ภายในห้องเล็กๆของโบสถ์เก่าหรือก็คือที่อยู่ของ เฮสเทียแฟมิเลีย ตอนนี้มีชายหนุ่มที่เปลือยท่อนบนกำลังนอนคว่ำอยู่บนโซฟาโดยมีหญิงสาวตัวเล็กทรงผมทวินเทลสีดำ กำลังนั่งคล่อมเขาพร้อมทำอะไรบางอย่าง
ติก!
หยดเลือดที่ออกมาจากมือหญิงสาวหยดลงไปบนแผ่นหลังของชายหนุ่ม ก่อนจะปรากฎแสงสว่างพร้อมกับสัญลักษณ์บางอย่างขึ้นมาบนแผ่นหลัง และในวินาทีต่อมาก็ปรากฎเป็นตัวเลขซึ่งกำลังลอยอยู่กลางอากาศ ก่อนที่หญิงสาวคนดังกล่าวจะทำการตรวจสอบ
"โห! สุดยอดเลย"
ทันทีที่เธอเห็นตัวเลขของชายหนุ่มเธอก็เผลออุทานออกมา ทำให้ชายผมขาวที่นั่งอยู่ห่างๆอดไม่ได้ที่จะสงสัย แต่เพราะมันเป็นมารยาททำให้เขาเลือกที่จะนั่งเฉยๆและไม่เข้ามาดู
ในเวลาต่อมาหลังจากที่ปรับค่าสถานะเสร็จเรียบร้อยเฮสเทียก็นำกระดาษออกมาแผ่นนึงก่อนจะนำมาทาบบนหลังของคุโระ ซึ่งมันจะเป็นการทำให้ตัวคุโระสามารถมองเห็นค่าสถานะเหล่านั้นได้ด้วย
"เรียบร้อย อะนี่!"เฮสเทียลุกขึ้นจากตัวของชายหนุ่มก่อนจะยื่นกระดาษสถานะให้แก่เขา
......................................................................................................
KURO
LV 1
STR : E : 543
VIT : I : 72
DEX : H : 152
AGI : E : 582
MAG : I : 0
MAGIC :
SKILL : Sword spirit
......................................................................................................
ทันทีที่คุโระเห็นค่าสถานะของตัวเองก็ทำให้เขาเข้าใจในทันทีว่าค่าความสามารถพื้นฐานของเขานั้นถูกยกระดับขึ้นถึงมันจะไม่มากมาย แต่ก็อยู่ในระดับที่กลางๆ และพอจะเข้าใจเหตุผลแล้วว่าทำไมเขาถึงปราบมิโนทอรัสลงได้ เพราะสกิลของเขา Sword spirit หรือก็คือ จิตวิญญาณแห่งดาบ บวกเข้ากับดาบที่เขาได้รับมา เขาไม่เชื่อหรอกว่าดาบเล่มนั้นจะเป็นเพียงดาบธรรมดาๆเล่มนึง
"เห ผมมีสกิลด้วยสินะครับ"
"อะไรนะครับ! ท่านเทพเมื่อไหร่ผมจะมีสกิลละครับ"
"น่าๆ แต่ค่าสถานะของเธอสูงมากเลยนะคุโระคุง อืมๆ งั้นเรามาฉลองต้อนรับสมาชิกใหม่ด้วยมันทอดกันเถอะ!!"
หลังจากนั้นก็เกิดปาร์ตี้ต้อนรับคุโระด้วยมันฝรั่งทอดที่ท่านเฮสเทียได้มาจากที่ท่านไปทำงาน ซึ่งงานปาร์ตี้นี้ดำเนินต่อไปจนถึงค่ำ และทุกคนก็แยกย้ายกันไปเข้านอน แต่เนื่องจากภายในห้องมันแคบคุโระจึงต้องมานอนที่มุมห้องไปก่อนค่อยจัดการพื้นที่ทีหลัง
เช้าวันต่อมา..
