ตอนที่ 12 รักแรกแห่งชาติที่เป็นคนธรรมดาทั่วไป (1)
“หัวหน้าคะ ยุนยูจองนะคะ... เห็นข่าวแล้วใช่ไหมคะ ขอโทษนะคะ... ดังนั้นฉันจะขอจัดการด้วยตัวเองค่ะ ฉันจะรับผิดชอบทั้งหมด ไม่ต้องพูดอะไรกับพี่แชกยองแล้วช่วยจัดการแถลงข่าวให้ทีนะคะ”
คนที่ยูจองโทรหาคือหัวหน้าคิม ทีมประชาสัมพันธ์ภายนอกของค่าย ถึงเธอจะพูดเหมือนเป็นการขอร้อง แต่ความจริงแล้วคำพูดของยูจองไม่ใช่คำขอร้อง หากแต่เป็นคำสั่งของผู้รับผิดชอบสูงสุดในยูจองเอนเตอร์เทนเมนท์ เจ้าของบริษัทที่แท้จริงคือยูจอง แต่จนถึงตอนนี้ยูจองฝากงานด้านบริหารทุกอย่างให้พี่แชกยองทำแทน และไม่เคยก้าวก่ายหรือเห็นต่างเลยสักครั้ง ยูจองเชื่อใจและเคารพในตัวแชกยอง แต่มีเพียงเรื่องนี้เท่านั้นที่ไม่ว่าใครจะพูดอะไรก็จะเป็นไปตามความคิดของยูจอง ส่วนฮยอนซูคิดว่ายูจองงุนงงและตกใจจนพูดเพ้อเจ้อไปแล้วหรือเปล่าอย่างไม่เชื่อหู
“พี่ตกใจมากเลยเป็นแบบนี้ใช่ไหมครับ มันไร้สาระมากเลยทำแบบนี้ใช่ไหมครับ”
ยูจองหันไปหาฮยอนซูแล้วหัวเราะคิกคัก ฮยอนซูตัดสินใจลำบากว่าไม่รู้จะต้องเข้าใจได้อย่างไรกับยูจองที่ยิ้มออกมาในสถานการณ์นี้ เขาหยิบเครื่องดื่มออกมาจากตู้เย็นสองขวดและยื่นให้ยูจองไปขวดหนึ่ง อีกขวดหนึ่งก็เปิดแล้วดื่มเข้าไป
“พี่ เดี๋ยวท่านประธานมาถึงบริษัทแล้วจัดการให้เอง พี่ทำใจสงบๆ ไว้นะครับ แต่พี่ครับ... เห็นยิ้มแบบนี้แล้วน่ากลัวมากเลย อย่าทำอีกนะครับ”
“ทำใจให้สงบนี่เหมือนจะเป็นนายที่ต้องทำมากกว่าไหม กลัวถูกไล่ออกเหรอ ถ้ามีคนถามว่านายรับผิดชอบดูแลฉันไม่ได้เดี๋ยวฉันปกป้องเอง ไม่ต้องห่วงหน่า”
“ผมไม่มีปัญหาเรื่องโดนไล่ออกหรอก แต่ท่านประธานคงฆ่าผมแน่ๆ เลยครับ เธอบอกว่าพี่เป็นคนสำคัญ ให้คอยระมัดระวังมากกว่าพันรอบแล้วนะ…”
“ท่านประธานของเราไม่ใช่คนโหดร้ายที่จะแหวกอกใครตามใจชอบแบบนั้นซะหน่อย”
“ก็ท่านประธานไม่เคยโมโหใส่พี่เลย พี่ไม่รู้หรอกครับว่าท่านประธานน่ากลัวขนาดไหน…”
