ในขณะที่ทุกคนออกไปข้างนอกนั้นคุโระที่อยู่ที่โบสถ์คนเดียวเนื่องจากว่าไม่มีอะไรทำเขาจึงจัดการเก็บกวาดและจัดข้าวของภายในโบสถ์เสียใหม่ ใช้เวลาอยู่พอสมควรข้าวของภายในโบสถ์ก็ถูกจัดให้เข้าที่เข้าทาง สิ่งของต่างๆถูกเก็บวางเป็นระเบียบ
"น่าเสียดายที่ไม่มีห้องครัว"
ใช่มันน่าเสียดายที่ภายในโบสถ์ไม่มีห้องครัวให้เขาได้ทำอาหาร เพราะดูจากรูปการแฟมิเลียนี้การได้กินมันฝรั่งทอด ถือว่าเป็นการกินที่หรูสุดๆแล้วละ คุโระเดินถือถุงขยะออกมาจากโบสถ์ก่อนจะนำไปทิ้งที่ทิ้งขยะซึ่งอยู่ไม่ไกลนัก ซึ่งระหว่างทางเขาก็พบเข้ากับท่านเฮสเทียที่นั่งอยู่บริเวณริมแม่น้ำ
"ท่านเฮสเทีย"
ทางด้านเฮสเทีนี่ได้ยินเสียงคนเรียกก็หันมาซึ่งทันทีที่เห็นว่าคนที่เรียกคือคุโระก็ไม่ได้ว่าอะไร ก่อนจะหันไปทางแม่น้ำดังเดิมพรางเอาก้อนหินโยนลงแม่น้ำเล่นไปมา ทางคุโระที่ไม่รู้ว่าในเวลานี้ควรจะทำตัวยังไงดีก็ตัดสินใจที่จะเดินเข้าไปก่อนจะถือวิสาสะนั่งลงข้างๆโดยไม่ขออนุญาติ
"โมโหเรื่องเบลคุงหรอครับ?"
"หึ่ย! ก็ใช่นะสิ ทั้งๆที่เบลคุงมีเราอยู่แล้วแท้ๆ แต่ดันไปหลงยัยไอน์ วาเลนอะไรสักอย่างนั่นอีก!"
"ท่านเนี่ย คงชอบเบลคุงมากเลยสินะครับ"
"พ พูดอะไรของเจ้ากัน!"
ทางเฮสเทียที่ได้ยินดังนั้นก็พลันหน้าแดงขึ้นมา ก่อนจะโยนก้อนหินลงแม่น้ำแบบรัวๆ
"จริงสิ วันนี้ผมหาเงินได้ค่อนข้างเยอะ ออกไปหาอะไรกินหน่อยไหมครับ บางทีเบลคุงอาจจะอยู่ที่นั่นก็ได้"
"หืม... นั่นสินะ งั้นไปกันเถอะ!"
ท่านเฮสเทียตอบรับคำเชิญโดยไวก่อนจะเดินนำคุโระไปยังบาร์ซึ่งเป็นร้านที่เบลคุงมีนัดวันนี้ ใช้เวลาในการเดินมาไม่นานนักก่อนที่เราสองจะเข้าไปข้างใน แต่ดูเหมือนภายในจะเกิดเรื่องวุ่นๆขึ้นมานิดหน่อย
"เกิดอะไรขึ้นนะ วุ่นวายเชียว?"
ท่านเฮสเทียเอ่ยขึ้นมาซึ่งเรียกสายตาของทุกๆคนภายในบาร์ได้อย่างดี ก่อนที่จะมีผู้หญิงคนนึงที่สักเกตุเห็นท่านเฮสเทียจึงตะโกนออกมาเสียงดัง
"โอ้ว นั่นมันยัยเปี๊ยกนี่น่า!"
"ชิ! โลกิ!"
ทันทีที่เทพโลกิเห็นท่านเฮสเทียก็รีบเข้ามาหาทันที ดูเหมือนทั้งสองจะคุยอะไรบางอย่างกันทำให้คุโระถอยออกมาก่อนจะมองไปรอบๆเพื่อหาเบลคุงแต่สุดท้ายก็ไม่เจอคงจะกลับไปก่อนหน้านี้แล้ว แต่ไหนๆก็มาแล้วถ้าไม่สั่งอะไรเลยมันก็ยังไงอยู่ คุโระเดินไปนั่งยังโต๊ะที่ว่างอยู่ ก่อนจะมีเมดสาวมารับออร์เดอร์
"ท่านเฮสเทีย จะทานอะไรดีครับ!"
"โอ้! อะไรก็ได้"
ท่านเฮสเทียตะโกนกลับมาก่อนจะหันไปคุยกับเทพโลกิต่อ แต่ไม่รู้ทำไมสายตาของพวกโลกิแฟมิเลียถึงมองมาทางคุโระด้วยท่าทีแปลกๆ
"ว่าแต่ยัยเปี๊ยก นั่นใครนะเด็กใหม่หรอ?"
"หืม.. คุโระหรอ อื่ม พึ่งเข้าแฟมิเลียเมื่อวันก่อนเอง"
ดูเหมือนบทสนทนาของสองเทพจะกลายเป็นเรื่องของคุโระไปเสียแล้ว ส่วนทางด้านโลกิแฟมิเลียก็ยังคงจ้องมองมาไม่หยุด เป็นอะไรกัน? หลังจากนั้นไม่นานนักก็มีเมดคนนึงนำของที่คุโระสั่งมาเสิร์ฟซึ่งมันเป็นเมนูแนะนำของทางร้านซึ่งเอาจริงๆเขาเลือกไม่ถูก เพราะมันมีมากมายแถมน่าทานทั้งนั้น
"เอะ!"