คุโระตื่นขึ้นมาตั้งแต่เช้าทำให้เขาเห็นท่านเฮสเทีนที่นอนอยู่บนตัวเบลคุง ฮึฮึ เป็นท่านเทพที่ไม่ระวังตัวเอาเสียเลย แต่อยู่แบบนี้ก็ดีเป็นเทพที่เป็นกันเองง่ายๆ ไม่ค่อยถือตัว ดีกว่าไปอยู่กับแฟมิเลียชื่อดังแต่ต้องเคร่งในกฏเขาไม่ค่อยชอบเท่าไหร่
"อรุณสวัสดิ์ครับ คุโระซัง"
"อรุณสวัสดิ์ เบล วันนี้ไปดันเจี้ยนกันไหม?"
"แน่นอนครับ ขอไปเตรียมตัวสักครู่"
เบลนำร่างของท่านเฮสเทียให้ออกจากตัวเขา ก่อนจะรีบไปแต่งชุดนักผจญภัยของตัวเอง หลังจากทั้งสองเตรียมตัวกันเสร็จสับ ก็พากันออกจากโบสถ์เพื่อมุ่งหน้าไปดันเจี้ยนแต่เนื่องจากมันยังเช้าทำให้ทั้งสองค่อยๆเดินรับลมไปอย่างไม่รีบร้อน
!!!
ในขณะที่เดินอยู่ทั้งคุโระและเบลสัมผัสได้ถึงสายตาที่จ้องมอง แต่พอหันกลับไปก็ไม่เจอใครแม้แต่คนเดียว แต่ในขณะที่ทั้งสองกำลังคิดกันอยู่นั้นก็มีเมดสาวคนนึงเดินเข้ามาก่อนจะยื่นหินเวทย์ให้แก่เบล และหลังจากพูดคุยกันนิดหน่อยเธอก็ให้ข่าวกล่องพวกเรามา
ภายในดันเจี้ยน....
ตอนนี้คุโระและเบลกำลังสู้กับมนุษย์หมาป่า ไม่สอต้องเรียกว่า"โคโบล" ซึ่งเป็นหมาที่ยืนสองขาเหมือนมนุษย์ทางด้านคุโระนั้นไม่เป็นไรเพราะค่าสถานะของเขานั้นสูงพอที่จะจัดการกับโคโบลตรงหน้าได้อยู่แล้ว แต่สำหรับเบลนั้นลำบากนิดหน่อยเพราะยังไงเขาก็เป็นมือใหม่แต่ก็พอจะจัดการในส่วนของตัวเองได้ไม่ยาก
"เบล! มาเพิ่มแล้วนะ!"
เสียงของคุโระตะโกนขึ้นมาเพราะตอนนี้โคโบลกำลังออกมาจากกำแพง ซึ่งออกมาเยอะกว่ารอบก่อนหน้านี้มาก ทางด้านเบลนั้นดูเหมือนจะกลัวอยู่พอสมควรแต่ในเวลาต่อมาก็ทำสีหน้าจริงจัง
'เราจะเป็นตัวถ่วงคุโระซังไม่ได้ เราต้องการที่จะแข็งแกร่งให้มากกว่านี้!'
เบลได้พุ่งเข้าใส่โคโบลเหล่านั้นทันที โดยมีคุโระตามมาติดๆเพื่อที่จะคอยช่วยเหลือหากเบลพลาดท่า ซึ่งคุโระเองก็ต้องการรู้เช่นกันว่าคนตรงหน้าจะทำได้แค่ไหน ในการต่อสู้กับศัตรูจำนวนมากเช่นนี้ ทำให้เขาเลือกที่จะช่วยแค่นิดหน่อยเพียงเท่านั้นหากไม่เป็นอันตรายถึงชีวิตจริงๆเขาจะไม่เข้าไปยุ่ง
ฟุมม ฟุมมม!
