ตอน
ปรับแต่ง
สารบัญ
ตอนนิยาย ()

ปรับแต่งการอ่าน

พื้นหลังการอ่าน
รูปแบบตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
ระยะห่างตัวอักษร

แรกพบ

             “ขอเชิญพบกับขลุ่ย พรีเซนเตอร์คนล่าสุดของเราค่ะ” เมื่อพิธีกรพูดจบ เสียงกรี๊ดก็ดังกระหึ่มขึ้นมา ห้างสรรพสินค้าขนาดแปดชั้นอัดแน่นไปด้วยผู้คนทางจะเดินแม้เพียงสักนิดยังไม่มีต้องบอกว่าชายหนุ่มคนนี้ทำห้างแตกก็คงไม่ผิดนัก

             คีตณัฐ วรชาติเดชา คือหนุ่มน้อยอายุสิบแปดที่กลายเป็นเนท ไอดอลเพียงชั่วข้ามคืนจากการโพสต์คลิปร้อง เต้นและเล่นกีตาร์ลงช่องยูทูบของตัวเอง ความฮอทของเขาไม่ได้หยุดแค่นั้นคลิปดังกล่าวดังไปไกลถึงสังกัดเพลงในเกาหลีและเขากลายเป็นเด็กค่ายคนแรกจากประเทศไทยที่จะได้ประเดิมเป็นนักร้องในสังกัด

             ที่พิเศษสุดๆ ก็คือ ค่ายจีอีหรือ Good Entertain จะมาเปิดสาขาที่ไทยและคีตณัฐเป็นศิลปินคนแรกที่ไม่ต้องบินไปเก็บตัวถึงเกาหลีแต่ครูและเทรนเนอร์ด้านต่างๆ จะมาดูแลเขาถึงที่นี่เลยทีเดียว

             “เอาล่ะค่ะ พักหายใจ พักเสียงกันสักครู่ดีกว่า” พิธีกรบอกเมื่อผ่านไปครู่ใหญ่ ตอนนี้ถึงเวลาต้องแนะนำสินค้าตามสคริปที่เตรียมไว้แล้ว

             “สวัสดีครับทุกคน” คีตณัฐหรือขลุ่ยทักทายแฟนคลับ แค่ประโยคสั้นๆ ก็ทำให้เสียงกรี๊ดระดับกระจกห้างสะเทือนกลับมากระหึ่มอีกครั้ง

             ชายหนุ่มได้เป็นพรีเซนเตอร์โทรศัพท์มือถือสัญชาติเกาหลีซึ่งแน่นอนว่าเจ้าของก็คือค่ายจีอีนั่นเอง กระแสความแรงของขลุ่ยแรงจนฉุดไม่อยู่ทางค่ายจึงต้องรีบกอบโกยเป็นการด่วนถึงแม้ยังไม่ออกอัลบั้มแต่ก็สามารถทำเงินด้านอื่นๆ ให้กับทางค่ายได้เป็นกอบเป็นกำ

             “ต่อไปพบกับมาสคอตของทางค่ายนะคะ ชื่อว่าน้องชอกี วันนี้น้องชอกีกับขลุ่ยจะเต้นด้วยกันค่ะ” พิธีกรแจ้งลำดับการต่อไปที่คีตณัฐจะต้องทำ ชายหนุ่มทราบเป็นอย่างดีเพราะท่องจำทั้งหมดมาได้ขึ้นใจก็คือเดินขึ้นเวที โบกมือทักทายแฟนคลับ พูดคุยกับพิธีกร เต้นกับมาสคอต แจกรางวัลให้ผู้โชคดี ถ่ายรูปสิบนาที เดินลงเวทีโดยมีการ์ดดูแลสี่คนจากนั้นก็ขึ้นรถเป็นอันจบงานแรกของวันนี้

