บทที่ 11 รู้หน้าที่

“แม่ว่าลูกไปดูงานที่ประเทศไทยครั้งนี้ให้หนูมินตราไปด้วยดีไหม”
“ผมให้มินตราดูงานที่นี่แทนครับ ผมจะไปคนเดียว”
“นี่แม่จะจับคู่ให้พี่กับคุณมินตราเหรอครับ”
มาคัสถามผู้เป็นแม่พร้อมกับตักอาหารใส่ปาก แล้วหันไปมองพี่ชายด้วยสายตากวนประสาท
“แกก็มีเมียได้แล้ว อายุก็ไม่ใช่น้อยๆ”
“แม่ครับ ผมพึ่งจะยี่สิบสามนะครับ”
“นั้นแหละ แม่อยากอุ้มหลาน”
“อุ้มหลานของพี่ชายไปก่อนนะครับ ทำงานด้วยกันทั้งวันทั้งคืนคงมีลุ้นแน่ๆ”
“ไอ้คัส แกรีบกินข้างแล้วกลับบ้านไปซะ”
“วันนี้ผมมานอนกับแม่ครับ มีเวลาคุยกันอีกยาว”
มาร์คัสพยายามข่มอารมณ์ไม่ให้ไปเขกหัวน้องชายที่กวนประสาทไม่หยุด ในใจก็คิดถึงแต่ใบหน้าของคนที่รออยู่ที่บ้านเล็ก ป่านนี้เธอคงนอนไปแล้วอยากกลับไปนอนกอดหล่อนจริงๆ
“เดี๋ยวกลับก่อนนะครับ”
“จะรีบไปไหนล่ะ แม่ยังไม่ได้เจอหนูมินตราเลย”
“มินตราเค้ากลับไปพักแล้วครับ อย่ารบกวนเค้าเลย”
“ก็ได้ แต่วันเสาร์ลูกต้องพาหนูมินตรามาหาแม่นะ”
“ครับ?”
“แม่จะจัดงานเลี้ยงน้ำชา อยากให้หนูมินตรามาด้วย”
“ถ้าเค้าว่างนะครับ”
“แม่จะรอนะ”
ชายหนุ่มเอื้อมมือไปยกแก้วน้ำขึ้นมาดื่มเพื่อคลายความอึดอัด เขารู้ดีว่าผู้เป็นแม่อยากได้เลขาสาวเป็นลูกสะใภ้แค่ไหน แต่หากว่าเขามีใจให้มินตราสักนิดก็คงจะดีแต่เขากับหล่อนไม่ได้คิดเกินเลยกันแบบนั้น
เวลา 22:00 น.
บ้านหลังเล็ก
“บุษบาเป็นยังไงบ้าง”
“เข้านอนแล้วค่ะ ตั้งแต่หัวค่ำ”
มาร์คัสยื่นสูทให้กับเลขาสาวที่รออยู่หน้าบ้านแล้วเดินเข้าไปในตัวบ้านทันที เพราะการไปทานข้าวกับผู้เป็นแม่ทำให้เขาไม่ได้อยู่กับหญิงสาวเท่าไหร่
“คืนนี้ผมจะค้างที่นี่ คุณกลับไปเถอะ”
“พรุ่งนี้....”
“พรุ่งนี้วันหยุดผมจะพัก”
“พัก?”
