ตอน
ปรับแต่ง
สารบัญ
ตอนนิยาย ()

ปรับแต่งการอ่าน

พื้นหลังการอ่าน
รูปแบบตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
ระยะห่างตัวอักษร

บทนำ [1/2]

บทนำ

‘รางวัลที่ผมจะประกาศต่อไปนี้คือรางวัลขวัญใจมหาชน มีผู้เข้าชิงรางวัลอันทรงเกียรตินี้ทั้งหมดห้าท่าน และตอนนี้ผลโหวตอยู่ในมือผมเรียบร้อยแล้วครับ’ พิธีกรเว้นจังหวะการพูด เมื่อเสียงของแขกที่มาร่วมงานเงียบลง จึงพูดต่อ ‘และท่านที่ได้รับรางวัลขวัญใจมหาชนในปีนี้ ได้แก่…คุณโช โชติกา ประกายวรรณ เจ้าของรางวัลขวัญใจมหาชนสี่ปีซ้อนครับ’


เสียงปรบมือดังกึกก้องฮอล์ที่ใช้เป็นสถานที่ประกาศรางวัล กล้องทุกตัวจับมาที่นางเอกสาวเจ้าของชื่อที่ได้รับรางวัล ซึ่งกำลังสวมกอดผู้จัดการส่วนตัวด้วยความดีใจ เธอลุกขึ้นค้อมศีรษะให้แขกผู้มีเกียรติทุกท่าน ก่อนจะเดินขึ้นเวทีเพื่อรับรางวัลอันทรงเกียรตินี้ติดต่อกันเป็นปีที่ห้า


‘ขอเสียงปรบมือให้เธอด้วยครับ’


เสียงของพิธีกรชายพูดขึ้นเมื่อผู้เชิญรางวัลมอบโล่รางวัลให้เธอ


‘ขอบคุณค่ะ’ หญิงสาวรับรางวัลมาถือไว้ ก่อนจะเดินไปยืนอยู่หน้าแท่นไมโครโฟนบนเวที ส่งยิ้มให้แขกผู้มีเกียรติที่มาร่วมงานทุกท่าน แล้วพูดขึ้นด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มปริ่มไปด้วยน้ำตาคลอเบ้า ‘ก่อนอื่นโชต้องขอบคุณทุกท่านที่โหวตให้โช จนได้รางวัลเป็นปีที่ห้านะคะ ถ้าไม่มี…’


ปึง!


“อะไรเนี่ยพี่แชมป์!” โชติกาโวยวายพร้อมจ้องเขม่งไปที่ผู้จัดการสาวประเภทสองที่แต่งตัวแมนพอๆ กับผู้ชายอกสามศอก ซึ่งปิดหน้าจอแล็ปท็อปเธอลงทั้งที่กำลังนั่งดูการประกาศผลรางวัลอยู่ “โชกำลังตั้งใจดูอยู่เลยนะ”


“แกดูจนจำได้ขึ้นใจแล้วมั้งยัยโช ที่สำคัญคลิปที่แกดูมันผ่านมาห้าปีแล้ว!”


ชนินทร์ต่อว่าดาราสาวในสังกัดที่นั่งทำหน้าปลื้มปริ่มอยู่หน้าจอแล็ปท็อปด้วยชุดนอนลายการ์ตูนเจ้าหญิงดิสนีย์ตัวโคร่ง โดยใช้กิ๊ฟตัวใหญ่หนีบผมสลวยเป็นมวยเอาไว้กลางศีรษะ ใบหน้าปราศจากการแต่งแต้มใดๆ ดูซีดเซียวจนเหมือนคนป่วยก็ไม่เกินจริงนัก และถ้าให้เดาสาวเจ้ายังไม่ได้อาบน้ำเสียด้วยซ้ำ!