คุโระเผลออุทานออกมาเพราะเมดสาวที่เอาอาหารมาเสิร์ฟดันมาร่วมนั่งโต๊ะกับเขาด้วย เธอเป็นเอลฟ์ผมสีเหลือง?น่าจะใช่อาจจะเพราะมันค่อนข้างมืดทำให้มองไม่ชัดแต่ที่แน่ๆเป็นเอลฟ์แน่นอน
"คือว่า.."
"ไม่ต้องใส่ใจค่ะ"
"เอ่อ ครับ"
คุโระเลือกที่จะไม่ใส่ใจตามที่เธอว่ามา ก่อนที่เธอจะถามอะไรนิดหน่อยทำให้เขารู้ว่าเธอนั้นมีชื่อว่า"ริว"แต่สัญชาติญาณของคุโระบอกว่าคุณริวนั้นไม่ใช่เมดธรรมดา อาจจะเคยเป็นนักผจญภัยมาก่อนก็ได้ เพราะบรรยากาศรอบตัวมันฟ้อง
"โอ้ว! คุโระจ่ายไหวแน่นะ"
"ไหวครับท่านเฮสเทีย"
ไม่นานนักท่านเฮสเทียก็กลับมาจากการไปพูดคุยกับเทพโลกิ ซึ่งทางนั้นก็ไปสังสรรค์กับแฟมิเลียของตัวเองต่อ ส่วนท่านเฮสเทียหลังจากนั่งลงแล้วก็ลงมือทานอาหารตรงหน้าทันที ดูเหมือนเธอจะลืมจุดประสงค์ที่จะมาหาเบลคุงไปเสียแล้วคุโระก็เช่นกัน
ฮ่าห์! ตึง!
แก้วเบียร์ของท่านเฮสเทียถูกวางลงอีกครั้งก่อนที่คุณริวจะรินให้มันเต็มอีกรอบ ตอนนี้คุโระพอจะเข้าใจแล้วว่าจุดประสงค์ของคุณริวนั้นคืออะไร นั่นคือทำยังไงก็ได้ให้พวกเราจ่ายมากที่สุด แต่ทำไมถึงเลือกคนที่พูดน้อยแบบคุณริวมานะไม่เข้าใจจริงๆ ถ้างานนี้คุณซีลน่าจะเหมาะกว่า เพราะรายนั้นน่าจะพูดเก่งกว่าคุณริวเยอะ
"ท่าเฮสเทีย เบาๆหน่อยครับเดี่ยวก็เมาหรอก"
"เอาน่าๆ คุโระเองก็สั่งได้เลยนะไม่ต้องเกรงใจ"
ไม่ๆ คนที่ต้องเกรงใจคือท่านครับ ผมเป็นคนจ่ายเงิน! แต่พูดไม่ได้เดี่ยวถูกหาว่าเป็นพวกขี้เหนียวเอา คุโระแอบเปิดกระเป๋าตัวเองก่อนจะเริ่มนับเงินที่มีอยู่ ด้วยการคำนวนที่รวดเร็วและแม่นยำ ยังได้อีกชุด! เอาวะจัดมา!
"เอามาอีกชุดครับ!"
"ได้เลย!!"
หลังจากนั้นค่ำคืนก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว เงินในกระเป๋าก็หมดไปอย่างรวดเร็วเช่นเดียวกัน
คุโระนั้นต้องแบกท่านเฮสเทียกลับโบสถ์เนื่องจากตอนนี้เธอเมาแอ่ไปเป็นที่เรียบร้อย ต้องลำบากเขาในการพากลับ ป่านี้เบลคุงคงรอพวกเราอยู่ที่โบสถ์แล้วละมั้ง
"เบลคุง... "
ท่านเฮสเทียที่อยู่บนหลังละเมอออกมา ให้ตายสิชักจะอิจฉาเบลคุงแล้วนะที่มีสาวน่ารักขนาดนี้คอยคิดถึงอยู่ตลอดเวลา ชีวิตก่อนหน้านี้ของเขาถึงจะถูกห้อมล้อมไปด้วยผู้คนในโรงเรียนที่พวกนั้นกลับมาเพื่อผลประโยชน์ไม่ได้มาด้วยความจริงใจเลยแม้แต่คนเดียว นั่นทำให้เขาอิจฉาเบลคุงไม่น้อยที่ผู้หญิงบนหลังเขาคิดถึงเบลคุงด้วยใจจริง
"คุโระ..."
คำต่อมาถึงกับทำให้คุโระชะงักเพราะไม่คิดว่าท่านเฮสเทียจะละเมอเรียกชื่อเขา แสดงว่าเขาเองก็เป็นหนึ่งในแฟมิเลียแล้วจริงๆสินะ
"เอาเบียร์มาอีก แฮะๆ..."
เอ๊ะ?
...................................................................................................................................................................................
-สั้นไปหรอ? ผมก็แต่งให้อยู่ในช่วง 5000 - 6000 ตัวอักษรนะ ไม่ๆ มันไม่ได้สั้นไป พวกคุณอ่านเร็วไป
-ผมใช้เวลาแต่งตั้ง 2 ชั่วโมง แต่เวลาอ่านมันกลับใช้เวลาแค่แป๊ปเดียว!
-ตอนนี้มาตรฐานในการแต่งนิยายอยู่ที่กี่ตัวอักษรหรอ?