             แต่ดูเหมือนมันจะผิดไปจากคิวนิดหน่อย ทางค่ายบอกว่าจะมีมาสคอตชอกีแค่เพียงหนึ่งตัวแต่ตอนนี้เขากำลังยืนประจันหน้ากับเจ้าตัวโตนุ่มนิ่มถึงห้าตัวด้วยกัน เขาไม่รู้ว่าจะต้องไปเต้นคู่กับใครหรือแค่ยืนตรงกลางก็น่าจะพอแล้ว

             แล้วมาสคอตตัวที่สามก็โบกไม้โบกมือให้ ขลุ่ยจึงเข้าใจว่าคงเป็นตัวนี้แหละที่ต้องไปเต้นด้วย แถมเจ้าตัวโตยังแตกต่างจากตัวอื่นๆ ตรงที่มีโบว์อยู่บนศีรษะ เมื่อไปถึงมาสคอตตัวนั้นก็เดินขึ้นไปข้างสามก้าวหน้า ส่วนอีกสี่ตัวที่เหลือยืนอยู่ด้านหลังเข้าแถวเป็นหน้ากระดาน เพลงที่ใช้เต้นความยาวแค่สามนาทีแต่ก็เรียกเสียงหวีดร้องอย่างสุดฟินจากแฟนคลับสาว ๆ ถล่มทลาย

             “เอาละค่ะ จบไปแล้วกับการเต้นของน้องชอกีและขลุ่ย เป็นยังไงกันบ้างคะ น้องชอกีน่ารักไหม” พิธีกรถามถึงมาสคอตตัวสีขาวที่ใส่ชุดกระโปรงสีชมพูแถมยังมีที่คาดผมสีขาวด้วย

             “ขลุ่ยน่ารักกว่าค่า” สาวๆ ตอบโดยพร้อมเพรียงกัน

             “ถึงเวลาแจกรางวัลให้ผู้โชคดีแล้ว เชิญน้องขลุ่ยจับรางวัลค่ะ” พิธีกรยื่นโหลแก้วเล็กๆ ให้ขลุ่ยแล้วเขาก็จับกระดาษขึ้นมาห้าแผ่น ตอนนี้เข้าใจแล้วว่าทำไมต้องมีมาสคอตห้าตัวเพราะแต่ละตัวกำลังถือกล่องโทรศัพท์ตามสีของชุดตัวเอง

             ระหว่างที่พูดคุยและมอบรางวัลให้กับผู้โชคดี ขลุ่ยอยากจะขำออกมาดังๆ เขาตลกตัวมาสคอตที่เต้นคู่ด้วยเอามากๆ เพราะยืนนิ่งกุมเป้าเหมือนโดนสาป ในขณะที่ตัวอื่นๆ โบกไม้โบกมือไม่ได้หยุด บางทีคนที่สวมชุดนั้นอาจจะเหนื่อยหรือจริงๆ คงแค่ขี้เกียจก็เป็นได้แต่เห็นแล้วมันก็น่าขำจริงๆ มันเหมือนทุกคนกำลังยิ้มแย้มแจ่มใสแต่มีคนนึงที่ยืนบื้อทำหน้าบึ้งแบบไม่สนโลกและไม่แคร์ใครทั้งนั้น

             “ขอบคุณทุกคนมากนะครับ” ครบสิบนาทีแล้วที่เหล่าแฟนคลับได้ใกล้ชิดหนุ่มน้อยในฝัน

             ชายหนุ่มโบกมือลาสาวๆ ที่รุมล้อมอยู่รอบตัวแล้วก็โดนการ์ดลากออกไปทันทีแต่เขาก็ยังได้เห็นเจ้ามาสคอตตัวที่สามยืนอยู่ตรงด้านหลังเวที มันกำลังถอดหัวนุ่มนิ่มออกและเมื่อได้เห็นชัดๆ ว่าใต้ชุดมาสคอตนั้นเป็นใคร คีตณัฐก็ไม่อาจละสายตาได้

แสดงความคิดเห็น

ความคิดเห็นทั้งหมด ()

ยังไม่มีการแสดงความคิดเห็น