คำพูดของเบ็นที่บอกว่าหนีไปสนามบินจะไม่ดีกว่าหรือนั่นเป็นเรื่องจริง มันมีความหมายว่าบนเกาะแห่งนี้ไม่มีหนทางหนีสำหรับลีนา และไม่มีประโยชน์ที่จะหนีไป หากเขาต้องการจะไปจากเบ็นจริงๆ ก็คงต้องหนีออกจากเกาะนี้เท่านั้น แม้จะไม่ใช่ในสถานการณ์ตอนนี้แต่ก็เป็นวิธีเดียวที่จะทำได้
เพราะต่อจากนี้เกาะอันสวยงามแห่งนี้สำหรับลีนาก็คือพื้นที่ของเบ็นทั้งหมด
แต่ว่าถ้าเป็นทางน้ำล่ะ หากหนีไปแล้วถูกจับกลับมาอีกครั้ง คงไม่มีโอกาสอีกเป็นครั้งที่สอง อาจจะถูกขังอยู่ในห้องเก็บของที่เหมือนคุกเลยก็ได้ แม้ว่าจะไม่มีประโยชน์ที่จะนึกถึงความสะดวกสบาย แล้วก็ไม่มีประโยชน์ที่จะจินตนาการถึงเรื่องเลวร้ายเช่นกัน แต่เรื่องราวแย่ๆ ต่างๆ นานากลับไหลเวียนเข้ามาในหัวลีนาไม่หยุดหย่อน
เขาน่าจะต้องลองคุยดู ลีนาคิดว่าในตอนนี้การประณีประนอมเป็นวิธีที่เหมาะสมที่สุด เพราะก่อนหน้านี้พวกเขาไม่ได้คุยกัน และจำเป็นต้องคุยกันมากกว่านี้ เขาต้องรู้ว่าเบ็นกำลังคิดอะไรอยู่ เขาต้องการคำอธิบายสถานะและสถานการณ์ในตอนนี้จากเบ็น
แล้วที่บอกว่าเขาบอกเลิก ก็... เกี่ยวกับเรื่องนี้ก็คงค่อยๆ ปรึกษาและหาวิธีแก้ปัญหา
“…ไม่มีสินะ”
ไม่ว่าจะเลิกหรือไม่เลิก บทสรุปก็มีอยู่แค่สองอย่างเท่านั้น แต่ยังขาดการเจรจาพูดคุยของพวกเขาสองคน
ไม่รู้แล้ว ลีนาลุกขึ้นจากอ่างอาบน้ำและล้างตัว ‘อย่างสะอาดหมดจด’ ทุกซอกทุกมุมตามที่เบ็นสั่งไว้ หลังจากอาบน้ำแล้วก็ตรงไปยังตู้เสื้อผ้าทันที ก่อนจะหยิบชั้นในอกมาใส่ ตามด้วยชุดคลุมอาบน้ำที่แขวนอยู่ข้างๆ มาสวม เพียงไม่นานหลังจากนี้ลีนาจะรู้ตัวว่ามีอะไรที่เขาทำพลาดไปอย่างแน่นอน
เพราะความเคยชินเป็นสิ่งที่น่ากลัวไม่ว่าจะเมื่อไหร่ก็ตาม
“ออกมาแล้วก็นั่งลง”
โดยเฉพาะการกระทำติดจนเป็นนิสัยของผู้ชายยิ่งแล้วใหญ่
พอออกมาจากห้องน้ำเบ็นก็กำลังนั่งเขารอที่ด้านหน้าของเตียงแล้ว บนเตียงมีกล่องปฐมพยาบาลสีขาววางไว้อยู่ นั่นอะไรน่ะ ลีนาขมวดคิ้วแน่น แต่ก็มานั่งลงบนเตียงตามที่อีกฝ่ายบอก ลีนามัวแต่กะเผลกทุกๆ การก้าวเดินจนไม่ทันเห็นสีหน้าที่หม่นลงของเบ็น
เบ็นจับข้อมือของลีนาขึ้นมาโดยไม่มีการบอกกล่าว การกระทำที่กะทันหันไม่ได้สนใจคิ้วที่ขมวดอยู่ของลีนาแม้แต่นิด อีกฝ่ายสนใจเพียงแค่บาดแผลของลีนาเท่านั้น แผลที่ใหญ่ที่สุดใหญ่กว่าข้อนิ้วนิดหน่อย คราวนี้เบ็นใช้คีมคีบสำลีชุบแอลกอฮอล์แล้วกดลงบนแผลของลีนาโดยไม่พูดอะไรอีกครั้ง
“โอ๊ย! ทำเบาๆ ได้ไหมครับ”
“เบาๆ เหรอ”
เบ็นยิ้มออกมา ถ้าให้เบากว่านี้นี่จะต้องยังไงกันนะ
“อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับคุณแล้วล่ะ”
“นี่ไม่ได้จะบอกว่าเป็นความผิดผมใช่ไหมครับ”
