ผลประกาศ!!!!!
คัดเลือกตัวแทนนักศึกษาที่ได้ไปร่วมงานนิทรรศการอียิปต์โบราณที่กรุงไคโรประเทศอียิปต์พร้อมทั้งนักศึกษาแลกเปลี่ยน
สามสาวร่างบอบบางในชุดนักศึกษาวิ่งหน้าตั้งเหมือนพวกเด็กๆวิ่งเเข่งกันไปรับขนมจากผู้ใหญ่ใจดีที่นำมามอบให้ในงานวันเด็ก ทั้งสามวิ่งจับมือกันมายังบอร์ดประกาศผล
"แกกก....ผ่านแกกก"น้ำ ชลธิชาลากเสียงยาวดีอกดีใจที่ตนและเพื่อนอีกสองคนผ่านการคัดเลือก
"เฮ้ย!!...ได้ทั้งสามเลยวะแก"ขวัญ เชิญขวัญเอ่ยขึ้นอย่างดีอกดีใจไม่แพ้กัน
"ฉะ....ฉัน...ฉันกำลังจะไปอีปีบ"
"อียิปต์/อียิปต์โว้ย"สองสาวเอ่ยแก้คำให้เพื่อนรักอย่างน้ำฟ้า รฐา ที่ออกอาการดีใจจนปากสั่นตัวสั่นพูดตะกุกตะกัก
"เออๆ...แกฉันต้องทำไงมั้งวะ"มือบางบีบมือเพื่อนรักทั้งสองไว้แน่น
"สติ/สติ"สองสาวตอบประสานเสียงกันอีกครั้งจนเธอหลุดขำแล้วทุกคนก็ขำตามเพราะปกติเธอไม่เคยออกอาการสติหลุดขนาดนี้มาก่อน เป็นใครจะไม่หลุดละ ได้ทั้งทุนเรียนฟรีได้เป็นทั้งนักเรียนแลกเปลี่ยน ของฟรีครบคัน แม้ทางบ้านจะไม่ได้ยากจนเป็นคนอย่างเธอก็ยังงกเพราะกว่าทางบ้านจะมายืนจุดนี้ได้ต้องผ่านอะไรต่อมิอะไรมาเยอะมาก
"ฮ่าาาๆ/ฮ่าาาๆ/ฮ่าาาๆ"
"ไปหาซื้อของเตรียมเดินทางกัน"เชิญขวัญเอ่ยชวนเพราะมีเวลาเตรียมตัวแค่ไม่กี่วัน
อาทิตย์ต่อมา......
.......กรุงไคโร ประเทศอียิปต์
ทั้งสามเดินทางมาพร้อมกับกลุ่มเพื่อนที่เป็นนักศึกษาเเลกเปลี่ยนและกลุ่มที่เดินทางมาร่วม งานนิทรรศการอียิปต์โบราณพร้อมทั้งคณะอาจารย์ที่ปรึกษาอีกสามท่าน เมื่อเดินทางมาถึงโรงแรมที่จ้องไว้และทุกๆคนก็แยกย้ายกันไปพักผ่อนโดยทั้งสามสาวขอพักห้องเดียวกันส่วนคนอื่นๆก็แยกย้ายกันไปตามห้องที่ได้จัดเตรีมไว้
.......ภายในงานนิทรรศการ
ด้านนอกถูกออกแบบให้เหมือนพีระมิดขนาดใหญ่มหึมาส่วนด้านในนั้นแบ่งออกเป็นห้องๆเต็มไปด้วยวัตถุโบราณหลายพันชิ้นตั้งโชว์ให้เหล่านิสิตนักศึกษาจากหลายสถาบันได้เข้ามาศึกษา