“ห้าปีแล้วยังไง” 


เจ้าของรางวัลขวัญใจมหาชนห้าปีซ้อนไหวไหล่ ไม่เห็นความสลักสำคัญอะไรกับระยะเวลาห้าปีที่ผ่านมา เพราะต่อให้ผ่านมานานแค่ไหนเธอก็ยังภูมิใจทุกครั้งที่ได้เปิดดูมัน 


“อดีตขวัญใจมหาชนห้าปีซ้อนเลยนะพี่แชมป์ โชได้รับรางวัลนี้ตั้งแต่อายุยี่สิบห้า ทั้งที่เพิ่งเริ่มเป็นนักแสดงได้แค่ห้าปีเท่านั้น นี่ถ้าไม่ใช่ ‘โช โชติกา ประกายวรรณ’ คงทำไม่ได้”


“และแกก็จงสำนึกไว้ว่ามันเป็นแค่อดีต ปัจจุบันแกอายุสามสิบห้า…”


“หยุด!!” คนถูกทักเรื่องอายุรีบยกมือห้าม มันช่างแสลงหูเธอเสียจริงๆ “สามสิบสี่ปีกับอีกเจ็ดเดือนต่างหากล่ะ โชยังไม่แก่ขนาดนั้นซะหน่อย” 


เธอแก้ให้ด้วยใบหน้าบูดบึ้ง ใครเขาพูดถึงเรื่องอายุกัน โดยเฉพาะกับคนที่เลยเลขสามมาเกือบห้าปีอย่างเธอ


“ถ้าแกไม่แก่จริงทางช่องคงไม่ส่งบทแม่มาให้แกเล่นหรอกยัยโช!” ชนินทร์พูดแทงใจดำคนฟัง จนเจ้าของรางวัลขวัญใจมหาชนห้าปีซ้อนยกมือขึ้นป้องหู และเอาแต่ส่ายหัวอย่างไม่อยากรับรู้กับความจริงข้อนี้


“ซุป’ตาร์อย่างโชไม่มีทางรับเล่นบทแม่อย่างแน่นอน!”


โชติกาประกาศกร้าวเป็นครั้งที่เท่าไรก็จำไม่ได้ เพราะไม่เคยสนใจนับครั้งสักที ซุปเปอร์สตาร์ของเมืองไทยที่ได้รับรางวัลการันตีความสามารถมาหลากหลายเวทีอย่างเธอไม่เหมาะกับบทนั้นแม้แต่น้อย ไม่ใช่ว่าบทมันไม่ดี แต่เธอยังไม่แก่ถึงขั้นต้องรับเล่นบทแม่


ปัจจุบันมีเด็กในวงการเกิดใหม่มากมาย ทว่า ‘โชติกา ประกายวรรณ’ ยังคงเป็นดาวค้างฟ้าที่เหมาะกับบทบาทนางเอกเท่านั้น ส่วนบทอื่นอย่าได้แม้แต่เอามาเสนอเชียว!


“เพราะแบบนี้ไงแกถึงไม่มีงานละครมาสามปีเต็ม!”


“นั่นเพราะโชไม่รับงานเองต่างหาก!”


“เหรอยะ!”


โชติกาไม่มีงานละครมาร่วมสามปี ไม่ใช่แค่ราคาค่าตัวต่อตอนที่สูงลิ่ว แต่หญิงสาวยังเลือกรับงานเฉพาะที่ตนอยากทำเท่านั้น จนผู้จัดหลายค่ายคิดว่าซุปเปอร์สตาร์ดาวค้างฟ้าของวงการวางมือเรื่องการแสดงและต้องการพักผ่อนอยู่บ้าน หลังจากที่ทำงานหนักมานานหลายปี ทั้งที่ความจริงแล้วไม่ใช่แบบนั้นเลย


“ถ้าไม่ใช่ละครบู๊ ละครย้อนยุค ตีรันฟันแทง ระเบิดภูเขา เผากระท่อม หรือละครที่โชได้รับบทแม่ โชคงรับเล่นไปนานแล้วค่ะพี่แชมป์”


“แกอย่าลืมนะโชติกา…เงินเก็บที่มีก็เริ่มร่อยหรอลงทุกวัน” 


ชนินทร์ทิ้งตัวนั่งลงข้างดาราสาวที่ตนเองรักและเอ็นดูเหมือนน้องในไส้อย่างจนหนทางที่จะพูดเรื่องนี้ เธอเคยพูดเรื่องนี้มาก็หลายรอบ แต่โชติกาก็เอาแต่บ่ายเบี่ยง ได้เวลาที่เธอต้องพูดจริงๆ จังๆ เสียที