“ฉันกับพี่แชกยองเนี่ยคบกันมาเกินสามสิบปีแล้ว จะไม่เคยเห็นอะไรอีกล่ะ เวลาพี่แชกยองโมโห ฉันก็จัดการได้หมดแหละหน่า เก็บความกังวลไปเถอะ เริ่มวันใหม่ให้ดีนะฮยอนซู วันนี้เป็นวันที่สำคัญมากเลย”
“ครับ งั้นไปร้านเสริมสวยเลยไหมครับ เตรียมตัวแล้วลงมานะครับ เดี๋ยวผมไปเอารถมาก่อน”
“เสื้อผ้าเดี๋ยวฉันเตรียมเอง ไม่ต้องติดต่อซูจี นี่อยู่ในช่วงวันหยุดด้วย ปล่อยให้เธอได้ใช้เวลาดีๆ กับลูกๆ เถอะ”
“ครับพี่”
หลังจากฮยอนซูปิดประตูและออกไป ยูจองก็วิ่งพรวดพราดโห่ร้องอย่างมีความสุข นี่มันเป็นจุดที่ดีมากจนจะตายเลยล่ะ ถ้านักข่าวจูมินอามาที่งานแถลงข่าว จะไปขอบคุณเธอจนอยากจะก้มหมอบกราบเลย ยูจองเปลี่ยนชุดและโทรศัพท์หาจีฮุน เพราะพวกเขาคงจะต้องพูดให้ตรงกันว่ามันจะเป็นประมาณไหน เธออยากจะคุยกับจีฮุนเรื่องที่เกี่ยวกับข่าวเดทที่ทำให้รู้สึกดี ซึ่งมันถูกปล่อยเป็นครั้งแรกตลอดเวลาสิบห้าปีในชีวิตนักแสดงของเธอ เมื่อคิดว่าจะได้รับการยอมรับให้เป็นคู่รักอย่างเป็นทางการ หัวใจก็เต้นตึกตักแล้ว เธอจึงอยากจะแบ่งปันความรู้สึกเช่นนี้ให้เขา แต่จีฮุนไม่รับโทรศัพท์ ไม่ว่าจะโทรไปกี่รอบก็ไม่รับ หรือว่าจีฮุนจะมีปัญหาแล้วต้องไปดูข่าวที่บริษัทกันนะ ถ้าเกิดปัญหาขึ้นมาก็น่าจะโทรมาหาก่อน แต่นี่ไม่ได้ติดต่ออะไรมาเลย หรือฝั่งนั้นยังไม่เห็นข่าว ยูจองเลยส่งข้อความไปหาจีฮุนว่าให้โทรกลับแล้วออกจากบ้านไป
* * *
มินอาเช็กข่าวแล้วก็คลายความกังวล ล้มตัวลงนอนบนเตียงของห้องพักเหมือนเป็นลม ผ่านไปแล้วตั้งสามสิบนาที แต่เสียงที่เคาะประตูห้องพักนั่นมันน่ารำคาญจนต้องตะเกียกตะกายอยู่บนเตียง ตั้งใจว่าจะไม่กลับบ้านแล้วนอนที่บริษัทนะ ครอบครัวก็คงเดาได้ว่าเธอกำลังยุ่งมาก แต่อาจจะไม่รู้ว่าความสำเร็จของสื่ออย่างอิทส์แฟกต์ต้องแลกมาด้วยความลำบากแบบไหน เหนื่อยสักเท่าไหร่ ดังนั้นหากเธอกลับบ้านก็คงถูกเรียกตัวออกมาให้ไปทานอะไรจนไม่ได้พัก แต่คนในบริษัทรู้ว่าเธอลำบากมาหลายเดือนกับข่าวเด็ดที่ปล่อยออกมาเลยไม่มีใครมายุ่งอะไรด้วย และปล่อยเธอไว้จนถึงตอนที่ลุกขึ้นมาเองหลังจากวันหนึ่งหรือสองวัน