ศิลปวัตถุและโบราณวัตถุบางชิ้นทำขึ้นจากทองคำแท้และยังมีสมบัติล้ำค่าหลายชิ้นที่นำมาจากหลุมฝังศพของฟาโรห์มีตั้งแต่ยุคอียิปต์โบราณจนถึงยุคสมัยใหม่ก็ได้ถูกนำมาจัดแสดงในงานนิทรรศการนี้ด้วย
" ฉันว่ามันน่ากลัวว่ะแก"ชลธิชากอดแขนน้ำฟ้าแน่น ภายในห้องจัดงานนิทรรศการมีแสงไฟสลัวๆดูวังเวงจนขนลุกเสมือนว่าตอนนี้กำลังยืนอยู่ในหลุมฝังศพของฟาโรห์จริงๆ
" กลัวอะไรของแกคนเยอะแยะ" น้ำฟ้าหันมาว่าชลธิชาที่ทำตัวเป็นกลัวผีจนขี้ขึ้นสมอง ส่วนเชิญขวัญนั้นตอนนี้เดินหายไปไหนก็ไม่รู้
" แกดูบรรยากาศสิน้ำฟ้าหนาวจนขนลุกเชียว" ชลธิชาเอ่ยเสียงสั่นเธอเริ่มกลัวจริงๆแล้ว เนื่องจากว่าตอนนี้ทั้งคู่กำลังยืนอยู่ในห้องรูปปั้นองค์จักรพรรดิอียิปต์หลายยุคหลายสมัย ทั้งสองเดินสำรวจอย่างจริงจังเพื่อนำข้อมูลไปทำรายงานส่งอาจารย์
"ยัยฟ้ารีบไปเถอะ"
"อีกแป๊บนึงนะ...ฉันว่าห้องนี้มันน่าสนใจดีขอดูแป๊บนึง"
"ยัยฟ้า!!...ฉันขนลุก!!...หู้ยย!!...เหมือนรูปปั้นมีชีวิตเลยนะแก"ชลธิชายกมือขึ้นลูบแขนทั้งสองข้าง
"แกปวด...ขี้!!...เหรอ"เธอเองก็รู้สึกแต่ก็ไม่กล้าบอกชลธิชาไปตามความจริงเพราะรู้ว่าเธอกลัวเลยต้องเปลี่ยนเรื่องคุย
"ปะ...เปล่า!!...จะบ้าเหรอฉันแค่รู้สึกเย็นๆ เยือกๆ เสียวสันหลังแปลกๆก็แค่นั้น"ชลธิชามองเขม็งเพื่อนรักที่กล่าวหาว่าเธอปวดขี้เสียงดังหากมีคนไทยอยู่แถวนี้ไม่ได้ยินเข้าเธอจะทำหน้ายังไงยัยเพื่อนบ้า
"ใจเย็นๆแก....ไม่ได้มีแค่เราสองคนนะดูรอบๆสิมีนักศึกษาอีกตั้งเยอะ"น้ำฟ้าบอกชลธิชาให้หันมองรอบๆ นอกจากจะเห็นผู้คนมากมายแล้วเธอยังเห็นอย่างอื่นอีกด้วย
"น้ำฟ้าตรงนั้นมีประตูไปดูข้างในกัน"ชลธิชาชี้นิ้วไปยังประตูด้านหลังรูปปั้นขนาดเท่าตัวจริงขององค์ฟาโรห์องค์หนึ่ง ทั้งสองพากันเดินผ่านประตูไปยังอีกห้อง ภายในเป็นช่องสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ผนังห้องทั้งสี่ด้านตกแต่งด้วยภาพวาดประติมากรสวยงามเกี่ยวกับงานพิธีศพตามที่เคยอ่านมา ตรงกลางห้องมีแท่นวางโลงศพทองคำแท้ตั้งอยู่ ภายในบรรจุมัมมี่ทองคำคาดว่าน่าจะเป็นของฟาโรห์องค์ใดองค์หนึ่ง
".....สวย!!"