“โชยังมีงานอีเวนต์โชว์ตัว ไหนจะพรีเซนเตอร์อีก มันไม่สาหัสขนาดนั้นหรอกมั้งคะพี่แชมป์” ถึงจะพูดแบบนั้นแต่ใจกลับไม่มั่นคงเอาเสียเลย ดูท่าทางชนินทร์แล้วไม่มีแววล้อเล่นสักนิด


“อีเวนต์เดือนละไม่กี่งานเพราะเขาสู้ค่าจ้างแกไม่ไหว ส่วนพรีเซนเตอร์สามตัวที่แกเป็นอยู่ก็หมดสัญญาสิ้นปีทั้งหมด แบบนี้จะรอดเหรอโช ไหนจะค่าใช้จ่ายอื่นๆ อีก”


“นี่โชกำลังตกอับเหรอพี่แชมป์”


โชติกาแทบไม่อยากเชื่อว่าซุป’ตาร์อย่างเธอจะเข้ามายืนในจุดที่เรียกว่า ‘ตกอับ’ นี้ได้ ทั้งที่อายุสามสิบสี่ปีเจ็ดเดือนอย่างเธอยังทำงานในวงการได้อีกนาน ไม่มีใครปฏิเสธเรื่องความสามารถของเธอได้แน่ๆ แต่ทำไมกลับไม่มีงานจ้างเข้ามา


“มันก็ไม่ถึงขนาดนั้นหรอก แต่ถ้าแกยังไม่ยอมรับงานก็อาจจะตกอับจริงๆ เข้าสักวัน” ชนินทร์จับมือน้องสาวมากุมไว้ “ตอนนี้เด็กใหม่ในวงการก็ผุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ด ถ้าแกไม่รู้จักเอาตัวรอดในสถานการณ์แบบนี้ แกก็จะกลายเป็นดาวค้างฟ้าที่ไม่มีอันจะกินในชีวิตจริงแทน ส่วนพี่น่ะไม่มีปัญหาอะไรหรอก เพราะรายได้หลักช่วงหลังก็มาจากเด็กใหม่ในสังกัดทั้งนั้น แต่แกนี่สิ…”


“โชควรรับบทแม่เหรอ…”


“อันนี้ก็แล้วแต่แก พี่ไม่บังคับอยู่แล้ว”


“แล้วโชควรจะทำยังไงดี”


โชติกาเริ่มเครียดกับสิ่งที่ผู้จัดการสาวบอก เพราะถ้าเป็นแบบนั้นจริง เธออาจจะได้กินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปไปทั้งปี หรืออาจจะเลวร้ายถึงขั้นไม่มีปัญญาซื้อแม้แต่มาม่ากินเลยก็ได้


“พี่รู้จักหมอดูคนหนึ่งท่านแม่นมาก โดยเฉพาะเรื่องเนื้อคู่ ไม่เคยทำนายให้ใครผิดสักราย” ชนินทร์เอ่ยเสียงจริงจัง


“รู้ได้ไงว่าไม่เคยผิดสักราย พี่แชมป์ตามเก็บสถิติมาหรือไง” โชติกาเบ้ปากด้วยความหมั่นไส้ เรื่องหมอดูขอให้ไว้ใจพี่สาวในร่างชายของเธอได้เลย งมงายกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว หากมีประกวดแฟนพันธุ์แท้หมอดูในไทยชนินทร์คงได้รับรางวัลทุกปี


“ยังจะมายอกย้อน”


“พี่แชมป์ก็รู้ว่าโชไม่เชื่อเรื่องพวกนี้ ที่สำคัญเรากำลังคิดวิธีแก้ไขเรื่องงานที่โชกำลังจะตกอับ ไม่ได้คิดถึงเรื่องเนื้อคู่ซะหน่อย”


“เราก็ไปดูเรื่องงาน แถมด้วยเรื่องความรักไง แกอยู่เป็นโสดมาสามสิบห้าปีไม่เหงารึไง หรือจะปล่อยให้มดลูกหยากไย่เกาะก่อนถึงจะคิดเรื่องหาผัว”


“ถึงเวลามันก็มาเองนั่นแหละ ไอ้เรื่องผอสระอัวน่ะ” หญิงสาวแย้งไม่เต็มเสียงนัก “คนเราทุกคนย่อมมีเนื้อคู่เป็นของตัวเอง”


“เนื้อคู่แกใช้เวลาเดินทางนานเนอะ อีกไม่กี่เดือนข้างหน้าก็สามห้าปีแล้ว”