ดังนั้นวันที่ข่าวปล่อยออกมามินอาจึงนอนที่บริษัท ซึ่งถ้าเป็นข่าวธรรมดาคงแค่เช็กดูในโทรศัพท์เท่านั้น แต่ถ้าอยู่ที่บริษัทแล้วมีงานเร่งด่วนเข้ามา มันก็จะไม่มีปัญญาในการติดต่อที่ลำบาก ด้วยเหตุนั้นการนอนที่บริษัทมันปลอดภัยในหลายๆ ประการ และข่าวครั้งนี้เป็นข่าวใหญ่ มินอากะจะขอนอนสักสองวันแล้วค่อยตื่น แต่ก็ยังมีคนมาเคาะประตูห้องพัก จริงๆ มีอะไรก็ทิ้งโน้ตไว้เพราะเธอหลับอยู่ แล้วนี่ใครมันไม่มีความเมตตาไม่มีมารยาทมาปลุกคนที่หลับอยู่แบบนี้ แต่พอมินอาเปิดประตูไปก็เจอนักข่าวนัมที่เธอบอกให้กลับบ้านไปพักผ่อน ยืนอยู่ตรงหน้า
“นักข่าวนัม ทำไม เกิดอะไรขึ้นเหรอ”
“ยุนยูจองจะแถลงข่าวที่โรงแรมชเวโกเลยเรียกนักข่าวทุกคนครับ”
“ฮะ? ใช่หรือเปล่า ไม่ได้ทะเลาะเบาะแว้ง ไม่ได้หลบหนีข่าวไม่มีมูล แต่เต็มใจแถลงข่าวงั้นเหรอ”
มินอาเปิดโทรศัพท์หารายชื่อ ปกติแล้วเวลาแบบนี้จะต้องติดต่อมาคุยกับนักข่าวเรื่องข้อเท็จจริงก่อนโดยเร็วที่สุดนะ แต่ไม่ว่าจะเช็กอย่างไงก็ไม่มีการติดต่อจากประธานคัง ผู้จัดการ ยุนยูจอง และฝั่งของชเวจีฮุนเลย ไม่มีเลย... มินอาจึงจัดการเตรียมแล็บท็อปแล้วออกมาจากบริษัท กลุ่มคนกำลังจัดสถานที่แถลงข่าว หรือจะประกาศแต่งงานเลยนะ ถ้าไม่ใช่แบบนั้นแล้วทั้งสองฝ่ายก็ไม่มีทางเงียบกันหมดแบบนี้ได้หรอก ประชาชนที่เห็นข่าวก็เริ่มวิจารณ์กันแล้ว ชาวเน็ตของประเทศเกาหลี และประเทศมหาอำนาจแห่งไอทีก็ขยันและเหนียวแน่นกันจริงๆ
* * *
พนักงานที่รับสายโทรศัพท์เสียงดังเข้ามาไม่หยุดหย่อนตรงนู้นทีตรงนี้ทีภายในตึกบริษัทยูจองเอนเตอร์เทนเมนท์ก็จนใจและส่งเสียงเซ็งแซ่ไปหมด แต่แชกยองก็เปิดประตูเข้ามาจัดการสถานการณ์ทันที
“ระดับหัวหน้าขึ้นไปให้เตรียมการประชุม โทรหานักข่าวจูมินอาอิทส์แฟกต์ด้วย ให้คำตอบเกี่ยวกับความจริงของข่าวว่าไม่ใช่เด็ดขาด ไม่มีหลักฐานมาชี้แจงก็เป็นเรื่องโอเวอร์เกินเหตุ เราจะร่วมกันใช้แผนตอบโต้โดยการใช้กฎหมายที่มีอำนาจ โอเค๊!?”
