ทุกคนกำลังรอไป๋อวี่มาถ่ายรูปด้วยกันอยู่ เสี่ยวหลานเดินไปตามไป๋อวี่ทางอีกปีกนึงของตึก เธอเดาว่าถ้าเขาไม่ได้เดินมาทางโถงกลางหน้าลิฟท์ เขาก็น่าจะเดินไปอีกทางหนึ่ง เธอกึ่งเดินกึ่งวิ่งมาหักเลี้ยวเมื่อสุดทางเดิน แล้วชนเข้ากับไป๋อวี่ที่ยืนพิงผนังอยู่
"อวี่เกอ ไปถ่ายรูป..." เธอเห็นอวี่เกอ สอดนิ้วมือทั้งสองข้างเข้าไปใต้แว่น ปาดเช็ดน้ำตา ....
"โอเค ปะ ไปถ่ายรูปกัน" ไป๋อวี่ตอบรับ ล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าแจ๊คเก็ต หยิบผ้าคาดปากสีดำขึ้นมา จะคล้องที่หูข้างนึง
"เดี๋ยว" เสี่ยวหลานยื้อมือเขาไว้ เธอเปิดกระเป๋าหยิบตลับแป้ง ดึงแว่นสายตาของไป๋อวี่ขึ้นเหนือคิ้วเขา แล้วรีบใช้พัฟตบตรงบริเวณเปลือกตาบนและรอบตาด้านล่างของไป๋อวี่ ก่อนจะลดแว่นของเขาลงเข้าที่
"ได้ละ" เธอว่า ตาเหลือบเห็นหมวกของไป๋อวี่ ที่ดูเหมือนจะถูกเขวี้ยงทิ้งไปตกบนบันไดที่ทอดลงสู่ด้านล่าง เสี่ยวหลานรีบก้าวลงบันไดไปหยิบมันมาคืนให้อวี่เกอของเธอ ไป๋อวี่รับหมวกมาสวมแล้วตบศรีษะเธอเบาๆ
"ถ้าเกอไม่มีเธอ เกอจะทำยังไงฮะ เนี่ย" เขากล่าวจบก็ออกเดินกลับไปทางตอนกลางของตึก เสี่ยวหลานยิ้มเขินแล้วก้าวตามไป๋อวี่ไป เธอไม่เคยถามอะไรมากความ และนี่ก็เป็นอะไรที่ไป๋อวี่ชอบเกี่ยวกับเสี่ยวหลาน จะเสียก็ตรงที่เธอมักจะตีความอะไรตามความคิดความเข้าใจของเธอเองอยู่เสมอ
เสี่ยวหลานย่นจมูกให้กับประตูห้องของจูอี้หลง เธอรู้ว่าจูเหล่าซือทำอวี่เกอของเธอร้องไห้อีกแล้ว พอทั้งคู่เดินเลยประตูไปได้สักพัก ประตูห้องก็เปิดออก มีเกาหานและจูไฉ่หงเดินออกมา
ทุกคนรีบถ่ายรูปร่วมกัน เพราะต่างก็มีงานจะต้องไปทำ การมาเยี่ยมจูอี้หลงในครั้งนี้นับเป็นเรื่องประจวบเหมาะที่เกาหานก็บินมาจากฉงชิ่งด้วยโดยไม่ได้นัดหมาย ทำให้รูปที่ถ่ายมีทั้งนักแสดงสำคัญและผู้กำกับ จะขาดก็แต่จูอี้หลงที่ป่วยอยู่ในห้อง และขอตัวจากการถ่ายรูปร่วมกับคนอื่นๆเท่านั้น
ในขณะที่คนอื่นๆทยอยกันลงลิฟท์ไป ผกก. เกายังยืนหันรีหันขวางอยู่ เขาถามไป๋อวี่ถึงถังซัน
"ไปหาเจ๊ใหญ่ครับ ผมมีเอกสารที่จะต้องเซ็น..." ไป๋อวี่ตอบอย่างสุภาพ เขารู้สึกได้ว่าผกก. เกาคงมีเรื่องสำคัญที่จะคุยกับผู้จัดการส่วนตัวของเขา เกาหานหันรีหันขวางจนในที่สุดก็กวักมือเรียกจูไฉ่หงที่กำลังยืนส่งแขกอยู่ตรงหน้าลิฟท์
