Intro
ดวงตาสีเฮเซลนัททอดมองตึกรามบ้านช่องสูงเสียดฟ้าเบื้องหน้าด้วยสายตาว่างเปล่า แม้ในยามกลางคืนที่พระอาทิตย์หลับใหลแต่มหานครแห่งนี้ไม่เคยหยุดนิ่ง ยังคงคลาคล่ำไปด้วยผู้คนและสว่างไสวราวกับกลางวัน ต่างจากตรงนี้ที่เขายืนอยู่ราวกับตัดขาดจากความวุ่นวายเหล่านั้น บรรยากาศเงียบสงบคลอเคล้าไปกับเสียงดนตรีเบาๆ ที่เขาเป็นคนเลือกเปิดไว้
เสียงเคาะประตูดังขึ้นเรียกความสนใจนักธุรกิจหนุ่มให้หันกลับมา
“มาหรือยัง”
“มาแล้วครับท่าน จองห้องเดิม แต่เปลี่ยนคนมาด้วยครับ”
คำบอกเล่าจากลูกน้องคนสนิททำเอาคิ้วหนาขมวดมุ่น เป็นเวลาเกือบเดือนกว่าแล้วที่เขาสั่งให้คนของเขาจับตาดูพฤติกรรมของ ‘ลูกค้า’ คนหนึ่ง ผู้เห็นเหตุผลที่เขายังคงไม่กลับไปพักผ่อนและยังอยู่ตรงนี้ ภายในโรงแรมหนึ่งในเครือธุรกิจที่เขาเป็นเจ้าของ
โรงแรมหรูระดับห้าดาวกลางเมือง สะอาดทั้งภาพลักษณ์ และชื่อเสียง
แต่ดูเหมือนว่าในเวลานี้กลับมีใครบางคนพาธุรกิจสีมืดเข้ามาในพื้นที่ของเขา ซึ่ง ‘โยฮัน’ ไม่ชอบใจนัก
ทั้งที่อยากติดกล้องวงจรปิดเก็บหลักฐานให้รู้แล้วรู้รอด แต่ด้วยเพราะจรรยาบรรณทำให้ไม่อาจล่วงละเมิดความเป็นส่วนตัวของลูกค้า จึงไม่สามารถติดตั้งกล้องวงจรปิดในส่วนของห้องพักโรงแรมได้
แต่ไม่ต้องห่วง ถึงไม่มีมันโยฮันก็มีแหล่งข่าวที่แม่นยำพอๆ กับกล้องวงจรปิดเชียวล่ะ
“ติดต่อไปหาดีแลน”
...
วันนี้เป็นอีกวันที่มาคัสอารมณ์ดีเป็นพิเศษ เพราะของเล่นล็อตใหญ่ที่เขาทุ่มทั้งแรงกายและกำลังทรัพย์ไปมากมายเพื่อให้ได้มันมา ตอนนี้กำลังถูกลำเลียงเข้าโกดังตามคำรายงานของลูกน้อง แค่คิดถึงผลกำไรที่จะได้รับใบหน้าหล่อเหล่าก็ยิ้มไม่หุบ ไหนจะการเจรจาในวันนี้ที่ราบรื่นดีไม่มีปัญหา เหลือแค่รอเวลาดูตัวเลขในบัญชีเพิ่มขึ้นเท่านั้น
เฮ้อ ชดชื่นจริงๆ
“วันนี้ดูอารมณ์ดีนะครับนาย” คำพูดของคนสนิททำให้มาคัสเหลือบสายตามอง ‘อเล็ก’ ด้วยรอยยิ้มมุมปาก ก่อนทอดสายตามองวิวเมืองจากโรงแรมหรูในมุมสูงตรงหน้าอย่างอิ่มเอมใจ
“มีแต่เรื่องดีๆ แบบนี้จะให้อารมณ์เสียได้ยังไงล่ะ”
ถึงปากจะว่าแบบนั้น แต่การที่ทุกอย่างเป็นไปตามต้องการเสมอแบบนี้บางทีมันก็ช่าง...น่าเบื่อ
ช่วงนี้ไม่ค่อยมีเรื่องตื่นเต้นให้หัวใจได้กระชุ่มกระชวยเท่าไหร่เลยแฮะ
ภาพแสงสียามราตรีด้านล่างส่งความคึกคักขึ้นมาถึงความเรียบหรูในห้องแสนสงบนี้ จนอดคิดถึงสถานที่แห่งหนึ่งไม่ได้ จะว่าไปก็ไม่ได้ไปที่นั่นนานมากแล้ว เพราะกิจการที่เจริญรุ่งเรืองขึ้นทุกวัน ทำให้ไม่ค่อยว่างปลีกตัวไปหาความสุขที่นั่นอีก
คิดถึงทั้งสถานที่ คิดถึงทั้งคน...
อืม... ป่านนี้จะเป็นยังไงบ้างนะ ผีเสื้อสีเทาตัวนั้นที่เขาประดับแต่งแต้มสีสันให้จนกลายเป็นผีเสื้อราตรีแสนสวยงาม
ยังคงสนุกกับสิ่งที่เขาหยิบยื่นให้หรือเปล่า.... ‘ควินตัน’
คิดถึงจริงๆ
“สินค้าลำเลียงเข้าโกดังเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับนาย” คำบอกกล่าวของอเล็กดึงสติมาคัสให้กลับมาจากภาพในอดีต เพียงเท่านี้ก็เหลือแค่นัดแนะเจ้าของพวกมันให้มารับไปดูแล
สินค้าล็อตใหญ่นี้เป็นสิ่งที่เขาหมายตามาแต่แรก เพราะความยากในการเสาะหาทำให้มูลค่าของมันเพิ่มพูนมหาศาล ไม่ใช่เพียงแค่เขาเท่านั้นที่ต้องการเป็น ‘ผู้ขาย’ แต่มาคัสได้แสดงให้พวกมันเห็นแล้วว่าผู้ที่อยู่เหนือกว่า ย่อมได้สิ่งที่ต้องการเสมอ
พวกปลายแถว...อย่ามาเทียบ!
