04
เขา
งานเลี้ยงครบรอบ 50 ปีของช่องถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่
สมฐานะ ภายในงานเต็มไปด้วยดาราและเหล่าแขกไฮโซวีไอพี ธีมงานเลี้ยงคือกรีก-โรมัน คอสตูมก็เลยจัดเต็มจนส่องแสงประกายวิบวับดูน่าแสบตา กิ่งแก้วยิ้มหวานรับป้ายคล้องคอจากสตาฟหน้างาน ยื่นส่งหนึ่งใบให้พงศกรที่มาด้วยกัน
นางเอกสาวอย่างกิ่งแก้วปรากฏโฉมในชุดเดรสสีขาวคล้องคอผ่าอก ด้านล่างส่วนกระโปรงเป็นระบายจีบที่แหวกขึ้นมา คาดทับด้วยเข็มขัดสีทองทำจากโลหะ ประดับแอกเซสซอรีสวยสง่า
ใบหน้าแต่งแต้มด้วยลุคดิวอี้เผยผิวสุขภาพดี ริมฝีปากอิ่มถูกเคลือบด้วยลิปสติกสีพีช เปลือกตาเลือกใช้อายแชโดว์สีออกก่ำชมพู ดูเหมาะสมกับบุคลิกหวานของเธอเป็นอย่างดี
เดินเข้างานได้เพียงนิดเดียว ก็ชะงักเมื่อเห็นกรกาญจน์
“กิ่ง!”
หญิงสาวมุ่นคิ้ว เดินเข้าไปหาทั้งที่อดสงสัยไม่ได้ “ทำไมมานั่งหลบมุมแบบนี้ ไปนั่งด้านหน้าสิ”
“ไม่ได้ๆ เราไม่ได้เป็นนางเอกของช่องแบบตัว”กรกาญจน์อธิบาย ก่อนที่จะยกมือไหว้สวัสดีพงศกร แล้วหันมาพูดคุยกับกิ่งแก้วต่อ
“โซนนี้น่ะเขาจัดไว้ให้พวกเราที่เป็นนักแสดงจากค่ายอื่น ส่วนนักแสดงหลักของช่องก็ให้นั่งด้านหน้ากับพวกวีไอพีน่ะ นั่นไง ประธานของเราก็นั่งอยู่”
กรกาญจน์ชี้ไปทางด้านหน้าเวที ชายหนุ่มในชุดนักรบโรมันสีน้ำตาลทองแดง เขาดูเหมือนนักแสดงสักคนมากกว่าจะเป็นประธานค่ายด้วยซ้ำ และโต๊ะนั้นก็ประกอบไปด้วยวีไอพีของแท้ เพราะส่วนมากเป็นบุคคลเบื้องหลังที่มีชื่อเสียง ทั้งผู้จัด ผู้กำกับ และประธานของเธอ
กิ่งแก้วพยักหน้าเข้าใจ นั่งลงข้างกันกับกรกาญจน์
“งั้นเดี๋ยวพี่ไปหาไรกินก่อน คุยกันตามสบายเลยนะจ๊ะ”พงศกรพูดยิ้มๆ
ยังไม่ทันที่เธอจะได้ตอบอะไร ผู้จัดการสาวที่วันนี้แต่งตัวเปิดเผยเรือนร่างอันมาดแมนก็หายไปแล้ว รูปร่างของพงศกรสูงใหญ่บึกบึนตามแบบฉบับคนออกกำลังกาย แต่กลับชอบแต่งหน้าสีสดขัดกับภาพลักษณ์
“พี่เต๋าสวยดีนะ”
คำชมของกรกาญจน์ทำเอาเธอหน้าเหวอ “จะสวยกว่านี้อีกถ้าหุ่นไม่เฟิร์มจนชายแท้ยังกลัว”
สองพี่น้องพูดคุยกันในเรื่องไม่เป็นเรื่องเท่าไหร่อย่างเพลิดเพลิน ไม่ทันได้มองว่าคนเริ่มหนาตาขึ้นเรื่อยๆ ที่นั่งถูกจับจองและงานกำลังจะเริ่มอย่างเป็นทางการในอีกไม่ช้า
กิ่งแก้วรู้สึกตัวตอนที่พงศกรกลับมา
“โทรหาพี่ภาพให้หน่อยสิ เขาไม่รับโทรศัพท์ฉันเลย”ตามมาด้วยน้ำเสียงจิ๊จ๊ะพร้อมกับอาการร้อนรน กรกาญจน์ถึงบางอ้อทันที ยื่นโทรศัพท์ให้ผู้จัดการสาว
งอนกันชัวร์!