เลขาสาวเอ่ยทวนคำเบาๆเมื่อเห็นเจ้านายจอมบ้างทนของหล่อนกำลังพูดถึงวันหยุดที่ไม่เคยได้หยุดตั้งแต่รู้จักกันมามาร์คัสไม่เคยหยุดพักเลยแม้แต่ครั้งเดียว
“ทำไม”
“ไม่มีอะไรคะ”
“คุณเองก็จะได้พักเหมือนกัน”
“ค่ะท่าน”
“พรุ่งนี้ให้คนเตรียมรถให้ผมด้วยนะ”
“ส่วนตัวเหรอคะ”
“ใช่ พรุ่งนี้ผมจะพาบุษบาไปซื้อของ”
“ค่ะ”
มาร์คัสเดินขึ้นไปที่ชั้นสองแล้วตรงไปที่ห้องของบุษบาทันที หัวใจของเขาโหยหาหล่อนตั้งแต่ก้าวออกไปจากหน้าบ้าน
“อือออ”
ชายหนุ่มเอื้อมมือไปลูบไล้ใบหน้านวลเบาๆแล้วก้มลงหอมแก้มหล่อนอย่างอ่อนโยนที่สุดเพราะกลัวว่าหล่อนจะตื่น ร่างบางในชุดนอนซาตินสีขาวที่เผยเนินอกขาวเนียนทำให้เขาเริ่มมีอารมณ์สั่นไหว
“เฮ้อออ”
มาร์คัสตัดสินใจปล่อยให้ร่างบางพักผ่อนให้เต็มที่แล้วเดินไปอีกห้องเพื่อพักผ่อนเช่นกัน คืนนี้คงไม่เหมาะที่เขาจะทำอะไรหล่อนอีก เพราะหล่อนอาจจะเหนื่อยเกินไปหากเขาหยุดไม่อยู่
เวลา 07:00 น.
“นี่รถใครคะ”
บุษบาถามมินตราด้วยความสงสัยเมื่อเห็นรถคันหรูจอดอยู่หน้าบ้าน
“รถคุณมาร์คัสค่ะ”
“คุณมาร์คัสมาเหรอคะ!!”
“ค่ะ ตั้งแต่เมื่อคืน”
บุษบาตกใจที่รู้ว่าชายหนุ่มมาที่บ้านตั้งแต่เมื่อคืน หล่อนคิดแล้วก็ยิ่งเจ็บใจตัวเองที่เข้านอนตั้งแต่หัวค่ำเลยอดที่จะเจอมาร์คัส
“งั้น บุษไปเตรียมข้าวเช้าให้คุณมาร์คัสก่อนนะคะ”
“ไม่ต้องค่ะ ดิฉันสั่งมาเรียบร้อยแล้ว”
“แต่...”
“คุณบุษบาไม่ต้องห่วงนะคะ ร้านนี้เป็นร้านอาหารโปรดของท่านค่ะ”
“ค่ะ แต่ถ้าคุณมาร์คัสมานอนที่บ้าน บุษขอทำอาหารให้คุณมาร์คัสเองได้ไหมคะ”
“ถ้าท่านชอบดิฉันก็ไม่ว่าค่ะ”
“ค่ะ”
บุษบาเดินเข้าไปในบ้านแล้วตรงไปยังห้องเล็กที่ชายหนุ่มนอนพักอยู่ มือบางเปิดประตูเข้าไปในห้องก็พบว่ามาร์คัสกำลังอาบน้ำอยู่
“ตื่นแล้วเหรอ”
บุษบาหันไปมองมาร์คัสที่เดินออกมาจากห้องอาบน้ำโดยที่ใส่แค่ผ้าเช็ดตัวผืนเดียวโชว์กล้ามหน้าท้องเป็นลอนสวยให้หญิงสาวได้ใจสั่น
“ค่ะ”
“แล้วทำอะไรอยู่”
“บุษเข้ามาเตรียมเสื้อผ้าให้คุณค่ะ”
บุษบายื่นชุดสูทให้มาร์คัสเพื่อเอาใจเขา ชุดที่หล่อนจัดเตรียมนั้นหากอยู่บนตัวชายหนุ่มต้องดูดีมากแน่ๆ
ก๊อกๆ
“เข้ามา”
“เสื้อผ้าลำลองค่ะท่าน”
มินตราเดินเข้ามาในห้องแล้ววางชุดลำลองดูใส่สบายไว้ที่เตียงให้เจ้านายของหล่อน
