HURT , unclear #Jensoo #Chaelisa #chaesoo

​01 Met Again

​

ในชั่วโมงยามเช้าที่แสนรีบเร่งของวันแรกในการเริ่มต้นสัปดาห์การทำงานอันแสนหนักหน่วงของ “เดือนกุมภาพันธ์” เดือนแห่งความรักที่ใครๆ มักพูดถึง แต่กลับดูไม่ค่อยสำคัญเท่าไหร่ สำหรับผู้หญิงโสดอย่าง “จีซู”

ที่มันไม่สำคัญไม่ใช่ว่าเพราะไม่สนใจเรื่อง “ความรัก”

แต่เพราะเคยใส่ใจกับมันมาก แต่มันกลับทำให้เจ็บปวดซะมากกว่า

หลังจากที่รับปริญญา และก้าวเข้าสู่ช่วงวัย First Jobber อย่างจริงจัง “จีซู” หญิงสาวเจ้าของใบหน้าสวย อดีตดาวคณะนิเทศ มหาวิทยาลัยดังที่ซิ่วมาจากสถาปัตยฯ ม.ดัง ก็ได้เข้าทำงานในตำแหน่ง Art Director ที่บริษัทแห่งหนึ่ง

จีซูทำงานมาได้หลายปีแล้ว แต่เธอก็ไม่เคยได้ติดต่อกับ “เจนนี่” อดีตเพื่อนสนิทรุ่นน้อง นับตั้งแต่ตอนที่เรียนปี 3 ที่ทะเลาะกันในครั้งนั้น ครั้งที่จีซูถูกเจนนี่เค้นให้ยอมรับว่าคิดยังไงกับเธอกันแน่ และเมื่อจีซูตัดสินใจบอกชอบเจนนี่ไป ทั้งๆ ที่ในตอนนั้น เจนนี่มีแฟนที่เป็นผู้ชายอยู่แล้ว

จีซูถูกเจนนี่ปฏิเสธโดยทันที

หล่อนบอกกับจีซูว่า “ว่าคิดกับจีซูแค่เพื่อนรุ่นพี่เท่านั้น”

แต่เจนนี่ทำทุกอย่างเกินเพื่อน เธอไม่เคยปล่อยจีซูไป ทุกอย่างเป็นมากกว่าเพื่อนมากกว่าพี่ แต่ไม่ใช่แฟน จีซูไม่เคยเข้าใจ แต่ก็เลือกที่จะตัดใจเพื่อตัดปัญหาทั้งหมด ด้วยการขอห่างจากเจนนี่สักพัก แล้วจีซูก็ต้องช๊อคเมื่ออยู่ๆ คืนนั้นเจนนี่ก็ตั้งสเตตัสใน Facebook

“ฉันเกลียดพวกเลสเบียน เกลียดพวกที่แอบรักเพื่อนตัวเอง”

จีซูโกรธเจนนี่จนไม่ยอมพูดด้วย และทั้งสองคนก็ไม่พูดกัน ความตลกร้ายต่อมาก็คือ “โรเซ่” น้องสาวของเจนนี่ที่ดันพาร์ทชั้นตั้งแต่มัธยม ได้ย้ายหน่วยกิตมาเรียนคณะเดียวกับเจนนี่และจีซู  จีซูชอบโรเซ่ตั้งแต่แรกเห็น แต่ไม่เคยรู้ว่าโรเซ่เป็นน้องสาวของเจนนี่ เพราะว่าพ่อแม่ของเจนนี่หย่ากัน เจนนี่อยู่กับพ่อ โรเซ่อยู่กับแม่ จีซูเข้าใจมาตลอดเว่าเจนนี่เป็นลูกสาวคนเดียว เมื่อเธอเดินหน้าเข้าหา “โรเซ่” มากขึ้น เจนนี่ก็โกรธเธอยิ่งกว่าเดิม

แล้ววันหนึ่งจู่ๆ โรเซ่ก็เป็นฝ่ายตีตัวออกห่างจากจีซูไป โดยที่จีซูไม่รู้เหตุผลด้วยซ้ำ จนกระทั่งมารู้เอาจากเพื่อนคนอื่นนี่แหละ ว่าเจนนี่กับโรเซ่เป็นพี่น้องกันแท้ๆ

.

.

.