พอได้ของที่ต้องการเรียบร้อย พงศกรก็หายไปพร้อมกับโทรศัพท์ของเธอ คาดว่าคงออกไปง้องอนตามประสาคู่รักไฟแรงสูง
“เอ้อ จริงสิ เราว่าจะถามตัวนานแล้วแต่ไม่มีโอกาสได้ถามเลยอ่ะ”กรกาญจน์ลังเล แต่พอเห็นน้องสาวพยักหน้าให้ก็เริ่มใจชื้น ยอมพูดสิ่งที่คิดไว้ “คือเรามาคิดๆดูแล้วตอนนั้นน่ะ วันที่เรากำลังจะแต่งงานแล้วดันมีเรื่องของนายวัธนาเกิดขึ้น หมอนั่นใช้มือถือของตัวโทรมาหาเราบอกให้ยกเลิกงานแต่ง มีรถมารับให้เราไปหา แถมพอไปถึงแล้วมือถือตัวก็ยังอยู่ เราก็เลยเชื่อสนิทใจว่าเขาจับตัวกิ่งไป เลยได้แต่ตามเกมตอนที่นักข่าวโผล่มาถามถึงความสัมพันธ์ของเรากับนายวัธนา เพราะกลัวว่าตัวจะเป็นอันตราย”
“แต่ปรากฏว่าตัวก็ปกติรับอีเว้นท์สบายใจ แถมยังมาช่วยเราไว้ได้ด้วยการประกาศว่าคบหากับนายวัธนาอีก…”กรกาญจน์ทำสีหน้าลำบากใจ กัดริมฝีปากล่างพร้อมกับสายตาที่หลุบต่ำ
เห็นแบบนั้นกิ่งแก้วก็ถอนหายใจ
เอ่ยถามเสียเรียบ “ตัวมีอะไรจะถามก็ตรงๆเถอะ อ้อมไปสามโลกแล้ว”
“คือเราคิดไปคิดมา คิดมาคิดไปแล้ว...”
“กะทิ”
พอได้ยินเสียงปราม พี่สาวของเธอก็หน้าจ๋อยเหลือสองนิ้ว “ก็ได้ๆ เราถามก็ได้”
“เราขอโทษนะกิ่ง แต่เราอดสงสัยไม่ได้เลยอ่ะว่าทำไมหมอนั่นถึงขโมยโทรศัพท์ตัวไปได้...”กรกาญจน์ถามออกไปในที่สุด ก่อนที่รีบยกมือขึ้นส่ายเป็นพัลวัน “เปล่านะเปล่า เราไม่ได้คิดว่าตัวกับนายวัธนานั่นมีซัมติงเลย แต่เราแค่รู้สึกว่ามันแปลกเฉยๆ แล้วมันก็ทำเราหงุดหงิดมากเลยด้วย”
กิ่งแก้วรู้สึกว่าตัวเองถอนหายใจยาวที่สุดในรอบปี อดขันพี่สาวที่แสดงทุกอย่างออกมาทางสีหน้าหมดแบบนี้ไม่ได้
ดูก็รู้ว่าตอนนี้เธอกลายเป็นผู้ต้องสงสัยหมายเลขหนึ่งไปแล้ว
*******************************************
คนที่ไม่เคยอ่านเรื่อง คุณบอดีการ์ดของหนู จะงงกันหรือเปล่าคะ?
ตอนนี้ขอปักหมุดไว้ก่อน คิดว่าน่าจะมีการรีไรท์*
ปล.อย่าเคร่งเรื่องไทม์ไลน์ในการเดินเรื่องมากนะคะ อ่านขำๆ ออกตัวเลยว่าไรท์ก็ลืมๆ 5555