ เขารำคาญจริงๆ รำคาญไอ้พวกปากไม่ตรงกับใจ
เขารู้มานานแล้วว่าเผิงกวนอิงคิดอย่างไรกับจูอี้หลง แต่ที่ไม่กล้าเดินหน้าก็คงเพราะยังหวงแหนความเป็นเพื่อนรักอยู่ แล้วจู่ๆก็มีไป๋อวี่ที่เป็นคนตรงไปตรงมาโผล่เข้ามา หมอนี่คงโดนทางบ้านตามใจจนเคยตัวเลยค่อนข้างจะเปิดเผย ไม่กลัวใคร คนนึงคอยแต่ปิดอยู่ ส่วนอีกคนก็เปิดอกจนแทบจะแหวกเอาหัวใจมาวางกองตรงหน้า แล้วจูอี้หลงควรจะใจอ่อนกับคนไหน ...
เผิงกวนอิงเงียบ....
"ผมพลาดล่ะสิ คราวนี้" เสียงเขาอ่อนลง
"ใช่นายพลาด ในฐานะเพื่อนนะ แต่ในฐานะคนที่พยายามปกป้องสิ่งที่นายรัก นายไม่พลาดหรอก มันอยู่ที่ว่านายอยากจะเล่นบทไหน"
"ผมพลาดจริงๆ" เผิงกวนอิงงึมงำ สองมือประสานอยู่กลางหว่างเข่า
"อ้อ ตกลงจะเล่นบทเพื่อนที่ดีสินะ เอ้า โอเค ตามใจนาย แต่นายคงต้องไปขอโทษไป๋อวี่แล้วล่ะ นายดันเผลอเล่นผิดบทนี่นา"
"ย้อนกลับไปตอนนี้เลยดีไหม" เผิงกวนอิงถาม
"เอาสิ แล้วบอกเลิกงานที่เซี๊ยะเหมินซะ" ไจ๋เทียนหลินประชด เผิงกวนอิงต้องไปเซี๊ยะเหมิน* เขาต้องอยู่ที่นั่นยาวไปถึงต้นเดือนเมษายนของปีหน้า ตอนนี้คนอื่นในทีมของเขาก็ล่วงหน้าไปกันก่อนแล้ว เหลือแต่เขากับเหล่ยลี่ที่รั้งอยู่
"งั้น .... " เผิงกวนอิงก้มหัวลงตรงหว่างเข่า ใช้มือทั้งสองขยี้หัวตัวเองจนผมยุ่งเหยิง
"เอาไงดี โว้ย...."
"เป็นหนู หนูไม่ยกจูเหล่าซือให้ใครแน่..." ซูอวี้หลิง ผู้จัดการที่เพิ่งเริ่มทำงานมาได้ปีกว่าๆอดแสดงความคิดเห็นไม่ได้ ไจ๋เทียนหลินหันขวับไปทำตาเขียวใส่เธอ
"มีใครถามความเห็นเธอหรือยังไง" เขาถามเสียงเย็นเยียบ ทำเอาผู้จัดการสาวหน้าเสีย ไจ๋เทียนหลินขึ้นชื่อว่าเป็นนักแสดงที่เปลี่ยนผู้จัดการส่วนตัวบ่อยที่สุดคนหนึ่ง เธอยังไม่อยากตกงาน เลยต้องรีบสงบปากสงบคำไว้
ไจ๋เทียนหลินหันมาทางเผิงกวนอิง ที่ตอนนี้นั่งเอนตัวมาด้านหน้า เอาหน้าผากยันพิงพนักเก้าอี้ตัวหน้าที่เหล่ยลี่นั่งอยู่
"พี่ว่า ตอนนี้นายเองก็ควรจะถอยออกมาก่อน ถอยออกมาแล้วค่อยๆถามใจตัวเอง ว่านายคิดยังไงกันแน่ ทางไป๋อวี่ พี่จะคุยกับเขาเอง ถ้าเป็นพี่ ไป๋อวี่คงจะไม่ตั้งแง่อะไร คงจะพอรับฟังพี่บ้าง" เขาจบคำพูดด้วยการเอื้อมมือมาตบหลังเผิงกวนอิงเบาๆ
....