“ดูแลให้ดีล่ะ อย่าให้มดปลวกสอดมือเข้ามายุ่ง”
มาคัสชอบเรื่องตื่นเต้นก็จริง แต่เขาไม่ชอบความตื่นเต้นที่จะทำให้เขาเดือดร้อน รวมถึงปัญหาอะไรก็แล้วแต่ที่จะเกิดขึ้นกับสินค้าล็อตนี้ เขายอมให้เกิดไม่ได้
ท่อนขายาวยกขึ้นไขว่ห้างอย่างสบายอารมณ์ พลางยกโทรศัพท์เครื่องบางขึ้นต่อสายหาลูกค้ารายใหญ่ของเขา ด้วยบทสนทนาเพียงไม่กี่คำ จำนวนเงินครึ่งหนึ่งของทั้งหมดก็ถูกโอนเข้าบัญชี ตามด้วยการนัดแนะถึงสถานที่และช่วงเวลา ที่ทุกอย่างต้องดำเนินไปอย่างรัดกุม
“เอาล่ะ กลับบ้านแสนสุขของเรากันดีกว่า” เจ้านายเพียงคนเดียวของห้องเอ่ยขึ้นอย่างอารมณ์ดี และเดินออกจากห้องพักในโรงแรมหรูที่เขามักใช้เจรจาธุรกิจเสมอ ตามด้วยลูกน้องคนสนิทและผู้ติดตามชุดดำ
ล็อบบี้ของที่นี่ยังคงคลาคล่ำด้วยผู้คนไม่ขาดสาย ร่างโปร่งเดินฉิวผ่านคนเหล่านั้นด้วยใบหน้าประดับรอยยิ้ม จนกระทั่ง...
ปึ่ก!
ไหล่ขวาถูกกระแทกด้วยแรงไม่มากนัก แต่ก็พอทำให้ร่างโปร่งหยุดชะงักลง ชายชุดดำเตรียมโผเข้าใส่คนที่บังอาจเดินชนนายตนแต่กลับถูกคนของฝ่ายนั้นกันเอาไว้เช่นกัน
กลายเป็นทั้งสองฝ่ายยืนประชันหน้าท่ามกลางเสียงที่ยังคงจอแจ ดวงตาสีเฮเซลนัทจ้องนิ่งไปยังคนตรงหน้าไร้อารมณ์เช่นเดิม ต่างจากอีกคนที่แม้คิ้วขมวดมุ่นแต่ยังคงรอยยิ้มไว้ที่มุมปาก...แสนซุกซน
“โรงแรมตั้งกว้าง ยังบังเอิญชนกันได้อีกนะครับ” เสียงเอ่ยกระเซ้าจากคนที่มีอายุอ่อนกว่า แต่ไม่อาจเปลี่ยนประกายตาเรียบเฉยอีกคู่ได้
“นั่นสิครับ โรงแรมมีตั้งมากมาย แต่คุณกลับเลือกใช้ที่นี่” คำตอบรับกำกวมทำให้รอยยิ้มของมาคัสเริ่มจืดจางลง การที่เขาจะเลือกใช้โรงแรมไหนมันเกี่ยวอะไรกับคนแปลกหน้าอย่างหมอนี่ด้วยล่ะ
แต่เอาเถอะ วันนี้เขาอารมณ์ดี จะไม่เก็บเอาคำพูดประหลาดของคนประหลาดมาใส่ใจก็แล้วกัน
“ถ้าคุณไม่คิดจะขอโทษ งั้นผมคงต้องขอตัวก่อน” ร่างโปร่งพูดแค่นั้นก่อนจะยอมเป็นฝ่ายเบี่ยงตัวหลบเพื่อจะเดินผ่านไป แต่คำพูดของใครคนนั้นกลับรั้งเขาไว้
“คำขอโทษงั้นเหรอ” น้ำเสียงเนิบนาบทว่ามีอำนาจในทีกล่าวขึ้น “ผมจะเก็บเอาไว้พูดกับคุณครั้งหน้าก็แล้วกัน ...ถ้าคุณยังต้องการมันอยู่”
ร่างสูงพูดเพียงแค่นั้นก่อนจะเป็นฝ่ายออกเดินจากไปอีกทาง สร้างความประหลาดใจให้มาคัสไม่น้อย
อะไรของหมอนั่น! พูดราวกับว่ามีเรื่องให้ต้องเจอกันอีกอย่างนั้นแหละ
ประสาท!
ร่างโปร่งบ่นในใจก่อนจะเดินออกไปด้วยใบหน้าบูดบึ้ง ทั้งที่เขากำลังอารมณ์ดีอยู่แท้ๆ
...แตกต่างจากใครอีกคน ทันทีที่หันหลังจากมาใบหน้าที่เคยเฉยชากลับแต่งแต้มไปด้วยรอยยิ้ม
>>>>
แท่นแท้นนนน
แอบมาเปิดเรื่องคู่นี้ไว้ก่อน แต่อาจจะยังไม่ได้มาต่อเร็วๆ นี้นะคะ
ใครอ่าน ดีแลนควินตัน อย่าพลาดคู่นี้น้า
ทั้งดื้อ ทั้งรั้น ทั้งแสบเลย มาคัสตัวจี๊ด! ><