“วันนี้ผมไม่ได้ไปทำงาน คงไม่ต้องใช้สูท”
“งั้นเหรอคะ”
มาร์คัสเดินไปหยิบชุดลำลองแล้วหันไปมองเลขาสาวที่ยืนรอเขาอยู่ ชายหนุ่มสวมเสื้อเชิ้ตแล้วยืนให้เลขาสาวติดกระดุมให้ตามความเคยชิน บุษบามองทั้งสองด้วยหัวใจที่สั่นไหว มินตราคือคนที่รู้ใจเขาที่สุดจนหล่อนเทียบชั้นไม่ได้เลยยิ่งทั้งสองคนยืนเคียงกันแบบนี้แล้วยิ่งทำให้รู้ว่าพวกเขาช่างเหมาะสมกันเหลือเกิน
“วันนี้ดิฉันสั่งข้าวต้มจากภัตตาคารน้านโปรดของท่านนะคะ”
“สั่งเผื่อบุษบาด้วยหรือเปล่า”
“ค่ะ”
“งั้นรีบพาคุณบุษบาไปรอฉันที่ห้องอาหารสิ”
“คุณบุษบาคะ”
“ค่ะ”
บุษบาแขวนสูทไว้ที่เดิมแล้วเดินตามเลขาสาวออกจากห้องไปโดยไม่พูดอะไรอีก หญิงสาวหลบสายตาของร่างสูงที่จ้องหน้าหล่อนนิ่งๆเพราะกลัวว่าเขาจะตำหนิหล่อนที่ทำเกินหน้าที่
“ขอบคุณค่ะ”
“ข้าวต้มหมูค่ะ บำรุงร่างกายตอนเช้าสักหน่อยนะคะ”
“คุณนี่ยังรู้ใจผมไม่เปลี่ยนเลยนะวันหยุดแท้ๆยังต้องมาทำงานให้ผมอีก”
“เป็นหน้าที่ของดิฉันค่ะ”
“คุณกลับไปพักผ่อนเถอะ แล้ววันเสาร์อย่าลืมนัดเรานะ”
“ได้ค่ะ”
บุษบามองทั้งสองคนด้วยความน้อยใจ ชายหนุ่มสนใจเลขาสาวมากกว่าตัวหล่อนที่นั่งอยู่ตรงข้าม นัดที่ว่าคงจะเป็นนัดสำคัญที่เขาแหละเธอจะต้องเดินทางไปด้วยกันสินะ หากเป็นเรื่องงานมาร์คัสไม่เคยเตือนด้วยตัวเอง
“ทานสิ”
“บุษ...ไม่หิวค่ะ”
“ไม่หิวก็ต้องทานนะ เธอต้องบำรุงร่างกาย”
บุษบานิ่งแล้วคนข้าวไปมาเพราะความอยากอาหารของหล่อนตอนนี้มันไม่ตอบสนองเลย ชายหนุ่มเห็นดังนั้นจึงเดินเข้าไปนั่งข้างๆหล่อนแล้วเอื้อมมือไปกอดเอวบุษบาเอาไว้
“คุณมาร์คัส”
“เธอคงเบื่อสินะที่อยู่แต่บ้าน”
“บุษอยู่ได้ค่ะ”
“วันนี้ฉันจะพาเธอไปช็อปปิ้ง”
“คะ?”
“เราจะกลับประเทศไทยกัน”
“!!!!”
บุษบาทำตาโตเพราะความตกใจที่ได้ยินสิ่งที่ชายหนุ่มพูดออกมา กลับประเทศไทยงั้นเหรออย่าบอกนะว่าหล่อนกำลังจะถูกเขี่ยทิ้ง
“ตกใจเหรอ”
“บะ บุษทำอะไรให้คุณไม่พอใจหรือเปล่าคะคุณมาร์คัส บุษ....”
“หมายความว่ายังไง”
“ก็คุณ...จะส่งบุษกับไทยใช่ไหมคะ”
“สิ้นเดือนผมจะไปทำงานที่สาขาของไทย ไม่ได้จะไล่ให้คุณกลับไทยสักหน่อย”
“งั้นเหรอคะ”
“ทำไม เธอกลัวฉันทิ้งงั้นเหรอ”
“......”