รถตู้ VIP ของไจ๋เทียนหลินมาส่งเผิงกวนอิงกับเหล่ยลี่ที่สนามบิน พวกเขาจะต้องไปเซี๊ยะเหมิน เพราะพรุ่งนี้ก็จะมีบวงสรวงเปิดกล้องแล้ว
"ผมฝากด้วยนะ พี่" เผิงกวนอิงกล่าวก่อนโบกมือลา คนขับรถลากประตูปิดแล้วรีบวิ่งไปขึ้นประจำที่คนขับ เอารถออกไปจากจุดจอด เผิงกวนอิงกับเหล่ยลี่ต่างแบกเป้แค่คนล่ะใบเดินเข้าสนามบินไปเพราะข้าวของอื่นๆ ทางทีมงานได้ช่วยกับขนไปแล้วตั้งแต่เมื่อวาน
เผิงกวนอิงก้มหน้าเดินงุดๆ ไม่สนใจคนรอบข้างที่เริ่มสังเกตเห็นเขาและจำได้ คนเหล่านั้นเพียงแค่ตะโกนทักแล้วล้วงโทรศัพท์ออกมาถ่ายรูปดาราตัวสูงโย่งที่เอาแต่ก้มหน้าเดินแบบไม่สนโลก....
...
...
...
"ท่าทางเผิงเหล่าซือกับจูเหล่าซือจะมีอะไรกันจริงๆด้วย" ถังซันรำพึง ไป๋อวี่หันขวับมาทำตาลุกใส่
"จะพูดทำไม ผมรู้หรอกน่า พี่ไม่ต้องมาตอกย้ำ" เขาสะบัดหน้า เดินหนีเข้าห้องนอนไป
ไป๋อวี่ดึงเปิดผ้าห่มบนเตียงก่อนทิ้งตัวลงใต้ผ้าที่เขากระชากมาคลุมหัวจนมิด เขานอนตะแคงงอตัวเป็นกุ้ง สองมือกุมทึ้งเสื้อที่อก นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขามีความรัก แต่ไม่มีความรักไหนที่ทำให้เขาปวดใจถึงขนาดนี้มาก่อน ไม่มีความรักไหนที่ทำให้เขาทุรนทุรายอยากเป็นเจ้าของมากเท่านี้มาก่อน ไม่เคยมีใครทำให้เขาโกรธได้มากเท่าจูอี้หลง ไม่เคยมีใครทำให้เขาคิดอยากตกตายไปตามกันเสียยังจะดีกว่าเหมือนพี่ชายคนนี้ ไม่เคยมีใครทำให้เขาสิ้นคิด หมดทางออกจนถึงกับต้องร้องไห้เรียกหาแม่อย่างนี้มาก่อน
มันคือความรักแบบไหนกัน ... หรือว่าที่ผ่านๆมามันไม่ใช่ความรัก แต่เป็นครั้งนี้จึงจะใช่.... ไป๋อวี่ผุดลุกขึ้นนั่ง ในใจร้อนรนจนเขากระชากถอดเสื้อออกทางหัว ลุกเดินโซเซเข้าไปในห้องน้ำ เปิดฝักบัวรดหัวรดตัวจนชุ่ม กางเกงยืดขายาวเปียกลู่ติดขา ไป๋อวี่ยืนร้องไห้อยู่ใต้กระแสน้ำ
ทำไมผมถึงได้รักเกอมากอย่างนี้... เกอรักผมตอบได้ไหม ผมไม่ได้ต้องการเพียงแค่กอดเกอ ไม่ได้ต้องการเพียงแค่จูบเกอ เกอเข้าใจไหม ...
ไป๋อวี่แต่งตัวแล้วมานั่งเช็ดผมอยู่ที่เตียง สีหน้าครุ่นคิด ตอนนี้ที่ทำได้ก็คงจะเป็นรอความหวังจากแม่เท่านั้น เพราะยังไงเขาจะต้องไปพบหลงเกอให้ได้ เขาจะต้องอธิบายให้หลงเกอเข้าใจ ว่าเขาไม่เคยเข้าใจหลงเกอผิด เข้าไม่เคยคิดทำร้าย เขาไม่เคยคิดเปลี่ยนใจ .... ใช่ เขาจะไม่ยอมให้หลงเกอเข้าใจเขาผิดๆแล้วถอยห่างออกจากเขาไป เขาจะต้องรั้งหลงเกอไว้ ไม่เปิดโอกาศให้เผิงกวนอิงอีก...
...
...
ตอนนั้น ไป๋อวี่ไม่ได้นึกด้วยซ้ำว่าการไปพบหลงเกอของเขา กลับจะยิ่งสร้างปมในใจให้กับเขาและคนที่เขารักเพิ่มมากขึ้นอีก.... มากจนผัวเมียสกุลไป๋จะต้องออกโรงเอง...
...
...
...
...
*เผิงกวนอิงเริ่มถ่ายละครเรื่อง 掌中之物 จ่างจงจืออู้ The Object in Your Palm ตั้งแต่วันที่ 18 ธ.ค. 2561 ที่เซี๊ยะเหมิน กำหนดการถ่ายทำไว้ 109 วัน