“ถ้าอย่างนั้นพวกผมไปก่อนนะครับ ขอบคุณมากครับเปาโล”
“ค ใครบอกจะไป!”
เขาหนีมาตั้งเท่าไหร่ แม้จะเสียใจที่ถูกจับได้ภายในสามชั่วโมง ยังไม่ถึงครึ่งวันด้วยซ้ำ แต่เขาก็จะกลับไปแบบนี้ไม่ได้ ลีนาแผดเสียงออกมาทันที เปาโลก็อยู่ด้วยนี่ จะเป็นอย่างไรกันนะ ในเมื่อด้านของเบ็นที่ได้เห็นคือ ‘หนุ่มนักธุรกิจรูปหล่อผู้มีเมตตา’
“ถ้าอย่างนั้นจะอยู่ที่นี่ต่อเหรอครับ”
แต่เบ็นกลับสงบนิ่งต่างจากที่ลีนาจินตนาการไว้ว่าจะกระวนกระวายใจสักนิด ถามว่าจะอยู่ที่นี่ต่อไหม ทว่าคำถามและสายตากลับตรงไปยังเปาโล ขณะนั้นหัวใจของลีนาร่วงไปถึงตาตุ่ม เปาโล... ถ้าเบ็นตัดสินใจไปแล้วมันจะไม่ใช่แค่เขา แต่เบ็นคงจะตามรังควานเปาโลด้วยได้เช่นกัน ในเมื่อตัวจริงของอีกฝ่ายไม่ใช่นักธุรกิจที่มีเมตตา
ลีนายังคงอ้าปากค้างแต่ก็เอื้อมมือไปคว้าชายเสื้อของเบ็นแล้วก้มหน้าลง จะทำให้เปาโลที่ไม่ได้ผิดอะไรตกอยู่ในอันตรายเพราะเขาไม่ได้ ลีนารู้สึกเสียใจที่ตัดสินใจมาที่นี่เป็นอย่างมาก เขาไม่ได้คิดว่ามันอยู่ในรัศมีที่เบ็นจะหาเจอ แม้ว่าจะเป็นความคิดที่โง่ แต่ก็สายเกินไปแล้วที่จะเสียใจ
“…ไม่ครับ”
คงต้องบอกแบบนี้ไปก่อน เบ็นยิ้มออกมาแล้วหันไปก้มหัวให้เปาโลอย่างสุภาพ เปาโลที่ไม่รู้สถานการณ์อะไรเลยยังคงหน้าแดงและโค้งตัวให้เก้าสิบองศาคืน แม้ว่าเบ็นจะเป็นคนรักของลีนาก็ตาม แต่ก็เป็นคนที่ทุกคนในเกาะรู้จักอยู่แล้วตั้งแต่ก่อนหน้านี้ และเป็นผู้ชายที่ชื่อเสียงโด่งดังกว่าดาราเสียอีก ยิ่งไปกว่านั้นก็ยังหน้าตาดีมากๆ อีกฝ่ายมีใบหน้าที่แม้แต่ผู้ชายด้วยกันมองก็รู้สึกใจสั่น แน่นอนว่าพอยิ้มแบบนี้แล้วก็ทำให้เปาโลหน้าแดงขึ้นไปอีก
เบ็นโอบกอดลีนาและพามาจนถึงหน้าประตู ด้านหน้ามีลูกน้องของอีกฝ่าย กำลังรอเปิดประตูรถให้ตามปกติ แล้วเบ็นนั้น...