"ใช่...สวยมาก"
ทั้งสองเหมือนต้องมนต์สะกดความสวยงามสมบูรณ์แบบนั้นทำให้ชลธิชาผ่อนคลายเหมือนเธอล่องลอยอยู่ในอากาศ น้ำฟ้าหยุดยืนอยู่หน้าโลงศพดวงตากลมโตกำลังจ้องมองมัมมี่ทองคำอย่างหลงใหล มือบางเผลอไผลเอื้อมไปแตะพระหัตถ์ที่ไขว้อยู่บนพระอุราทรงกุมแส้และพระคทาหัวขอ ความประณีตและลวดลายการสลักวิจิตรพิสดารแต่งดงามยิ่งนักความสามารถของคนอียิปต์โบราณช่างน่าอัศจรรย์ยิ่ง
มือบางกุมพระหัตถ์ไว้เเน่นเหมือนมันมีพลังดึงดูดให้เธออยากสัมผัสอยากชิดใกล้เช่นเดียวกับชลธิชาที่ตอนนี้เธอยืนอยู่หน้ารูปปั้นทหารองครักษ์ทั้งสามขนาดสูงเท่าตัวคนจริงๆกำลังยืนถือดาบคู่กายใบหน้าคมเข้มเชิดขึ้นมองตรงมือบางเอื้อมไปสัมผัสลงที่แผงอกแกร่งข้างซ้ายลูบไล้ขึ้นไปบนหัวไหล่หนาร่างกายเหมือนโดนสะกดมือนุ่มยังคงลูบไล้ต่ำลงตามกล้ามแขนกำยำแล้วมาหยุดกุมมือข้างที่ถือดาบของหนึ่งในทหารองครักษ์อย่างลืมตัว
'เเต่งกายเหมือนทหารแต่ทำไมเราถึงได้รู้สึกว่าไม่น่าจะใช่ทหารนะ' สัมผัสอบอุ่นเกินกว่าจะอธิบายได้กำลังถูกส่งผ่านมายังมือนุ่มชลธิชาเงยหน้าขึ้นมองสบตารูปปั้นของทหารองครักษ์สายตาคมเข้มดุดันและอบอุ่นนั้นเหมือนจะหลี่ลงต่ำมองเธอเช่นกัน แต่ทว่า........
"กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดด"
"กรี๊ดดดดด ไฟไหม้ หนีเร็วไฟไหม้"
"ไฟไหม้ครับ ไฟไหม้ ประตูทางนี้ ไฟไหม้หนีออกไปก่อนครับ"
เสียงโวกเวกโวยวายจากด้านนอกทำให้ทั้งสองหันมองหน้ากันโดยอัตโนมัติทั้งคู่จับมือกันแน่นกำลังวิ่งไปยังประตูทางออกตามสัญชาตญาณการเอาชีวิตรอดของมนุษย์เมื่อมีภัย แต่แล้วอยู่ๆไฟก็ดับพรึ้บ!!!!!
กรี๊ดดดดดดดดดดดดด!!!!!!!!!!
"ยัยฟ้า...ฉะ...ฉันกลัว....ฮือๆ....ฉันกลัวแล้ว...ฮือๆ...ยัยฟ้า" ชลธิชาร้องไห้ออกมาเหมือนคนสติหลุดความมืดมิดและความหล่อนเข้าครอบงำ
"เย็นไว้แกเย็นไว้...เอาโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดไฟฉายแล้วเดี๋ยวเราออกไปข้างนอกกัน"น้ำฟ้ากอดปลอบชลธิชาอย่างมีสติ ชั่วโมงนี้การมีสติเท่านั้นที่จะนำพาทั้งสองให้รอดออกไปได้
มือนุ่มลูบแผ่นหลังบางอย่างปลอบประโลมให้เธอหาย กังวลใจแล้วค่อยเดินออกไป
ยังไม่ทันที่ทั้งสองจะได้หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเปิดไฟฉายส่องหาทางออก
เคร้งงง!!!!!
กรี๊ดดดดดดดดดดดดด!!!!!!!!!!