เวลาผ่านไปหลายปี จีซูก็ไม่ได้ติดต่อกับทั้งเจนนี่และโรเซ่อีก เธอจำเรื่องเจนนี่ฝังใจ แม้กระทั่งงานรับปริญญาโทของเจนนี่ จีซูยังไม่ไปเลย  

“สวัสดีค่ะน้องจีซู วันนี้มาบริษัทแต่เช้าเลยนะคะ^^”

เสียงทักทายที่คุ้นเคยกันเป็นอย่างดีของประชาสัมพันธ์หน้าสวย “เจสสิก้า” ที่คุ้นเคยกับจีซูเป็นอย่างดี เจสสิก้าเป็นรุ่นพี่ที่ทำงานมาก่อนจีซูประมาณ 3-4 ปี

“วันนี้มีประชุมเรื่องโปรเจคหนังใหม่ค่ะ เห็นว่าวันนี้จะมีผู้ช่วยผู้กำกับใหม่ที่เข้ามาแทนพี่ยูริน่ะค่ะ”

จีซูตอบเจสสิก้า พร้อมรอยยิ้ม  

หลังจากคุยกับเจสสิก้าเล็กน้อย จีซูเดินตรงเข้าไปในห้องประชุมห้องกว้างของบริษัท โต๊ะกระจกตัวยาวถูกวางอยู่กลางห้องกระจกสี่เหลี่ยมผืนผ้า เครื่องปรับอากาศถูกเปิดให้ทำงานไว้ จีซูมองตรงเข้าไป เห็นแผ่นหลังของหญิงสาวผมยาวสีน้ำตาลเข้มที่ตนมั่นใจว่าไม่รู้จัก

“สวัสดีค่ะ”

จีซูเอ่ยทักทายด้วยน้ำเสียงและรอยยิ้มที่เป็นมิตร พลันดวงตาก็ต้องเบิกกว้างเมื่อเห็นอีกฝ่ายนั้นหันหน้ากลับมา

“พี่จีซู....”

เสียงอุทานร้องอุทานมาอย่างตกใจไม่แพ้กันของอีกฝ่ายทำเอาจีซูอ้าปากค้าง มองอีกฝ่ายอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง

“หนูโรเซ่ไงคะ โรเซ่น้องพี่เจนนี่ไง”

อีกฝ่ายแนะนำตัวด้วยรอยยิ้มเป็นมิตร ทำไมจีซูจะจำเธอไม่ได้ ก็เพราะจีซูจีบโรเซ่อยู่ดีๆ โรเซ่ก็ตีตัวออกห่างไปซะอย่างนั้น อกหักทั้งๆ ที่ยังไม่ได้เริ่มเลยด้วยซ้ำ จีซูนึกถึงโรเซ่สมัยเป็นนักศึกษา ตอนนั้นโรเซ่ชอบใส่กระโปรงสอบ ผมยาวม้วนตรงปลายสีบลอนด์ๆ  กับแว่นทรงกลมเหมือนหลุดมาจากโลก Harry Potter แต่ก็ดูน่ารักดี เธอเป็นคนอารมณ์ดี ยิ้มง่าย

ใครเห็นใครก็ชอบทั้งนั้น

ไม่เว้นแม้แต่จีซูก็เหอะ

“อย่าบอกนะว่าโรเซ่มาเป็นผู้ช่วยผู้กำกับที่นี่อ่ะ”

“ใช่ค่ะ ดีใจจังที่เจอพี่จีซู” โรเซ่ตอบด้วยเสียงน่ารักและรอยยิ้มกว้างไม่พอ เธอตรงเข้ามากอดจนจีซูแทบหงายหลัง  ใบหน้าหวานนั้นคลี่ยิ้มหวาน

“พี่จีซูตัวเล็กเหมือนเดิมเลย” โรเซ่แซว ใช่สิ! สมัยเรียนเธอชอบเข้าไปแกล้งกอดจีซูประจำ แล้วจีซูก็จะตัวแข็งทื่อเหมือนพระกับสีกาอย่างไงอย่างงั้น  

“อื้อ อย่ากอดแน่นสิ พี่หายใช้ไม่ออก”

โรเซ่ปล่อยมือออก

“นี่เขินเหรอคะ?”