“หนีเหรอ”
ก็ยัดตัวลีนาเข้าไปในรถ การกระทำหยาบคายที่ตรงข้ามกับการกอดแนบแน่นอย่างทะนุถนอมเมื่อกี้ส่งผลให้หัวของลีนาโขกกับกระจกประตูและน้ำตาไหลออกมา แน่นอนว่าเขาไม่สามารถโต้แย้งอะไรได้
สุดท้ายประตูรถก็ถูกปิดลง
“หนีแทบตายมาที่นี่น่ะเหรอ ทำไมไม่ไปสนามบินซะล่ะ”
เขาพูดอะไรไม่ออก เพราะคำพูดของเบ็น ลีนากัดริมฝีปากแน่น เขารู้สึกเสียใจ โกรธ เจ็บและกลัว เพราะไม่รู้ว่าต่อไปจะโดนลงโทษอะไรอีก
หลังจากนั้นเบ็นก็ปิดปากเงียบ การที่อีกฝ่ายไม่พูดอะไรออกมาทำให้เขาไม่สบายใจ ลีนาจ้องมองจากด้านข้างจึงพลอยกัดริมฝีปากไปด้วย เพราะภาพด้านข้างของเบ็นที่กำลังนิ่งเงียบบอกแทนได้ดีว่ากำลังโกรธขนาดไหน ครั้งนี้เป็นครั้งที่สองแล้วที่เบ็นโกรธ
แต่ก่อนเบ็นเคยสอนลีนาขี่เจ็ตสกีและเขาเคยจมลงไปในน้ำลึกด้วยความผิดพลาด จากการไม่ฟังคำเตือนว่าต้องใส่ชูชีพ ซึ่งหากเบ็นไม่ตามมาหาเขาในทันที เขาอาจจะจมน้ำตายไปแล้วก็ได้
ในตอนที่สติขาดๆ หายๆ เขายังจำเสียงตะโกนของเบ็นได้ ‘ตอนนี้ได้สติแล้ว!!’ แล้วลีนาก็หมดสติไป ตอนตื่นขึ้นมากอีกครั้งเบ็นที่เฝ้าอยู่ข้างเตียงก็ยังคงทำหน้าแบบนั้นอยู่
เขาจำได้ แต่ทำไมคิดถึงมันขึ้นมาตอนนี้
รถเคลื่อนตัวเข้าไปยังทางเข้าบ้านพักตากอากาศด้วยความไม่เร่งรีบ พอลีนาเห็นบ้านพักที่ตัวเองหนีออกไปอย่างยากลำบากก็เกือบจะน้ำตาไหล
เบ็นลงไปก่อนแล้วหมุนตัวมาเปิดประตูรถฝั่งที่ลีนานั่งอยู่ ก่อนหน้านี้บังคับเขา แต่ตอนนี้กลับดึงลีนาเข้ามากอดอีกครั้งเหมือนพวกสุภาพบุรุษ เท้าของเขายังคงว่างเปล่า และเพราะว่ารู้ว่าลีนาไม่สามารถเดินได้อย่างปกติด้วยเท้าที่เจ็บแบบนี้ ใบหน้าของเบ็นจึงดูไม่สบอารมณ์ตลอดเวลา ลีนาจึงทำได้แค่เพียงยอมให้เขากอดอย่างสงบเสงี่ยม
ทันทีที่ถึงห้องน้ำบนชั้นสอง เบ็นก็มีท่าทีเปลี่ยนไปแล้วโยนลีนาลงไปยังอ่างอาบน้ำ ร่างกายของลีนาตะเกียดตะกายอยู่ภายในอ่างที่เต็มไปด้วยน้ำ อ่างอาบน้ำที่สูงเท่าต้นขาของเบ็นนั้นแม้จะไม่ลึก แต่ก็สามารถทำให้บาดเจ็บได้
หลังจากที่ตกลงมาในอ่าง ลีนาก็ยันตัวขึ้นแล้วสะบัดหัว เขาเสยผมขึ้นไปทั้งหมดและเช็ดใบหน้าที่เปียกชุ่มจนสามารถมองเห็นเบ็นได้อย่างชัดเจน ลีนาที่ทำหน้าบึ้งก่อนหน้านี้ก็รีบกลับมาทำสีหน้านิ่งเฉยในทันที เขาจะไม่ปกปิดความเสียใจ รำคาญ หรือโกรธแล้ว
“ทำไมทำแบบนี้ล่ะครับ”
“ดีที่บอกให้เบ็นจามินเตรียมน้ำไว้ก่อน ไม่อย่างนั้นสะโพกของคุณคงไม่อยู่ดีแบบนี้หรอก”
“ฮะ? คิดจะทำอะไรที่นี่กันครับ”
อาบน้ำเขาก็อาบแล้ว เสื้อผ้าก็เปลี่ยนไปเรียบร้อยแล้วเหมือนกัน การกระทำของเบ็นที่ปล่อยลีนาลงอ่างอาบน้ำแบบไม่มีการเตือนทำเอาลีนาขาดสติไปช่วงหนึ่ง ทั้งคู่กำลังรู้สึกไม่พอใจ ลีนาจ้องมองเบ็นราวกับลืมว่าอีกคนเป็นมาเฟียไปพักหนึ่ง
เพราะว่าคนคือสัตว์ที่ปรับตัวได้เร็วหรือเปล่านะ เบ็นรู้สึกว่าสีหน้าของลีนาไม่เลวเลย
“ที่ห้องน้ำจะทำอะไรล่ะ ก็อาบน้ำสิ”
“เมื่อกี้ผมอาบแล้...”