“ไม่ต้องมาประชดเลย” 


โชติกาแยกเขี้ยวใส่ผู้จัดการสาวสองที่บังอาจพูดเรื่องจริงที่มันโคตรจะกระทบจิตใจกันเลย เหมือนถูกลากไปตบที่กลางสี่แยกอย่างไรอย่างนั้น เรื่องเนื้อคู่พอทน แต่ไอ้การย้ำอายุนี้มันทรมาณคนฟังสุดๆ


ใช่ว่าเธออยากจะอยู่เป็นโสดแบบนี้เสียเมื่อไร ทั้งที่เธอถูกโหวตให้เป็นหนึ่งในผู้หญิงที่มีใบหน้าสวยที่สุดในเอเชีย กลับไม่มีใครเข้ามาจีบเลย มีบ้างที่แวะเข้ามาถามไถ่สารทุกข์สุขดิบแต่ไม่นานก็หายไป เพราะแบบนี้ไงล่ะถึงได้ยังโสดอยู่จนถึงปัจจุบัน


โสดโดยไม่ตั้งใจน่ะเข้าใจไหม! ถ้าผู้ชายมันหาได้ง่ายขนาดนั้นเธอเธอคงมีลูกสามผัวสิบไปแล้ว ไม่มาห้อยโหนเกาะคานเล่นอยู่แบบนี้หรอก!


โอ๊ยคนโสดมีนิสัยพาลแบบนี้ทุกคนไหมนะ!?


“ฉันเลยต้องชวนแกไปดูหมอนี่ไง”


“มันเกี่ยวกันไหมเนี่ย ตกงานจำเป็นต้องดูหมอด้วยเหรอ” หญิงสาวแย้งอย่างไม่เห็นด้วย ถ้ามัวแต่พึ่งดวงพึ่งโชคลาภ ไม่เป็นอันทำมาหากินกันพอดี “จะบอกให้นะพี่แชมป์ ชีวิตคนเราอยู่ได้เพราะเรากำหนดเอง ไม่ใช่จากดวงหรืออะไรทั้งนั้น”


“แกจะไปไม่ไป”


“ดูปากโชนะ…โช-ไม่-ไป” หญิงสาวเน้นที่ละคำอย่างชัดถ้อยชัดคำ ก่อนจะย้ำอีกครั้ง “โชไม่เชื่อเรื่องดวง!!”

สองชั่วโมงต่อมา**@สำนักหมอเทพ**


โชติกาที่นั่งอยู่ไม่สุขพยายามเอาผ้าพันคอที่คลุมหัวมาปิดบังหน้า เพราะกลัวคนอื่นที่มาใช้บริการหมอเทพผู้หยั่งรู้ลึกรู้จริงจะจำได้ ตอนแรกเธอไม่อยากมาที่สำนักหมอเทพแห่งนี้ด้วยซ้ำ แต่ก็ขัดผู้จัดการส่วนตัวไม่ได้ ผลสุดท้ายก็ต้องมานั่งแกร่วอยู่ที่นี่ด้วยความไม่เต็มใจ แถมยังต้องมากังวลกลัวคนจำได้อีก


“หมอพูดจริงเหรอคะที่ว่าโชเป็นคนมีวาสนา” เป็นคำถามของคนที่ไม่ค่อยเต็มใจมานะเนี่ย ไม่ค่อยจะเชื่อเลยจริงจรี๊ง!


“ใช่” หมอเทพพยักหน้ายืนยัน ก่อนจะพูดต่อ “แต่นั่นก็ต่อเมื่อเจ้าพบเนื้อคู่ของเจ้าแล้วเท่านั้น”


นั่นไงล่ะ ออกแนวของฟรีไม่มีในโลก และถ้าอยากมีวาสนาก็ต้องหาผัวให้ได้ก่อน


“เนื้อคู่เหรอคะ” เธอถามย้ำอีกครั้ง


“เนื้อคู่ของเจ้าเป็นคนมีวาสนาสูง จะนำพาเจ้าไปพบเจอแต่สิ่งดีๆ ในภายภาคหน้า”


“ที่ว่ายัยโชมีวาสนา เพราะมีเนื้อคู่เป็นคนวาสนาสูงเหรอคะหมอ” คราวนี้เป็นชนินทร์ที่ถามบ้าง