เสียงของโคโบลสองตัวสุดท้ายสลายไปพร้อมกับหินเวทมนต์ที่หล่นลงมา การเข้าดันเจี้ยนของคุโระและเบลนั้นเรียกได้ว่าคุ้มค่า เพราะตอนนี้ในกระเป๋าของทั้งสองเต็มไปด้วยหินเวทมนต์จำนวนมากแถมยังมี ไอเท็มดรอปที่ได้มาจากมอนสเตอร์อีกจำนวนนึง
และถึงแม้คุโระอยากจะไปชั้นที่ลึกกว่านี้แต่สภาพของเบลยังไม่พร้อมและดูจากเวลาตอนนี้ก็ช่วงเย็นแล้วถ้าไม่รีบกลับท่านเทพจะเป็นห่วงเอา ทำให้สองชายหนุ่มตัดสินใจออกจากดันเจี้ยนในทันที
"เอ๋ สุดยอดเพิ่มมากขนาดนี้เลย!"
ในตอนนี้เบลกำลังตื่นเต้นกับค่าสเตตัสของตนซึ่งมันเพิ่มขึ้นมากจากที่ตรวจสอบดูเมื่อคืน ซึ่งของคุโระก็เพิ่มขึ้นเช่นกันแต่ก็ไม่ได้มากมายนัก ทางท่านเฮสเทียก็ไม่ได้ว่าอะไรแต่ทำหน้าไม่พอใจอยู่หน่อยๆ
"ท่านเฮสเทียครับ เกิดอะไรขึ้นกับเบลหรอ"
"นี่อย่าไปบอกเบลเขานะ..."
ท่านเฮสเทียลากผมไปคุยที่มุมห้องซึ่งเธอบอกว่า เบลนั้นมีสกิลอยู่สกิลนึงซึ่งมันจะมีผลต่อเมื่อเบลคุงมีความรู้สึกกับคนๆนึงมากๆ และท่ายังบอกอีกว่าตอนที่คุโระได้ช่วยเบลคุงเอาไว้ในตอนที่เขาวิ่งหนีออกมาดันไปสวนทางกับผู้หญิงคนนึงเข้าทำให้หมอนั่นตกหลุมรัก รู้สึกจะชื่อ ไอน์ วาเลนอะไรสักอย่างนึงนี่แหละ
"เห... นี่ขนาดวิ่งหนียังมีเวลาไปหลงสาวอีกหรอเนี่ย?"
"หึ น่าโมโหเป็นบ้า ขอตัวก่อนนะ!"
แล้วท่านเฮสเทียก็ไปหยิบเสื้อโค้ทก่อนจะเดินออกจากโบสถ์ไป ส่วนเบลนั้นวันนี้เขามีนัดไปทานข้าวที่บาร์ของผู้หญิงที่ให้ข้าวกล่องมาเมื่อเช้าจึงออกไปเช่นเดียวกันทำให้เหลือแค่คุโระคนเดียว
"เอาเถอะ เก็บกวาดห้องหน่อยละกัน!"
.................................................................................................................................................................
-ค่าสถานะ นั้นผมแปลงมาจากในอนิเมะเลย ถึงจะอ่านยากหน่อย แต่ก็พอตีความได้ หากมองดีๆมันก็คล้ายๆภาษาอังกฤษอยู่
-และดูเหมือน ชะตาที่เบลต้องไปชอบ ไอน์อะไรนั่นจะไม่เปลี่ยนแปลงนะ
-เบลยังคงเก่งขึ้นตามอนิเมะนั่นแหละ ส่วนคุโระต้องหาสกิลที่ทำให้เพิ่มค่าสถานะได้เร็วๆก่อน ที่เห็นว่าค่าสถานะสูงนั้นเพราะถูกปรับให้เพิ่มขึ้นนิดหน่อยก่อนมาเกิดใหม่แค่นั้นแหละ