อยู่ๆก็มีเสียงอะไรบางอย่างตกกระทบพื้นความ มืดมิดความวังเวงกำลังเข้าเล่นงานหัวใจดวงน้อยทั้งสองดวง ความกลัวที่มากเกินกว่าจะควบคุมได้เมื่อรู้สึกถึงอะไรบางอย่างกำลังเดินเข้ามาใกล้เเละเธอมั่นใจว่ามันไม่ใช่คนแน่ สติเริ่มแตกพล่าน
ชลธิชากอดน้ำฟ้าแน่น ก่อนจะดึงเอาความกล้าทั้งหมดในตัวออกมาแล้วมองไปทางต้นเสียงเมื่อครู่เธอเห็นรูปปั้นทหารองครักษ์ตนหนึ่งกำลังเดินเข้ามาใกล้เธอทั้งสอง
"ยะ...ยัย...อึก...ฟ้าแก...เหๆ....เห็นมั้ย"น้ำเสียงตะกุกตะกักปนสะอื้นฟังไม่ได้ศัพท์ของชลธิชาแต่เธอรู้ว่าเพื่อนรักจะสื่ออะไร
"อือ"เธอตอบรับสั้นๆแต่สายตาจับจ้องไปยังรูปปั้นองครักษ์ที่เหมือนจะกำลังเดินเข้ามาช้าๆร่างทั้งสองสั่นกลัวหยดน้ำอุ่นร้อนไหลออกจากดวงตากลมโตของน้ำฟ้าแต่ไร้เสียงสะอึ้นไห้
กรี๊ดดดดดดดดด!!!!!!!!!!!!!!!!!!
เสียงกรีดร้องของสองร่างบางดังขึ้นอีกครั้งเมื่อมีพลังงานบ้างอย่างกำลังดูดดึงเธอทั้งสองให้เข้าไปใกล้รูปปั้นนั้น แรงดึงดูดเสมือนกำลังหลุดเข้าไปในหลุมอากาศ ร่างทั้งสองหมุนคว้างในห่วงกาลเวลาความมืดมิดอันยาวไกลเห็นเพียงเเสงสว่างเป็นวงกลมขนาดเล็กตรงปลายทางความหนาวเย็นยะเยือกปกคุมไปทั่วร่าง ความหวาดหวั่นเสมือนกำลังตกจากตกสูงเสียดฟ้าและแล้วสติที่มีอยู่น้อยนิดก็ดับวูบลง
วิ้วววววว!!!!! วิ้ววววววว!!!!!
ดวงอาทิตย์อัสดงส่องกระทบพื้นผิวแม่น้ำไนล์ทอเเสงเปล่งประกายระยิบระยับบนสายธาราราวกับอัญมณีล้ำค่า ต้นไม้น้อยใหญ่พริ้วไหวไปตามแรงลมยามเย็น
กุกรั๊บ!! ...กุกรั๊บ!! กุกรั๊บ!!
เสียงฝีเท้าอาชาหนุ่มสีน้ำตาลเข้มยำลงพื้นดินโดยมีร่างสูงใหญ่ของชายหนุ่มรูปงาม แม้จะมองจากที่ไกลแต่ก็ยังคงความสง่าผ่าเผยเช่นเคยนั่งอยู่บนหลังม้าและข้างกายยังมีชายหนุ่มทั้งสองร่างกายบึกบืนนั่งบนหลังม้าค่อยคุ้มกันระวังภัยอันตรายให้
แต่แล้วสายตาคมกริบดุจดังเหยี่ยวบินเหินอยู่บนท้องนภากว้างนั้นกลับเหลือบไปเห็นอะไรบางอย่างเข้า
ไม่รอช้าชายหนุ่มรูปงามควบม้าตรงดิ่งไปยังพุ่มหญ้าด้านหน้า......
หยุดดดดดดดด!!!!!
*************
หยุดฉึกก หยุดแล้วจริงๆ
🙏🙏🙏🙏🙏