“ค่ะ/ครับ ท่านประธาน”
พนักงานเริ่มเคลื่อนไหววุ่นวายต่างจากเมื่อสักครู่นิดหนึ่ง ฮยอนซูกลับเข้ามาที่ห้องทำงานหลังจากพายูจองไปที่ร้านมาเรียบร้อยแล้ว เขาซ่อนตัวอยู่ในซอกหลืบคอยดูการเคลื่อนไหวของแชกยอง แต่แชกยองไม่สบตากับฮยอนซูเลย
“เดี๋ยวจะคำนวณเงินเดือนกับเงินปลดออกให้ฮยอนซู แล้วก็ให้เก็บของได้เลย บอกซูจีด้วยว่าไม่ต้องมาทำงานแล้ว”
ฮยอนซูที่เคยยืนอยู่ตรงนั้นก็เข่าทรุดกับพื้นทันที เขาก็ทำผิดจริงๆ แต่ยูจองกลับเปิดประตูห้องเข้ามาแล้วพยุงตัวให้ฮยอนซูลุกขึ้น
“ฮยอนซูกับซูจีไม่ผิดอะไรเลย อย่าทำคนที่ลำบากเลย ครั้งนี้ฉันจะรับผิดชอบแล้วแก้ไขมันทั้งหมดเอง”
“ทำไมเธอต้องมาสนใจการทำงานของคนที่ห้องนี้ด้วยล่ะ ห้องที่รวมฉันเข้าไปด้วย เกิดเรื่องแบบนี้แล้วจะแก้ไขได้ก็จะให้เงินเดือนต่อเหรอ เรื่องจัดการน่ะพวกเราทำเอง ตามตารางเธอต้องไปที่ร้านนิ ยกเลิกตารางงานในอาทิตย์นี้ให้หมด แล้วไปพักสักนิด ไม่ต้องโทรไปข้างนอก ไม่ต้องเล่นโซเชียลมีเดียด้วย”
“ยกเว้นวันนี้กับพรุ่งนี้ งานวันอื่นจะลดให้ ปล่อยมันไปเถอะ”
“ตอนนี้ก็ไม่สะท้กสะท้านเรื่องนั้นเลยสินะ”
“ก็ฉันกับคุณจีฮุนคบกันจะสะทกสะท้านอะไรได้เลย ก็โสดกันทั้งคู่”
“สปอนเซอร์กับแฟนๆ น่าจะคิดแบบอื่นนะ”
“อย่างไรซะก็ปล่อยตารางตามเดิม แค่หาคนมาอารักขาตามติดสักคนหนึ่ง”
“โอเค งั้นก็ทำแบบนั้นแหละ”
“จอดรถแวนทิ้งไว้นี่แหละ ให้ฮยอนซูขับรถของฉันเอง ถึงเวลาแล้วค่อยลงมา จะระวังตัวไม่ต้องห่วง”
ยูจองเดินออกไป เธอสงบและใจเย็นกว่าตอนไหนๆ แชกยองเห็นยูจองแบบนี้เป็นครั้งแรก เธออึดอัดใจที่จับความรู้สึกไม่ได้เลยว่ายูจองกำลังคิดอะไรอยู่ จะแก้ไขมันด้วยตัวเองด้วยความคิดอะไรก็ไม่รู้ แชกยองเองก็ต้องควบคุม ความจริงแล้วเพราะฝ่ายตรงข้ามเป็นนักข่าวจูมินอา อิทส์แฟกต์ เธอเลยอึดอัดใจ ไม่เคยคิดสักครั้งที่ความคิดเห็นของข่าวที่ถูกเผยแพร่จะพลิกกลับไปหานักข่าวจู
“โทรหานักข่าวจูแล้วยังไม่รับสายเหรอ”
“ท่านประธาน เธอไม่ได้ไม่รับสายนะคะ แต่ทิ้งให้สายตัดไปค่ะ”
แชกยองมัวแต่เป็นห่วงนู้นนี่ ระหว่างที่จัดการเด็กๆ ยูจองก็ไปถึงที่แถลงข่าวเพื่อจัดการทุกอย่างด้วยตัวเองแล้ว ฮยอนซูที่เป็นห่วงการไปงานแถลงข่าว เขาพายูจองไปส่งก่อนที่จะถึงที่หมายก็แอบยูจองส่งข้อความไปหาแชกยอง เมื่อรถที่ยูจองนั่งออกจากตึกไป แชกยองที่เห็นข้อความก็วิ่งหารถตามหลังยูจองไปเหมือนคนบ้า
* * *