“ผมหมายความว่าไม่คิดว่าคุณจะหนีไปต่างหากล่ะ”
เบ็นพึมพัมเหตุผลออกมาอย่างไม่ได้ใส่ใจพร้อมกับเปิดยาออก จากนั้นบอกให้ลีนานั่งนิ่งๆ แล้วยืดขาออกมา ปฏิบัติอย่างอ่อนโยนราวกับจะทำให้ลืมความจริงเรื่องที่ตัวเองเป็นมาเฟียไป หลังจากซ่อนความกลัวไว้ได้ครู่นึง ลีนาก็เงยหน้าขึ้นมาคุยกับเบ็นในฐานะของคนรัก
“...เบ็น อย่าทำแบบนี้แล้วปล่อยผมไปได้ไหม”
“ขอให้ปล่อยงั้นเหรอ”
เบ็นยิ้มขำออกมาอีกครั้งราวกับลีนาพูดถึงมุกตลกที่ตลกมาก จริงๆ แล้วสำหรับเขามันก็ไม่ต่างอะไรนัก ล้อเล่นล่ะสิ ลีนา ในตอนนี้เขายังไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับคนรักมากนัก เบ็นพันผ้าพันแผลให้เขาอย่างใจเย็น
“ความรักไม่ใช่การบังคับนี่ครับ คุณก็ไม่ใช่คนแบบนั้นนี่ ...ใช่ไหมครับ”
“ถ้าอย่างนั้นการที่ผมพาคุณมาที่นี่ตอนนี้ คือการบังคับสินะ”
“เรื่องนั้น...”
การถามอย่างตรงประเด็นทำให้ลีนาต้องกลั้นหายใจ คำถามของเบ็นเป็นคำถามที่ตอบยากที่สุดแล้ว หากคนเป็นมาเฟียถามว่าเกลียดหรือเปล่า เขาสามารถตอบได้ แต่ถ้าถามว่าเกลียดการที่ตัวเองถูกบังคับหรือไม่ล่ะก็ มันเป็นเรื่องที่ตอบได้ยาก แต่หากว่าถามว่ารักเขาหรือไม่นั้น...
อย่างไรก็ตาม ลีนาจำเป็นจะต้องตอบ เพราะเบ็นกำลังเฝ้ารอคำตอบอยู่ สายตาที่จดจ้องอยู่ทำให้ริมฝีปากของเขารู้สึกแห้งผาก ถ้าตอบแบบกำกวมออกไปอาจจะทำให้เบ็นไม่พอใจได้ แม้ว่าจะไม่อยากทำแต่ในเวลาแบบนี้มันเป็นสิ่งที่เขาจะต้องทำ
“…ให้ผมกลับไปอยู่ในที่ที่ผมควรอยู่เถอะครับ เบ็น นั่นคือสิ่งที่ผมต้องการ”
ถ้าหากเขายังคงล้อเล่นอยู่ มันก็คงเป็นเรื่องล้อเล่นที่ไม่ตลกเลยสักนิด หลังจากเอาแต่จ้องมองลีนา เบ็นก็ลุกขึ้นเพื่อจัดเก็บกล่องปฐมพยาบาลอีกครั้งแล้วนำไปวางไว้บนโต๊ะใกล้ๆ ก่อนจะหันไปเปิดฝาเหยือกคริสตัลเพื่อยกมันขึ้นดื่มโดยไม่เทใส่แก้ว
เพียงแค่สามนาทีแอปเปิ้ลบรั่นดีที่เหลืออยู่ภายในนั้นก็ถูกเบ็นดื่มลงไปอย่างรวดเร็วโดยไม่มีหยุดพักจนหยดสุดท้าย ลีนาทำได้แค่มองภาพนั้นนิ่งๆ ในตอนนี้ถึงตาของเบ็นที่จะต้องตอบคำถามแล้ว
แผ่นหลังกว้างของเบ็นที่ลีนาเห็น ฃกำลังใช้มือทั้งสองข้างจับขอบมุมโต๊ะทั้งสองมุมและพักสะโพกลง แม้สายตาของอีกคนจะมองไปทางอีกฝั่งของหน้าต่าง ซึ่งนอกจากเสียงครืนๆ และภาพทิวทัศน์ที่มืดมิดของท้องทะเลยามค่ำคืนแล้ว ก็มองไม่เห็นอะไรอีกเลย
แม้ในเวลานี้เกลียวคลื่นก็ยังสาดซัดเข้าฝั่งและไหลกลับลงสู่ทะเล ชายหาดของซิซีเลียงดงามจนน้ำตาแทบไหลเวลาที่ได้มอง แต่มันก็ไม่ได้ต่างกันมาก เกลียวคลื่นทุกหนแห่งบนโลก ล้วนสาดซัดเข้ามาแล้วกลับลงทะเลหายไปเหมือนกันหมด และไม่มีผู้ใดสามารถจับเกลียวคลื่นนั้นไว้ได้ เบ็นเองก็รู้ความจริงในข้อนี้ดี แต่ทว่า...