“คิดมากน่า ทานข้าวสิแล้วออกไปซื้อของกัน”
“ค่ะ”
บุษบายิ้มแล้วตักข้าวต้มทานตามคำสั่งของชายหนุ่ม หล่อนรู้ดีว่าสักวันเขาจะต้องเบื่อหล่อนและรู้ว่าตัวเองไม่ควรรู้สึกรักเขาและหึงหวงเขาอย่างออกนอกหน้า บุษบารู้ตัวเองดีว่าควรปฏิบัติตัวอย่างไร
ห้างสรรพสินค้าK
“เราจะไปดูงานทางภาคเหนือตอนนี้อากาศเย็นแล้วคงต้องดูเสื้อผ้ากันหนาว”
“ค่ะ”
“เธออยากได้อะไรเพิ่มก็สั่งลูกน้องฉันได้เลยนะ”
“บุษไม่อยากได้อะไรแล้วค่ะ ที่คุณเลือกมาก็เยอะแล้ว”
“งั้นไปต่อร้านอื่นดีกว่า”
“ค่ะ”
ชายหนุ่มจัดการสั่งให้ลูกน้องถือของที่ช็อปมาเกือบๆยี่สิบถุงแล้วโอบเอวบุษบาเดินออกไปนอกร้านท่ามกลางสายตาของผู้คนที่มองมาที่เขาด้วยความสนใจ
“ท่าทางคุณจะดังมากเลยนะคะ”
“ก็ไม่ขนาดนั้นหรอก”
“แต่มีคนมองคุณเยอะมาก”
“อาจจะมองเธอก็ได้ นี่อย่าบอกนะว่าหึงฉัน”
“ปะ เปล่าค่ะ”
“คิดว่าหึงซะอีก”
ชายหนุ่มก้มหน้าลงมามองหล่อนพร้อมกับยิ้มอย่างหยอกล้อทำเอาคนข้างกายเขินจนหน้าเปลี่ยนเป็นสีแดง
“แล้วถ้าคนอื่นมองบุษคุณจะหึงไหมคะ”
“ทำไมต้องหึงล่ะ”
“......”
“เพราะเธอเป็นของฉัน ไม่มีใครกล้าแย่งหรอก”
ชายหนุ่มพูดด้วยความมั่นใจก่อนจะพาหล่อนเข้าไปในร้านเค้กชื่อดังเพื่อพักจากการเดินช็อปปิ้ง
“เฮ้อออ ไม่ได้เดินแบบนี้นานแล้วนะ”
มาร์คัสเอนหลังลงที่โซฟาของร้านด้วยความผ่อนคลาย แต่ก็ไม่ลืมที่จะเอื้อมมือไปกอดเอวลางเอาไว้ไม่ให้ห่างกาย
“แล้วเวลาคุณอยากได้อะไรจะทำยังไงคะ”
“มินตราเค้าจัดการให้ฉันทุกอย่างนั้นแหละ ไม่ต้องทำเอง”
“คุณมินตราดูจะรู้ใจคุณทุกอย่างเลยนะคะ”
“มินตราเค้าทำงานกับฉันมานาน ถือว่าเป็นสมองของฉันทั้งหมด ไม่สิ ต้องเรียกว่าเป็นตัวฉันอีกคน”
“........”
“ถ้าไม่มีมินตราฉันคงทำอะไรไม่ถูกหลายอย่าง”
“ดีจังเลยนะคะ”
“ทำหน้าบึงอีกแล้วนะ”
“คะ?”
“นี่ฉันอดคิดไม่ได้นะว่าเธอมีใจให้กับฉัน”
“!!!!!”