“ถูกต้อง”


“แล้วเมื่อไหร่โชจะเจอเนื้อคู่ล่ะคะ”


ไม่รู้จะเชื่อดีหรือไม่ แต่จากข้างต้นที่ได้คุยกันมาสักระยะก็อดจะปฏิเสธไม่ได้ว่าหมอเทพผู้หยั่งรู้คนนี้ดูดวงแม่นใช่ย่อย หากฟังไว้คงไม่เสียหายอะไร เธอพยักหน้าเห็นด้วยกับความคิดของตัวเอง ก่อนจะหันมาตั้งใจฟังหมอเทพพูดต่อ


“อันนี้ข้าก็ตอบเจ้าไม่ได้ มันขึ้นอยู่ที่ตัวเจ้าแล้วละแม่หนู”


“อ้าว…แล้วโชจะรู้ได้ยังไงคะว่าคนไหนคือเนื้อคู่ของโช” หรือต้องให้คุกกี้ทำนายกัน

‘~Come on Come on Come on Come on baby ให้คุกกี้ทำนายกัน~’


หญิงสาวคิดในใจด้วยความนึกขัน ทว่าก็ต้องหูผึ่งเมื่อประประโยคเด็ดเข้าให้


“ตัวของเจ้าจะรู้ดีที่สุด แต่ถ้าเจ้าอายุครบสามสิบห้าเมื่อไหร่แล้วยังไม่เจอผู้ชายคนนั้นเสียที เจ้าเตรียมตัวขึ้นคานทองนิเวศน์ไปตลอดชีวิตได้เลย โชติกา!”


“มียังงี้ด้วยเหรอคะหมอ”


โชติกาเบ้หน้าเริ่มกังวลทั้งที่ยืนยันเสียงหนักแน่นว่าไม่เชื่อเรื่องดวงหรือโชคชะตาที่ไม่รู้ใครเป็นคนกำหนด แต่กลายเป็นว่าตอนนี้ชักเริ่มหวั่น แถมอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าเธอก็อายุครบสามสิบห้าปีตามที่หมอดูทักแล้ว งานนี้มีคานทองนิเวศน์เป็นเดิมพันเสียด้วย


“ดวงชะตาเจ้ามันก็บุกน้ำลุยไฟมาตั้งแต่ต้นแล้วนี่ เรื่องนี้เจ้าเชื่อข้าเถิด ผู้ชายคนนี้จะเป็นแสงสว่างในชีวิตที่มืดมนของเจ้า จะเป็นแสงสว่างนำพาเจ้าไปพบเจอแต่สิ่งที่ดีๆ หรือบางทีพวกเจ้าอาจจะเจอกันแล้วก็ได้ ใครจะไปรู้…”


“พี่แชมป์ว่าที่หมอเทพพูดเป็นเรื่องจริงไหม” โชติกาถามผู้ร่วมฟังชะตากรรมของเธอ ระหว่างขับรถกลับคอนโดฯ ซึ่งเป็นสินทรัพย์ไม่กี่ชิ้นที่มี “โชต้องหาเนื้อคู่ให้เจอก่อนอายุสามสิบห้า ซึ่งก็คืออีกห้าเดือนข้างหน้าเนี่ยนะ คนในโลกนี้มีตั้งมากมายมันจะหากันเจอง่ายอยู่หรอกเหรอ”


“ไหนแกบอกถึงเวลาก็มาเอง ไอ้เนื้อคู่น่ะ” ชนินทร์ยกเอาคำพูดของหญิงสาวมาพูด ทว่าคนที่พูดไว้กลับเริ่มไม่มั่นใจเสียแล้วว่ามันจะเป็นแบบนั้น เพราะถ้ามาจริงคงไม่ปล่อยให้เวลาล่วงเลยมานานขนาดนี้


“โชเริ่มไม่แน่ใจตั้งแต่ออกจากสำนักหมอเทพแล้วละพี่แชมป์”


“ไหนแกบอกไม่เชื่อเรื่องดวง เรื่องโชคชะตาไง” ชนินทร์ไม่วายเอาคำพูดของดาราสาวในสังกัดมาพูดอีกครั้ง “แต่จะไม่เชื่อเลยก็กลัวขึ้นคานทองนิเวศน์ใช่ไหมล่ะ ฉันรู้ความคิดแกดีหรอกยัยโช”