“คุณอยู่ในที่ที่คุณควรจะอยู่แล้ว ลีนา”
เขาจะสามารถกักเก็บน้ำที่สูบขึ้นมาจากทะเลลงในอ่างใบนี้ได้แค่ไหนกันนะ
เบ็นยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัวแล้วหันกลับมาหาลีนาที่จมดิ่งลงไป หลังจากฟังประโยคนั้นจบ ท่อนบนของอีกฝ่ายสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวและด้านล่างกางเกงเก้าส่วน เป็นรองเท้าหนังสีน้ำตาลเข้มที่เข้ากับช่วงนี้ รูปลักษณ์ของชายหนุ่มเพอร์เฟ็คตั้งแต่ใบหน้าจนถึงข้อเท้า รวมไปจนถึงสุดปลายรองเท้าด้วย แน่นอนว่าเบ็นเป็นผู้ชายที่ดูดีมากๆ คนหนึ่ง
“คุณดูไม่ชอบอะไรที่เป็นการบังคับสินะ”
และในเวลาเดียวกันก็เป็นผู้ชายที่น่ากลัว
“ถอดออก ลีนา”
“…”
“ถอดมันออกด้วยตัวคุณเอง”
แววตาของลีนาสั่นไหวจากคำพูดของเบ็น ดวงตาของเขาอาจจะสั่นไหวตั้งแต่เบ็นประกาศอย่างชัดเจนแล้วว่าจะไม่ปล่อยเขาไป เขากำมือที่อยู่บนผ้าห่มอย่างไม่รู้ตัว ท่าทีของเบ็นที่เปลี่ยนไปในชั่วพริบตานั้น อาจไม่ทันได้สังเกต แต่ลีนารู้จักคนตรงหน้าดี
ตอนนี้เบ็นกำลังโกรธ ซึ่งลีนาอาจจะไม่รู้ แต่เบ็นเสียสติไปตั้งแต่ได้ยินข่าวว่าลีนาหายไปแล้ว ไม่สิ อาจจะเป็นตั้งแต่ตอนที่ลีนาพูดว่า ‘ไอเลว’ แล้วตัดสายโทรศัพท์ไปก็ได้ หากไม่ใช่อันนี้ก็คงเป็นตอนที่ลีนาไม่ตอบกลับข้อความและไม่รับสายโทรศัพท์ที่นับไม่หวาดไม่ไหวนั้น
เขาทำให้เบ็นโกรธ และความโกรธนั้นก็ยังคงอยู่จนถึงตอนนี้ ลีนานึกถึงท่าทีของเบ็นที่เห็นในรถขึ้นมาทันที การมองข้ามความโกรธของเบ็น เป็นความผิดของลีนาเอง
“จะให้ผมทำ... อะไรนะครับ”
“ลุกขึ้นแล้วถอดชุดคลุมออก ให้ผมดูด้วยตัวเอง”
เป็นคำสั่งที่ไม่ค่อยยากเท่าไหร่ แต่แววตาของเบ็นตอนที่พูดมันออกมาแตกต่างจากก่อนหน้านี้อย่างสิ้นเชิง ลีนากัดริมฝีปากของตัวเอง และในขณะนั้นเขาก็พบหนทางอื่น
ลีนาเลิกหวังไปแล้ว หากไม่ทำตามแล้วเขาจะทำแบบไหนได้อีก คำถามที่เตรียมไว้ถูกกลืนลงไปในลำคออีกครั้งหนึ่ง ในสถานที่แห่งนี้ ตัวเลือกอื่นๆ โดยเฉพาะตัวเลือกที่เขาสามารถทำได้ มันไม่มี ลีนาไม่ต้องการจะกลับไปถูกมัดแล้วคลานเหมือนหมาแล้ว แต่ในครั้งนี้เขาก็อาจจะจะพบเจอกับ ‘ของเล่น’ นั้นอีกก็ได้
ในตอนที่คิดถึงเรื่องนั้น อยู่ดีๆ ส่วนกลางลำตัวของเขาก็เกิดรู้สึกเสียวซ่านขึ้นมาอย่างไม่รู้สาเหตุ แต่ลีนาก็ทำเพียงเม้มปากและแกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่องต่อไป