จีซูเหวอ ก่อนจะอ้อมแอ้มตอบ

“เฮ้ย พี่เปล่า”

โรเซ่หัวเราะคิก

“ฉันล้อเล่นน่ะค่ะ” โรเซ่พูดแล้วฉีกยิ้มกว้าง

จีซูหัวเราะเบาๆ ทั้งคู่ยิ้มให้กันอย่างสุขใจ บังเอิญชะมัดที่กลับมาเจอกันที่ทำงาน ทั้งๆ ที่ตอนนั้นก็ไม่คุยกันนานแล้ว จีซูยังจำได้ถึงวันหนึ่ง ที่อยู่ๆ โรเซ่ที่นั่งทำงานอยู่ข้างๆ เธอ ในวันที่ทำฉากรายการวิชารายการสด อยู่ๆ หล่อนก็พูดกับจีซูว่า

“พี่จีซู Fake สินะคะ”

พูดซ้ำทีเล่นทีจริง อยู่สามรอบ ส่วนจีซูตอนนั้นก็ได้แต่งงๆ ว่า Fake อะไรวะ หลังจากนั้นก็ไม่ค่อยได้คุยกันอีก ห่างๆ กันไปซะอย่างนั้น ไม่มีสาเหตุ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเพราะอะไร ตอนนั้นมันเป็นสถานการณ์ที่น่าอึดอัดชะมัด  

.

.

.

“หนูไปกินข้าวด้วยนะ” 

เสียงของโรเซ่ดังขึ้นมาทันทีที่การประชุมได้จบลง จีซูยิ้ม พยักหน้ารับอย่างว่าง่าย ก่อนจะหันไปหาซึลกิและไอรีน สองเพื่อนร่วมงานคนสนิทที่มักจะไปไหนมาไหนด้วยกันเสมอ

“นี่โรเซ่ เพื่อนรุ่นน้องสมัยเรียนมหาวิทยาลัยของฉัน เรียนรุ่นเดียวกัน”

จีซูบอกกับเพื่อนๆ ทุกคนด้วยรอยยิ้ม

โรเซ่แนะนำตัว

“สวัสดีค่ะ เราชื่อโรเซ่ เพิ่งย้ายเข้ามา ฝากตัวด้วยนะ ฮ่าๆ ^^” 

โรเซ่กล่าวทักทายด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะคลี่ยิ้มกว้างๆ โรเซ่เธอเป็นคนน่ารักเสมอ ตอนนี้โรเซ่ก็เหมือนตอนนั้นนั่นแหละ ยิ้มเก่ง เฟรนด์ลี่ ทำอะไรก็ดูน่ารักไปหมด เหมือนสมัยที่เรียนมหาวิทยาลัยนั่นแหละ

.

.

.

“จีซูแกจะเอาโรเซ่มันเป็นนางเอกหนังสั้นแกจริงๆ หรอ โรเซ่มันสวยก็จริง แต่มันแอคติ้งหนังไม่ได้เลยนะ เอาอีเจนนี่มาเล่นเหอะ มันเล่นหนังสั้นมหาลัยเรามาตั้งหลายเรื่อง”

แทยอนเพื่อนสนิทของจีซูพูดแบบนั้น ในตอนที่จีซูต้องการให้โรเซ่มาเล่นเป็นนางเอกหนังสั้นเรื่อง “ฉัน เธอ เขา เราสองสามคน” ที่จีซูรับหน้าที่เป็นฝ่ายกำกับศิลป์ และสาเหตุที่จีซูอยากได้โรเซ่เล่นหนังเรื่องนี้

ก็เพราะ  

1.จีซูปลื้มที่โรเซ่นิสัยดีน่ารัก เขาอยากรู้จักเธอมากขึ้น

2.จีซูไม่ต้องการให้เจนนี่ได้รับบทนี้

แต่สุดท้ายก็ไม่มีใครได้เล่นทั้งนั้นแหละ “โรเซ่” สวยน่ารัก แต่แอ็คติ้งโคตรห่วย ส่วน “เจนนี่” สวย เล่นหนังได้ แต่ก็โดนจีซูยืนยันไม่เอาท่าเดียว หลังที่จีซูได้ทำงานกลุ่มกับโรเซ่ในครั้งนั้น มันก็เหมือนเป็นใบเบิกทาง เธอกับโรเซ่สนิทกันมากขึ้น ทุกอย่างค่อยๆ ดำเนินไปอย่างรวดเร็ว

ทว่าเรื่องของ “จีซู” กับ “โรเซ่” ในอดีตที่เหมือนจะไปได้สวย ก็เป็นเพียงแค่จินตนาการเท่านั้น เพราะเมื่อ “เจนนี่” รู้ว่าจีซูชอบโรเซ่ เธอก็แค่พูดประโยคเดียวกับโรเซ่ น้องสาวของเธอ

เพียงประโยคเดียวเท่านั้นจีซูก็ไม่มีโอกาสได้ใกล้กับโรเซ่อีกเลย

“โรเซ่ พี่จะบอกอะไรให้ จีซูเคยมาบอกชอบพี่ แต่พี่ไม่ชอบ พี่ว่าพี่จีซูไปจีบแก เพราะอกหัก”

.

.

.

TO BE CON.