“อาบอีก”
ถึงจะพูดแบบนั้น ก็ไม่ได้แปลว่าอารมณ์ดีขึ้นแล้ว เบ็นพูดออกมาอย่างเฉียบขาด
“อาบน้ำที่บ้านผู้ชายคนอื่น ใส่เสื้อผ้าของผู้ชายคนอื่น มันก็เหมือนกับมีอะไรกับคนอื่นนั่นแหละ”
“…ว่าไงนะครับ”
ลีนาไม่เชื่อหูตัวเอง
“จำไว้ว่านั่นก็พอจะเป็นข้ออ้างให้ฆ่าทิ้งได้นะ”
“…จะฆ่าผมด้วยเหตุผลแค่นั้นน่ะเหรอครับ”
คำถามของลีนาที่ถูกอีกฝ่ายจับตัวมาทำให้เบ็นหันหลังกลับทันที แม้เรื่องน่าตกใจที่มาติดต่อกัน จะทำให้ลีนามึนงงหลังจากถามคำถามนั้นออกมา มาเฟียเป็นพวกฆ่าคนโดยไม่มีสาเหตุงั้นเหรอ พอได้ยินกับหูตัวเองก็สะเทือนใจดี เขาโกรธกับความไม่ใส่ใจอะไรทั้งนั้น
ถ้าจะฆ่าก็ฆ่าเลย ลีนาจ้องเบ็นเขม็ง แต่ในครั้งนี้เบ็นตอบอย่างจริงจังว่า
“ไม่ใช่คุณ แต่เป็นผู้ชายคนนั้น”
แล้วก็ออกจากห้องน้ำไปอย่างใจเย็นระหว่างที่ลีนาพยายามจะพูดแต่ก็พูดไม่ออก
ลีนาทำได้แค่เพียงมอง ถึงอีกฝ่ายจะพูดเหมือนไม่รู้สึกรู้สาอะไร แต่เขารับรู้ถึงความจริงจังได้ยิ่งกว่าคำไหนๆ แม้ว่าเขาจะหวาดกลัว แต่กลับกำลังค่อยๆ ถอยห่างจากความจริงไปเรื่อยๆ
เหนือสิ่งอื่นใด เมื่อกี้พูดว่ายังไงนะ ลีนาค่อยๆ นำคำที่ฟังด้วยความตกใจ ออกมาเรียงต่อกันเป็นประโยคและการทำให้ประโยคสมบูรณ์ก็ง่ายเกินคาด
‘อาบน้ำที่บ้านผู้ชายคนอื่น ใส่เสื้อผ้าของผู้ชายคนอื่น มันก็เหมือนกับมีอะไรกับคนอื่นนั่นแหละ’
“…ฮะ?”
แต่ว่าลีนายังคงตกใจอยู่ อาบน้ำที่บ้านผู้ชายคนอื่น ใส่เสื้อผ้าของผู้ชายคนอื่น ก็เหมือนกับมีอะไรกับคนอื่นงั้นเหรอ ไม่ว่าเขาจะคิดยังไง ยิ่งคิดเท่าไหร่ ก็รู้สึกว่ายิ่งเป็นคำที่ไม่น่าเชื่อ
หมายถึงหึงเขางั้นเหรอ ซัลวาโตเร่ ดิโอ เวเนวาซิโอเน่ คนนั้นเนี่ยนะ
“…อยู่มานานจนถึงตอนนี้เพื่อเจอเรื่องนี้สินะ”
ความรู้สึกจริงๆ ข้างในออกมาจากปากอย่างอิดโรย ในขณะเดียวกันเขารู้สึกแย่ลง แค่เรื่องที่เขาเจอแล้วต้องจัดการวันนี้ก็เต็มหัวไปหมดแล้ว น้ำที่ถูกเตรียมไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้นั้นคงอุ่นอยู่ พอเขาแช่ร่างกายลงไปในน้ำอุ่นนั้น ความรู้สึกเหนื่อยล้าทั้งหลายก็เหมือนถูกผลักออกมา
ลีนาถอดชุดนอนของเปาโลแล้วโยนทิ้งออกไปนอกอ่างอาบน้ำ ก่อนจะเอนตัวลงนอนอีกครั้งหลังจากนึกถึงคำว่า ‘อาจจะมีอะไรกับเบ็นก็ได้’ เมื่อร่างกายผ่อนคลายแล้ว ความกังวลก็บรรเทาลง นี่เป็นความฝันหรือเปล่านะ เรื่องที่เกิดขึ้นกับเขาทั้งหมดนั้น มันห่างไกลจากความเป็นจริง ถ้าหากเป็นฝันก็ขอข้ามไปตอนที่สนุกๆ เลยได้สินะ
แต่ปัญหาก็คือมันไม่ใช่ความฝัน ลีนาลืมตาขึ้นกะพริบแล้วนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตัวเองอีกครั้ง สุดท้ายก็ถูกเบ็นจับตัวกลับมาอีก แม้จะคิดอยู่แล้วว่าการหนีไปนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ความเป็นจริงคือไม่จำเป็นต้องนึกถึงมันเลย ซิซีเลียคือพื้นที่ของเบ็นโดยสมบูรณ์