"คุณจู เดินลงไปส่งผมหน่อย ไม่อยากใช้ลิฟท์" จูไฉ่หงน้อมตัวลงเป็นการรับคำแล้วเดินตรงมาหาเกาหาน เธอถามไป๋อวี่ว่าเขาไม่กลับพร้อมทีมนักแสดงเจิ้นหุนหรือ ไป๋อวี่บอกว่าจะรอถังซัน เธอจึงเดินนำผกก. เกาเดินกลับไปทางด้านห้องของจูอี้หลง แล้วเดินเลยไปจนถึงบันได
จูไฉ่หงนึกประหลาดใจตั้งแต่เห็นเกาหานมาที่โรงพยาบาล ถึงแม้เกาหานจะรู้จักจูอี้หลงเป็นการส่วนตัว เขาก็ไม่ใช่คนที่จะทิ้งกองถ่ายไปที่ไหนได้ง่ายๆ เพราะมันจะกระทบกับผู้คนหลายๆฝ่ายในกองถ่าย
เกาหานหยุดเดินเมื่อลงบันไดมาถึงช่วงต่อระหว่างสองชั้น
"โทรหาคุณหลินซิ" เกาหานหมายถึงผู้จัดการของจูอี้หลง ... เขาไม่รับโทรศัพท์...
"เอาล่ะ ไฉ่หง เธอฟังฉันให้ดีนะ เดี๋ยวหลินชิงหูมา เขาก็คงจะบอกเรื่องนี้กับเธอเหมือนกัน พวกเธอพิจารณากันเอาเอง ว่าจะบอกถังซันด้วยหรือเปล่า..." ไฉ่หงตั้งใจฟัง เธอเริ่มรู้สึกถึงความสำคัญของเรื่องที่เกาหานจะพูด
"ตอนนี้ตำรวจคงจะบอกกับหลินชิงหูแล้วว่าเรื่องของจูเหล่าซือน่ะมันมีคนบงการ" ไฉ่หงยกมือทั้งสองขึ้นอุดปากก่อนที่เธอจะปล่อยเสียงร้องออกมา
"แต่จะมีอยู่เรื่องนึงที่หลินชิงหูจะไม่รู้..." เกาหานเลียริมฝีปาก สีหน้าลำบากใจ
"ฉันนึกสงสัยตั้งแต่เห็นข่าวว่าจูเหล่าซือโดนแทง ฮึ งานใหญ่ระดับนี้ ที่กั้นที่ปกติก็แข็งแรงแน่นหนาจู่ๆจะล้มลงมาได้ยังไง แล้วจำเพาะเจาะจงมาล้มเอาตรงส่วนที่มือมีดโรคจิตยืนอยู่ แล้วก็เป็นตอนที่จูเหล่าซืออยู่ตรงนั้นพอดี มันจะไม่หลายบังเอิญไปหน่อยหรือไง ตำรวจไม่ใช่พวกโง่"
"ผกก. รู้เรื่องนี้ได้ยังไง.." ไฉ่หงกระซิบถามเสียงแหบแห้ง
"พอสงสัยก็ยกหูถามมาทางนี้... ฉันรู้จักพวกนักข่าวอาชญากรรมที่มักจะป้วนเปี้ยนอยู่แถวๆสถานีตำรวจ ..."
"อะ อาชญา..." ไฉ่หงกลืนน้ำลายอย่างลำบากยากเย็น เธอกำลังจะเอ่ยปากถามต่อ..แต่ก็เห็นสายตาของเกาหานที่มองขึ้นไปทางบันไดด้านหลังเธอ เขาจ้องเขม็งอยู่ จนเธอต้องรีบหันขวับไปดูอย่างขวัญเสีย
เมื่อเห็นว่าเป็นไป๋อวี่ที่ยืนอยู่สุดบันไดด้านบน เธอก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก แต่เกาหานกลับหุบปากเงียบกริบ ไฉ่หงไม่ได้ยินแม้แต่เสียงหายใจของเขา...