“ชีวิตโชจะอาภัพขนาดนั้นเลยเหรอ”


“แกก็น่าจะรู้ชีวิตตัวเองดีนะ ว่าอาภัพหรือไม่อาภัพ”


“แต่อีกไม่กี่เดือนเองนะที่โชจะอายุครบสามสิบห้า”


“แกก็ใช้วิกฤตนี้ให้เป็นโอกาสสิ” ชนินทร์พูดออกมาด้วยรอยยิ้มมีเลศนัย สมกับฉายาจิ้งจอกสาวแห่งวงการบันเทิง


“ยังไง”


“ดาราทุกวันนี้อยู่ได้เพราะเป็นข่าวทั้งนั้น โดยเฉพาะข่าวเสียๆ หายๆ บางข่าวทำให้คนๆ นั้นดังเป็นพลุแตกเลยก็มี” ชนินทร์เกริ่นนำ “เนื้อคู่แกเป็นคนมีวาสนา ฉันว่าเขาต้องเป็นไฮโซไฮซ้อสักคนในเมืองไทยนี่แหละ แถมยังพาแกมีชีวิตที่ดีได้ นั่นหมายความว่าต้องมั่งคั่งพอตัว”


“แล้วโชจะใช้วิกฤตนี้ให้เป็นโอกาสยังไง ให้เป็นข่าวกับพวกไฮโซเรียกกระแสแบบนี้เหรอ” โชติกาประชด แต่เมื่อเห็นรอยยิ้มชนินทร์ก็ชักหวั่นว่าตัวเองจะคิดถูก บอกตามตรงว่านี่ไม่ใช่วิถีของเธอเอาเสียเลย


ชนินทร์หันมายิ้มหวานให้ดาราสาว ก่อนจะยืนยันออกมาเสียงจริงจัง


“ถูกต้อง!”


“เอาจริงดิ”


“แกไม่มีอะไรจะเสียแล้วยัยโช ทั้งเรื่องงาน เรื่องความรัก ถ้าเขาเป็นอย่างที่หมอเทพบอกจริง มันก็น่าเสี่ยงดูไม่ใช่เหรอ”


“แต่โชไม่รู้ว่าเนื้อคู่โชเป็นใคร ไม่รู้ว่าชาตินี้จะหากันเจอรึเปล่า” หญิงสาวบอกเสียงเศร้า คนในประเทศไทยก็กี่สิบล้านคนแล้วล่ะ นี่ยังไม่นับผู้ชายทั้งโลกนะ แค่คิดก็ลำบากแล้วพี่แชมป์ โชไม่มีค่าตั๋วเครื่องบินบินหาผัวรอบโลกหรอกนะ”


“ความรู้สึกมันจะบอกแกเองเมื่อถึงเวลา ไม่งั้นแพทวงเคลียร์คงไม่บอกไว้ รู้ว่าเสี่ยงแต่คงต้องขอลอง รู้ว่าเหนื่อยถ้าอยากได้ของที่อยู่สูง…”


“ยังไงต้องขอลองดูสักที…”


เรื่องปากท้องว่าสำคัญแล้ว แต่เรื่องที่จะต้องขึ้นไปอยู่บนคานทองนิเวศน์ตลอดชีวิตน่ะมันคอขาดบาดตายมากกว่า และอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าเธอจะมีอายุครบสามสิบห้าปี


แต่จะรอให้เนื้อคู่มาปรากฏตัวเห็นจะไม่ทันการณ์ ฉะนั้นนางเอกซุปตาร์อย่างโชติกานี่แหละจะเป็นฝ่ายเดินเข้าไปหาเนื้อคู่เอง แม้ต้องเปลี่ยนบทจากนางเอกตลอดกาลเป็นนางมารเฉพาะกิจเธอก็ยอม


========================

Writer Talks.

เรื่องนี้เป็นเรื่องใหม่ของไรท์ ในนามปากกา อริมา ค่ะ

ฝากทุกคนติดตามด้วยนะคะ

ติดตามพูดคุยกันได้ที่เพจจ้า

แสดงความคิดเห็น

ความคิดเห็นทั้งหมด ()

ยังไม่มีการแสดงความคิดเห็น