บุษบารีบเบือนหน้าหนีเพราะกลัวว่าเค้าจะจับความรู้สึกของหล่อนได้ ก่อนที่จะเริ่มงานเขาบอกอย่างชัดเจนแล้วว่าห้ามรู้สึกพิเศษกับเค้าเพราะหากมีลูกแล้วหลาอนจะแยกตัวออกไปลำบาก
“ว่าไง”
“บุษไม่กล้าหรอกค่ะ คุณเองก็บอกชัดในสัญญาแล้วนี่คะว่าห้ามรู้สึกอะไรกับคุณ”
มาร์คัสมองใบหน้าเรียวตรงหน้าแล้วเริ่มสั่นไหว การที่หล่อนบอกว่าไม่ได้คิดอะไรกับเขานั้นยิ่งทำให้เขาหงุดหงิด ถึงจะเคยพูดไว้ว่าห้ามรู้สึกแต่ก็ไม่ได้แปลว่าหล่อนจะไม่เคยแบ่งใจมาให้เขาเลย
“งั้นเหรอ”
“ค่ะ หน้าที่ของบุษคือมีลูกให้กับคุณ พอเสร็จงานแล้วบุษจะรีบไปจากคุณ”
“ก็ดี ฉันจะได้ไม่ต้องเหนื่อยมาไล่เอง”
ชายหนุ่มปล่อยเอวของบุษบาแล้วตัดเค้กตรงหน้าแรงๆเพื่อระบายความหงุดหงิดที่รู้ว่าหล่อนไม่ได้มาใจให้กับเขา ทำไมมันช่างปวดใจแบบนี้กันนะ ปวดจนไม่อยากให้หล่อนคิดไปไหนไกล
คฤหาสน์เวนเซียร์
“นี่มันอะไร!!”
ท่านผู้หญิงพิลาโยนรูปที่ลูกชายคนโตเกินกอดเอวกับหญิงสาวแล้วมีบอดี้การ์ดถือถุงช็อปปิ้งตามเกือบสิบคน
“ใจเย็นๆก่อนนะคะ”
มินตราที่โดนเรียกตัวมาที่บ้านอย่างกะทันหันพยายามทำให้ท่านผู้หญิงใจเย็น
“ผู้หญิงคนนี้เป็นใคร”
“คือ....”
“นี่ถ้าเพื่อนฉันไม่ไปเห็นแล้วถ่ายรูปมาให้ก็คงไม่รู้หรอกนะว่ามีแบบนี้ มาร์คัสไม่เคยควงใครไปแบบเปิดเผยแบบนี้นะ”
“ดิฉันบอกไม่ได้จริงๆค่ะ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของท่าน”
“หนูมินตรา หนูรู้ใช่ไหมว่าฉันชอบหนูมากและอยากได้เป็นลูกสะใภ้”
“ท่านหญิง”
“จะบอกฉันหรือให้ฉันไปหามาร์คัส”
“คุณบุษบาค่ะ”
มินตราจำใจต้องบอกเพราะหากท่านหญิงเดินทางไปหาเจ้านายของหล่อนคงเป็นเรื่องใหญ่แน่ๆ
“มันเป็นใคร”
“ผู้หญิงของท่านค่ะ”
“แล้วไปเจอกันที่ไหน”
“ท่านหญิง...”
“หนูมินตรา!!”
“ที่เรือของคุณอชิค่ะ วันที่ท่านไปปาร์ตี้กับเพื่อนๆ”
“เรื่องของคุณอชิ งั้นแสดงว่าต้องเป็นผู้หญิงขายบริการบนเรือน่ะสิ”
“แต่คุณบุษบาเธอไม่ได้เป็นอย่างที่ท่านหญิงคิดนะคะ เธอไม่ได้เต็มใจที่จะขายตัวค่ะ”
“รู้ได้ยังไง เจ้าหล่อนคนนั้นอาจจะใช้มารยาหลอกลูกชายฉันก็ได้”
“แต่....”
“ไม่ต้องออกรับหน้าแทนกันเลยนะหนูมินตรา บอกมาว่ามาร์คัสพาผู้หญิงชั้นต่ำคนนี้ไปอยู่ที่ไหน”
ความพิโรธของท่านผู้หญิงพิลาทำให้มินตราไม่กล้าที่จะขัดคำสั่งเพราะหล่อนรู้ดีว่าหากไม่บอกไปอย่างไรเสียมันก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะหาที่อยู่ของบุษบาพบ